TB:บทที่ 213 สิบแปดกระบวนท่าดาบแห่งนรก
ในตอนที่มัตสึชิตะ สึชิกำลังเล่นสนุกอยู่ เฉินหลงกับดาบาร์และคนอื่นๆอีกสี่คนก็ได้ปรากฏตัวขึ้นในห้องของเขา
ถึงด้านนอกวิลล่าของมัตสึโมชิจะมีกำแพงสุดล้ำที่สามารถป้องกันเหตุเพลิงไหม้และการโจรกรรมได้ แต่มันไม่สามารถทำอะไรคนทั้งหกคนรวมถึงเฉินหลงได้เลย
ในตอนที่เจสสิก้าเห็นมัตสึชิตะกำลังเล่น ‘เกม’ อยู่ เธอก็พุ่งตรงเข้าไปหาเขาทันที เธอใช้มือกระชากหัวอีกฝ่ายจากทางด้านหลัง แล้วผลักเขาจนหน้าคะมำถูกับพื้น
ในตอนที่ใบหน้าของมัตสึชิตะได้กระแทกกับพื้น จมูกของเขาแตก ของเหลวร้อนได้ไหลออกมจากรูจมูกเล็กน้อย ตามมาด้วยฟันหน้าสองซี่ที่กระเด็นออกมาจากปาก ความเจ็บทั้งสองตำแหน่งได้แพร่กระจายไปยังกึ่งกลางจิตวิญญาณของมัตสึชิตะจากนั้นก็แล่นขึ้นไปยังสมอง ใบหน้าของเขาเริ่มเหยเก เขาอยากจะเปิดปากแล้วตระโกนด่าอีกฝ่าย แต่เขาถูกอุดปาดและไม่สามารถพูดออกมาได้ เขาทำได้แค่ส่งเสียง อู้อี้ อยู่ในลำคอ เขาขยับมือเท้าสะเปะสะปะ พยายามทำให้ตัวเองหลุดจากการควบคุมของเจสสิก้า
แต่เพราะมัตสึชิตะเป็นแค่คนธรรมดาคนหนึ่ง แล้วอย่างนี้เขาจะหลุดพ้นจากการควบคุมของเจสสิก้าไปได้ยังไง?
การปรากฏตัวของคนทั้งหกคนรวมถึงเฉินหลงแบบไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ยทำให้เด็กสาวทั้งสองคนตะลึงไปชั่วขณะ พวกเธอกำลังจะอ้าปากร้อง แต่กลับถูกเฉินเล่นจัดการซะก่อน ทำให้เด็กสาวทั้งสองคนทำได้แค่หยุดนิ่งอยู่กับที่
“นี่ เจสสิก้า คุณแค่สั่งสอนเขาก็พอนะ ถ้าคุณฆ่าเขา แล้วผมจะให้เขาชดใช้มันได้ยังไงล่ะ นอกจากนี้ ผมก็จะไม่มีทางรู้เรื่องของพวกนินจาน่ะสิ” หลังจากชื่นชมมัตสึชิตะที่ถูกเจสสิก้าจัดการจนมีสภาพเยี่ยงสุนัขตัวหนึ่ง เฉินหลงจึงหันไปบอกเรื่องนี้กับเธอ
“เข้าใจแล้วค่ะ นายท่าน” เมื่อได้ยินคำพูดของฉินหลงแล้ว เจสสิก้าจึงยอมปล่อยมัตสึชิตะ สึชิไปแต่โดยดี
เมื่อเขารู้สึกว่าศีรษะของเขาถูกปล่อยให้เป็นอิสระแล้ว มัตสึชิตะรีบถอยหนีไปอีกฟากของกำแพงในทันที เขาจ้องมองไปเฉินหลงกับอีกห้าคนที่เหลือด้วยสายตาหวาดกลัว จากนั้นก็พูดเป็นภาษาญี่ปุ่นรัวๆว่า “พว..พวกแกเป็นใคร ล..แล้วเข้ามาที่นี่ได้ยังไง!? รีบ..รีบไสหัวออกไปซะ! ฉันจะแจ้งตำรวจ!”
หน่านี๊*? ใช่แล้ว เฉินหลงไม่เข้าใจภาษาญี่ปุ่นเลยสักนิด แต่ทันใดนั้นระบบอัจฉริยะก็ได้เป็นแปลภาษาจีนให้เฉินหลง
“ไม่ใช่ว่าคุณอยากได้ของของผมเหรอครับ? ตอนนี้ ผมก็อยู่ตรงหน้าคุณแล้วไง ถ้าคุณมีความสามารถมากพอ คุณก็มาแย่งไปจากผมซะเลยสิ ไม่อย่างนั้น คุณก็หัดเรียนรู้ที่จะยอมรับมัน” จากนั้นเฉินหลงก็ได้ขยิบตาให้เจสสิก้า
ปีศาจน้อยที่กล้ามาคุกคามเขา ดูเหมือนว่าบทเรียนในครั้งนี้จะเบาไปสำหรับเขาสินะ
เจสสิก้าเดินตรงไปหามัตสึชิตะ เธอยื่นมือไปตบหน้าเขาตามด้วยเตะอีกรอบ
การที่ถูกเจสสิก้าตบหน้าอยู่หลายฉาด ทำให้เขารู้ซึ้งแล้วว่าโลกกับท้องฟ้าช่างมืดมนเสียจริง เขาไม่สามารถบอกได้แล้วว่าทิศตรงหน้าเป็นทิศใต้ ทิศเหนือหรือทิศตะวันตก แต่สุดท้ายคนที่ไม่มีลูกน้องเหลืออยู่เลยอย่างเขา กำลังถูกมือของอีกฝ่ายรัดแน่นที่คอ ใบหน้าของเขาเปลี่ยนเป็นสีน้ำเงินเข้มเพราะเขาเริ่มหายใจไม่ออก
โชคดีที่เจสสิก้ายอมปล่อยให้มัตสึชิตะได้กอบโกยอากาศเข้าไปในปอดอยู่ครู่หนึ่ง
ตอนนี้เขามองเจสสิก้าราวกับว่าเขาได้เห็นปีศาจตัวเป็นๆได้ปรากฎตัวตรงหน้าเขาแล้ว
“ตอนนี้ คุณคงจะรู้แล้วสินะครับว่าควรจะพูดกับผมแบบไหน” เฉินหลงกล่าวเป็นภาษาจีน เขาเชื่อว่าปีศาจน้อยจะเข้าใจ แต่ถึงจะไม่เข้าใจยังไง ก็ต้องแสร้งทำเป็นเข้าใจ ไม่อย่างนั้นเฉินหลงจะให้เจสสิก้าจัดการเขาจนกว่าเขาจะเข้าใจ นี่แหละที่เขาเรียกว่าใช้กำลังบังคับขู่เข็ญ
“ผมเข้าใจแล้วครับ นายท่าน” มัตสึชิตะพยักหน้าซ้ำๆ พร้อมกับตอบเขาเป็นภาษาจีน
เมื่อเห็นว่ามัตสึชิตะ สึชิยอมจำนนเยี่ยงข้ารับใช้ เฉินหลงจึงพยักหน้ารับด้วยความพึงพอใจ
“แล้วตอนนี้ คุณรู้รึป่าวว่าผมเป็นใคร?” เฉินหลงหันไปถามมัตสึโมชิ
มัตสึชิตะพยักหน้าตอบซ้ำไปซ้ำมา หลังจากที่เขาถูกทุบตี ดูเหมือนว่าเขาจะเข้าใจอะไรมากขึ้น เพราะจู่ๆเขาก็นึกออกว่าอีกฝ่ายเป็นใคร จากสุนทรพจน์ของคนอื่น เห็นได้ชัดว่าเขาคือหนึ่งในสมาชิกแห่งประเทศจีน แต่เราก็ยังไม่รู้ว่าอีกฝ่ายเป็นคนยังไงในตอนที่ได้ยินลายละเอียกจากคำพูดพวกนั้น จากนั้นเราก็นั่งในตำแหน่งนี้มาหลายปีแล้ว
“ถ้าอย่างนั้นก็บอกผมมาว่าเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้ยังไง?” เฉินหลงถามต่อ
เมื่อได้ยินคำถามของเฉินหลง ทันใดนั้นมัตสึชิตะ สึชิไม่รู้ว่าตัวเองควรจะอธิบายเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดให้อีกฝ่ายฟังยังไง เขาไม่รู้ว่าอีกฝ่ายต้องการอะไร ถ้าเขาพูดอะไรผิดไป เขาอาจจะโดนทำร้ายอีกรอบก็ได้
เห็นว่ามัตสึชิตะไม่ตอบคำถาม เจสสิก้าขมวดคิ้วขึ้น เตรียมพร้อมที่เดินเข้าไปหามัตสึชิตะอีกครั้ง
“อ๊า! นายท่าน! นายท่าน! ผม…ผมยอมทำตามคุณทุกอย่างแล้ว! โอเนไกชิมัส**!” เมื่อเห็นเจสสิก้าเดิมตรงมาทางเขาอีกรอบ มัตสึชิตะรีบพุ่งเข้าไปคุกเข่าให้เฉินหลงทันที
เห็นท่าทางของเขาแล้ว เจสสิก้าถึงกับอยากกรีดร้องออกมาเป็นภาษาญี่ปุ่นว่า คิโม่ย***!
เฉินหลงหันไปพูดกับมัตสึชิตะด้วยรอยยิ้มว่า “คุณพูดจริงเหรอ?”
มัตสึชิตะพยักหน้ารัวๆด้วยความหวาดกลัว
“ดี เห็นคุณทำตัวว่าง่ายแบบนี้แล้วก็คุยกันง่ายหน่อย ไม่เป็นไรนะ ถึงคุณใช้เงินตั้งหนึ่งพันล้านเพื่อส่งคนมาขโมยของของผมไป หึ ผมจะไม่ขออะไรมาก เอาเป็นว่า แค่เอาเงินมาให้ผมหนึ่งพันล้าน กับสำเนาผลิตภัณฑ์หลักของบริษัทเทคโนโลยีของคุณก็พอ ว่าไง คุณทำได้ใช่ไหม?” เฉินหลงว่า
จริงๆแล้ว ด้วยระบบเถาเป่าที่แข็งแกร่งที่สุดที่เขามี พวกผลิตภัณฑ์ของบริษัทเทคโนโลยีมัตสิชิตะ เฉินหลงไม่ได้สนใจมันเลยสักนิด แต่ในตอนที่เขารู้ว่ามัทสึชิตะมีด้านแบบนี้แล้ว เขาก็รู้สึกสะอิดสะเอียนขึ้นมาโดยไม่มีสาเหตุ
“ได้! ได้เลยครับ! ไม่มีปัญหา การที่จะผมต้องชดใช้หนึ่งพันล้านให้คุณนั้นถูกต้องแล้ว แต่ว่า นายท่าน ของพวกนั้นอยู่ที่สำนักงานใหญ่ทั้งหมด ตอนนี้ผมไม่ได้ครอบครองมันเลยสักชิ้น ถ้างั้นให้ผมไปที่สำนักงานใหญ่ตอนนี้เลย ดีไหมครับ?” ด้วยความที่กลัวว่าเจสสิก้าจะเข้ามาทำอะไรเขาอีก มัตสึชิตะจึงรีบตอบตกลงในทันที
“ได้เลย อ้อ เจสสิก้าก็จะไปกับเอามันเป็นเพื่อนคุณด้วย ผมหวังว่าคุณจะให้ความร่วมมือเป็นอย่างดีนะครับ” เฉินหลงว่าโดยไม่สนว่าอีกฝ่ายจะเห็นด้วยหรือไม่
เมื่อได้ยินว่าเจสสิก้าก็จะตามเขาไปด้วย ร่างของมัตสึชิตะก็สั่นทันที เพราะสำหรับเขา ความหวาดกลัวที่มีต่อเจสสิก้าได้ฝังลึกเข้าไปในไขกระดูกของเขาแล้ว
หลังจากนั้นมัตสึชิตะก็ได้ออกไปพร้อมกับเจสสิก้า
“พาพวกเธอไปที่ห้องอื่นเถอะ” ถึงเด็กผู้หญิงทั้งสองคนจะสวมชุดนักเรียนอยู่ แต่รองแดงขนาดใหญ่ที่เท้าของพวกเธอได้กวนใจเฉินหลงเล็กน้อย เพื่อไม่ให้เสียเรื่อง เฉินหลงจึงสั่งให้ดาบาร์พาเด็กทั้งสองคนออกไปจากห้องนี้
“นายท่าน ขอผมจัดหารพวกเธอได้ไหมครับ?” ดาบาร์ว่าพรางมองไปยังเด็กสาวทั้งสองคน
“ตามใจ ผมขอแค่อย่าฆ่าคนก็พอ” เฉินหลงตอบส่งๆ
เด็กสาวสองคนนี้เป็นคนญี่ปุ่น สาวญี่ปุ่นเกิดมาเพื่อรับใช้ผู้ชาย เฉินหลงจึงอนุญาติให้เขาได้มีความสุขเล็กๆน้อยๆ
เมื่อได้คำตอบจากเฉินหลง ชายทั้งสี่คนรวมถึงดาบาร์ก็เดินตรงไปหาเด็กสาวทั้งสองคน หนึ่งในนั้นได้อุ้มเด็กหญิงทั้งสองออกไปจากห้อง
ในตอนที่เด็กสาวถูกอุ้ม เฉินหลงได้ได้คลายการกดจุดให้เด็กสาวทั้งสองคนได้เป็นอิสระ
หลังจากที่หญิงสาวถูกอุ้มออกไปแล้ว เฉินหลงก็ได้เข้าสู่ระบบ
การต่อสู้กับหลินหนี่ทำให้เฉินหลงเข้าใจว่า ถึงเขาจะมีระฆังทองเอาไว้ปกป้องร่างของตัวเอง แต่เขาก็ยังไม่มีวิชากังฟูที่ดีมากพอ
ตัวอย่างเช่น หลินหนี่ที่ใช้หอกแล้วก็มีเทคนิคหอกในการต่อสู้ หวังเจียนใช้ดาบและวิชาตัดหัว หวังเฉียนจินมีวิชาหมัดเป็นของตัวเอง เห็นที เขาคงต้องพัฒนากระบวนท่าที่สุดยอดและทรงพลังบ้างเสียแล้ว
ด้วยเหตุนี้ เฉินหลงได้ติดต่อไปหวานซูจื่อแล้วบอกกับอีกฝ่ายว่าเขามีเรื่องที่จะขอให้เขาช่วย
“ได้เลย นายสามารถนำวิชาดาบ ‘สิบแปดกระบวนท่าดาบแห่งนรก’ ไปได้เลย ฉันคิดว่ามันคู่ควรกับนายมากเลยนะ นายควรจะฝึกมันให้เก่งๆไปเลย แถมยังมีชื่อเท่ๆด้วย ฉันว่ามันเจ๋งดีออก แล้วก็ นายจะเอา ‘ดาบแห่งนรก’ ไปด้วยก็ได้นะ ‘สิบแปดกระบวนท่าดาบแห่งนรก’ กับ ‘ดาบแห่งนรก’ เหมาะสมมาก”
หลังจากหวานจู๋จื่อนำขอทั้งสองชิ้นมาให้เฉินหลง เขาก็ได้ตัดการเชื่อมต่อกับอีกฝ่ายไป ดูเหมือนว่าเขาจะติดใจการเล่นสนุกซะแล้วสิ
*何 nani นานิ = อะไร
**おねがいします! โอเนไกชิมัส = ได้โปรดเถอะ! ฉันขอร้องคุณ!
***きもい! kimoi คิโม่ย = อี๋ ทุเรศ อุบาทว์ หยะแหยง