ไม่เช้าใจ
ซูจิ้งเดินไปรอบๆสวนเพื่อดูบรรยากาศสภาพแวดล้อมอย่างสบายอารมณ์ โดยมีเฉียนจานฮวงและเฉียนหยินหนิงตามไปติดๆและมี เฉียนไจบิงและภรรยาของเฉียนจานฮวงเดินดูอยู่ไม่ไกลนัก
พวกเขานั้นเคยได้ยินมาว่ามีคนพยายามแต่งสวนเลียนแบบซูจิ้งแต่ไม่ว่าจะแต่งยังไงก็ไม่ได้ความรู้สึกแบบเดียวกัน พวกเขาจึงอยากรู้ว่าซูจิ้งมีเทคนิคการแต่งสวนยังไงบ้าง หลังจากเดินจนทั่วแล้วซูจิ้งก็เริ่มลงมือทันที
ความจริงแล้วตัวซูจิ้งไม่เคยเรียนแต่งสวนมาเลยสักนิด เขาแค่เขาใจเรื่องการแต่งสวนนิดหน่อยจากแผนที่สวนของราชวังจากห้วงเวลาฯDesolate Era และบางส่วนจากการศึกษาพลังธรรมชาติเท่านั้นเอง
แต่ด้วยการที่เขาทำความเข้าใจเรื่องเหล่านี้ซ้ำๆเป็นร้อยๆรอบทำให้ตอนนี้เขามีความเชี่ยวชาญเรื่องการแต่งสวนอยู่เหนือกว่าระดับปรมาจารย์เรียบร้อยแล้ว
ยิ่งไปกว่านั้นด้วยการที่เขาเรียนรู้วิถีแห่งใต้หล้า นั่นทำให้เขาเข้าถึงธรรมชาติมากขึ้น หลังจากที่เขาเรียนรู้เวทย์มนต์สัมผัสของใบไม้ในฤดูใบไม้ผลิ ประกอบกับการได้สื่อสารกับพวกต้นไม้โดยตรง นั่นทำให้เขานั้นสามารถเข้าใจได้ในทันทีว่าต้องนำต้นไหนไว้ตรงไหนถึงจะถูกหลักฮวงจุ้ย ดอกไม้วางตรงไหนรับแดดดี
“งั้นผมเริ่มจัดเลยจะเป็นอะไรรึเปล่า” ซูจิ้งถามออกมา
“เชิญคุณซูลงมือได้เลยครับ” เฉียนจานฮวงตอบออกมา
“งั้นผมเริ่มล่ะนะ” ซูจิ้งเริ่มสั่งให้คนงานย้ายกระถางต้นไม้ไปจุดที่เขาต้องการ แต่เขาไม่ได้สั่งให้พวกนั้นปลูกลงไป หลังจากจัดตำแหน่งเสร็จแล้วเขาลงปลูกเองทุกต้น ซึ่งตอนนี้รูปร่างของสวนค่อนข้างดูพื้นๆ
“ก็ได้แค่นี้หล่ะนะ” ปรมาจารย์ซุนคิดออกมาในขณะที่เขาจับตามองซูจิ้งแทบจะทุกฝึก้าว หากมองผ่านๆ
การออกแบบของซูจิ้งนั้นสามารถบอกได้เลยว่าเขานั้นไม่ได้เรียนเกี่ยวกับเรื่องภูมิทัศน์มาอย่างแน่นอน
หลายพื้นที่ ที่ไม่ควรไว้ต้นไม้ซูจิ้งก็นำมาไว้ตามใจ
เขา(ซูจิ้ง) ไม่ได้มีเซ้นส์ด้านการออกแบบและความสวยงามเลยซักนิด
สิ่งที่เรียกการออกแบบสวนนั้นเป็นเหมือนกับการจำลองสภาพแวดล้อมที่สวยงามของธรรมชาติมาไว้ในพื้นที่หนึ่ง
ต้องเป็นการตกแต่งที่พอแล้วได้บรรยากาศของธรรมชาติที่ต้องการ มันไม่ใช่แค่การปลูกต้นไม้ ปลูกดอกไม้ สร้างอาคาร และวางถนนทางเดิน
คนที่เรียนออกแบบสวนนั้นต้องมีความรู้เชิงลึกทั้งในทางวรรณคดี ศิลปะ ชีววิทยา นิเวศวิทยา วิศวกรรม สถาปัตยกรรม และสาขาอื่นๆอีกมากมาย
ในขณะเดียวกันก็ต้องนำความรู้พวกนี้เข้ามาประยุกต์ใช้ในการเรียนภูมิทัศน์ด้วยเข่นกัน
จึงสามารถกล่าวได้ว่าการออกแบบภูมิทัศน์ถือได้ว่าต้องใช้ทั้งศาสตร์และศิลป์ถึงจะทำให้สวนที่ออกแบบมานั้นใกล้เคียงกับธรรมชาติ สิ่งก่อสร้าง
และการดำเนินชีวิตของเจ้าของ ถึงจะได้สวนที่ให้ความรู้สึกสุนทรีย์อย่างสมบูรณ์ ซึ่งดีต่อระบบนิเวศของสวนและวิวทิวทัศน์ที่ได้เห็น
สามารถบอกได้เลยว่าการจะได้สวนชั้นยอดซักอันต้องใช้ปัจจัยหลายอย่าง
แต่กับซูจิ้งมันก็แค่การปลูกต้นไม้ ดอกไม้ ในสวนเหมือนคนทั่วไป ช่างอ่อนด้อย อ่อนด้อยจริง
แม้แต่เฉียนจานฮวงและภรรยาก็ยังรู้สึกได้ถึงเรื่องนี้ เขานั้นยังมองไม่ออกเลยว่าซูจิ้งกำลังทำอะไรที่วิเศษวิโสตรงไหน รูปนั่นเป็นรูปจากสวนบ้านของเขาจริงๆงั้นหรอ แม้เฉียนหยินหนิงและเฉียนไจบิงเองยังอยากจะตะโกนบอกซูจิ้งเลยว่า จะไม่เล่นใหญ่ไปหน่อยหรอ
อย่างไรก็ตามซูจิ้งก็ยังคงตั้งหน้าตั้งตาสั่งให้คนสวนย้ายกระถาง ทำแม้กระทั่งให้ขุดเอาต้นที่ปลูกไว้แล้วออกมา
ปรมาจารย์ซุนเองก็เหลืออดจนต้องพูดออกมาว่า
“คุณเฉียน คุณก็เห็นแล้วนี่ว่าเจ้าหนุ่มนี่ก็ทำได้แค่นี้ คุณยังจะให้เขาทำต่ออีกหรอ เขาทำแม้กระทั่งขุดต้นที่เพิ่งปลูกไว้แล้วขึ้นมาด้วยนะ
นี่คุณเฉียนยอมตัดใจจากแบบสวนที่สมบูรณ์แบบเป็นแบบธรรมดาแล้วหรอ”
“ไม่เป็นอะไรหรอก ปรมาจารย์ซุน” เฉียนจานฮวงพูดพร้อมรอยยิ้มอย่างสบายๆออกมาว่า
“คุณไม่ต้องกังวลเรื่องนั้นไปหรอก ยังไงซะผมก็ยังคงซื้อแบบการออกแบบสวนของคุณอยู่ ไม่ส่งคืนให้คุณหรอกยังไงผมก็จะจ่ายเต็มราคาอยู่ดี ต่อให้ไม่ได้ใช้ก็ตาม”
“ผมไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น” เมื่อปรมาจารย์ซุนได้ยินเฉียนจานฮวงบอกเขาเองก็สบายใจขึ้นมาเปลาะนึง
แต่เขาก็ยังพูดต่อว่า “ผมไม่อยากจะให้แบบของสวนที่ตั้งใจออกแบบมาอย่างดีมาถูกแทนที่สวยธรรมดาอย่างนี้ต่างหาก เอาเถอะยังไงก็เป็นสวนของคุณแล้วแต่คุณจะตัดสินใจแล้วกัน”
“ฮ่าฮ่า ให้เวลาคุณซูหน่อยน่า” เฉียนจานฮวงพูดออกมาด้วยรอยยิ้ม ความจริงแล้วเขาเองก็รู้สึกไม่ดีเหมือนกันที่เห็นการออกแบบของซูจิ้งที่อยู่ตรงหน้า
อย่างไรก็ตามเขาไม่รีบร้อน เขาเลือกที่จะรอดูไปก่อน เขาคิดไปว่าต่อซูจิ้งอาจจะยังไม่มีอารมณ์ในการจัดสวน อาจต้องใช้เวลาในการสร้างอารมณ์ซะก่อน
ถึงแม้จะเป็นการออกแบบแบบง่ายๆแต่ยังต้องใช้เวลานานอยู่ดี และซูจิ้งก็ยังเป็นจุดสนใจของทุกคนอยู่
“คุณซู ไม่ต้องรีบหรอกค่ะ พักบ้างก็ได้” ภรรยาของเฉียนจานฮวงพูดออกมา
“อ๋อ ไม่เป็นไรครับ ผมยังไม่เหนี่อย” ซูจิ้งหัวเราะพร้อมทั้งยังคงสั่งงานคนสวนต่อไป
เขานั้นยังคงแบบของเขาไว้ดังเดิม แต่เขาเริ่มที่จะให้คนสวนเอาต้นไม้ออกมาจากกระถางแล้ว
และเขาเป็นคนลงมือปลูกต้นไม้นั้นเอง ต้นไม้บางต้นได้เริ่มเปลี่ยนรูปร่างไป แต่ก็ไม่ได้เยอะจนคนอื่นสังเกตุเห็น
และเขายังใช้ตัวของเขาบังเอาไว้เวลาเปลี่ยนรูปร่างต้นไม้ทำให้คนอื่นไม่เห็นด้วย
ในที่สุด เฉียนจานฮวง ภรรยาของเฉียนจานฮวง เฉียนหยินหนิงและเฉียนไจบิง ที่ตอนแรกได้แต่ทำท่าถอดใจแต่ตอนนี้พวกเขาเริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลง
นั่นก็เพราะทุกครั้งที่ต้นไม้ถูกซูจิ้งปลูกเสร็จพวกมันเปลี่ยนไปจากเดิม บางต้นเปลี่ยนไปอย่างผิดหูผิดตา
ถึงแม้พวกมันจะดูไม่เป็นระเบียบ แต่มันก็ดูดีจนไม่อยากละสายตา มันเหมือนดูดีทุกครั้งที่พวกเขากระพริบตาเลยก็ว่าได้ มันดูสดใส
ถึงมันไม่ได้ดูอลังการงานสร้างเหมือนของปรมาจารย์ซุน แต่มันเกิดใหม่โดยไม่ผ่านการตกแต่งใดๆเลย
แวบแรกที่เห็นเหมือนจะไม่มีอะไรพิเศษ แต่ในไม่ช้าก็เริ่มมีความรู้สึกสบายสดชื่นเกิดขึ้นในสวนบริเวณนั้น เหมือนกับอยู่ท่ามกลางธรรมชาติจริงๆ ยิ่งมองยิ่งรู้สึกดี ยิ่งมองยิ่งรู้สึกว่าเป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติจนรู้สึกเหมือนเป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติไปเลย
“นั่นต้นสุดท้ายแล้ว คุณคิดว่ายังไงบ้าง” ซูจิ้งหันมาถามหลังจากเขาปลูกต้นไม้เสร็จแล้ว
“เยี่ยม เยี่ยมมาก” เฉียนจานฮวงกล่าวชมออกมาพร้อมสายตาที่เป็นประกาย
“ฉันก็บอกไม่ถูกนะว่ามันดีรึเปล่า แต่มันให้ความรู้สึกสบายอย่างบอกไม่ถูกจัง” ภรรยาของเฉียนจานฮวงกล่าวชมออกมา
“ทำไมมันสวยได้อย่างนี้ล่ะ” เฉียนหยินหนิงเต็มด้วยความประหลาดใจ เธอเองก็อยากจะแอบลักจำเทคนิคจากซูจิ้งซักอย่างสองอย่างแต่เธอไม่เห็นอะไรเลย เธอรู้สึกแค่ว่ามันสวยมากๆ และให้ความรู้สึกสบายอย่างบอกไม่ถูก
ถ้าเธอมีโอกาสต้องเลือก แล้วต้องเลือกระหว่างแบบของปรมาจารย์ซุนกับแบบของซูจิ้งเธอยอมเลือกของซูจิ้งอย่างไม่ต้องสงสัย
“ถึงมันจะมองแวบแรกแล้วรู้สึกธรรมดาก็ตาม แต่มันช่างสบายตาจริงๆ” เฉียนไจบิงพูดพลางถอนหายใจออกมา
มันก็จริงที่สวนแห่งนี้ยังห่างชั้นกว่าสวนของซูจิ้ง แต่ก็มากพอแล้วเพราะมันสบายกว่าแบบสวนที่ถูกวางไว้ก่อนหน้านี้ ถึงแม้แบบของปรมาจารย์ซุนจะดูดียังไงก็ตาม
เพราะเขานั้นใช้แทบจะทุกศาสตร์ในการวางแบบไว้จนรู้สึกว่าสมบูรณ์แบบแต่มันก็ยังขาดพลังแบบนี้จนบอกได้เลยว่าอยู่คนละระดับกัน
“ได้ยัง ได้ยังไงกัน” ปรมาจารย์ซุนเองที่เดินหายออกไปพักใหญ่นั้น ในขณะที่เดินกลับเข้ามาใบหน้าของเขาตื่นตะลึงชนิดที่นิ่งสนิท เขาไม่เข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้น เขาดูการออกแบบของซูจิ้งทุกอย่าง และทุกอย่างนั้นล้วนธรรมดามากๆ บางต้นวางในพื้นที่ที่ไม่ควรวางจนบอกได้เลยว่าซูจิ้งไม่มีประสบการณ์เรื่องนี้ แต่ทำไมสวนที่เขาจัดถึงได้มีบรรยากาศที่ทำให้รู้สึกสบายและสดชื่นขนาดนี้ได้ เป็นไปได้อย่างสิ้นเชิง