ตอนที่ 180 โพสต์

รักเล่ห์เร้นใจ

ในช่วงเวลาที่บ้านตระกูลอันถูกเซียวจิ่งสือเล่นงานอยู่นั้น บนอินเทอร์เน็ตมีคนโพสต์เปรียบเทียบอันซิงกับหลินหว่าน ได้ข้อสรุปว่าอันซิงไม่เพียงสวยสู้หลินหว่านไม่ได้แล้ว ฝีมือการแสดงก็ยังสู้หลินหว่านไม่ได้อีก แค่อันซิงมีบ้านตระกูลอันหนุนหลัง ฐานะทางบ้านดีกว่าหลินหว่านเท่านั้นเอง ต่อมาฐานะของบ้านตระกูลอันตกต่ำลง อันซิงยิ่งเทียบหลินหว่านไม่ติดสักอย่าง

 

 

หลังจากโพสต์นี้ปรากฏขึ้น อันซิงก็ถูกชาวเน็ตเยาะหยันและถากถางมาตลอด

 

 

แต่แล้ววันนี้ บนอินเทอร์เน็ตก็ปรากฏโพสต์หนึ่งที่เกี่ยวกับอันซิง คนที่ลงโพสต์เผยข้อมูลว่า บ้านตระกูลอันผ่านช่วงวิกฤตมาได้แล้ว เพราะเซียวจิ่งสือยอมปล่อยมือจากบ้านตระกูลอัน

 

 

และสาเหตุที่เซียวจิ่งสือยอมปล่อยบ้านตระกูลอันก็เพราะอันซิง เซียวจิ่งสือกับอันซิงมีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้ง พวกเขามีพันธะหมั้นหมายต่อกัน เซียวจิ่งสือจึงยอมปล่อยบ้านตระกูลอันเพราะอันซิง

 

 

โพสต์นี้เผยแพร่ออกไปแล้วสร้างกระแสได้ไม่น้อยเลยทีเดียว

 

 

เพราะจากข่าวเมื่อสองวันก่อน บ้านตระกูลอันรอดพ้นวิกฤตมาได้แล้วจริงๆ และฟื้นฟูกิจการอย่างรวดเร็ว หรือว่าจะเกี่ยวกับอันซิงจริงๆ?

 

 

คนที่เข้ามาคอมเมนต์ที่ด้านล่างโพสต์ต่างพากันถกเถียงเรื่องความสัมพันธ์ของเซียวจิ่งสือกับอันซิง

 

 

ถึงตอนนี้ก็มีคนเอ่ยขึ้นว่าเซียวจิ่งสือเคยมีข่าวกับหลินหว่านด้วย ถ้าอย่างนั้น ข่าวของเซียวจิ่งสือกับสาวคนไหนที่เป็นความจริงกันนะ?

 

 

สิ่งที่ตามมาก็คือ เนื่องจากข้อความนี้ ผู้คนที่เข้ามาตอบโพสต์ด้านล่างเริ่มตั้งข้อสงสัยกับเจ้าของโพสต์ สงสัยว่าโพสต์นี้เป็นจริงหรือเท็จกันแน่

 

 

แต่เจ้าของโพสต์เผยข้อมูลตามมาอีกว่า บ้านตระกูลอันกำลังเตรียมจัดงานเลี้ยง เซียวจิ่งสือต้องไปร่วมงานแน่ ถึงตอนนั้น ก็จะรู้เองว่าข้อความในโพสต์เป็นจริงหรือเท็จ

 

 

ข้อความนี้พอส่งออกมาแล้ว ชาวเน็ตก็รู้สึกว่าเจ้าของโพสต์ดูไม่เหมือนพูดลอยๆ ปั้นน้ำเป็นตัวขึ้นเอง จึงมีคนสงสัยต่อความจริงของโพสต์น้อยลงไปส่วนหนึ่ง

 

 

ดังนั้น ตลอดทั้งวัน สังคมออนไลน์พากันถกเถียงเรื่องความสัมพันธ์ของเซียวจิ่งสือกับอันซิงว่าเป็นอย่างไรกันแน่ พวกเขาสองคนจะเป็นอย่างในโพสต์ว่าไว้จริงหรือไม่

 

 

“อันซิง คราวนี้โชคดีที่ได้เธอช่วยไว้นะ บ้านตระกูลอันจึงรอดพ้นวิกฤต มาสิ ทานเยอะๆ นะ”

 

 

ตอนทานอาหารเย็น อันโฮ่วสยงนึกถึงสถานการณ์บ้านตระกูลอันที่ดีขึ้นเรื่อยๆ แล้วคีบกระดูกซี่โครงให้อันซิงชิ้นหนึ่ง พลางกล่าวชื่นชม

 

 

เดิมทีเขาเห็นว่าความคิดของอันซิงที่จะใช้ภาพถ่ายข่มขู่เซียวจิ่งสือให้ปล่อยบ้านตระกูลอันนั้นเป็นเรื่องน่าขบขันที่สุด ใครจะเห็นว่าแค่รูปถ่ายไม่กี่ใบสำคัญยิ่งกว่าเครือบริษัทของทั้งตระกูล? แต่คิดไม่ถึงว่าจะสำเร็จจริงๆ ซะด้วย คงต้องบอกว่า วีรบุรุษยากผ่านด่านสาวงาม…ไม่สิ ต้องบอกว่านังเด็กนอกคอกหลินหว่านนั่นปั่นหัวเซียวจิ่งสือเสียอยู่หมัดต่างหาก!

 

 

“ขอบคุณค่ะ คุณปู่” อันซิงพูดด้วยท่าทางสงบเสงี่ยม

 

 

จู่ๆ อันโฮ่วสยงก็ถามขึ้นว่า “อันซิง หลานเห็นว่าเซียวจิ่งสือเป็นอย่างไรบ้าง? ตอนหลานไปพบเซียวจิ่งสือ เขาดีต่อหลานหรือเปล่า มีอะไรพิเศษบ้างไหม?”

 

 

พอนึกถึงท่าทีเย็นชาของเซียวจิ่งสือ อันซิงก็ตอบว่า “คุณปู่คะ ปู่ก็รู้เรื่องของเขากับหลินหว่านดีนี่คะ หนูใช้รูปถ่ายของหลินหว่านไปข่มขู่เขา เขาจะดีกับหนูได้อย่างไรกันคะ?”

 

 

อันโฮ่วสยงฟังแล้ว รู้สึกขัดใจอยู่บ้าง อันที่จริงเขายังอยากให้อันซิงแต่งงานเชื่อมสัมพันธ์กับเซียวจิ่งสือ อันซิงเป็นคุณหนูใหญ่ของบ้านตระกูลอัน บ้านตระกูลอันไม่มีทายาทอื่นอีก แต่ไม่รู้ว่าทำไมเซียวจิ่งสือจึงเลือกหลินหว่าน แต่กลับไม่ยอมเลือกอันซิง

 

 

“อันซิง พักนี้บ้านตระกูลอันกำลังเตรียมจัดงานเลี้ยงอยู่ไม่ใช่เหรอ พรุ่งนี้เธอก็เอาบัตรเชิญไปให้เซียวจิ่ง

 

 

สือสิ ให้เขามาร่วมงานให้ได้นะ” อันโฮ่วสยงยังไม่ยอมละทิ้งความคิดเดิม

 

 

อันซิงพูดกับเขาว่า “วางใจเถอะค่ะ คุณปู่ หนูรับประกันความสำเร็จได้เลย เซียวจิ่งสือต้องมางานแน่”

 

 

หลังอาหารเย็น อันซิงกลับถึงห้องพัก มองดูจำนวนคนที่เข้ามาตอบโพสต์ที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แล้วเธออดหัวเราะไม่ได้

 

 

ใช่เลย โพสต์เรื่องความสัมพันธ์ของเธอกับเซียวจิ่งสือ เป็นผลงานนิรนามของอันซิงที่โพสต์ลงอินเทอร์เน็ตเอง

 

 

คนที่เธอเกลียดที่สุดคือหลินหว่าน สิ่งที่เธออยากเห็นมากที่สุดคือหลินหว่านถูกเธอเหยียบไว้ใต้ฝ่าเท้าตลอดไป ดังนั้น ของๆ หลินหว่านเธอจะแย่งเอามาทั้งหมด รวมทั้งเซียวจิ่งสือ

 

 

วันรุ่งขึ้น อันซิงมาที่บริษัทของเซียวจิ่งสือ เดินตรงเข้าห้องทำงานของเขา พนักงานบริษัทของเซียวจิ่งสือเห็นแล้วก็นึกถึงโพสต์ที่กำลังเป็นกระแสข่าวร้อนบนอินเทอร์เน็ตนั่น จึงพากันแอบถกเถียงกันเรื่องความสัมพันธ์ของอันซิงกับท่านประธานเซียวของพวกเขา

 

 

“อันซิง? ทำไมเธอมานี่ได้?” เซียวจิ่งสือเห็นอันซิงผลักประตูเปิดเข้ามา ก็ขมวดคิ้วอย่างไม่ชอบใจนัก จากนั้นนึกถึงเรื่องภาพถ่าย จึงพูดขึ้นว่า “พอดีเลย รูปถ่ายของหลินหว่านเธอเอามาด้วยแล้วใช่ไหม? ผมปล่อยมือจากบ้านตระกูลอันตามข้อเสนอของคุณแล้ว คุณหนูอันก็น่าจะรักษาคำพูด เอาภาพถ่ายมาให้ผมได้แล้วล่ะมั้ง!”

 

 

อันซิงได้ฟังก็เดินมาตรงหน้าเซียวจิ่งสือ พูดว่า “ท่านประธานเซียว เรื่องภาพถ่ายคุณอย่าเพิ่งร้อนใจไป วันนี้ฉันมาด้วยเรื่องอื่นค่ะ”

 

 

พูดพลาง อันซิงก็หยิบบัตรเชิญออกมาใบหนึ่ง วางลงตรงหน้าเซียวจิ่งสือ “ตอนบ่ายวันพรุ่งนี้บ้านตระกูลอันจัดงานเลี้ยง ถ้าประธานเซียวไม่อยากเห็นภาพถ่ายของหลินหว่านบนอินเทอร์เน็ตก็กรุณามาร่วมงานเลี้ยงให้ตรงเวลานะคะ”

 

 

อันซิงรู้ว่าภาพถ่ายของหลินหว่านในมือเธอในตอนนี้เป็นไพ่ตายที่สามารถใช้บังคับควบคุมเซียวจิ่งสือได้ เธอย่อมจะไม่มอบให้เขาง่ายๆ แน่

 

 

เซียวจิ่งสือก็รู้เหตุผลข้อนี้ดี เขากวาดตามองบัตรเชิญแวบหนึ่ง ยิ้มเยาะว่า “คุณหนูอันนี่ดีนะ รู้จักแต่ใช้รูปถ่ายมาแบล็คเมล์กัน หรือว่าบ้านตระกูลอันฟื้นคืนชีพแล้วเลยกล้าถือดีขึ้นมา? คุณไม่กลัวว่าผมจะจัดการกับบ้านตระกูลอันอีก จนลุกไม่ขึ้นได้แต่รอให้บ้านตระกูลเซียวมาซื้อกิจการไปหรือไง”

 

 

“ประธานเซียว คุณวางใจได้เลย รอให้งานเลี้ยงคราวนี้จบลง ฉันจะคืนรูปถ่ายให้คุณแน่ ฉันรับรองได้ว่าพูดจริงทำจริง” อันซิงพูดกับเซียวจิ่งสืออย่างไม่สะทกสะท้าน

 

 

แน่นอนว่า ในงานเลี้ยงเธอมีแผนต่างหาก เธอจะไม่ยอมให้เซียวจิ่งสือหลุดมือเธอไปได้หรอก

 

 

เซียวจิ่งสือไม่ค่อยจะเชื่อนัก เขาจ้องอันซิงอย่างสำรวจอยู่ชั่วครู่แล้วพูดเสียงเย็นว่า “ครั้งสุดท้าย อันซิง ผมจะเชื่อคุณเป็นครั้งสุดท้าย”

 

 

ถ้าไม่ใช่เพื่อรูปถ่ายของหลินหว่าน เขาจะมาทนให้อันซิงข่มขู่ครั้งแล้วครั้งเล่าได้อย่างไรกัน!

 

 

“งั้นพรุ่งนี้ประธานเซียวต้องมาร่วมงานให้ได้นะคะ” อันซิงพูดด้วยรอยยิ้มที่กำชัยชนะ

 

 

อันซิงจากไปแล้ว ไม่นานนัก หลินหว่านก็มาถึงบริษัท

 

 

ห้องพักผ่อนของพนักงานในออฟฟิศยิ่งครึกครื้นกันไปใหญ่ มีพนักงานไม่น้อยรวมกลุ่มกันแอบถกเถียงเรื่องความสัมพันธ์สามเส้าของท่านประธานพวกเขากับอันซิงและหลินหว่าน

 

 

หลินหว่านมาถึงห้องทำงานของเซียวจิ่งสือ เซียวจิ่งสือเห็นเธอก็ทักทายอย่างดีใจ “หว่านหว่าน คุณมาแล้ว”

 

 

หลินหว่านมาถึงตรงหน้าเซียวจิ่งสือ แอบกวาดสายตาอย่างละมุนละม่อมไปทางบัตรเชิญบนโต๊ะ แล้วถามด้วยน้ำเสียงปกติว่า “เซียวจิ่งสือ ฉันได้ยินมาว่า…คุณปล่อยมือจากบ้านตระกูลอันแล้ว?”

 

 

เซียวจิ่งสือไม่ได้บอกเรื่องนี้กับหลินหว่าน และไม่ได้บอกเรื่องที่อันซิงใช้รูปถ่ายของเธอมาขู่เขา พอเขาได้ยินหลินหว่านถามก็ตอบว่า “หว่านหว่าน เรื่องนี้เดี๋ยวอีกสองวันผมค่อยอธิบายรายละเอียดกับคุณ ดีไหม”

 

 

เซียวจิ่งสือตั้งใจว่ารอให้ได้รูปถ่ายกลับคืนมาแล้ว ค่อยบอกเรื่องราวเป็นไปทั้งหมดให้หลินหว่านฟัง ถ้าถ้าบอกเธอตอนนี้ เกรงว่าจะทำให้เธอกังวลใจซะเปล่าๆ