เล่มที่ 21 เล่มที่ 21 ตอนที่ 620 ไร้กังวลใดๆ ก้าวไปข้างหน้าอย่างกล้าหาญ

สนมโง่เจ้าจะหนีไปไหน

ซูอวี้ยังคงปฏิเสธที่จะจากไป และพยายามตรวจชีพจรให้ซูจิ่นซี

ทันใดนั้น ไม่รู้ว่าซูจิ่นซีที่ได้รับบาดเจ็บอยู่เอาพลังมากมายมาจากที่ใด นางจับซูอวี้โยนออกไปด้านนอกเขตเวทมนตร์

ซูอวี้ออกมาจากเขตเวทมนตร์แล้ว เขาตกลงมาอยู่ข้างผู้ป่วยพอดี ในอ้อมแขนเป็นถุงผ้าที่รวบรวมสมุนไพรทั้งหมดไว้

ทุกคนต่างตกตะลึง ผ่านไปครู่หนึ่งก็ยังไม่ตอบสนอง เกิดอันใดขึ้น เห็นได้ชัดว่าพระชายาโยวอ๋องเก็บรวบรวมยาสมุนไพรทั้งหมด ทว่าเหตุใดนางจึงมอบสมุนไพรให้ซูอวี้ ทั้งยังจับซูอวี้โยนออกมา?

ซูอวี้รีบลุกขึ้นวิ่งไปทางเขตเวทมนตร์ และตะโกนว่า “พี่จิ่นซี พี่จิ่นซี ท่านอย่าทำเช่นนี้… อวี้เอ๋อร์ไม่อาจทำเรื่องนี้ได้ อวี้เอ๋อร์ทำไม่ได้…”

ทว่าเขาเข้าไปไม่ได้แล้ว ทำได้เพียงยื่นมือออกไปคว้าตัวซูจิ่นซีที่อยู่ด้านในเขตเวทมนตร์ ทว่ากลับคว้าได้เพียงความว่างเปล่า มือของเขาเคลื่อนผ่านเขตเวทมนตร์ไป ไม่อาจจับต้องสิ่งใดได้เลย

อย่างไรก็ตาม ซูอวี้ไม่คิดยอมแพ้ เขาลุกขึ้นและกระโจนเข้าไปอีกครั้ง

เมื่อล้มลงก็ลุกขึ้นใหม่อีกครั้ง

เขาลืมไปว่านี่คือการแข่งขันเพื่อชิงตำแหน่งหมอวิเศษ เขารู้เพียงว่า พี่จิ่นซีถูกพลังที่แข็งแกร่งสะท้อนกลับจนได้รับบาดเจ็บ ทั้งยังได้รับบาดเจ็บสาหัสอีกด้วย หากไม่รักษาอย่างทันท่วงที นางอาจมีอันตรายถึงชีวิตได้

จนกระทั่งถังเสวี่ยเดินขึ้นไปบนเวทีการแข่งขัน และคว้าตัวซูอวี้ไว้ นางพูดว่า “ผู้นำสกุลซู ท่านยังไม่เข้าใจความหมายของพี่จิ่นซีอีกหรือ? สิ่งที่นางทำทั้งหมดไม่ได้ทำเพื่อเจ้า ทว่านางทำเพื่อสกุลซู ทำเพื่อสำนักแพทย์สกุลจง ท่านจะทำให้นางผิดหวังหรือ? ”

“ใช่แล้ว ผู้นำอวี้! ” ไหวชิ่งกงจู่ก็เดินขึ้นมาบนเวทีเช่นกัน นางพูดว่า “แท้จริงแล้ว บางครั้ง การแข่งขันก็ไม่เกี่ยวกับแพ้ชนะเสมอไป ทว่าเกี่ยวข้องกับความคิดและจิตใจของผู้เข้าร่วมการแข่งขัน แม้พระชายาโยวอ๋องจะพลาดโอกาสจากอันดับหมอวิเศษ ทว่าวิชาแพทย์ของนางกลับเป็นที่ชัดเจนต่อสายตาของทุกคน ยิ่งไปกว่านั้น ผู้นำสกุลซูมีทักษะทางการแพทย์ที่ลึกซึ้งตั้งแต่วัยเยาว์ ท่านยังมีอนาคตที่สดใส สมญานามหมอวิเศษนี้ ท่านสมควรได้รับมัน”

ถังเสวี่ยไม่ชอบไหวชิ่งกงจู่มาโดยตลอด กลับไม่คิดว่า ไหวชิ่งกงจู่จะพูดคำเหล่านี้ออกมาได้ จึงมองนางด้วยแววตาเหลือเชื่อ

‘ตุ่ง’ เสียงกลองดังขึ้น เป็นการสิ้นสุดการแข่งขัน ขณะเดียวกัน หัวหน้าสำนักแพทย์และหัวหน้าสำนักโอสถก็ได้ประกาศว่า หมอวิเศษในการแข่งขันซิ่งหลินครั้งนี้คือ ซูอวี้

ซูอวี้นั่งตกตะลึงอยู่บนพื้น พลางมองซูจิ่นซีที่อยู่ด้านในเขตเวทมนตร์

เขตเวทมนตร์พลันคืนสภาพ ซูจิ่นซีและเป่ยถางเย่ถูกส่งออกมาจากเขตเวทมนตร์

ขณะที่อยู่ในเขตเวทมนตร์ ซูจิ่นซีได้ใช้ยาสมุนไพรเพื่อรักษาอาการบาดเจ็บ ทั้งนางยังเดินพลังลมปราณ ตอนนี้อาการบาดเจ็บจึงคงที่ชั่วคราว

อย่างไรก็ตาม ซูอวี้ยังรีบเดินไปข้างหน้าเพื่อตรวจชีพจรให้ซูจิ่นซี เมื่อแน่ใจว่าซูจิ่นซีได้ใช้ยารักษาอาการ ทำให้อาการบาดเจ็บคงที่แล้ว เขาจึงโล่งใจ

สำหรับอันดับหมอวิเศษ ทางผู้จัดการแข่งขันซิ่งหลินยังได้เตรียมเหรียญรางวัลและของรางวัลไว้มากมาย จงจิงเฉินสั่งให้บ่าวรับใช้นำของรางวัลขึ้นมาบนเวที เพื่อเตรียมมอบให้ซูอวี้

ทว่าซูอวี้กลับมองซูจิ่นซีด้วยท่าทีขอร้อง และไม่อยากไป

ซูจิ่นซียกยิ้มเล็กน้อย และพูดว่า “อวี้เอ๋อร์ พวกเราตกลงกันแล้วไม่ใช่หรือ? ข้าขัดขวางเป่ยถางเย่และตงหลิงหวง ส่วนเจ้านำยาสมุนไพรไปรับตำแหน่งหมอวิเศษ”

ซูอวี้เม้มริมฝีปาก “ทว่า… ” มีสาเหตุหลายอย่างที่ทำให้เขาขมวดคิ้ว ทั้งไม่อยากรับมันไว้

ซูจิ่นซีพยายามอดทนต่อการไอจากอาการบาดเจ็บสาหัส

“ทว่าพี่จิ่นซีได้รับบาดเจ็บ น้องไม่คิดว่า ท่านจะได้รับบาดเจ็บหนักเช่นนี้? ”

ซูจิ่นซียังคงเป็นผู้ที่เข้าใจซูอวี้ดีที่สุด นางมองความคิดของซูอวี้ได้ทะลุปรุโปร่ง จึงรู้วิธีพูดปลอบโยน

“แม้พี่ของเจ้าจะบาดเจ็บ ทว่าเป่ยถางเย่ก็บาดเจ็บเช่นกัน ทั้งพี่ยังบาดเจ็บน้อยกว่าเขา ดังนั้น เขาไม่มีเรี่ยวแรงมาขัดขวางเจ้าได้อีก”

ก่อนหน้านี้ ซูอวี้ไม่เคยวัดระดับความสามารถระหว่างพี่จิ่นซีกับเป่ยถางเย่ ในสถานการณ์ที่ไม่มีโอกาสเอาชนะได้นั้น เขาต้องเชื่อฟังความคิดของซูจิ่นซี และตอบตกลงที่จะสู้เพื่อตำแหน่งหมอวิเศษ

ทว่าเมื่อครู่ พี่จิ่นซีสามารถฟื้นคืนพลังได้ก่อนเป่ยถางเย่ก้าวหนึ่ง นางสามารถนำยาสมุนไพรออกมาจากเขตเวทมนตร์ได้ด้วยตนเอง ทว่านางกลับมอบตำแหน่งหมอวิเศษให้เขา

สำหรับเขาแล้ว มันง่ายเหมือนคำพูดของถังเสวี่ยและไหวชิ่งกงจู่หรือ?

ชัดเจนว่าไม่ใช่!

“มานี่! ” ซูจิ่นซียื่นมือไปทางซูอวี้ด้วยใบหน้าซีดขาว

ซูอวี้เดินไปข้างหน้าด้วยท่าทีลังเลเล็กน้อย ทว่ายังวางมือของตนเองลงบนมือของซูจิ่นซี

“อวี้เอ๋อร์ เจ้าจำไว้ให้ดี พี่ให้เจ้า ไม่เพียงตำแหน่งหมอวิเศษเพียงอย่างเดียว แต่เป็นอนาคตของวงการแพทย์ในอาณาจักรเทียนเหอทั้งหมด”

อนาคตของวงการแพทย์ในอาณาจักรเทียนเหอหรือ?

ในความคิดของซูอวี้พลันมีบางอย่างปรากฏขึ้น ทว่ามันกลับห่างไกลดั่งดวงดาวบนท้องฟ้าที่อยู่ไกลสุดสายตา

เขาไม่เคยนึกถึงอนาคตที่ยาวไกลถึงเพียงนั้น

ซูอวี้กัดริมฝีปาก พลางมองซูจิ่นซีด้วยท่าทางสับสน

“เจ้ายังไม่เข้าใจความหมายของข้าอีกหรือ? ” น้ำเสียงของซูจิ่นซีเย็นชาเล็กน้อย

ซูอวี้เข้าใจดี ทว่ามีบางจุดที่เขาไม่เข้าใจ อย่างไรก็ตาม เขาเชื่อว่าต้องมีสักวันที่เขาจะเข้าใจ

ก็เหมือนก่อนหน้านี้ที่นางมอบตำแหน่งผู้นำสกุลซูไว้ในมือของเขา และกล่าวว่า “สิ่งที่ข้ามอบให้เจ้า ไม่ใช่แค่ตำแหน่งผู้นำสกุลซูเพียงอย่างเดียว แต่เป็นอนาคตของสกุลซู”

สุดท้ายแล้ว ซูอวี้ก็พยักหน้าอย่างแน่วแน่ ก่อนจะลุกขึ้นยืนและเดินไปยังเวที ซึ่งเป็นตำแหน่งอันทรงเกียรติของผู้ชนะ

เสียงปรบมือ เสียงตีกลอง และเสียงชื่นชมของผู้คนดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง ผู้อาวุโสทั้งสองของสำนักแพทย์เทียนอีขึ้นมาบนเวทีด้วยตนเอง ก่อนจะมอบเหรียญรางวัลอันยิ่งใหญ่ที่สุดของการแข่งขันครั้งนี้ ซึ่งเป็นรางวัลหมอวิเศษให้แก่ซูอวี้ ทั้งยังมอบรางวัลอื่นๆ ให้เขาอีกมากมาย

แม้ซูจิ่นซี เป่ยถางเย่ และตงหลิงหวงจะได้เพียงตำแหน่งหมอเทวดา ทว่าในวงการการแพทย์ พวกเขาถือว่าเป็นบุคคลที่มีวิชาแพทย์ยอดเยี่ยมอย่างมาก

การแข่งขันซิ่งหลินซึ่งจัดขึ้นในทุกสิบปี ทุกครั้งของการแข่งขันจะปรากฏหมอเทวดาหนึ่งถึงสองท่าน ทว่าในปีนี้ นับได้ว่ามีหมอเทวดามากที่สุดแล้ว

การแข่งขันที่ผ่านมา ผู้เข้าแข่งขันยังไม่สามารถเข้าสู่การแข่งขันในระดับหมอเทวดาได้ ทั้งยังถูกกำจัดออกในรอบการแข่งขันที่ต่ำกว่าระดับหมอเทพ

ดังนั้น ผู้จัดการแข่งขันจึงมอบรางวัลและเหรียญรางวัลให้ผู้เข้าร่วมการแข่งขันทั้งสามคนที่ได้รับลำดับขั้นหมอเทพ

ซูอวี้ยืนอยู่ในตำแหน่งหมอวิเศษ เสียงโห่ร้องดังขึ้นโดยรอบ ผู้คนต่างโบกมือ ถึงขนาดที่มีคนปีนขึ้นมาบนเวทีและอุ้มเขาโยนขึ้นไปบนฟ้า และผู้คนจำนวนมากก็ตามขึ้นมาบนเวที

การกระทำเช่นนี้ เป็นธรรมเนียมที่ชื่นชอบของแฟนคลับที่คอยชมการแข่งขัน

ทว่าหลังจากถูกโยนขึ้นไปครั้งแล้วครั้งเล่า แววตาของซูอวี้กลับจับจ้องไปที่ซูจิ่นซีซึ่งยืนอยู่ด้านนอกฝูงชนอย่างเงียบงัน

พี่จิ่นซี รอข้า!

ต้องมีสักวันที่อวี้เอ๋อร์จะเติบโต!

ต้องมีสักวันที่อวี้เอ๋อร์ได้รับตำแหน่งหมอวิเศษอย่างสมศักดิ์ศรี

ต้องมีสักวันที่เป็นไปตามที่ท่านพูด อวี้เอ๋อร์จะแบกรับวงการแพทย์ของทั้งอาณาจักรเทียนเหอ

บันทึกไว้ในประวัติศาสตร์ของวงการแพทย์ตลอดไป

ต้องมีสักวันที่อวี้เอ๋อร์จะแข็งแกร่ง แข็งแกร่งพอ… ที่จะยืนอยู่ข้างหลังท่าน แบกรับภาระทุกอย่างแทนท่าน ให้ท่านได้ก้าวต่อไปข้างหน้าอย่างกล้าหาญโดยไร้ซึ่งความกังวล