บทที่ 626 ชิ้น (5)

The Novel’s Extra

บทที่ 626 ชิ้น (5)

[กรุงปารีส ,ฝรั่งเศส]

ป้อมปราการรอบมาดริดถูกยกออกอย่างที่หลายๆคนต่างกลัว แอสทารอทออกมาพร้อมกับกองทัพอันแข็งแกร่ง ปีศาจได้มาถึงปารีสในไม่ช้า

อาแฮอินมาปารีสเพื่อที่จะหยุดแอสทารอท แต่ในตอนที่เธอมาถึงนั้น ปารีสได้ถูกทำลายไปแล้ว

แอสทารอทพร้อมทั้งกองทัพของเขาบุกเข้าทำลายทั่วทั้งเมือง เข่นฆ่ามนุษย์ไปมากมาย เสียงกรีดร้องของเหยื่อผู้ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ดังก้องไม่รู้จบ แม้แต่ฮีโร่ก็ไร้ซึ่งหนทางที่จะต่อต้านการโจมตีของกองทัพปีศาจนี้

อาแฮอินมองไปรอบเมืองบ้านเกิดของเธอ เธอกัดริมฝีปากเมื่อรู้สึกถึงบางอย่างที่ราวกับว่ากำลังแผดเผาหัวใจของเธออยู่ ฉากของการเข่นฆ่าอย่างโหดเหี้ยมนี้ทำให้เธอโกรธ ‘ดีแล้วที่ฉันไม่ได้พาอีเวนเดล มาด้วยกัน’
Hiiing—!

ฉับพลันยูนิคอร์นกรีดร้องเสียงดังออกมา ทั้งร่างของยูนิคอร์นตัวที่พาเธอมาที่นี่ตามความต้องการของ อีเวนเดล สั่นเทาอย่างน่ากลัว อีเวนเดล ขัดคำสั่งของมาสเตอร์ของเธอและแชร์การมองเห็นร่วมกับยูนิคอร์น
“อีเวนเดล!” อาแฮอิน ตะโกนเสียงดัง
ร่างกายของยูนิคอร์นสั่นเทาและล้มลงบนพื้น อีเวนเดลตัดการเชื่อมต่อกับยูนิคอร์นทันที

“….บ้าเอ้ย”

เมื่ออีเวนเดลอสูรรับใช้ รับรู้ถึงความร้อนรนของมาสเตอร์ของพวกมัน ทันใดนั้นพวกมันสูญเสียการควบคุมตัวเองทันทีและกระโจนเข้าสู้กับกองทัพปีศาจ ทุกคนมุ่งความสนใจไปที่อาแฮอิน เธอไม่มีทางเลือก อาแฮอินเรียกอสูรรับใช้ออกมาทันที

—น-นั่นมัน ดยุคอาแฮอิน!
—กำลังเสริมมาแล้ว-!

มังกรฟ้าครอบผืนฟ้าในขณะที่เต่าดำครอบครองผืนดิน เมื่อเห็นถึงการมาถึงของอสูรชั้นสูง เหล่าฮีโร่จากฝรั่งเศสร้องเรียกชื่อ อาแฮอิน. เสียงดังก้อง
นี่เป็นจุดเริ่มต้นของสงครามอย่างเต็มรูปแบบระหว่างเหล่าผู้อัญเชิญอสูรและกองทัพปีศาจ
Kwang—!

อสูรวิญญาณและปีศาจเข้าต่อสู้กันอย่างดุเดือด เกิดระเบิดขึ้นทั่วอาณาบริเวณ เสียงคำรามของอสูรวิญญาณและปีศาจดังกึกก้อง
สถานการณ์ตอนนี้ไม่ปลอดภัยสำหรับมนุษย์เมื่ออสูรวิญญาณลืมวัตถุประสงค์ของตนเองไปและเริ่มตกลงสู่ความบ้าคลั่ง

“อีเวนเดล!”

อาแฮอินส่งกระแสจิตหาอีเวนเดล แต่ไม่มีการตอบกลับ สงครามอันโหดร้ายกับการตายไม่มีที่สิ้นสุดยังคงเร็วเกินไปสำหรับเด็กสาว
อสูรอัญเชิญของอีเวนเดลรับรู้ได้ถึงความร้อนรนของมาสเตอร์ บางตัวคิดว่าเธอตกอยู่ในอันตรายจึงรีบออกจากสนามรบทันที

“อีเวนเดล! รออยู่นั่น อีเวนเดล!” อาแฮอิน ตะโกนเสียงดัง

ไม่นานหลังจากนั้น

ทันใดนั้นบรรยากาศตึงเครียดขึ้นและเสียงรอบตัวเริ่มช้าลง ในตอนนี้อาแฮอินสามารถรับรู้ได้ถึงการเคลื่อนไหวของอากาศและอนุภาคของบรรยากาศ

มันเป็นความรู้สึกที่แปลกมาก

อาแฮอิน หยุดชะงักและมองไปรอบๆ ทุกสิ่งทุกอย่างเคลื่อนไหวช้าลง อสูรอัญเชิญของเธอถูกแช่แข็งอยู่กับที่ กรงเล็บของพวกมันชี้ไปข้างหน้าและรังสีจากพลังปีศาจหยุดกลางอากาศและไม่เคลื่อนไหวอีกต่อไป

“ดูเหมือนว่าตรงนี้จะมีปัญหานิดหน่อยนะ”

เสียงเล็กๆดังเข้าหูทั้งสองข้างของของอาแฮอิน เธอรีบหันกลับไปมองที่มาของเสียงทันที

“…อ่า?”

อาแฮอินเบิกตากว้างขึ้น ชายชราอยู่ตรงหน้าเธอ ผมหนาสีเทาและดวงตาดูลึกล้ำคู่นั้นทำให้เธอจำเขาได้ทันที

“คุณคือ….”

อาแฮอินรู้ว่าคนตรงหน้าของเธอเป็นใคร ไม่ใช่เพียงแค่เธอคุ้นเคยกับการปรากฏตัวของเขา แต่เธอยังเคยสัมผัสเวทย์มนต์ของเขามาก่อน ไม่มีทางที่เธอจะลืมพลังที่บริสุทธิ์และน่าเหลือเชื่อนี้ได้
ชายชราคนนี้คือ โอแจจินแกรนด์เมจิกเชี่ยนคนแรกและคนสุดท้ายระดับ10ดาวของโลกและเป็นสมาชิกของไนท์สตาร์

“ไม่ได้เจอกันนานทีเดียว”

โอแจจินยกยิ้มเล็กน้อย อาแฮอินพูดอะไรไม่บอก เธอเจอเขาครั้งแรกเมื่อ 20 ปีก่อนที่หอคอเวทย์มนต์ตอนนั้น โอแจจินเป็นประธานของโซลเมจิกพาวเวอร์ และเธอเป็นเพียงเด็กฝึกหัดที่ยังไม่สามารถใช้ได้แม้กระทั่งเวทย์มนต์ง่ายๆ
แต่แล้ววันหนึ่ง โอแจจินได้ออกจากหอคอย แม้กระทั่งแกรนด์เมจิกเชี่ยนที่รู้จักนิสัยประหลาดๆของเขาเป็นอย่างดี ทุกคนคิดว่าเขาจะกลับมาในไม่ช้า แต่ไม่เลย เขาไม่เคยกลับมา แกรนด์เมจิกเชี่ยนคนแรกและคนเดียวหายไปจากโลกเวทย์มนต์ในที่สุด

“…แกรนด์เมจิกเชี่ยน โอแจจิน?”

นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมอาแฮอินไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเอง แม้ว่าจะมีข่าวลือที่น่าช็อคไม่น้อยมากมาย—ว่าเขาเป็นบ้าหรือแม้กระทั่งถูกตอนไปแล้ว— โอแจจินไม่ปรากฏตัวสู่สาธารณะมาหลายปี

“ใช่แล้ว ดีใจดีได้พบเธอนะ อาแฮจิน”

“อะไรนะคะ? แน่นอน แต่ว่า อืม ค-คุณมาที่นี่ได้ยังไง? ม-ไม่ ยิ่งกว่านั้น คุณไปอยู่ที่ไหนมาจนกระทั่งตอนนี้?”

อาแฮอินทำไม่ได้แม้กระทั่งพูดให้เป็นคำออกมา
ถึงอย่างนั้น แกรนด์เมจิกเชี่ยนก็ทำเพียงยิ้มเบาๆเป็นคำตอบ

“2-3 เดือนก่อน มีเด็กหนุ่มคนหนึ่งมาพบฉัน เขาบอกฉันว่าต้องการความช่วยเหลือจากฉัน
แม้ว่าอาการความจำเสื่อมของเขาจะถูกรักษาโดยยาที่เขาได้รับมาจากคิมฮาจิน แต่มันใช้เวลานานเกินไปกว่าที่เขาจะนำความสามารถทางเวทย์มนต์ที่สูญหายไปหลายปีกลับมาได้ อีกทั้งเขายังอยู่ในช่วงเวลาที่ยากลำบากในการเกลี่ยกล่อมภรรยาของเขาที่กังวลมากจนเกินไป”

“ฉันซ่อนตัวเพราะฉันต้องการเวลาสักเล็กน้อย… แต่มันเป็นอดีตไปแล้วตอนนี้”

โอแจจินเดินก้าวท้าวอย่างหนักหน่วงผ่านเธอไป เธอหันกลับมาแล้วมองที่แผ่นหลังของเขา ถึงแม้จะเป็นเพียงแค่แผ่นหลังของชายชราคนหนึ่ง แต่เธอกลับรู้สึกว่ามันใหญ่พอ ๆ กับหอคอยสำหรับเธอ

ชายชราถือกิ่งไม้ยาวที่ดูเหมือนไม้เท้าแล้วขยับมันเบาๆ

และหลังจากนั้นทั้งโลกได้หยุดลง นี่ไม่ใช่อติพจน์ ทุกอย่างยกเว้นอาแฮอินและโอแจจินหยุดเคลื่อนไหว สิ่งนี้ทำให้อาแฮอินตะลึง

เธออดไม่ได้ที่จะชื่นชมทักษะที่น่าอัศจรรย์เช่นนี้ โอแจจินแกรนด์เมจิกเชี่ยนระดับ 10 ดาวผู้ยิ่งใหญ่ได้ท้าทายตรรกะของมนุษย์และธรรมชาติจนอยู่เหนือปาฏิหาริย์

เขาสามารถควบคุมเวลา – กล่าวอีกนัยหนึ่งคือการเคลื่อนไหวทั้งหมดของโลก

**

[แกนช่องแคบใต้ดิน]

ทันทีที่ผมเปิดใช้งาน [มิติเอนโทรปี] ผมได้เปิดใช้งาน [บัสเตอร์คอล]ด้วย แม้ว่าสติกมาของผมจะยังไม่ได้ถูกเติมเต็มอย่างสมบูรณ์ แต่ผมก็สามารถอัญเชิญเรือรบแห่งเกนเคลลอปGenkelope โดยใช้การทะลายขีดจำกัดแทนได้สำเร็จ

“เรียบร้อยไหม~?” เจนถาม ผมพยักหน้าตอบก่อนจะเลื่อนสายตาไปมองที่เธอ

อันโดรมาเลียส ปีศาจอันดับที่ 72 แม้ว่าเขาจะอยู่ตำแหน่งรั้งท้ายแต่เขาก็ยังถือว่าเป็นปีศาจเช่นกัน อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ เขากำลัง…
Crunch—! Crunch—!
…ถูกกลืนกินโดยมินโยของดรูน

“อย่ากินมากเกินไปนะมินโย เดี๋ยวเธอจะปวดท้องเอา”

ดรูนลูบหัวมินโยเบาๆ มินโยสั่นหูของเขา
ฉากนั้นช่างดูน่าทึ่งมากทีเดียว ผมยิ้มให้ขมขื่นและเริ่มพูดคุยกับฮอร์เนอร์

“ฮอร์เนอร์ นายอยู่ที่นั่นหรือเปล่า?”

—ใช่ครับท่าน ทุกคนกำลังเตรียมพร้อม

เสียงของเขาไม่เคยทำให้ผมไม่สบายใจ ยิ่งกว่านั้นเมื่อผมตรวจสอบเรือด้วยสายตาพันไมล์ทำให้ผมสามารถมองเห็นได้ว่าเรือทั้งลำ ไม่ใช่แค่ฮอร์เนอร์เท่านั้น ได้รับการอัพเกรดอย่างมาก

“ เป็นไงบ้าง?”

– ตามที่ดูจากคอมพิวเตอร์อัจฉริยะนั้นสถานการณ์ตอนนี้ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ครับ เราตรวจพบปีศาจทรงพลังสองตน

มันใช้เวลาเพียงประมาณ 10 วินาทีตั้งแต่ผมเรียกเรือออกมา คอมพิวเตอร์ก็เสร็จสิ้นการคำนวณทั้งหมดแล้ว

ผมเก็บความประหลาดใจของตัวเองก่อนจะตอบออกไป“ เข้าใจแล้ว เราจะไปที่นั่น”

– ฉันจะเปิดพอร์ทัล

ทันใดนั้นพอร์ทัลก็โผล่ขึ้นมาข้างหน้าผม เทคโนโลยีนี้ทำให้ผมประหลาดใจได้เสมอ

– มาเถอะครับ แขกของคุณกำลังรอคุณอยู่

“ แขกของฉัน? ใครกัน…อ่า”

ผมมีความคิดคร่าวๆว่าเขาเป็นใคร ผมเพิ่งเปิดใช้งาน [มิติเอนโทรปี] ดังนั้นเวลาในตอนนี้ตรงกันเช่นกัน

“ โอเค ฉันจะไปดูแล้วกัน ดูแลที่นี่ด้วย” ผมหันไปบอกสมาชิกของคณะคมีเลียนที่กำลังเตรียมที่จะติดตามผมไปด้วย

ในปัจจุบัน [มิติเอนโทรปี] มีความสำคัญมากกว่าสิ่งอื่นใดในโลก ดังนั้นผมจึงต้องเก็บมันไว้ในมือของคนที่ไว้ใจได้

“ ทำไมนายถึงได้สนุกนักน้า…. ~”

เจนทำหน้ามุ่ยในตอนแรกแต่ต้องพยักหน้าอย่างปลงตกเมื่อเธอรู้สึกว่าบอสกำลังจ้องมองมาที่เธอ

“ ฉันจะให้เธอดูแลมัน ยูยอนฮาตามฉันมา”

“อะไรนะ? อ่า โอเค”
——————-2—————–