บทที่ 627 ชิ้น (6)

The Novel’s Extra

บทที่ 627 ชิ้น (6)

ผมเข้าสู่พอร์ทัลพร้อมกับยูยอนฮาที่เดินตามมาด้วยกัน

[เรือรบแห่งเกนเคลลอป]

ทันทีที่ผมเดินเข้าไปในพอร์ทัล ผมเห็นตัวอักษร ‘เรือรบแห่งเกนเคลลอป’ ที่สลักอยู่บนเพดานของเรือ

“ไม่ได้เจอกันนานเลยนะครับ ท่าน”

ฮอร์เนอร์ต้อนรับเราด้วยรอยยิ้ม

“ไม่เจอกันนาน อ่า นี่คือยูยอนฮา”

ผมแนะนำยูยอนฮาให้ฮอร์เนอร์รู้จัก เขาทั้งสองคนจับมือทักทายกันแล้วมองไปรอบๆเรือรบ

“ต้องเคลื่อนไหวตอนนี้ เรามีเวลาไม่มากแล้ว.”

“ครับ ได้โปรดตามผมมา กัปตัน”

ผมเดินตามฮอร์เนอร์ไปที่ห้องควบคุม จากที่นั่นเราสามารถสังเกตการณ์สนามรบด้านล่างได้อย่างกว้างขวาง

“ฮีโร่จำนวนมากกำลังต่อสู้อยู่ตอนนี้”

ฮอร์เนอร์ชี้ไปที่บาอัลและโมแร็กซ์ที่ถูกอัญเชิญมา สถานการณ์ตอนนี้ดูไม่ดีเลยแม้แต่น้อย มันเป็นการฆ่าฟันด้านเดียวมากกว่าที่จะเรียกว่าสงคราม จำนวนสัตว์ประหลาดและปีศาจไม่เปลี่ยนไปเลยในขณะที่จำนวนฮีโร่ลดลงอย่างรวดเร็ว

“ พวกมันไม่สนใจเราจริงๆใช่ไหม? ถึงแม้ว่าเรือลำนี้จะใหญ่ขนากนี้น่ะหรอ” ผมถามอย่างสงสัย

ฮอร์เนอร์ตอบ “ ตอนนี้นี้เราอยู่ในโหมดซ่อนตัวดังนั้นศัตรูมองไม่เห็นเรา”

“แน่ใจนะ?”

“ใช่ พวกเรากำลังรอคำสั่งของคุณ จะให้ดำเนินการต่อไปเลยหรือไม่ครับ”

ฮอร์เนอร์มองลงไปที่กองทัพปีศาจ เห็นได้ชัดว่าเขาถูกแผดเผาไปด้วยความโกรธ บางทีอาจเป็นเพราะบ้านเกิดของเขาในหอคอยแห่งความปรารถนาถูกปีศาจยึดครองด้วยเช่นกัน

“ …ใช่ ไปกันเถอะ”

“ขอบคุณมากครับ ทหารแห่งเกนเคลลอป เตรียมตัวให้พร้อม”

ทันทีที่ผมให้อนุญาต ฮอร์เนอร์หันไปสั่งการทหารทันที ทันใดนั้นเรือก็ยกเลิกโหมดซ่อนตัวออกเผยให้เห็นลำเหล็กขนาดใหญ่และโรงเก็บเครื่องบินได้ถูกเปิดออก

Shooong … Kwaaaaaa-!

เครื่องบินรบหลายร้อยลำถูกส่งออกจากโรงเก็บเครื่องบิน

หลังจากนั้น

“ ที่นี่คือบ้านเกิดของคุณ คิมฮาจิน”

ชื่อของผมถูกเรียกขึ้นมา และมีใครบางคนเดินมายืนข้างผม ผมรู้ได้ทันทีว่าเขาเป็นใครโดยไม่ต้องหันไปมอง

“ ใช่ มันผ่านมานานแล้ว”

“ พนันได้เลย ฉันหมายถึง – นานมาแล้วที่ไม่ได้เจอ ฉันชื่อโทเมอร์มาจากจักรวรรดิ”

เธอคือโทเมอร์ เธอดูแข็งแกร่งกว่าครั้งล่าสุดที่เราเจอกันด้วยชุดเกราะที่ดูหรูหราและทรงพลังนั่น

**

[ใกล้ชายแดนเกาหลี]

ชินจงฮักเงยหน้าขึ้นมองด้วยความงุนงง เสาไฟส่องสว่างขึ้นมาจากพื้นดินและเรือรบขนาดใหญ่ปรากฏขึ้นบนท้องฟ้าและเริ่มทิ้งระเบิดโจมตีปีศาจ
ไม่เพียงแต่ชินจงฮักเท่านั้น แต่ยังมีฮีโร่หลายคนที่ยังคงไม่เข้าใจในสถานการณ์ปัจจุบันที่เกิดขึ้น

“ไง”

หญิงสาวเดินเข้ามาใกล้ชินจงฮักซึ่งยังคงงงงวยกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ชินจองฮกสะดุ้งและพุ่งหอกไปหญิงสาวทันที แต่เธอกลับสามารถหยุดหอกพิชิตได้อย่างง่ายดาย

ชินจงฮัก จ้องมองเธออย่างตกตะลึง“…ทำไม?”

“ทำไม อะไรหรือ?”

ผู้หญิงคนที่ชื่อจินซาฮยอค เผยรอยยิ้มให้อย่างลึกลับ
ชินจงฮักขมวดคิ้วแน่น

“ความหมายที่ฉันพูดคือ ทำไมเธอถึงมาอยู่ที่นี่?”

“อืมม? อ่า~อย่าซีเรียสไปเลยน่า”

จินซาฮยอคกรีดกรายที่แก้มของเธออย่างน่ากลัว
ความจริงแล้วจินซาฮยอคอยากจะวิ่งหนีไปให้ไกล เธอต้องการจะหนีจากฝันร้ายที่ชื่อว่าโมแรกซ์โดยใช้หินมิติควบคุมอนุภาคซึ่งจะทำเธอสามารถกลับไปยังอคทรีน่าได้อย่างง่ายดาย
โชคไม่ดีนัก มันไม่ทำงาน โมแร็กซ์ไปยอมปล่อยเธอไป เธอรู้ว่าถ้าเธอไม่จัดการกับมันที่นี่และตอนนี้ มันจะตามเธอไปตลอดทางจนถึงอคทรีน่า และดังนั้นจินซาฮยอคจึงมาหาชินจงฮัก.

“อ่า นายจำได้ไหมที่เบลล์บอกว่าชินมยองชุลทิ้งของสำคัญบางอย่างไว้ที่นาย?”

ชินมยองชุลคือเบาะแสแรกที่จะสามารถหาทางทำลายบาอัลกับโมแร็กซ์ได้
ชินจงฮักรู้สึกสะกิดใจกับชื่อนั้น

“นั่น เขาเคยพูดถึง มันคืออะไรกัน?”

“อ่า~ ไม่มีอะไรหรอก แค่ฉันพึ่งนึกถึงบางอย่างที่สำคัญมากขึ้นมาได้”

“…”

ชินจงฮักคว้าหอกผู้พิชิตขึ้นมา จินซาฮยอคยังไม่ได้ทันได้พูดอะไรสักคำ แต่เขารู้ว่าเธอกำลังจะไปข่มขู่ชินมยองชุล ‘ฉันจะฆ่าเธอ ก่อนที่เธอจะทำแบบนั้น’ เขาตัดสินใจ

อย่างไรก็ตามจินซาฮยอควางมือลงบนไหล่ของเขาโดยไม่พูดอะไรสักคำ ชินจองฮาคมองดูมือของเธอ เขาขมวดคิ้วแน่นแล้วก็หันหน้าไปทำหน้าบึ้งตึงใส่เธอ

เมื่อมองเข้าไปในดวงตาของเขา จินซาฮยอคก็กล่าวออกมา “ฉันคิดว่าฉันรู้ว่าทำไมชินเมียงชูลถึงเลือกที่จะทิ้งมันไว้ที่นาย”

“…อะไรของเธอ?”

จินซาฮยอคเคยฝันถึงอีเรนและเฟฮี ความทรงจำในสมัยที่เธออยู่อคทรีน่า ที่ยังคงเหลืออยู่ในใจของเธอนั้นมีเพียงความเสียใจ และโมแรกซ์คือการแสดงออกทางกายภาพของความเสียใจนั้น
มันเป็นเหมือนบาดแผลที่ทรมานที่สุดสำหรับเธอ
แต่ด้วยประสบการณ์ที่แสนสาหัสนั้นทำให้จินซาฮยอครู้ว่า “มรดกของชินมยองชุล” ที่เบลล์กล่าวถึงนั้นคืออะไรและถูกซ่อนอยู่ที่ไหน

“คุณล้อผมเล่นหรือเปล่า?” ชินจงฮัก ถามอย่างสงสัย

“ ฉันไม่ได้โกหก ดังนั้นหุบปากของนายแล้วตามฉันมา ไอ้ขี้แพ้ ” จินซาฮยอคสบถและกระชากไหล่ของชินจงฮัก จากนั้นเธอได้เปิดการใช้งานพลังโดยไม่รอคำตอบของเขาทันที

ในขณะนั้น ชินจงฮักรู้สึกเหมือนร่างกายกำลังถูกบางสิ่งดูดกลืนเข้าไป เขาอ้าปากกว้างแต่กลับไม่มีเสียงอะไรเล็ดรอดออกมาแม้แต่น้อย เขารู้สึกเวียนหัวแต่กลับไม่ได้รู้สึกอยากอาเจียนออกมา

ประมาณ 30 วินาทีต่อมา เขาถึงกลับมาอยู่ในสภาวะปกติ

“…!”

ชินจงฮัก เบิกตากว้าง

“…ว้อท ฮ่า ฮ่า นี่มันอะไรกันเนี่ย?”

เขามองไปรอบตัว ที่นี่ไม่มีอะไรเลยนอกจากพื้นที่สีดำกับจินซาฮยอค

“บ้าเอ้ย ฉันอยู่ที่แบบไหนกันเนี่ย?!”

“…คิดอะไรอยู่? ตอนนี้เรากำลังอยู่ข้างในจิตใจของนายไง”

“อะไร? แกพูด………..แกพูดบ้าอะไรวะ?”

ดูเหมือนว่าเขากำลังสับสนและโกรธเมื่อตกอยู่ในการควบคุมของเธอ
เธอปล่อยให้เขากำลังคิดอย่างเงียบๆคนเดียว จินซาฮยอคมองไปรอบความมืด

“ถ้าฉันเดาถูก นายเจอกับชินมยองชุลคนที่ดูเหมือนว่านายจะรักมากทีเดียว”