TQF:บทที่ 711 บันดาลโทสะ (1)

 

โม่อู๋เซอที่มีสีหน้าทำอะไรไม่ถูกไม่ค่อยได้เห็นภรรยาแสดงท่าทางออดอ้อนเอาแต่ใจสักเท่าไหร่ ในใจอดรู้สึกเอ็นดูไม่ได้ จึงพยักหน้านิดหน่อยเป็นการตอบตกลงคำขอของนาง

 

เห็นท่าทางของเขาแล้วหรงจิ้งซือดีใจมาก และรู้ว่าสถานการณ์ตอนนี้ไม่เอื้ออำนวยจึงได้แต่ปล่อยเขาไปก่อน

 

ไม่รู้ว่ารออยู่นานเท่าไหร่ ร่างอันคุ้นเคยก็ปรากฏขึ้นในที่สุด ทั้ง 3 ล้วนยิ้มออกมา

 

โดยเฉพาะตาแก่ซอมซ่อ ตอนแรกนึกว่าจะต้องเสียลูกศิษย์คนนี้ไปซะแล้ว ในที่สุดลูกศิษย์คนนี้ก็ยอมเรียกเขาว่าครู

 

ครูก็เป็นการเรียกขานด้วยความเคารพเช่นเดียวกัน แม้จะไม่เท่าอาจารย์และท่านอาจารย์ ไม่ว่าอย่างไรยอมรับก็คือยอมรับ เขาไม่ได้คิดมาก ขอแค่ลูกศิษย์คนนี้ยอมรับตัวเองก็พอ

 

โม่ซวนซุนที่จิตใจเบิกบานออกจากบ้านไผ่ปุบก็รู้สึกถึงคน 3 คนบนยอดเขา เขาก้าวออกไป 1 ก้าวก็ทะลุผ่านมิติและปรากฏตัวที่นั่น

 

“อาจารย์ อาจารย์หญิง” เขาเรียกทั้ง 2 ก่อนจะหันไปพูดกับตาแก่ซอมซ่อ “ครู”

 

ตาแก่ซอมซ่อยิ้มและพยักหน้า กลับเป็นโม่อู๋เซอที่ถลึงตาใส่ลูกศิษย์ตรงหน้าด้วยความไม่พอใจ แต่ลึกๆก็ดีใจ ถึงยังไงก็เป็นลูกชายของตัวเอง สนิทกับตัวเองจะให้ไม่ดีใจได้อย่างไร

 

“ซุนเอ๋อ เจ้าโถงตามหาเจ้า” หรงจิ้งซือดึงลูกศิษย์ตัวเองมาและเอ่ยพร้อมอมยิ้ม

 

โม่ซวนซุนเลิกคิ้วและคลี่ยิ้ม มีแววตาเย้ยหยันแว้บผ่านไป “หืม พวกเขามาแล้วเหรอ”

 

“เจ้าไปที่โถงหลัก วันนี้มหาผู้อาวุโสแห่งสำนักต่างๆมากันหมด น่าจะมาถามเรื่องเคราะห์กรรมของผืนดินฉางไห่ เรื่องนี้พวกเราก็ทำนายได้ไม่มาก ได้แต่มอบให้เจ้าทำแล้ว” ตาแก่ซอมซ่อพูดขึ้น

 

“ได้”โม่ซวนซุนตกลงโดยไม่คิด ก่อนจะพูดขึ้นอีก “อาจารย์ อาจารย์หญิง พวกท่านอยากไปดูสักหน่อยรึเปล่า”

 

“ก็ดี” โม่อู๋เซอชะงักนิดหน่อยและรีบตกลงทันที เขาก็อยากเห็นเหมือนกันว่าศิษย์รักของตัวเองเก่งขนาดไหน

 

“ครูก็ไปด้วยกันสิ”

 

พูดจบร่างของโม่ซวนซุนก็หายไปพร้อมกับอาจารย์และอาจารย์หญิงของตัวเอง

 

ตาแก่ซอมซ่อยิ้มนิดๆและหายไปตาม

 

ขณะนี้ภายในห้องโถงมีคนนั่งกันอยู่ 10 กว่าคน นอกจากผู้อาวุโสของโถงวิหารสวรรค์แล้ว ที่เหลือก็เป็นแขกเหรื่อที่พากันมาในวันนี้

 

แขกเหล่านี้ล้วนไม่ธรรมดา ต่อให้เป็นโถงวิหารสวรรค์ก็ไม่กล้ามีเรื่องด้วยง่ายๆ แน่นอนว่าไม่ถึงกับกลัว โถงวิหารสวรรค์ต่างหากที่เป็นสำนักที่ทั้งผืนดินฉางไห่รู้สึกหวาดกลัว

 

พวกเขานั่งคุยสัพเพเหระอยู่ที่นี่ จู่ๆก็มีพลังลมปราณของคน 4 คนปรากฏขึ้น ก่อนที่ทั้ง 4 จะปรากฏตัวขึ้นกลางห้องโถง

 

เมื่อได้เห็นชายชุดขาวที่อ่อนเยาว์ที่สุด เหล่าผู้อาวุโสแห่งโถงวิหารสวรรค์และเจ้าโถงที่นั่งกันอยู่ก็ลุกขึ้นยืน ประสานมือให้กับ 2 คนตรงหน้า “คารวะนายน้อย คารวะท่านอาจารย์ปู่”

 

“….”โม่ซวนซุนเพียงแค่พยักหน้าให้กับพวกเขา ไม่คิดจะตอบรับอะไร

 

ภาพนี้ทำให้แขกทั้งหลายตะลึงกันมาก ทุกสายตามองไปที่คนหนุ่มรูปร่างหล่อเหลาเป็นตาเดียว

 

ใช่แล้ว หนุ่มวัยเยาว์ ด้วยวิทยายุทธของพวกเขาแม้จะมองวิทยายุทธอีกฝ่ายไม่ออก แต่จะมองอายุกระดูกให้ออกน่ะไม่ใช่ปัญหา พวกเขารู้แน่ชัดว่าอายุกระดูกของคนหนุ่มตรงหน้าแค่ 20 กว่าปีเท่านั้น

 

แต่คนหนุ่ม 20 กว่าปีคนนี้ได้รับการเคารพนับถือจากทุกคนในโถงวิหารสวรรค์และไม่ใช่แค่ทำไปงั้น แต่เป็นการเคารพนับถือจากใจจริง

 

ถ้าแค่กับอาจารย์ปู่โถงวิหารสวรรค์พวกเขายังพอรับได้ แต่กับคนวัยหนุ่มแค่นี้ พวกเขาคิดจนสมองแตกก็คิดไม่ออกว่าทำไม

 

ส่วนความจริงเป็นอย่างไรก็ไม่มีใครอธิบาย หลังจากที่สามีภรรยาโม่อู๋เซอคำนับเหล่าผู้อาวุโส สิ่งที่ทำให้ทุกคนแปลกใจคือหนุ่มชุดขาวผู้นี้ไปนั่งอยู่ปลายแถว สิ่งนี้ก็ดูไม่เหมือนคนที่ยิ่งใหญ่สักเท่าไหร่

 

ความผิดปกตินี้ทำให้แขกทุกท่านรู้สึกงวยงง

 

ถ้าบอกว่าเป็นคนที่โถงวิหารสวรรค์เคารพนับถือ ถึงยังไงก็ต้องจัดที่นั่งตรงประธานให้ แต่เขาก็แค่นั่งลงตรงปลายแถวโดยไม่ใส่ใจอะไร คนของโถงวิหารสวรรค์นอกจากจะไม่ทำอะไรแล้วยังทำเหมือนว่านี่เป็นเรื่องที่สมเหตุสมผล

 

แปลก แปลกจริงๆ

 

แขกเหรื่อมองหน้ากัน แต่พวกเขาก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา ถึงอย่างไรพวกเขาก็เป็นปีศาจเฒ่าที่มีอายุนับพันปี ต่อให้คิดอะไรอยู่ในใจก็จะไม่พูดออกมาง่ายๆ

 

ตาแก่ซอมซ่อก็ดูเหมือนไม่มีทีท่าว่าจะสนใจแขก เมื่อกี้แขกเหล่านี้คำนับเขา เขาก็แก่กวาดตามองและนั่งลงตรงที่ประธาน

 

ฐานะของเขาสูงที่สุด เจ้าโถงนั่งอยู่ที่ประธานร่วมกับเขา ดูเหมือนต้องเป็นเช่นนี้ แต่ก็ทำให้คนอื่นๆรู้สึกแปลกๆ

 

“ผู้อาวุโสทุกท่าน ท่านเมื่อกี้คือนายน้อยของพวกเราโถงวิหารสวรรค์วิชาวิหารสวรรค์ของเขาเก่งที่สุดในโถงวิหารสวรรค์เพียงแต่ตอนนี้นายน้อยของเรายังไม่อยากรับตำแหน่งเจ้าโถง มิฉะนั้นเจ้าโถงก็คืออาจารย์อาเล็กผู้นี้แหละ”

 

เจ้าโถงอธิบายเรียบๆและพูดต่อ “คำขอของทุกท่านเมื่อกี้ไม่ใช่แค่พวกเราที่ทำอะไรไม่ได้ แม้แต่อาจารย์ปู่ของเราก็มิอาจแอบดูลิขิตสวรรค์ได้ ยกเว้นนายน้อยของพวกเรา เขาทำได้ หากทุกท่านอยากรู้ผลลัพธ์ละก็ ต้องขอให้เขาเป็นผู้ลงมือ”

 

เหล่าผู้อาวุโสอดมองหน้ากันไม่ได้ ที่จริงเมื่อกี้เจ้าโถงก็ได้พูดเรื่องนี้ไปแล้ว เดิมทีคิดไว้ว่าจะให้มหาผู้อาวุโสผู้อื่นของโถงวิหารสวรรค์ที่อยู่ระดับอาจารย์ปู่เป็นผู้ลงมือ ไม่คิดเลยว่าคนที่พวกเขาเลือกออกมาจะเป็นแค่เด็กคนนึงเท่านั้น

 

ในสายตาของปีศาจเฒ่าอายุนับพันปี อย่าว่าแต่อายุ 20 กว่าเลย ต่อให้อายุร้อยกว่าก็เป็นเด็กในสายตาพวกเขาอยู่ดี

 

ตอนนี้จะมอบหมายเรื่องสำคัญขนาดนี้ให้เด็กคนนึงทำ พวกเขาชักจะลังเล มันยากที่จะเชื่อจริงๆว่าความสามารถของเด็กคนนึงจะมีมากกว่าปีศาจเฒ่าที่อยู่มาเป็นหมื่นปี

 

ดูเหมือนเจ้าโถงจะมองเห็นความลังเลของพวกเขา เขายิ้มนิดหน่อย “ทุกท่าน นายน้อยของเรารับสืบสานวิขาวิหารสวรรค์จากอาจารย์ปู่รุ่นแรก นี่เป็นเรื่องที่ไม่ได้เกิดขึ้นในโถงวิหารสวรรค์มานับร้อยปีแล้ว หรือพวกท่านคิดว่าวิชาวิหารสวรรค์ของนายน้อยพวกเราจะแย่”

 

อาจารย์ปู่รุ่นแรก!

 

เมื่อคนระดับนี้ถูกยกออกมาสีหน้าของทุกคนก็เปลี่ยนแปลงไปมากมายและต่างๆนาๆ อาจารย์ปู่รุ่นแรก แม้พวกเขาจะไม่มีโอกาสได้เห็น แต่ตำนานเกี่ยวกับเขาก็เป็นคนระดับอาจารย์จากสวรรค์ในผืนดินฉางไห่เลยทีเดียว

 

เรียกได้ว่าตั้งแต่ผืนดินฉางไห่กำเนิดก็มีอาจารย์จากสวรรค์ผู้นี้แล้ว ที่สำคัญคือไม่มีเรื่องอะไรจะรอดจากเงื้อมมือของอาจารย์จากสวรรค์ผู้นี้ เป็นตำนานที่ไม่เคยแพ้จริงๆ

 

แต่หนุ่มวัยเยาว์ตรงหน้าที่มีอายุแค่ 20 กว่าปีได้รับสืบสานจากอาจารย์ปู่รุ่นแรก ข่าวนี้ต้องทำให้ทุกๆคนตะลึงแน่

 

เหล่าแขกที่มีสีหน้าตกใจมองโม่ซวนซุนอึ้งๆ

 

โม่ซวนซุนไม่สนใจพวกเทพเซียนเล็กๆแบบนี้แม้แต่น้อย บางทีที่ผืนดินฉางไห่เทพเซียนอาจจะเป็นคนระดับบนๆ ไม่ว่าใครได้พบได้เจอก็ทำได้แค่คำนับทำความเคารพ แต่โม่ซวนซุนกลับขี้เกียจแม้แต่จะมอง พูดกันแบบตรงๆก็คือเขาเมินเฉยต่อเหล่าคนตรงหน้า

——————————-