ตอนที่ 184 ความจริงเปิดเผย

รักเล่ห์เร้นใจ

ภายในร้านอาหารที่เดิมบรรยากาศอบอุ่นสบายถูกเซียวจิ่งสือก่อกวนจนวุ่นวายเสียบรรยากาศไปหมด ทุกคนพากันมองมาทางเซียวจิ่งสือกับหลินหว่านแล้วแอบนึกในใจว่าคงเป็นเรื่องหึงหวงกันอีกแน่เลย เนื่องจากถูกขัดจังหวะทานอาหาร ทำให้พากันมองมาด้วยสายตาขุ่นเคือง

 

 

เซียวจิ่งสือรู้สึกได้ถึงสายตาและคำพูดที่ไม่เป็นมิตรนักของผู้คนรอบข้าง ในใจนึกถึงภาพที่หลินหว่านกับผู้ชายนั่นพูดคุยหัวเราะกันแล้ว จะเชื่อว่าพวกเขาไม่มีอะไรกันได้อย่างไรกันล่ะ เดิมทีจิตใจก็ขุ่นมัวเพราะหึงหวงอยู่แล้ว ตอนนี้ยังต้องมาโดนจีนมุงต่อว่าเสียๆ หายๆ อีก จึงเก็บอาการไม่อยู่หันไปตวาดอย่างโมโหเอากับผู้คนรอบข้าง “มองอะไร ไม่เคยเห็นแฟนเขาทะเลาะกันหรือไงหา?”

 

 

เสียงตวาดดังลั่น ผู้คนทั้งร้านตื่นตระหนกตกใจ นิ่งเงียบกริบกันไปหมด บรรยากาศหนักอึ้งจนแทบจะบิดออกมาเป็นน้ำได้เลย มีเพียงหลินหว่านที่ดูนุ่มนิ่มพอเห็นท่าทีไร้มารยาทของเซียวจิ่งสือในที่สาธารณะเช่นนี้ ก็นึกโมโหจนทำอะไรไม่ถูก

 

 

หลินหว่านนึกในใจว่า เซียวจิ่งสือ คุณทำตัวเองแท้ๆ ตอนนี้ยังมาก่อกวนส่งเสียงดังในที่สาธารณะแบบนี้อีก คุณไม่สนใจภาพลักษณ์ตัวเอง แล้วยังจะลากฉันลงน้ำให้ถูกผู้คนเขารังเกียจไปด้วย

 

 

หลินหว่านที่ปกติเป็นคนอ่อนโยน พอเห็นท่าทางเหมือนคนบ้าของเซียวจิ่งสือที่ไม่สนใจรักษาภาพพจน์ตัวเองเลยแบบนี้ก็โมโหจนตาแดงก่ำ โพล่งออกมาว่า “เซียวจิ่งสือ คุณเป็นบ้าไปแล้วหรือไง คุณมาอาละวาดที่นี่เพื่ออะไรกัน?”

 

 

หลินหว่านที่กำลังปรอทพุ่งปรี๊ดรีบหันไปคว้าข้าวของของตัวเอง อยากจะไปให้ไกลจากสถานการณ์น่าขายหน้านี้ เธอผลุนผลันออกจากร้านไป

 

 

เซียวจิ่งสือไม่ทันตั้งตัว เห็นหลินหว่านไปแล้ว ก็รีบควักเงินจากกระเป๋าเสื้อ โยนลงบนโต๊ะเป็นค่าอาหารแล้วตามหลินหว่านออกไป ทิ้งให้ผู้คนมองหน้ากันอย่างประหลาดใจ

 

 

สำหรับพวกเขาแล้ว ชายเสเพลบอยที่กำลังเป็นข่าวพาดหัวนี้ยังนึกได้ว่าต้องจ่ายบิลค่าอาหาร ก็เรียกได้ว่าทำตัวเป็นสุภาพบุรุษทีเดียว แต่สำหรับเซียวจิ่งสือแล้วเขาย่อมรู้ตัวดีว่า ตอนนี้พวกปาปารัสซี่แฝงตัวอยู่ทุกที่ อาจซุ่มดักอยู่ละแวกนี้ก็ได้ ถ้าไม่ระวังอาจเป็นข่าวพาดหัวอีก ไม่จ่ายบิลเหรอ? ถึงตอนนั้นบอกว่าเป็นถึงท่านประธานเซียวยังเบ่งกินฟรีอีก จะให้เขาเอาหน้าไปไว้ที่ไหน?

 

 

เซียวจิ่งสือตัวสูงขายาว ไม่ทันไรก็ไล่ตามหลินหว่านได้ทัน พอเห็นว่าในมือหลินหว่านถือของมากมายขนาดนั้น เซียวจิ่งสือก็เข้าไปช่วยด้วยความเป็นสุภาพบุรุษ เขายื่นมือไปรับของจากหลินหว่าน ทางหนึ่งก็งอนง้อขอคืนดีกับหลินหว่าน “หลินหว่าน คุณอย่าโกรธเลยนะ ผมแค่เป็นห่วงคุณเกินไปน่ะ ส่งของมาให้ผมเถอะ ผมเป็นเบ๊แบกของให้คุณได้นะ”

 

 

หลินหว่านแกล้งทำเป็นไม่ได้ยิน เดินดิ่งตรงไปข้างหน้าอย่างโมโห พูดกันตามจริง หลินหว่านเองก็ไม่รู้ว่าจะไปทางไหน ตอนนี้เธอกำลังโกรธขึ้นหัว แค่อยากจะไปให้พ้นจากผู้ชายหลายใจไร้มารยาทคนนี้

 

 

บนถนน ผู้คนพากันหันมองมา คู่หนุ่มหล่อสาวสวยสมกันจริงๆ เลย ผู้ชายรูปร่างสูงเพรียว ใบหน้าหล่อเหลา หญิงสาวคิ้วโก่งตาคม งามสะดุดตากระชากใจผู้คน คนคู่นี้ คนหนึ่งเดินนำหน้าด้วยความโกรธ อีกคนคอยตามเอาอกเอาใจสุดชีวิตอยู่ด้านหลัง คนที่ค่อนข้างสูงวัยสักหน่อยเห็นแล้วอดนึกถึงตัวเองสมัยยังหนุ่มสาวไม่ได้ มองดูภาพตรงหน้าแล้วใบหน้าปรากฏรอยยิ้มแห่งความหลังในวัยหนุ่มสาวของเธอหรือเขา

 

 

ส่วนเซียวจิ่งสือในตอนนี้ไม่ได้รู้สึกดีงามขนาดนั้น จากที่เคยนั่งในตำแหน่งสูงสุดของอำนาจ คอยสั่งการวางแผนเรื่องราวต่างๆ ที่ไหนจะเคยเป็นอย่างวันนี้ เดินอยู่บนถนนคอยประจบเอาใจผู้หญิงคนหนึ่ง ท่ามกลางสายตาผู้คน ที่สำคัญคือ ผู้หญิงตรงหน้านี้ไม่สนใจเขาเอาเลยนี่สิ

 

 

เซียวจิ่งสือตามมาตลอดทางจนแทบจะหมดความอดทน เขาพูดเสียงดังว่า “หลินหว่าน คุณรอหน่อยสิ ผมทำอะไรผิดกันแน่ จู่ๆ คุณถึงได้จงเกลียดจงชังผมนัก”

 

 

พอพูดจบ หลินหว่านก็หยุดเดินแล้วหันกลับมา มองเซียวจิ่งสือที่สีหน้าสงสัย พูดน้ำเสียงจริงจังว่า “เซียวจิ่งสือคุณทำอะไรก็รู้ตัวดีอยู่แล้วไม่ไช่เหรอ ยังจะมีหน้ามาถามฉันอีก ฉันจะบอกให้นะ คุณจะชอบใครเป็นสิทธิ์ของคุณ ต่อให้เราไม่ได้อยู่ด้วยกันแล้ว ก็ไม่เป็นไร แต่ทำไมคุณต้องคบซ้อนด้วย พวกผู้ชายอย่างคุณมีคนดีบ้างไหม ไม่ต้องมาตามฉันแล้ว!”

 

 

หลินหว่านที่ยังโมโหพูดจบ ก็หมุนตัวก้าวฉับๆ จากไป

 

 

เซียวจิ่งสือนิ่งงันอยู่กับที่ นึกถึงคำพูดเมื่อครู่ของหลินหว่าน พึมพำกับตัวเองว่า “คบซ้อน…”

 

 

เซียวจิ่งสือฉุกคิดขึ้นมาได้ เข้าใจความหมายของหลินหว่านอย่างชัดแจ้ง เขาก้าวยาวๆ ตามไป รวบตัวหลินหว่านขึ้นอุ้มทั้งคนทั้งข้าวของ

 

 

หลินหว่านไม่ทันระวัง ร้องอย่างตกใจว่า “ว๊าย!!! เซียวจิ่งสือ คุณไอ้คนบ้า คุณมันโจรชัดๆ” หลินหว่านดิ้นสุดแรงหวังจะหลุดจากอ้อมกอดของเซียวจิ่งสือ แต่ด้วยแรงอันน้อยนิดของหลินหว่านจะดิ้นหลุดจากอ้อมกอดแข็งแกร่งของเซียวจิ่งสือได้ยังไงกันล่ะ

 

 

เซียวจิ่งสืออุ้มหลินหว่าน ไม่สนว่าเธอจะลงมือลงไม้ลงเท้าเตะถีบอย่างไรก็ไม่ปล่อยมือ หลังจากเอาตัวหลินหว่านเข้าในรถได้แล้ว เซียวจิ่งสือก็รีบสตาร์ทรถ ขับมุ่งหน้าสู่บริษัทอย่างเร็วราวกับลมพัด

 

 

ระหว่างทาง จู่ๆ หลินหว่านก็สงบลง อาจเป็นเพราะตกใจ หรืออาจเป็นเพราะ…ใช่แล้ว เมื่อครู่ตอนที่เซียวจิ่งสืออุ้มเธอนั้น ศีรษะของหลินหว่านอยู่ชิดกับหัวใจของเซียวจิ่งสือขนาดนั้น เสียงหัวใจของผู้ชายคนนี้เต้นอย่างหนักแน่นมั่นคง พริบตานั้นเธอนึกถึงความรู้สึกที่เคยกอดเซียวจิ่งสือเอาไว้ นาทีนั้นใจของเธอรู้สึกเป็นสุขหวานล้ำขึ้นมาเล็กๆ

 

 

เซียวจิ่งสือมองผ่านกระจกมองหลังเห็นหลินหว่านนั่งอย่างสงบอยู่ที่เบาะหลัง ไม่ร้องไห้ไม่อาละวาด ก็เป็นห่วงว่าเธอจะคิดมากอีก จึงถามอย่างเป็นห่วงว่า “ผมรู้ว่า คุณโกรธเพราะเห็นข่าวนั้นละสิ เรื่องไม่ได้เป็นอย่างที่คุณคิดหรอก อีกเดี๋ยวถึงออฟฟิศแล้ว ผมจะเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้คุณฟังทั้งหมดเลย”

 

 

หลินหว่านคิดในใจว่า เอาเถอะ ให้คุณมีโอกาสได้อธิบาย ดูว่าคุณจะพูดอะไรได้อีก แต่ที่คุณกับอันซิงศัตรูของฉันเข้าโรงแรมด้วยกัน รูปถ่ายนี่คงไม่ได้แต่งขึ้นมาเองล่ะมั้ง

 

 

หลินหว่านรู้สึกสับสนว้าวุ่นใจมาก จนไม่รู้ว่าควรจะตอบว่าอย่างไร ได้แต่ส่งเสียงอืมรับคำไปอย่างนั้น

 

 

พอถึงห้องทำงาน หลินหว่านนั่งนิ่งอยู่บนโซฟา ไม่พูดอะไรสักคำ เซียวจิ่งสือให้ผู้ช่วยเอาน้ำมะม่วงมาให้แก้วหนึ่ง เขารู้ว่าหลินหว่านชอบดื่มน้ำมะม่วงที่สุด ทำอย่างนี้แล้ว อย่างน้อยจะได้ให้หลินหว่านอารมณ์ดีขึ้นหน่อยล่ะมั้ง

 

 

หลินหว่านดื่มน้ำมะม่วงไปคำหนึ่ง เป็นรสชาติที่เธอชอบ อารมณ์ดีขึ้นมาหน่อยหนึ่ง แต่ว่าสิ่งสำคัญในตอนนี้คือต้องรู้ว่าเซียวจิ่งสือจะพูดอะไร

 

 

หลินหว่านพูด “เซียวจิ่งสือ คุณจะอธิบายไม่ใช่เหรอ ฉันรอฟังอยู่นะ”

 

 

เซียวจิ่งสือนั่งลงที่ข้างกายหลินหว่าน พูดเสียงนุ่มนวลว่า “หลินหว่าน คุณยังจำเรื่องที่เกิดขึ้นคราวที่แล้วได้ไหม? รูปถ่ายคุณถูกส่งเข้ามือถือผม เพราะมีคนถ่ายไว้แล้วส่งมาให้ผม คนคนนั้นก็คืออันซิง ตอนนี้อันซิงใช้ภาพถ่ายพวกนั้นแบล็คเมล์ผม ถ้าผมไม่ทำตามคำพูดเธอ เธอจะส่งรูปพวกนั้นขึ้นอินเทอร์เน็ต”

 

 

พอฟังถึงตรงนี้ หลินหว่านกำหมัดแน่นจนข้อนิ้วขึ้นเป็นรอยขาว หลินหว่านคิดอย่างประหลาดใจว่า อันซิง เธอนี่ช่างเลวได้โล่จริงๆ ยอมทำได้ทุกอย่างเพราะเพื่อผลประโยชน์ การกระทำของเธอมันทำให้ฉันต้องเปลี่ยนมุมมองใหม่อีกครั้ง

 

 

หลินหว่านพูดเสียงเย็น “อันซิง อีกแล้วเหรอ งั้นที่ไปโรงแรมนั่นก็เพราะเธอข่มขู่คุณด้วยสินะ”

 

 

เซียวจิ่งสือผงกศีรษะ เห็นว่าน้ำเสียงของหลินหว่านอ่อนลง ก็ขยับใกล้เข้าไปแขนซ้ายยกขึ้นโอบไหล่หลินหว่านเอาไว้

 

 

หลินหว่านผลักแขนเซียวจิ่งสือออกเบาๆ พูดว่า “เซียวจิ่งสือ ฉันยังทำใจไม่ได้ ให้เวลาฉันอีกหน่อยนะคะ ฉันอยากจะอยู่เงียบๆ คนเดียวค่ะ”

 

 

พูดจบหลินหว่านก็ยืนขึ้นตั้งท่าจะกลับบ้าน

 

 

“งั้นผมส่งคุณกลับไปนะ?” เซียวจิ่งสือถามอย่างอาวรณ์

 

 

หลินหว่านปฏิเสธเซียวจิ่งสือแล้วก็จากไปเพียงลำพัง เซียวจิ่งสือมองตามเงาหลังที่โดดเดี่ยวของหลินหว่านแล้ว เขาอยากจะปกป้องเธอ แต่ตอนนี้ยังทำไม่ได้ ได้แต่มองดูเธอหายลับไปที่ชั้นล่างของบริษัท