จ้าวสวนเบิกตากว้างเมื่อได้เห็นใบหน้าเย็นชาของนางหายไป หัวใจนางเต้นอย่างรวดเร็ว
ฎีกาสวรรค์พิสุทธิ์ขั้นสุดยอดนั้นคือสภาวะที่เซียนมณีเคยเข้าถึงมาก่อนนางหยุดพัฒนาในระดับนี้ และไม่เคยมีพลังในก้าวถัดไป
ฎีกาสวรรค์พิสุทธิ์ของซือหยูเข้าถึงระดับของเซียนมณีในยามที่นางวางกฎในแดนมณี
แต่สิ่งที่ทำให้จ้าวสวนบุพผาใจเต้นแรงก็คือเรื่องที่นางมิอาจแกะรอยของวิถีเทพในฎีกาสวรรค์ของซือหยูได้เลยมันมีพลังทำลายล้างถึงขีดสุด แต่นางก็ไม่รู้ว่ามันคืออะไรกันแน่
ซึ่งมีอยู่คำอธิบายเดียวในฎีกาสวรรค์ของซือหยูนั่นก็คือ…กบฏ
ฎีกาสวรรค์พิสุทธิ์ขั้นสุดยอดที่ต่อต้านทุกพันธนาการและการควบคุม
แดนมณีคือดินแดนเอกเทศและมีพันธนาการตามธรรมชาติการเผยฎีกาสวรรค์ของซือหยูสามารถทำลายกฎเกณฑ์ที่ถูกตั้งเอาไว้ได้
ถ้าหากมีโอกาสมาถึงซือหยูจะสามารถทำลายกฎของเซียนมณีและพาจ้าวสวนออกจากแดนมณีไปได้
ยู่เหลียงตกใจแต่เขาก็ไม่รู้เลยว่ามีอะไรเกิดขึ้นอยู่
“ศิษย์พี่ใหญ่รีบสังหารซือหยูเซี่ยนกันก่อนเถอะ ชิงตัวจ้าวสวนแล้วรีบหนีออกไปจากที่นี่!”
ยู่เหลียงพูดด้วยความร้อนรน
ศิษย์พี่ใหญ่ตะโกน
“ซือหยูเซี่ยนเจ้ารนหาที่เองนะ!”
แต่ทันทีที่ทั้งสองบุกเข้าไปเส้นไหมที่มองไม่เห็นก็พุ่งออกมาจากชายเสื้อของซือหยู โซ่ที่พันธนาการจ้าวสวนถูกตัดออกไปอย่างง่ายดาย
“เป็นไปได้ยังไง?”
ศิษย์พี่ใหญ่มิอาจเชื่อสายตา
ซือหยูสามารถทำลายพันธนาการที่อสูรเนรมิตรขั้นสองทำลายไม่ได้ได้ยังไง?
“เจ้าคงทำใจแล้วสินะ”
ซือหยูไม่กลัวเลยว่าจ้าวสวนจะทำร้ายเขา
จ้าวสวนพยักหน้าเบาๆ
“ข้าเตรียมใจแล้ว” ไอลีนโนเวล
นางมองศิษย์พี่ใหญ่ยู่เหลียง และคนสำนักช่างสวรรค์ที่เหลือที่กำลังพุ่งเข้ามา พลังอสูรเนรมิตรมหาศาลของนางพวยพุ่งออกมายังทุกทิศทางพร้อมกับจิตสังหารเข้มข้น
เหล่าคนสำันกช่างสวรรค์เริ่มหวาดกลัวขึ้นมาแล้ว
พวกเขาสังหารหลานสายของนางและตอนนี้นางก็พ้นจากพันธนาการแล้ว นางจะปล่อยเรื่องนี้ไปหรือ?
“พวกเจ้าทุกคนต้องตาย!”
จ้าวสวนตะโกนด้วยความกระหายเลือดนางไม่หันไปมองด้านหลังด้วยซ้ำ
จากนั้นพลังอสูรเนรมิตรก็ได้ทะลวงฟ้าไปยังทั้งบริเวณ
“ทุกคนเตรียมจัดทัพ!!”
ศิษย์พี่ใหญ่ร้องคำรามหัวใจเขาเต้นอย่างบ้าคลั่ง เขาเรียกหุ่นเชิดสีเขียวออกมาก่อน
หุ่นเชิดได้เข้าป้องกันการโจมตีแรก
คนอื่นๆ เองก็เรียกหุ่นเชิดออกมาเช่นกัน
เมื่อพลังอสูรเนรมิตรแล่นผ่านหุ่นเชิดทั้งหมดได้แตกสลายไป
ปั้ง!
ทุกคนจากสำนักช่างสวรรค์รวมถึงศิษย์พี่ใหญ่และยู่เหลียงกระเด็นไปข้างหลังและกระอักเลือด
“หุ่นเชิดซับพลังหรือ?” จ้าวสวนแปลกใจเล็กน้อยเพราะกระบวนท่าก่อนหน้านี้สามารถคร่าชีวิตทุกคนได้
สำนักช่างสวรรค์ลงทุนอย่างมากกับเหล่าศิษย์ที่เข้ามายังแดนมณีแต่ถึงอย่างนั้น เมื่อต้องเจอกับอสูรเนรมิตร มันก็ทำให้พวกเขาตายช้าลงเท่านั้น
“ศิษย์พี่ใหญ่เรารอไม่ได้อีกแล้ว! เรียกบรรพบุรุษของเรามาเถอะ!”
ยู่เหลียงตะโกนและเช็ดเลือดที่มุมปาก
ศิษย์พี่ใหญ่กัดฟันเมื่อมีเรื่องการอยู่รอดของทั้งสำนักช่างสวรรค์เป็นเดิมพัน เขาก็ได้แต่ลองดู!
“ด้วยความนับถืออันสูงส่งพวกเราขออัญเชิญจ้าวกระทิงสวรรค์!”
ศิษย์พี่ใหญ่เรียกกระทิงทองแดงออกมาและขว้างมันขึ้นฟ้า
พลังอันยิ่งใหญ่เคลื่อนคล้อยตามกระทิงทองแดงพลังทำให้อาการสั่นสะเทือนไม่หยุด
ซือหยูเบิกตากว้าง “พลังของเซียน!!”
พลังเซียนปะทุออกมาจากกระทิงทองแดงตัวนั้น
ซือหยูสัมผัสได้ว่ามีเสี้ยววิญญาณอยู่ในกระทิงทองแดงที่กำลังตื่นขึ้นมา!
“หนีเร็ว!”
ซือหยูรีบพูด
เขาจำได้จากข่าวลือว่าผู้ก่อตั้งสำนักช่างสวรรค์มิใช่มนุษย์แต่เป็นกระทิงเขียว
เมื่อสำนักช่างสวรรคต์ได้ปกครองและมีอำนาจในดินแดนมีดสวรรค์กระทิงเขียวได้จากไปโดยไม่มีใครรู้ มันทิ้งไว้เพียงรูปปั้นกระทิงทองแดงที่เป็นรูปร่างของตัวเอง หากใช้จะอัญเชิญตัวมันมาได้ มันคือเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อหกพันปีก่อน
ซือหยูเคยอ่านเรื่องนี้ในตำราโบราณเขาคิดว่ามันเป็นแค่ตำนานน่าขัน เขาไม่คิดเลยว่ามันจะเป็นจริง!
กระทิงทองแดงทำให้ซือหยูรู้สึกถึงอันตราย
จ้าวสวนเองก็สัมผัสได้ตั้งแต่ก่อนที่ซือหยูจะบอกบุพผาดาวปรากฏเหนือศีรษะ หยดของเหลวใสมากมายหยดลงไปยังค่ายกลที่ไม่ขยับเขยื้อน
ผนึกสลายค่ายกลกำลังทำงาน
จ้าวสวนจับแขนซือหยูและพาเขาไปยังประตูเคลื่อนย้าย
ศิษย์พี่ใหญ่กระวนกระวาย
“อย่าปล่อยให้มันหนีไป!”
เขาใช้ไม้ตายสุดท้ายออกมาแล้วหากมันยังไม่พอที่จะให้คนของเขารอดตาย บางทีสวรรค์เบื้องบนก็อาจจะต้องการให้สำนักช่างสวรรค์ของเขาสิ้นชื่อ!
ศิษย์พี่ใหญ่สายเกินไปแล้ว
ค่ายกลประตูเคลื่อนย้ายคลายผนึกเร็วมากพริบตาเดียวซือหยูกับจ้าวสวนบุพผาก็ถูกพาออกไปนอกเมือง กว่าวิญญาณกระทิงจะตื่นซือหยูกับจ้าวสวนก็หายตัวไปแล้ว ศิษย์พี่ใหญ่กัดฟันด้วยความแค้น
“ซือหยูเซี่ยน!!!”
เรื่องดำเนินมาอย่างเรียบง่ายตั้งแต่แรกแต่เมื่อซือหยูเซี่ยนปรากฏตัว แผนทั้งหมดของเขาก็ล้มเหลว ซือหยูยังพาตัวเองหนีไปกับจ้าวสวนอีก!!
ทุกคนในสำนักช่างสวรรค์จะต้องรับมือกับวิบัติบุพผาไปอย่างน้อยหนึ่งวันเต็ม!
“จ้าวกระทิงเขียวโปรดช่วยชีวิตศิษย์ท่านด้วย!”
ศิษย์พี่ใหญ่กำหมัดและคุกเข่าลงกับพื้น
แสงสีเขียวแผ่ออกมาจากภายในกระทิงทองแดงเหล่าคนสำนักช่างสวรรค์ได้เห็นภาพอันตระการตา
กลีบบุพผาจากท้องฟ้ามิอาจผ่านทะลุม่านแสงสีเขียวนี้ได้
พวกเขาโล่งใจเมื่อได้เห็น
พี่น้องร่วมสำนักถูกวิบัติบุพผาคร่าไปห้าคนด้วยการคุ้มครองของกระทิงเขียว พวกเขาจะเลี่ยงวิบัติไปได้ชั่วคราว
แต่พวกเขาดีใจได้ไม่นานนักเพราะพวกเขาวางแผนจะใช้กระทิงในยามที่วิบัติที่สองมาถึง แต่ตอนนี้พวกเขากลับต้องใช้มันตั้งแต่วิบัติแรกเพื่อยื้อชีวิต
“จ้าวกระทิงเขียวโปรดล้างแค้นให้พวกข้าด้วย!”
เมื่อความยินดีในคราแรกมลายหายเหล่าคนสำนักช่างสวรรค์ก็เริ่มแสดงความแค้นออกมา ซือหยูเซี่ยนทำลายแผนการของสำนักพวกเขาอย่างย่อยยับ!
จ้าวกระทิงเขียวใช้ได้แค่ครั้งเดียวและเมื่อถูกใช้งาน พวกเขาก็ตั้งมั่นว่าจะใช้เพื่อกำจัดซือหยูเซี่ยน!
“เขาเป็นใครกัน?”
เสียงดังสะท้อนมาจากภายในกระทิงทองแดงช้าๆ
คนสำนักช่างสวรรค์คุกเข่าบูชาราวกับเทพเจ้าได้ลงมาถึงพื้นโลก “ท่านจ้าวผู้ยิ่งใหญ่!มันอ้างตนเป็นศิษย์สำนักอสูรสวรรค์ นามว่าซือหยูเซี่ยน!”
“สำนักอสูรสวรรค์รึ?ซือหยูเซี่ยน!”
ร่างทองแดงเริ่มเปล่งแสงสีเขียวมากขึ้น
ซือหยูสัมผัสได้ถึงแรงสั่นสะเทือนรุนแรงเมื่อถูกเคลื่อนย้ายผ่านประตูเขารู้สึกเหมือนถูกบางอย่างที่คล้ายกับการถูกองครักษ์แสงกระจ่างทั้งห้าติดตาม ครั้งนั้น เขาเกือบตายเพราะมัน