ตอนที่ 1017 - ปลุกจ้าวกระทิงเขียว

The Divine Nine Dragon Cauldron

จ้าวสวนเบิกตากว้างเมื่อได้เห็นใบหน้าเย็นชาของนางหายไป หัวใจนางเต้นอย่างรวดเร็ว
  ฎีกาสวรรค์พิสุทธิ์ขั้นสุดยอดนั้นคือสภาวะที่เซียนมณีเคยเข้าถึงมาก่อนนางหยุดพัฒนาในระดับนี้ และไม่เคยมีพลังในก้าวถัดไป
  ฎีกาสวรรค์พิสุทธิ์ของซือหยูเข้าถึงระดับของเซียนมณีในยามที่นางวางกฎในแดนมณี
  แต่สิ่งที่ทำให้จ้าวสวนบุพผาใจเต้นแรงก็คือเรื่องที่นางมิอาจแกะรอยของวิถีเทพในฎีกาสวรรค์ของซือหยูได้เลยมันมีพลังทำลายล้างถึงขีดสุด แต่นางก็ไม่รู้ว่ามันคืออะไรกันแน่
  ซึ่งมีอยู่คำอธิบายเดียวในฎีกาสวรรค์ของซือหยูนั่นก็คือ…กบฏ
  ฎีกาสวรรค์พิสุทธิ์ขั้นสุดยอดที่ต่อต้านทุกพันธนาการและการควบคุม
  แดนมณีคือดินแดนเอกเทศและมีพันธนาการตามธรรมชาติการเผยฎีกาสวรรค์ของซือหยูสามารถทำลายกฎเกณฑ์ที่ถูกตั้งเอาไว้ได้
  ถ้าหากมีโอกาสมาถึงซือหยูจะสามารถทำลายกฎของเซียนมณีและพาจ้าวสวนออกจากแดนมณีไปได้
  ยู่เหลียงตกใจแต่เขาก็ไม่รู้เลยว่ามีอะไรเกิดขึ้นอยู่
  “ศิษย์พี่ใหญ่รีบสังหารซือหยูเซี่ยนกันก่อนเถอะ ชิงตัวจ้าวสวนแล้วรีบหนีออกไปจากที่นี่!”
  ยู่เหลียงพูดด้วยความร้อนรน
  ศิษย์พี่ใหญ่ตะโกน
  “ซือหยูเซี่ยนเจ้ารนหาที่เองนะ!”
  แต่ทันทีที่ทั้งสองบุกเข้าไปเส้นไหมที่มองไม่เห็นก็พุ่งออกมาจากชายเสื้อของซือหยู โซ่ที่พันธนาการจ้าวสวนถูกตัดออกไปอย่างง่ายดาย
  “เป็นไปได้ยังไง?”
  ศิษย์พี่ใหญ่มิอาจเชื่อสายตา
  ซือหยูสามารถทำลายพันธนาการที่อสูรเนรมิตรขั้นสองทำลายไม่ได้ได้ยังไง?
  “เจ้าคงทำใจแล้วสินะ”
  ซือหยูไม่กลัวเลยว่าจ้าวสวนจะทำร้ายเขา
  จ้าวสวนพยักหน้าเบาๆ
  “ข้าเตรียมใจแล้ว” ไอลีนโนเวล
  นางมองศิษย์พี่ใหญ่ยู่เหลียง และคนสำนักช่างสวรรค์ที่เหลือที่กำลังพุ่งเข้ามา พลังอสูรเนรมิตรมหาศาลของนางพวยพุ่งออกมายังทุกทิศทางพร้อมกับจิตสังหารเข้มข้น
  เหล่าคนสำันกช่างสวรรค์เริ่มหวาดกลัวขึ้นมาแล้ว
  พวกเขาสังหารหลานสายของนางและตอนนี้นางก็พ้นจากพันธนาการแล้ว นางจะปล่อยเรื่องนี้ไปหรือ?
  “พวกเจ้าทุกคนต้องตาย!”
  จ้าวสวนตะโกนด้วยความกระหายเลือดนางไม่หันไปมองด้านหลังด้วยซ้ำ
  จากนั้นพลังอสูรเนรมิตรก็ได้ทะลวงฟ้าไปยังทั้งบริเวณ
  “ทุกคนเตรียมจัดทัพ!!”
  ศิษย์พี่ใหญ่ร้องคำรามหัวใจเขาเต้นอย่างบ้าคลั่ง เขาเรียกหุ่นเชิดสีเขียวออกมาก่อน
  หุ่นเชิดได้เข้าป้องกันการโจมตีแรก
  คนอื่นๆ เองก็เรียกหุ่นเชิดออกมาเช่นกัน
  เมื่อพลังอสูรเนรมิตรแล่นผ่านหุ่นเชิดทั้งหมดได้แตกสลายไป
  ปั้ง!
  ทุกคนจากสำนักช่างสวรรค์รวมถึงศิษย์พี่ใหญ่และยู่เหลียงกระเด็นไปข้างหลังและกระอักเลือด
  “หุ่นเชิดซับพลังหรือ?”   จ้าวสวนแปลกใจเล็กน้อยเพราะกระบวนท่าก่อนหน้านี้สามารถคร่าชีวิตทุกคนได้
  สำนักช่างสวรรค์ลงทุนอย่างมากกับเหล่าศิษย์ที่เข้ามายังแดนมณีแต่ถึงอย่างนั้น เมื่อต้องเจอกับอสูรเนรมิตร มันก็ทำให้พวกเขาตายช้าลงเท่านั้น
  “ศิษย์พี่ใหญ่เรารอไม่ได้อีกแล้ว! เรียกบรรพบุรุษของเรามาเถอะ!”
  ยู่เหลียงตะโกนและเช็ดเลือดที่มุมปาก
  ศิษย์พี่ใหญ่กัดฟันเมื่อมีเรื่องการอยู่รอดของทั้งสำนักช่างสวรรค์เป็นเดิมพัน เขาก็ได้แต่ลองดู!
  “ด้วยความนับถืออันสูงส่งพวกเราขออัญเชิญจ้าวกระทิงสวรรค์!”
  ศิษย์พี่ใหญ่เรียกกระทิงทองแดงออกมาและขว้างมันขึ้นฟ้า
  พลังอันยิ่งใหญ่เคลื่อนคล้อยตามกระทิงทองแดงพลังทำให้อาการสั่นสะเทือนไม่หยุด
  ซือหยูเบิกตากว้าง  “พลังของเซียน!!”
  พลังเซียนปะทุออกมาจากกระทิงทองแดงตัวนั้น
  ซือหยูสัมผัสได้ว่ามีเสี้ยววิญญาณอยู่ในกระทิงทองแดงที่กำลังตื่นขึ้นมา!
  “หนีเร็ว!”
  ซือหยูรีบพูด
  เขาจำได้จากข่าวลือว่าผู้ก่อตั้งสำนักช่างสวรรค์มิใช่มนุษย์แต่เป็นกระทิงเขียว
  เมื่อสำนักช่างสวรรคต์ได้ปกครองและมีอำนาจในดินแดนมีดสวรรค์กระทิงเขียวได้จากไปโดยไม่มีใครรู้ มันทิ้งไว้เพียงรูปปั้นกระทิงทองแดงที่เป็นรูปร่างของตัวเอง หากใช้จะอัญเชิญตัวมันมาได้ มันคือเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อหกพันปีก่อน
  ซือหยูเคยอ่านเรื่องนี้ในตำราโบราณเขาคิดว่ามันเป็นแค่ตำนานน่าขัน เขาไม่คิดเลยว่ามันจะเป็นจริง!
  กระทิงทองแดงทำให้ซือหยูรู้สึกถึงอันตราย
  จ้าวสวนเองก็สัมผัสได้ตั้งแต่ก่อนที่ซือหยูจะบอกบุพผาดาวปรากฏเหนือศีรษะ หยดของเหลวใสมากมายหยดลงไปยังค่ายกลที่ไม่ขยับเขยื้อน
  ผนึกสลายค่ายกลกำลังทำงาน
  จ้าวสวนจับแขนซือหยูและพาเขาไปยังประตูเคลื่อนย้าย
  ศิษย์พี่ใหญ่กระวนกระวาย
  “อย่าปล่อยให้มันหนีไป!”
  เขาใช้ไม้ตายสุดท้ายออกมาแล้วหากมันยังไม่พอที่จะให้คนของเขารอดตาย บางทีสวรรค์เบื้องบนก็อาจจะต้องการให้สำนักช่างสวรรค์ของเขาสิ้นชื่อ!
  ศิษย์พี่ใหญ่สายเกินไปแล้ว
  ค่ายกลประตูเคลื่อนย้ายคลายผนึกเร็วมากพริบตาเดียวซือหยูกับจ้าวสวนบุพผาก็ถูกพาออกไปนอกเมือง กว่าวิญญาณกระทิงจะตื่นซือหยูกับจ้าวสวนก็หายตัวไปแล้ว  ศิษย์พี่ใหญ่กัดฟันด้วยความแค้น
  “ซือหยูเซี่ยน!!!”
  เรื่องดำเนินมาอย่างเรียบง่ายตั้งแต่แรกแต่เมื่อซือหยูเซี่ยนปรากฏตัว แผนทั้งหมดของเขาก็ล้มเหลว ซือหยูยังพาตัวเองหนีไปกับจ้าวสวนอีก!!
  ทุกคนในสำนักช่างสวรรค์จะต้องรับมือกับวิบัติบุพผาไปอย่างน้อยหนึ่งวันเต็ม!
  “จ้าวกระทิงเขียวโปรดช่วยชีวิตศิษย์ท่านด้วย!”
  ศิษย์พี่ใหญ่กำหมัดและคุกเข่าลงกับพื้น
  แสงสีเขียวแผ่ออกมาจากภายในกระทิงทองแดงเหล่าคนสำนักช่างสวรรค์ได้เห็นภาพอันตระการตา
  กลีบบุพผาจากท้องฟ้ามิอาจผ่านทะลุม่านแสงสีเขียวนี้ได้
  พวกเขาโล่งใจเมื่อได้เห็น
  พี่น้องร่วมสำนักถูกวิบัติบุพผาคร่าไปห้าคนด้วยการคุ้มครองของกระทิงเขียว พวกเขาจะเลี่ยงวิบัติไปได้ชั่วคราว
  แต่พวกเขาดีใจได้ไม่นานนักเพราะพวกเขาวางแผนจะใช้กระทิงในยามที่วิบัติที่สองมาถึง แต่ตอนนี้พวกเขากลับต้องใช้มันตั้งแต่วิบัติแรกเพื่อยื้อชีวิต
  “จ้าวกระทิงเขียวโปรดล้างแค้นให้พวกข้าด้วย!”
  เมื่อความยินดีในคราแรกมลายหายเหล่าคนสำนักช่างสวรรค์ก็เริ่มแสดงความแค้นออกมา ซือหยูเซี่ยนทำลายแผนการของสำนักพวกเขาอย่างย่อยยับ!
  จ้าวกระทิงเขียวใช้ได้แค่ครั้งเดียวและเมื่อถูกใช้งาน พวกเขาก็ตั้งมั่นว่าจะใช้เพื่อกำจัดซือหยูเซี่ยน!
  “เขาเป็นใครกัน?”
  เสียงดังสะท้อนมาจากภายในกระทิงทองแดงช้าๆ
  คนสำนักช่างสวรรค์คุกเข่าบูชาราวกับเทพเจ้าได้ลงมาถึงพื้นโลก  “ท่านจ้าวผู้ยิ่งใหญ่!มันอ้างตนเป็นศิษย์สำนักอสูรสวรรค์ นามว่าซือหยูเซี่ยน!”
  “สำนักอสูรสวรรค์รึ?ซือหยูเซี่ยน!”
  ร่างทองแดงเริ่มเปล่งแสงสีเขียวมากขึ้น
  ซือหยูสัมผัสได้ถึงแรงสั่นสะเทือนรุนแรงเมื่อถูกเคลื่อนย้ายผ่านประตูเขารู้สึกเหมือนถูกบางอย่างที่คล้ายกับการถูกองครักษ์แสงกระจ่างทั้งห้าติดตาม ครั้งนั้น เขาเกือบตายเพราะมัน