ตอนที่ 42

Kill the Hero

Kill the Hero 042

สมาคมเมสสิอาห์มุ่งเน้นไปที่จุดประสงค์เดียวเสมอ

พวกเขาจะจบเกม และกอบกู้โลก

จุดประสงค์อันสูงส่งของพวกเขาไม่อาจปฏิเสธได้ อย่างน้อยก็สำหรับมนุษย์

แน่นอนว่า เสียงเชียร์ และเสียงปรบมือจะหลั่งไหลไปยังสมาคมเมสสิอาห์ที่ต้องการบรรลุเป้าหมายนั้น

‘แต่สมาคมเมสสิอาห์ไม่ใช่สมาคมที่จิตใจดีแบบนั้น’

ยังไงพวกเขาก็ไม่ดีพอที่จะเป็นแบบอย่าง เวลาพ่อแม่สอนลูก ๆ

‘ถ้ามันเป็นสมาคมที่ดีจริง ๆ สมาคมก็จะไม่มีคนแบบฉันหรอก’

การมีอยู่ของหมาล่าเนื้อ คิมวูจินเป็นหลักฐานที่เพียงพอแล้ว

ถ้าเพื่อเป้าหมายของเขาแล้ว เขาอาจเป็นคนที่โหดร้ายทารุณ และโหดเหี้ยมยิ่งกว่าผู้เล่นคนอื่น ๆ

ดังนั้นสมาคมเมสสิอาห์จึงยอมรับเขา และมองว่าเขาเป็นพันธมิตรที่น่าเชื่อถือที่สุด เป็นบุคคลที่พวกเขาสามารถฝึกได้

นั่นคือสมาคมเมสสิอาห์ที่แท้จริง

คนที่จะทำทุกอย่าง เพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ที่ “สูงส่ง” ที่พวกเขาต้องการ

‘น่าจะมีคนแบบฉันอยู่ที่นั่นมากกว่านี้ ติดที่ฉันไม่รู้ว่ามีใครบ้าง’

แน่นอนว่ามีหลายคนในสมาคมเมสสิอาห์ที่เหมือนกับคิมวูจิน

Munch!

มีหมาล่าเนื้อจำนวนมากที่เข้าโจมตีทันทีที่ได้รับคำสั่ง โดยไม่มอง ไม่สงสัย ไม่ตั้งคำถาม

คิมวูจินโยนปาร์คยองวานลงต่อหน้าคนเหล่านี้

‘คนที่มีบทบาทเป็นสะพานในการช่วยปาร์คยองวานขายชาติให้ญี่ปุ่นก็คือฮายาชิ โคสึเกะ ช่วงเวลาที่ฮายาชิ โคสึเกะ ควบคุมตลาดมืดในเอเชียด้วยความช่วยเหลือของโยฮันน์ จอร์จ หรือก็คือไม่มีการติดต่อกันระหว่างปาร์คยองวานกับสหพันธ์ยามาโตะ ในช่วงนี้ ฮายาชิ โคสึเกะ ยังไม่เป็นที่รู้จักดี หลักฐานคือปาร์คยองวานสนับสนุนฉัน เพื่อใช้เป็นเหยื่อล่อ’

ในสถานการณ์ที่ปาร์คยองวานถูกเชื่อว่าเป็นศัตรู

สมาคมเมสสิอาห์จะแสดงปฏิกิริยายังไงต่อหน้าศัตรูเช่นนี้?

คำตอบชัดเจนมาก

‘ปาร์คยองวานจะกลายเป็นเป้าหมายของพวกเขานับตั้งแต่นี้เป็นต้นไป’

พวกเขาจะไม่ปล่อยคนที่คิดว่าเป็นศัตรู

แต่ไม่ว่าสมาคมเมสสิอาห์จะใหญ่สักแค่ไหน ก็ยังยากที่จะจัดการปาร์คยองวาน

‘แน่นอนว่าพวกนั้นไม่อาจกำจัดปาร์คยองวานได้ง่าย ๆ ถึงแม้พวกเขาจะทำได้มากกว่าที่ฉันจะคาดคิดก็ตาม’

แตกต่างจากคิมวูจิน ปาร์คยองวานไม่ใช่ปลาที่อยากจะจับก็จับได้อย่างที่พวกเขาต้องการ

ทุกอย่างยังคงเหมือนเดิม แม้ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหนก็ตาม

ปาร์คยองวานมีความสามารถพอที่จะต่อสู้กับผู้เล่นคนอื่น ๆ

‘พวกเขาล้มเหลวจนกระทั่งฉันจับเขาได้’

ก่อนที่คิมวูจินจะก้าวมาจับเขา พวกนั้นล้มเหลวทุกครั้ง มันพิสูจน์แล้วว่าปาร์คยองวาน ไม่ใช่คนที่จะจับได้ง่าย ๆ

เหนือสิ่งอื่นใด ปาร์คยองวานเป็นผู้เล่นที่ใหญ่พอจะขายประเทศ เพื่อผลประโยชน์ได้

เขาไม่แพ้ให้ใครง่ายขนาดนั้น

‘นอกจากนี้ ถ้าสมาคมเมสสิอาห์เดินหน้าต่อไป ในสถานการณ์แบบนี้ แสดงว่าพวกเขาได้ติดต่อกับสมาคมหัวกะโหลกแล้ว’

ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น มันเป็นโอกาสดีสำหรับคิมวูจินที่จะเขย่าสมาคมเมสสิอาห์

‘มารอดูกัน’

ถึงแม้ว่าจะใช้เวลาเพียงเล็กน้อย แต่คลื่นก็จะเคลื่อนที่ไป และพังทลายในที่สุด

แน่นอนว่าคิมวูจินต้องเตรียมตัวรับกับสถานการณ์

เขาต้องมีพละกำลังมากพอที่จะต่อต้านพายุได้

‘ฉันต้องเริ่มโต้ตอบกับโอเซชานอย่างจริงจังแล้ว’

คิมวูจินจะพยายามลดช่องว่างระหว่างเขากับโอเซชาน

เจตนาของเขาเหมือนกันกับโอเซชาน

‘หืม? ‘

เมื่อคิมวูจินขึ้นรถมา เขาก็เห็นของขวัญจากโอเซชาน

แชมเปญ 1 ขวดกับโทรศัพท์ฝาพับ

– ขอแสดงความยินดีด้วย กับการเคลียร์ดันเจี้ยนได้ คุณได้รับแชมเปญแล้วใช่ไหม?

เมื่อเขากดโทรหาหมายเลขที่บันทึกไว้ในโทรศัพท์ฝาพับ สิ่งแรกที่โอเซชานพูดคือแชมเปญที่เขาส่งให้เป็นของขวัญคิมวูจิน

– แชมเปญ ยังไม่น่าประทับใจเหรอ? ฉันอาจจะเป็นคนเดียวในโลกที่ดูแลคุณแบบนี้นะ การให้แชมเปญเป็นของขวัญที่เคลียร์ดันเจี้ยนสำเร็จ ฉันรู้สึกได้ถึงความเอื้ออารีเช่นนี้ คุณไม่เห็นด้วยเหรอ?

คิมวูจินยิ้ม และกลั้นหัวเราะ

เขากลั้นหัวเราะไม่อยู่ เพราะโอเซชานยอตัวเอง และให้แชมเปญเป็นของขวัญกับเขา

“ขอบคุณที่รับสายฉันอย่างกะทันหันในครั้งนี้นะ”

เพราะการคุยกันของคิมวูจินกับโอเซชานครั้งก่อน

– โอ้ นั่นสินะ ตอนแรกฉันคิดว่ามันเป็นการโทรเล่นตลก ๆ ซะอีก

คนที่คิมวูจินโทรหาต่อหน้าบั๊ก เพื่อโยนเผือกร้อนใส่ปาร์คยองวานไม่ใช่ใครที่ไหน

ที่จริงแล้วโทรศัพท์ที่เขาใช้ โอเซชานได้มอบมันให้กับคิมวูจินก่อนหน้านี้ เพื่อใช้ในการสื่อสารกัน

สำหรับคิมวูจิน มันเป็นตัวเลือกที่ชัดเจนมาก

ไม่มีอะไรดีไปกว่าการใช้โทรศัพท์ฝาพับที่โอเซชานมอบให้เขา เพื่อไม่ให้ถูกติดตาม

– ยังไงก็ตาม พอคิดถึงเรื่องที่คุณหลอกล่อปาร์คยองวานกับสมาคมหัวกะโหลกแล้ว มันน่าทึ่งมาก คุณรู้เรื่องนั้นมาจากไหน?

แน่นอนว่าโอเซชานเข้าใจเจตนาของคิมวูจินทันที

– หือ? บอกเรื่องนั้นกับคนที่ให้แชมเปญเป็นของขวัญได้ไหม? มันคือแชมเปญ ช็องปาญ แชมเปญราคาแพงมากที่ซื้อราเม็งได้หลายร้อยถุง (TL : ช็องปาญ ก็คือการออกเสียง แชมเปญ เป็นสำเนียงฝรั่งเศส)

“ฉันอยากกู้เงิน ฉันมีของบางอย่างที่ต้องซื้อ”

คิมวูจินบอกจุดประสงค์หลักในการโทรหาเขาทันที

โอเซชานก็จริงจังมากเช่นกัน

– กู้เงิน อืม…

น่าแปลกที่โอเซชานเริ่มพิจารณาเรื่องกู้ยืมเงิน

– ฉันสาบานไว้ว่าจะไม่แตะต้องเรื่องธุรกิจธนาคารอีกต่อไปแล้ว คุณคงต้องอ้อนวอนมากพอที่จะให้ฉันทำลายคำสาบานของตัวเอง

“ฉันไม่ได้พิสูจน์ฝีมือของฉันไปแล้วเหรอ?”

– คุณเคยเห็นใครให้บริษัทกู้เงิน โดยพิจารณาแค่จากยอดขายไหมล่ะ? อย่างน้อยที่สุด พวกเขาต้องดูงบการเงิน สายการผลิต และอาจจะต้องตรวจสอบโรงงานของพวกเขาด้วย จริงไหม?

นั่นเป็นขั้นตอนที่ถูกต้อง

กระบวนการที่ใช้เคลียร์ดันเจี้ยนมีความสำคัญมากกว่าผลลัพธ์

– และถึงแม้ว่าคุณจะมีความสามารถ แต่มันก็แค่ดันเจี้ยน 2 ชั้นไม่ใช่เหรอ?

เหนือสิ่งอื่นใด การแสดงของคิมวูจินอยู่แค่ในดันเจี้ยน 2 ชั้นเท่านั้น

แน่นอนว่ากระบวนการการเคลียร์ดันเจี้ยนของเขานั้นยอดเยี่ยม

แต่ในโลกที่มีผู้เล่นที่กำลังเคลียร์ดันเจี้ยน 5 หรือ 6 ชั้น มันก็ไม่ได้น่าประทับใจอะไร

‘เขามีเหตุผล’

คิมวูจินรับรู้แล้ว

เขาเป็นผู้เล่นช้าไป ถึงแม้จะมีพรสวรรค์มากกว่าคนอื่นก็ตาม

ข้อแก้ตัวนี้ไร้ประโยชน์

สิ่งที่สำคัญในการแข่งขันคือการก้าวไปข้างหน้า

ถ้าเขาต้องการได้รับการปฏิบัติในแบบที่เขาต้องการ เขาต้องแสดงความแตกต่างที่มากพอจะทำให้โอเซชานคิดว่าเขาสามารถเปลี่ยนสถานการณ์ของเกมได้

‘แต่ฉันจะไม่แสดงให้เขาเห็นว่าฉันทำอะไรได้โดยเปล่าประโยชน์’

ถึงอย่างนั้น คิมวูจินก็ไม่คิดจะแสดงความสามารถที่แท้จริงของเขา โดยไม่ได้ผลประโยชน์ใด ๆ ตอบแทน

ไม่ จนถึงตอนนี้ คิมวูจินยังไม่เคยแสดงความสามารถที่แท้จริงให้ใครเห็น

เพราะเขาเข้าใจดีว่าการปกปิดความสามารถของตัวเองนั้นสำคัญแค่ไหน

และโอเซชานก็เข้าใจเช่นกัน

“ถ้าฉันแสดงให้คุณเห็นว่าฉันทำได้ คุณจะให้อะไรฉันเป็นการแลกเปลี่ยน”

ดังนั้น คิมวูจินจึงใช้สถานการณ์นี้ให้เป็นประโยชน์

– แน่นอน ฉันจะแสดงให้คุณเห็นความสามารถของฉัน

และโอเซชานก็ยอมรับข้อเสนอของเขา

– ฉันจะหาไอเทมที่คุณต้องการ ฉันหมายความว่า นั่นคือเหตุผลที่คุณต้องการเงินตั้งแต่แรกใช่มั้ย?

โอเซชานเต็มไปด้วยความมั่นใจ

“อะไรก็ได้เหรอ?”

– ถ้าคุณพิสูจน์ว่าตัวเองมีค่าก็ไม่มีอะไรที่ฉันหาไม่ได้ แล้วอะไรคือสิ่งที่คุณต้องการล่ะ?

“ฉันต้องการน้ำย่อยของมังกรทอง”

มังกรทอง!

เมื่อได้ยินชื่อของมอนสเตอร์ตัวนี้ โอเซชานไม่แม้แต่จะแสดงท่าทีลังเล

– ได้ ฉันจะจัดการให้

เป็นเรื่องที่คาดไม่ถึงมาก

‘เขากำลังบอกว่าเขามีส่วนเกี่ยวข้องกับนักล่ามังกรรึเปล่า? ’

การได้อะไรบางอย่างจากมังกรทองที่นักล่ามังกรฆ่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ มาอย่างไม่ยากเย็น ก็เป็นข้อพิสูจน์แล้วว่าเส้นสายของโอเซชานนั้นไม่ธรรมดา

‘ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมสมาคมเมสสิอาห์ฆ่าเขาทิ้ง’

พวกนั้นต้องฆ่าเขาแน่นอน ถ้าทำให้เขามาเป็นพวกไม่ได้

‘และการลอบสังหารคนอย่างโอเซชาน…สมาคมเมสสิอาห์ต้องมีพลังอำนาจมากกว่าที่ฉันคิด’

ในทางกลับกัน เขารู้สึกตกใจกับพลังอำนาจที่สมาคมเมสสิอาห์ซ่อนไว้จากเขา และโลก

– ฉันจะติดต่อกลับไป เมื่อได้รับสินค้าแล้ว ฉันจะแจ้งคุณเรื่องดันเจี้ยนทดสอบ และผู้ตรวจสอบ

“ได้”

– งั้นสนทนากันแค่นี้ก็พอแล้ว

นั่นคือจุดสิ้นสุดของข้อตกลง

แต่โอเซชานก็ยังไม่หยุดพูด

– ฉันขอถามอะไรหน่อยได้ไหม?

“แน่นอน”

คิมวูจินตอบขณะที่ซ่อนความกังวลใจ

โอเซชานพูดกับเขา

– ถ้าคุณไม่ดื่มแชมเปญ ช่วยส่งกลับได้ไหม?

 

วันรุ่งขึ้น หลังกลับมาจากดันเจี้ยน คิมวูจินก็ได้ไปพบกับปาร์คยองวานทันที

เมื่อได้พบกับเขา คิมวูจินได้เล่าทุกสิ่งที่เขาเจอในดันเจี้ยนให้ฟัง

“นายกำลังจะบอกว่าพวกเขาสู้กันจนตายงั้นเหรอ?”

แน่นอนว่านั่นไม่ใช่ความจริง

“อีกฝ่ายมีผู้เชี่ยวชาญที่น่าทึ่งมาก ถ้าไม่ใช่เพราะทักษะดูดเลือด และเลือดพิษ ฝ่ายเราก็คงถูกกำจัดไปแล้วครับ”

มีเพียงสถานการณ์เดียวที่เป็นไปได้

จากตำแหน่งของปาร์คยองวาน มันเป็นกรณีที่เขาไม่อาจหาความจริงได้ด้วยวิธีของเขาเอง ปาร์คยองวานก็รู้ข้อเท็จจริงนี้เช่นกัน

ปาร์ตี้ของจองฮุนยองคือของจริง

‘ในการกำจัดเป้าหมายที่แข็งแกร่ง สมาคมหัวกะโหลกต้องส่งผู้เชี่ยวชาญที่มีความสามารถของพวกเขามา…ท้ายที่สุด พวกเขาก็ล้มเหลวในการจับเหยื่อตัวนี้อีกครั้ง’

ดังนั้น แทนที่จะสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้น ปาร์คยองวานจึงนึกถึงสิ่งที่เขาควรจะทำต่อไป

ความทุกข์ทรมานอยู่ไม่นานนัก

‘สมาคมหัวกะโหลกคงจะเงียบไปสักพัก ฉันควรจะหยุดตอนที่พวกเขาสงบอยู่ เพราะไม่ว่ายังไง เร็ว ๆ นี้ ฉันก็ต้องเข้าดันเจี้ยนอยู่ดี…การจับปลาที่เร็วที่สุด ครั้งต่อไปคือ อีก 1 เดือน’

คิมวูจินเป็นเหยื่อล่อที่ดี และปาร์คยองวานก็ต้องดูแลเขาเป็นอย่างดี และโยนเขาออกไปอีกครั้ง เมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม

“ทำงานได้ดี”

หลังจากแสดงความคิดเห็นนี้ ปาร์คยองวานก็ขยับนิ้วไปให้เลขาที่อยู่ข้างหลังเขา

“โอนเงินเสร็จเรียบร้อยแล้วค่ะ”

“นายได้ยินแล้วใช่ไหม? นั่นคือรางวัลที่สัญญาไว้”

คิมวูจินก้มหน้า

“ขอบคุณครับ”

“เอาล่ะ ออกไปได้แล้ว”

การสนทนาจบลงแบบนั้น

ปาร์คยองวานแสดงท่าทางบอกให้คิมวูจินออกไปจากห้องทำงาน และคิมวูจินก็ออกจากห้องทำงาน โดยไม่ได้พูดอะไร

หลังจากออกจากที่ทำงานแล้ว เขาก็ไม่หันกลับมามองอีก

ลูกเต๋าถูกโยนแล้ว และการต่อสู้ต่อจากนี้ ก็ไม่ใช่เรื่องของคิมวูจิน

แน่นอนว่า สมาคมหัวกะโหลกจะพุ่งเป้าไปที่ปาร์คยองวานไม่ใช่คิมวูจิน และจะเริ่มโจมตีเขาอย่างรุนแรงตั้งแต่นี้เป็นต้นไป

จำนวนคนที่อยากจะกัดแขน และขาของปาร์คยองวานก็จะเพิ่มมากขึ้นแค่นั้น

ปาร์คยองวานจะถูกกัด โดยไม่รู้สาเหตุด้วยซ้ำ

‘ฉันรอจะได้เห็นใบหน้าของปาร์คยองวานในครั้งต่อไปแทบไม่ไหวแล้ว’

เมื่อคิมวูจินถูกเรียกมาอีกครั้ง หลังจากที่พายุลูกนั้น เขาจะไม่ได้เห็นความสุขใด ๆ บนหน้าของปาร์คยองวานอีกเลย

พนันได้เลยว่าเขาจะทักทายคิมวูจินด้วยใบหน้าที่อยากจะฉีกสมาคมหัวกะโหลกเป็นชิ้น ๆ

จากนั้นก็มีข้อความส่งมาถึงสมาร์ทโฟนของคิมวูจิน

 

[สถานีซัมซอง หมายเลข 2]

 

เป็นข้อความจากโอเซชาน คิมวูจินที่อ่านข้อความได้ออกจากสำนักงานใหญ่ของสมาคมทันที

“สมาคมฟีนิกซ์ ตื่นเถิด!”

“ตื่นขึ้น ตื่นขึ้นมา! “

คิมวูจินไปยังสถานีซัมซอง โดยทิ้งเสียงร้องของผู้ประท้วงที่วิพากษ์วิจารณ์สมาคมฟีนิกซ์อยู่เสมอ

คิมวูจินอยู่ใกล้กับตู้เซฟในสถานี

แต่คิมวูจินกลับเมินมัน และมุ่งตรงไปยังห้องน้ำแทน

จากนั้นเขาก็เข้าไปในห้องที่ 2

Cheolkeog!

คิมวูจินปิดประตูแล้วใช้มือล้วงลงไปในแทงก์น้ำ

และเมื่อคิมวูจินเอามือออก ก็มีกระดาษแผ่นหนึ่งที่พับอย่างประณีตอยู่ระหว่างนิ้วชี้กับนิ้วโป้งของคิมวูจิน

คิมวูจินเปิดกระดาษในมือ

 

[ฝูงมนุษย์หมาป่าดำ]

– จำนวนชั้น : 2

– ความยาก : B-

– เข้าได้สูงสุด : 30 คน

– เงื่อนไขในการเข้า : Lv30 หรือต่ำกว่า

– เงื่อนไขการเคลียร์ : ฆ่าฝูงมนุษย์หมาป่าดำ

– รางวัล : ความสำเร็จ และแค็ตตาล็อกสำหรับผู้ที่สังหารผู้นำฝูงมนุษย์หมาป่าดำ

 

ดวงตาของคิมวูจินหรี่ลง

‘ความยากคือ B- แต่ถ้าจำนวนสูงสุดที่เข้าได้คือ 30 ….’

ถึงแม้ระดับความยากของดันเจี้ยนจะสำคัญมาก แต่ความยากของดันเจี้ยนก็ยังขึ้นอยู่กับจำนวนคนสูงสุดที่เข้าได้ด้วย

เมื่อเทียบกับดันเจี้ยนลิซาร์ดเผือกที่คิมวูจินเคลียร์ไปก่อนหน้านี้ มันเป็นดันเจี้ยนที่อันตรายกว่าสองเท่า ถ้าโจมตีคนเดียว

‘เหมาะสมแล้ว’

เห็นได้ชัดว่าคิมวูจินไม่ได้กลัว

นอกจากนี้ คิมวูจินไม่ได้เข้าดันเจี้ยนนี้ไปคนเดียว

ผู้ตรวจสอบก็มาเพื่อแสดงทักษะของเขาเช่นกัน

ชื่อของผู้ตรวจสอบได้เขียนไว้ด้านล่างหมายเหตุ

‘ลีจินอา’

ใบหน้าของคิมวูจินแข็งขึ้นทันทีที่เห็นชื่อนี้

‘อย่าบอกนะว่าเป็น “อิมมอร์ทัล” ลีจินอา? ’ (TL : บทนี้ ENG บอกว่าฉายาของลีจินอาคือ King of Undead แต่บทถัดไปบอกว่าฉายา Immortal คนแปลเลยใช้คำนี้แทน เพราะเดิมทีราชาแห่งอันเดด ชื่อ โยฮันน์ ไม่ใช่ ลีจินอา)