ตอนที่ 43

Kill the Hero

Kill the Hero 043

เดือนมิถุนายน ปี 2023 สมาคมฟีนิกซ์ได้ประกาศต่อสาธารณะ

 

[ปาร์คยองวานจากสมาคมฟีนิกซ์ จะท้าทายดันเจี้ยน 6 ชั้น]

[ปาร์คยองวาน ‘ฉันจะนำความหวังกลับมา!’]

 

ปาร์คยองวานท้าทายดันเจี้ยน 6 ชั้น และสมาคมฟีนิกซ์ก็กลายเป็นจุดสนใจที ช่างเป็นช่วงเวลาที่ไม่น่าเชื่อ

 

[สมาคมฟีนิกซ์ จะเอาชนะทีมที่ 19 จากผู้เล่นชั้นที่ 6 หรือไม่?!]

[สมาคมฟีนิกซ์กำลังล้อเล่นกับชีวิตของตัวเอง!]

 

ปัจจุบันจำนวนสมาคมจากทั่วโลกที่ผ่านดันเจี้ยน 6 ชั้น มีไม่ถึง 20 สมาคม ถึงแม้จะเป็นสมาคมที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของเกาหลี แต่การที่สมาคมฟีนิกซ์จะทำเรื่องนี้ได้สำเร็จก็ไม่ใช่เรื่องง่าย ด้วยพลัง และทรัพยากรในปัจจุบันของพวกเขา ดันเจี้ยน 6 ชั้นจึงอันตรายมาก

“ดันเจี้ยน 6 ชั้น? ไม่ใช่ว่ามันอันตรายสุด ๆ หรอกเหรอ?”

“นั่นไม่เท่ากับไปตัวตายใช่ไหม?!”

“แม้กระทั่งสมาคมเมสสิอาห์ก็ยังไม่อาจทำสำเร็จได้ในเร็ว ๆ นี้เลย”

สมาคมเมสสิอาห์ได้แสดงให้เห็นว่า พวกเขาล้มเหลวในการท้าทาย ความล้มเหลวในการโจมตีดันเจี้ยน 6 ชั้น หมายถึงแค่สิ่งเดียว ความตาย

ไม่แปลกใจที่ปาร์คยองวานจะใช้โอกาสนี้ เพิ่มชื่อเสียงของเขา ด้วยการประกาศถึงการท้าทายของเขา

 

[ฉันสนับสนุนความพยายามอันสูงส่งของปาร์คยองวาน!]

[ปาร์คยองวานพบท่านประธาน!]

[ด้วยการทำภารกิจนี้ ปาร์คยองวานก็จะเป็นฮีโร่แล้ว!]

 

สื่อต่างให้ความสนใจกับสมาคมฟีนิกซ์ และปาร์คยองวาน บางคนก็เปรียบเทียบเขากับลีเซจุน

“พวกเขากล้าเปรียบเทียบเจ้าทารกปาร์คยองวานกับลีเซจุนได้ยังไง?”

“ไม่มีทาง”

“แต่ก็ต้องยอมรับว่าเขาท้าทายดันเจี้ยน 6 ชั้นจริง ๆ”

ไม่มีทางจะปฏิเสธเรื่องที่ปาร์คยองวานกำลังจะกลายเป็นฮีโร่ในสายตาของสาธารณชนได้ เพราะมันเป็นเรื่องที่ดีสำหรับมนุษยชาติ ถ้าเขาทำลายดันเจี้ยนได้

นี่เป็นโอกาสของคิมวูจิน

‘เขาจะรอดกลับมา’

คิมวูจินรู้ว่าปาร์คยองวานจะเคลียร์ดันเจี้ยนชั้น 6 ได้

‘อาจจะใช้เวลาสักหนึ่งเดือน’

เขารู้ด้วยซ้ำว่ามันใช้เวลานานแค่ไหน

‘ฉันอยากจะเห็นหน้าของปาร์คยองวาน ตอนที่เขากลับมาแล้ว’

นี่เป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการหลบเลี่ยงความสนใจของปาร์คยองวาน แต่นี่ไม่ใช่แผนเดียวที่คิมวูจินมี

“เฮ้ คิมวูจิน! คุณพร้อมรึยัง? ! “

โอเซชานเรียกเขา คิมวูจินกำหนดวันทดสอบเป็นวันเดียวกับวันที่ปาร์คยองวานเข้าสู้ดันเจี้ยน 6 ชั้น

เมื่อดันเจี้ยนปรากฏขึ้น ราคาที่ดินบริเวณนี้ก็จะลดลงอย่างรวดเร็ว ที่นี่มีเนินเขามากมาย บางครั้งก็ใช้เวลานานในการค้นหาดันเจี้ยนเกทหลังจากที่พวกมันปรากฏขึ้น และมอนสเตอร์ที่หลบหนีไปได้ ก็จะมีที่ซ่อนมากมายทำให้ยากต่อการล่า ดังนั้นสถานที่เหล่านี้จึงไม่ใช่สถานที่ที่ดีสำหรับการอยู่อาศัย

นี่คือเหตุผลที่โรงพยาบาลถูกสร้างขึ้นที่เชิงเขาแคมยอง ตั้งอยู่ในอาริมดง, ชุงจู ในห้องผ่าตัดของโรงพยาบาล คิมวูจินยืนตรวจสอบอุปกรณ์ของเขาด้วยแววตาแหลมคม เขาทำความสะอาดมีด ตรวจสอบเกราะ และทดสอบความแข็งแกร่งของธนู

ความรู้สึกไม่พอใจแพร่ออกมาจากเขา

‘ฉันต้องสร้างเวิร์กชอป’

เหตุผลที่ทำให้เขาไม่พอใจนั้นง่ายมาก คิมวูจินเชี่ยวชาญอาวุธหลากหลาย ดังนั้นเขาจึงรู้ว่าต้องใช้อะไรล่าเหยื่อถึงจะดีที่สุด ตอนนี้เขารู้สึกว่าเขาถูกจำกัดด้วยสิ่งที่เขามีในปัจจุบัน

ความสามารถในการใช้ทักษะอาวุธเลือดอย่างมีประสิทธิภาพของเขานั้น เกิดจากความสามารถในการสร้างอาวุธด้วยมือ ถ้าคนธรรมดามีทักษะนี้ในมือ พวกเขาก็จะสร้างก้อนหินหรืออิฐแทนอาวุธ

‘ฉันไม่รู้ด้วยซ้ำ’

ในอดีต สมาคมเมสสิอาห์ได้สร้างเวิร์กชอปส่วนตัวให้เขา แน่นอนว่าสมาคมฟีนิกซ์มีสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับผู้ที่ต้องการดัดแปลงอาวุธหรือสั่งซื้ออาวุธเช่นกัน

อย่างแรก การจะใช้ไอเทมที่ได้จากดันเจี้ยนเป็นเรื่องยาก และส่วนใหญ่ก็ต้องปรับเปลี่ยนให้เหมาะกับผู้เล่น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง คิมวูจินพบว่าการจะหาอาวุธที่เหมาะมือของเขามันยากเป็นพิเศษ สำหรับอาวุธ แค่หนึ่งเซนติเมตรก็แตกต่างกันมากแล้ว

ยังไงก็ตาม คิมวูจินไม่ได้ตั้งใจจะใช้เวิร์กชอปเหล่านั้น ถ้าเขาสร้างอาวุธที่นั่น มันจะทำให้ความสามารถของเขาถูกเปิดเผย และสมาคมอาจจะเกิดความสงสัยได้

‘ฉันจำเป็นต้องมีเงิน’

เงินทุนในปัจจุบันของเขาไม่เพียงพอที่จะสร้างเวิร์กชอปส่วนตัว เพราะราคามันไม่น้อยเลย

‘ถ้าหลังจากนี้ฉันได้เงินกู้อีก ฉันจะสร้างเวิร์กชอป’

นอกจากนั้น ยังมีอีกหลายอย่างที่เขาต้องใช้เงิน

‘ฉันต้องการเงินสำหรับประมูลด้วย’

ในขณะที่เขากำลังคิดอะไรอยู่ คิมวูจินก็ได้ยินเสียงฝีเท้าเดินเข้ามาหาเขา เขาหยุดตรวจสอบอุปกรณ์ และเงยหน้าขึ้นมอง แต่เขาไม่ได้ตั้งท่าระวัง

‘ในที่สุดก็มาถึงแล้ว’

เป็นเพราะเขารู้แล้วว่าใครกำลังจะมา

‘ลีจินอา’

ในขณะที่คิมวูจินนึกชื่ออยู่ ก็มีหญิงสาวสวยคนหนึ่งปรากฏตัวต่อหน้าเขา ถึงแม้จะสวมชุดกองกำลังพิเศษ ความงามของเธอก็ยังเด่นชัด ผมสั้น และหุ่นที่ดีของเธอ ทำให้ไม่ว่าเธอจะไปที่ไหน เธอก็มีเสน่ห์ดึงดูดความสนใจของผู้ชายเสมอ

หญิงสาวสวยมองไปที่คิมวูจิน และพูดว่า

“ลีจินอามาถึงแล้วค่ะ”

“อ่า งั้นเหรอ?”

“อย่ายืนมากพิธีอยู่เลย”

ชายคนหนึ่งปรากฏตัวขึ้นด้านหลังผู้หญิงคนนั้น ด้วยความสูง 190 ซม. ท่อนแขนขนาดเท่ากับเอวของหญิงสาวร่างบาง เต็มไปด้วยเครา และดวงตาที่น่าขนลุก ที่ดูเหมือนจะแทงทะลุไปถึงวิญญาณ ออร่าของคนคนนั้นแพร่กระจายตามหลังการปรากฏตัวของหญิงสาวทันที

“ลีจินอา แต่ไม่ต้องกดดัน แค่เรียกฉันว่าพี่ก็พอ”

เขาคือลีจินอา

‘อิมมอร์ทัล ลีจินอา’

ในความทรงจำของคิมวูจินที่กล่าวถึงลีจินอาคือผู้เล่นที่ไม่สามารถฆ่าได้ และไม่ใช่สิ่งที่จะสู้ได้

‘นายได้รับพรจากแม่น้ำสติกซ์แล้วสินะ’

พรแห่งแม่น้ำสติกซ์ ทักษะในตำนานที่หาได้จากผู้ที่มีรัศมีของนักรบอมตะเท่านั้น

ความสามารถที่ไม่ตาย ถึงแม้จะถูกเชือดคอหรือควักหัวใจออกมา เกือบจะเป็นความอมตะที่แท้จริง

ความจริงแล้ว ตอนแรกลีจินอาได้รับฉายาว่า ‘ซอมบี้’ และเป็นเพราะคิมวูจินที่ทำให้ฉายาของเขาเปลี่ยนไป เป็นชื่อที่น่าอัศจรรย์อย่าง ‘อิมมอร์ทัล’

‘ตอนนั้นฉันล้มเหลวถึงสองครั้ง’

หลังจากตกเป็นเป้าหมายของ ‘หมาล่าเนื้อ’ คิมวูจิน ลีจินอาสามารถเอาชีวิตรอดได้ถึงสองครั้ง ทำให้เขาได้รับฉายาว่า ‘อิมมอร์ทัล’

ในอีกทาง เขาก็คือศัตรูของสมาคมเมสสิอาห์

‘ฉันพลาด’

มันเป็นหลักฐานแสดงถึงความสามารถของเขา ไม่มีใครนอกจากคิมวูจินที่ล่าเขา และยังฆ่าเขาไม่สำเร็จถึงสองครั้งด้วยกัน แต่ไม่มีครั้งที่สาม

‘หลังจากนั้น เขาก็ถูกโยฮันน์ จอร์จทรยศ และฆ่าตายในดันเจี้ยน 8 ชั้น’

เขาเริ่มดันเจี้ยน แต่ถูกทีมของเขาทรยศ และถูกฆ่า

และตอนนี้ลีจินอาก็ได้พบกับคิมวูจินอีกครั้ง ในสถานการณ์ที่แตกต่างไปจากอดีตอย่างสิ้นเชิง มันคงเป็นการโกหก ถ้าคิมวูจินบอกว่าไม่อยากรู้ว่าครั้งนี้จะเป็นยังไงต่อไป

“ลีจินอา”

คิมวูจินพึมพำชื่อ สิ่งนี้ทำให้ลีจินอาอึดอัดเล็กน้อย

“เฮ้ย ไอ้บ้านี่”

คิมวูจินตระหนักถึงสิ่งที่เขาทำ และขอโทษ

“โทษที”

หลังจากเขาขอโทษ เขาก็พูดต่อ

“นายบอกให้ฉันเรียกนายว่าพี่เหรอ? ไม่ใช่ คุณ? ”

นี่เป็นการยั่วยุอย่างโจ่งแจ้ง ใบหน้าของลีจินอาดุร้าย โดยไม่มีวี่แววว่าจะยอมถอยหรือขอโทษ เขายักไหล่แล้วชี้นิ้วไปที่คิมวูจิน และพูดว่า

“ฉันจะรอดูว่านายจะกล้าได้แบบนี้ในดันเจี้ยนไหม”

แน่นอนว่าคิมวูจินไม่สนใจเขา แต่หันไปหาเจ้าหน้าที่คนหนึ่งของโอเซชานที่มากับลีจินอา

“ขอติดต่อโอเซชานหน่อยได้ไหม?”

คนคนนั้นพยักหน้า และหยิบวิทยุออกมาแล้วส่งให้คิมวูจินทันที

‘วิทยุเครื่องเดิมอีกแล้วเหรอ?’

มันเป็นวิทยุที่เขาใช้เมื่อครั้งล่าสุด

“นี่ตั้งใจจะใช้วิทยุเครื่องเดิมอีกกี่ครั้งกัน?”

ลีจินอาดูเหมือนจะคุ้นเคยกับวิทยุเป็นอย่างดี

คิมวูจินเปิดเครื่อง

“ไอ้นี่มันยังใช้ได้อยู่ไหมเนี่ย?”

พวกเขาได้ยินเสียงของโอเซชานจากวิทยุ

– มันยังใช้ได้อยู่

– นายคงต้องใช้วิทยุนี่ไปอีกสักพัก แต่ขอเปลี่ยนเป็นเรื่องหน่อย มีปัญหาอะไร?

“เรื่องของผู้ตัดสินที่จะมาดูการทดสอบของฉัน”

– ทำไม? คุณต้องการผู้หญิงสวย ๆ เหรอ? นี่เป็นวิธีปกติ ถ้าชายหญิงเข้าดันเจี้ยนไปด้วยกัน คุณจะยังสนใจการล่าอยู่ไหมล่ะ? มันถูกกำหนดไว้เป็นพิเศษ เพื่อให้คุณมีสมาธิ

“ไม่ ไม่ใช่แบบนั้น”

– แล้ว…?

“จะเกิดอะไรขึ้น ถ้าผู้ตัดสินที่คุณส่งมาเสียชีวิตระหว่างการรันดันเจี้ยน?

คิมวูจินหันไปสบตากับลีจินอาที่หรี่ตาลง

– นี่คุณจะล่ามอนสเตอร์หรือผู้เล่นกันแน่?

“อาจจะทั้งสองอย่าง”

ในขณะที่ฟังบทสนทนา การแสดงออกของลีจินอาก็ย่ำแย่ลง จากนั้นเขาก็พูดว่า

“ถ้านายคุกเข่าขอโทษฉันตอนนี้ และขอรับใช้ฉันไปชั่วชีวิต ฉันจะปล่อยให้นายมีชีวิตอยู่ต่อไป”

– คุณได้ยินแล้วนะ?

“แค่บอกฉันว่ามีบทลงโทษเวลาผู้ตัดสินตายไหม?”

– ฉันจะไม่หักคะแนนใด ๆ สำหรับเรื่องนั้นเลย

“ตกลง”

การสนทนาจบสุดลง คิมวูจินส่งวิทยุให้เจ้าหน้าที่ แต่ลีจินอารีบคว้ามันมา และพูดใส่วิทยุ

“ฉันได้ยินว่ามีคนโรคจิต ก็คิดว่ามันเป็นแค่ข่าวลือ ไม่คิดว่ามันจะเป็นเรื่องจริง ฉันจะจัดการให้ ถ้านายไม่มีปัญหาเรื่องนี้”

– เขาดูเหมือนคนโรคจิต อืม ที่สำคัญกว่านั้น ฉันบอกให้นายกินแต่พอดีไง!

“แล้วไง? ฉันกินแค่อุด้งราคาถูก มีปัญหาอะไรอีก?”

– นายกินไป 5 ชาม!

“ฉันจะทำอะไรได้ ในเมื่อชามเดียวมันไม่อิ่ม ฉันต้องกินให้ได้ 10,000 แคลอรีต่อวันนะ”

– งั้นก็ซื้อน้ำมันพืชแล้วกินเลย! 9,000 แคลอรีต่อลิตร! ฉันจะปิดวิทยุแล้ว!

การแสดงออกของลีจินอาแย่จมลงอีกครั้ง เมื่อสัญญาณตัดไป เขาสบตากับคิมวูจิน และใบหน้าของเขาก็ดูดุร้าย

“นายไม่ควรทำอะไรโง่ ๆ ฉันพูดที่อื่นไม่ได้ แต่ในดันเจี้ยน ฉันไม่เคยไว้ชีวิตใครที่กล้าท้าทายฉัน”

แต่คำเตือนของเขาถูกคิมวูจินเมินโดยสิ้นเชิง

‘ความสามารถในการต่อสู้ของเขาค่อนข้างดี การใช้เขาแบบทหารโครงกระดูกก็ดีเหมือนกัน เพราะถึงแขนขาเขาถูกตัดออกไป เขาก็จะจะไม่ตาย’

ในความคิดของคิมวูจิน ลีจินอาก็ไม่ต่างอะไรจากทหารโครงกระดูก