เล่มที่ 21 เล่มที่ 21 ตอนที่ 622 จิ้งจอกเฒ่าจะติดกับดักหรือไม่?

สนมโง่เจ้าจะหนีไปไหน

เมื่อสิ้นเสียงพูดของจงซูอี้ เหล่าทหารของสำนักโอสถสกุลจงที่อยู่ด้านนอกสนามประลองก็รีบวิ่งเข้ามาในสนาม และตรงเข้าไปหาซูจิ่นซีทันที

จงซูอี้หันไปหาผู้อาวุโสทั้งสามท่านของสกุลจงที่อยู่ด้านนอกสนามประลอง และพูดขึ้นว่า “ผู้อาวุโสทั้งสามท่าน แม้จงจิ่นซีจะมีฐานะพิเศษ ทว่าเรื่องนี้มีความสำคัญอย่างมาก สกุลจงของพวกเราไม่อาจแปดเปื้อนเสื่อมเสียด้วยเรื่องที่ไม่ชัดเจนได้ ข้า ผู้นำสกุลจัดการเช่นนี้ ทั้งสามท่านมีความคิดเห็นอย่างไร? ”

แน่นอนว่าผู้อาวุโสทั้งสามท่านไม่มีวิธีที่ดีกว่านี้ พวกเขาต่างพยักหน้าตอบรับ

แววตาของจงซูอี้ทอประกายความสำเร็จ

อย่างไรก็ตาม ไม่มีผู้ใดคาดคิดว่า ขณะที่เหล่าทหารของสกุลจงเดินมายังข้างกายซูจิ่นซี และกำลังควบคุมตัวซูจิ่นซีอยู่นั้น ในที่สุด ซูจิ่นก็พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเหยียดหยาม

“จงซูอี้จงรักภักดีต่อแว่นแคว้นและเชื้อพระวงศ์ และทนต่อเรื่องแปดเปื้อนเสื่อมเสียไม่ได้ เจ้าแน่ใจหรือ? ”

เจ้าแน่ใจหรือ?

เหตุใดพระชายาโยวอ๋องจึงถามผู้นำสกุลจงเช่นนี้? นี่มันหมายความว่าอย่างไร?

ท่าทางของจงซูอี้แสดงออกอย่างเยาะเย้ย “แน่นอนอยู่แล้ว! ”

ทว่าเพิ่งสิ้นเสียงพูด จงซูอี้กลับรู้สึกไม่สบายใจ ไม่รู้เพราะเหตุใด เมื่อไตร่ตรองคำพูดของซูจิ่นซีแล้ว ราวกับมีความหมายที่ลึกซึ้งบางอย่าง

อย่างไรก็ตาม ก่อนที่จงซูอี้จะเข้าใจถึงความไม่สบายใจและความหมายที่ลึกซึ้งนั้น ซูจิ่นซีก็เอ่ยเสียงดังกับจงรุ่ยอันและจงเทียนโย่วที่อยู่ด้านนอกสนามประลอง “เทียนโย่ว ท่านลุง นำสิ่งของมอบให้ท่านผู้อาวุโสทั้งสามท่าน”

สิ่งของ? สิ่งของอันใด?

จงซูอี้มองไปทางผู้อาวุโสทั้งสามท่านทันที จงรุ่ยอันและจงเทียนโย่วรีบนำสิ่งของกองโตวางไว้ด้านหน้าของผู้อาวุโสทั้งสามท่าน

ผู้อาวุโสทั้งสามท่านหยิบขึ้นมาเปิดดู

ระยะห่างค่อนข้างไกล ทำให้จงซูอี้ไม่อาจมองเห็นว่าของสิ่งนั้นคืออันใด หางตาของเขาพลันกระตุก

ขวาร้าย ซ้ายดี หางตาขวาของจงซูอี้กระตุก

นิ่งเงียบ…

นิ่งเงียบพักใหญ่

ไม่ได้มีเพียงจงซูอี้เท่านั้นที่มองไม่เห็นสิ่งของที่จงเทียนโย่วและจงรุ่ยอันมอบให้ผู้อาวุโสทั้งสามท่าน ผู้คนในสนามประลองก็มองไม่เห็นเช่นกัน

ทว่ามีสิ่งหนึ่งที่พวกเขาเข้าใจเป็นอย่างดี มันต้องเป็นสิ่งของที่สำคัญมาก ทั้งยังมีความเกี่ยวข้องกับสำนักแพทย์และสำนักโอสถสกุลจง

ไม่เช่นนั้น เหตุใดพระชายาโยวอ๋องจึงไม่ให้พวกเขาสองพ่อลูกมอบให้คุณชายจิ่ว?

คุณชายจิ่วเป็นผู้สนับสนุนพระชายาโยวอ๋อง ทั้งยังเป็นผู้ที่มีอำนาจมากที่สุดในวงการแพทย์ หากมอบให้คุณชายจิ่ว ย่อมมีประโยชน์มากกว่าผู้อาวุโสทั้งสามท่านของสกุลจง

มีเพียงเหตุผลเดียวที่ไม่มอบให้คุณชายจิ่ว นั่นคือ เรื่องนี้คุณชายจิ่วไม่สะดวกออกหน้าให้ จึงทำได้เพียงให้สกุลจงแก้ไขปัญหาภายในกันเอง

ผ่านไปครู่หนึ่ง สีหน้าของผู้อาวุโสทั้งสามท่านพลันปรากฏความเคร่งขรึม พวกเขาเงยหน้ามองจงซูอี้อย่างไม่เชื่อในสิ่งที่เห็น

หนึ่งในผู้อาวุโสโมโหจนตัวสั่น และชี้นิ้วไปที่จงซูอี้ “หลายปีมานี้ เป็นเพราะพวกเจ้าสองพ่อลูกมีอำนาจในมือ และมีอำนาจสูงส่งในแคว้นหนานหลี ผู้อาวุโสอย่างข้าจึงมอบเรื่องทุกอย่างไว้ในมือของพวกเจ้าสองพ่อลูก หากไม่ถึงที่สุด พวกข้าจะไม่ออกมาแทรกแซงเรื่องของพวกเจ้า ทว่าดูพวกเจ้า… พวกเจ้า… พวกเจ้าทำสิ่งใดลับหลังผู้อาวุโสอย่างพวกเรา? ”

จงรุ่ยอันพ่อลูกมอบสิ่งใดให้ผู้อาวุโสทั้งสามท่าน พวกเขาจึงมีท่าทีตอบสนองเช่นนี้?

ดูเหมือนจงซูอี้จะนึกบางอย่างขึ้นมาได้ ทว่าเขาไม่แน่ใจนัก

เขาพูดเกลี้ยกล่อมผู้อาวุโสทั้งสามท่านว่า “ผู้อาวุโสทั้งสามท่าน จงจิ่นซี เด็กน้อยผู้นี้เล่ห์เหลี่ยมแพรวพราว พวกท่านอย่าได้ถูกพวกเขาหลอกลวงเป็นอันขาด หลายปีมานี้ ข้าสองพ่อลูกปฏิบัติกับผู้อาวุโสอย่างไร ปฏิบัติต่อบรรดาลูกศิษย์สกุลจงอย่างไร ปฏิบัติต่อราชสำนักและประชาชนทั่วไปอย่างไร พวกท่านยังไม่รู้อีกหรือ? ”

จงซูอี้พูดพลางเดินไปหาผู้อาวุโสทั้งสามท่านอย่างเชื่องช้า พยายามดูให้ชัดเจนว่าสิ่งที่จงรุ่ยอันและจงเทียนโย่วมอบให้ผู้อาวุโสทั้งสามท่านคืออันใด

ทว่าจงซูอี้ยังไม่ทันเข้าใกล้ผู้อาวุโสทั้งสามท่าน ทันใดนั้นด้านนอกประตูก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้น

“ผู้นำสกุลจง เจ้าสมรู้ร่วมคิดกับแคว้นไหวเจียง หลักฐานมัดตัวเจ้าแน่นหนา เรื่องมาถึงขั้นนี้แล้ว ยังคิดจะหลอกลวงผู้อาวุโสอย่างข้าอีกหรือ? ”

ทุกคนต่างหันไปมองทิศทางของเสียงนั้น

เสียงนั้นดังมาจากทางเข้าสนามประลอง เจ้าของเสียงเป็นผู้เฒ่าท่านหนึ่ง อายุประมาณผู้อาวุโสทั้งสามท่าน เขาพาลูกศิษย์สกุลจงกลุ่มหนึ่งเดินเข้ามา ด้านหลังของเหล่าลูกศิษย์ยังแบกสิ่งของอีกมากมาย

จงซูอี้เป็นคนแรกที่เห็น สีหน้าของเขาพลันซีดขาว

ผู้อาวุโสท่านนั้นให้เหล่าลูกศิษย์แบกสิ่งของเข้ามาวางไว้เบื้องหน้าจงซูอี้

“ผู้อาวุโสไป๋ ท่าน… นี่คือ… ”

ผู้อาวุโสท่านนั้นเดินมาข้างหน้า

“ผู้อาวุโสซุน ผู้อาวุโสหยู ผู้อาวุโสอู๋ สิ่งของเหล่านี้ ข้านำมาจากใต้ทะเลสาบของสำนักโอสถสกุลจง”

ซูจิ่นซีถูกทุกคนขวางทางไว้ แม้จะมองไม่เห็นสิ่งใด ทว่าระบบถอนพิษได้แจ้งเตือนนางทั้งหมดแล้ว

ขณะที่ผู้อาวุโสไป๋เดินเข้ามา ระบบถอนพิษส่งเสียงแจ้งเตือนอย่างต่อเนื่องว่ามีสารพิษจำนวนมากกำลังเคลื่อนที่เข้ามาใกล้ และทั้งหมดมีส่วนเกี่ยวข้องกับแคว้นไหวเจียง

ผู้ที่อยู่ในสนามประลองและมีวิชาแพทย์ที่ไม่ธรรมดา ต่างมองไปยังสิ่งของเหล่านั้น

งูพิษ ตะขาบ แมงป่อง ตะขาบพิษ ทั้งยังมียาสมุนไพรจำนวนหนึ่งที่ผลิตจากแคว้นไหวเจียง ที่สำคัญคือ มีศพพิษอีกแปดร่าง ซึ่งมีเพียงคนจากไหวเจียงเท่านั้นที่ทำการศึกษาออกมาได้

“ผู้อาวุโสไป๋ ท่านแน่ใจหรือว่า สิ่งของทั้งหมดนี้ถูกพบอยู่ใต้ทะเลสาบของสำนักโอสถสกุลจง? ” ผู้อาวุโสซุนถามด้วยความไม่เชื่อ

แม้จงรุ่ยอันและจงเทียนโย่วจะมอบข้อมูลเหล่านั้นให้ผู้อาวุโสทั้งสามท่าน ทั้งยังพูดอย่างชัดเจนว่า สำนักโอสถสกุลจงสมรู้ร่วมคิดกับแคว้นไหวเจียง โดยใช้ใต้ทะเลสาบเป็นฐานปฏิบัติการวิจัยสารพิษโดยเฉพาะ และพัฒนาศพพิษออกมาจำนวนมาก

นอกจากนั้น สำนักโอสถสกุลจงยังสมรู้ร่วมแคว้นคิดกับแคว้นไหวเจียงทำเรื่องบางอย่าง ซึ่งเพียงพอที่จะทำให้สกุลจงถูกประหารไปเก้าชั่วโคตร อย่างไรก็ตาม แม้ทุกคนจะเห็นกับตา ทว่าผู้อาวุโสซุนกลับไม่อยากจะเชื่อ

ท่าทางของผู้อาวุโสไป๋แสดงออกอย่างจริงจังยิ่งนัก “แน่นอน ไม่ว่าอย่างไร ข้าก็เป็นคนของสกุลจง เป็นลูกศิษย์ของสกุลจง ข้าจะใส่ร้ายป้ายสีสกุลจงของตนเองได้หรือ”

ทุกคนในเหตุการณ์ต่างถอนหายใจ

ผู้อื่นไม่คิดเช่นนั้น ทว่าบรรดาลูกศิษย์ของสกุลจงและประชาชนทั่วไปของแคว้นหนานหลีไม่อาจยอมรับเรื่องนี้ได้

การสมรู้ร่วมคิดกับแคว้นไหวเจียง เท่ากับสมรู้ร่วมคิดกับศัตรู นับเป็นคนขายชาติ!

หลายปีมานี้ สายลับแคว้นไหวเจียงได้แทรกซึมเข้ามาในแคว้นต่างๆ ทั่วทั้งอาณาจักรเทียนเหอ ทั้งยังกระทำเรื่องชั่วร้ายไว้มากมาย

แคว้นไหวเจียงคิดจะทำลายแว่นแคว้นต่างๆ และรวบรวมแผ่นดินในอาณาจักรเทียนเหอ หลายปีมานี้ ผู้คนแต่ละแว่นแคว้นต่างเสียชีวิตด้วยน้ำมือของสายลับแคว้นไหวเจียงนับไม่ถ้วน

ผู้อาวุโสของสกุลจงทั้งสี่ท่าน ลูกศิษย์ของสกุลจงจำนวนมาก พวกเขาทั้งหมดต่างมองไปยังจงซูอี้ด้วยสายตาไม่เป็นมิตร

จงซูอี้คาดไม่ถึงว่า สถานการณ์จะพลิกผันเช่นนี้ เขารู้สึกตื่นตระหนกเล็กน้อย

ทว่าไม่นาน เขาก็คิดบางอย่างขึ้นมาได้

สำนักโอสถสกุลจงเป็นสถานที่ใด?

จงเนี่ย บุตรชายของเขาอยู่ที่จวน ทั้งสกุลจงยังมียอดฝีมือมากมาย เหตุใดผู้อาวุโสไป๋จึงนำคนไปที่ใต้ทะเลสาบของสกุลจง โดยที่เขาไม่ได้รับรายงานใดๆ เลย?

เรื่องนี้ต้องมีเงื่อนงำอย่างแน่นอน!

ซูจิ่นซีไม่ได้พูดสิ่งใด นางนอนอยู่ด้านข้างด้วยร่างกายที่อ่อนแออย่างมาก ทว่านางคอยสังเกตท่าทางของจงซูอี้อย่างเงียบงันมาโดยตลอด

เมื่อเห็นแววตาของจงซูอี้ทอประกายความเจ้าเล่ห์ ทันใดนั้น ซูจิ่นซีก็ตระหนักได้ว่าจงซูอี้ จิ้งจอกเฒ่าไม่ติดกับดัก

ทำอย่างไรดี?

หลักฐานเหล่านี้ ผู้อาวุโสไป๋ไม่ได้นำมาจากทะเลสาบสกุลจง ทว่านางให้พวก JX เป็นผู้จัดเตรียม

หลังจากเหล่า JX รับคำสั่งจากนาง พวกเขาก็แทรกซึมเข้าไปในสำนักโอสถสกุลจง และพบว่าใต้ทะเลสาบมีสารพิษอยู่จำนวนมาก ทว่าทหารที่นั่นเข้มงวดยิ่งนัก จึงไม่อาจนำหลักฐานออกมาได้

ดังนั้น ซูจิ่นซีจึงนึกแผนการขุดหลุมพรางหลอกจงซูอี้ กลับไม่คิดว่า จิ้งจอกเฒ่าจะฉลาดแกมโกงเช่นนี้

ควรทำอย่างไร?

หากจงซูอี้ไม่หลงกล ทุกอย่างที่ทำมาก็จะสูญเปล่า!