ฝันร้าย

 

ยิ่งซูจิ้งทำใบหน้าเหี้ยมเกรียมมากเท่าไหร่ ใบหน้าของหวู่หลิวหยิงก็ยิ่งรู้สึกเจ็บปวดมากขึ้นเท่านั้น ร่างกายเองก็ยิ่งกระตุกมากขึ้นกว่าเดิม

พลังใจของเขานั้นแข็งแกร่งมากจนทำให้มีความสามารถในการต้านทานผลทางจิตใจมากขึ้นตาม นั่นทำให้หวู่หลิวหยิงมีความสามารถในการต้านทานการสะกดจิตของซูจิ้งได้ดียิ่งขึ้น

ตอนนั้นที่เขาสะกดจิตจ้าวหยวนได้นี่ถือได้ว่าโชคช่วยล้วนๆเลย แต่ตอนนั้นถือได้ว่ายากกว่าตอนนั้นพอสมควร

 

“อ่า…” หวู่หลิวหยิงร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด ตอนนี้มีเหงื่อออกมาทั่วทั้งใบหน้าของเขา ซูจิ้งรีบถอนพลังของเขาออกมาทันที

เขารู้ในทันทีเลยว่าการสะกดจิตครั้งนี้ถือได้ว่าล้มเหลวแล้ว เขาจึงต้องรีบถอนพลังก่อนที่จะทำให้สมองของหวู่หลิวหยิงได้รับความเสียหายจนกลายเป็นปัญญาอ่อนไป

ถ้าเขายังฝืนต่อไปถึงสำเร็จได้ก็จริงแต่หวู่หลิวหยิงจะเป็นได้แค่เพียงตุ๊กตาหุ่นกระบอกโง่ๆซึ่งเขาไม่ต้องการแบบนั้นเพราะเขาจะใช้ประโยชน์อะไรไม่ได้เลย

 

“ดูเหมือนครั้งนี้จะไม่ง่ายซะแล้วสิ” ซูจิ้งถอนหายใจออกมาอย่างช่วยไม่ได้ ในตอนนั้นก็ได้มีเสียงหนึ่งดังขึ้นมาที่หน้าประตูว่า “นายท่าน ท่านเป็นอะไรรึเปล่าคะ” ซึ่งนั่นน่าจะเป็นคนรับใช้หญิงที่บังเอิญได้ยินเสียงร้องของหวู่หลิวหยิงเมื่อครู่นี้

 

ซูจิ้งยังคงควบคุมหวู่หลิวหยิงได้อยู่ เขาจึงสั่งให้หวู่หลิวหยิงตื่นขึ้นมาและพูดตอบไปว่า “ไม่เป็นไร แค่ชนของนิดหน่อยน่ะ ไม่ต้องเข้ามาหรอกไปทำงานต่อเถอะ” เมื่อได้ยินดังนั้นเธอจึงตอบรับและเดินจากไป

 

“เฮ้อ ในเมื่อสะกดจิตได้ไม่สมบูรณ์แล้วฉันควรจะทำยังไงหล่ะเนี่ย” ซูจิ้งนึกวิ่ธีการต่างๆนานาพลางนึกไปว่าต่อให้ครั้งนี้จะสะกดจิตหวู่หลิวหยิงได้ไม่สำเร็จแต่ก็แค่ลงความทรงจำในส่วนนี้ออกไปก็จบ

แล้วจะวางการสะกดจิตไว้ดีรึเปล่าว่าถ้ามีเหตุการณ์อะไรให้รายงานเขาแต่มันก็ยังมีช่องว่างมากเกินที่จะไว้ใจได้ว่าจะไม่เกิดปัญหาใหญ่ตามมา(หากสะกดจิตโดยใช้คำที่เป็นกุญแจซูจิ้งกลัวว่าจะไม่ครอบคลุมเหตุการณ์ทั้งหมดที่จะทำให้หวู่หลิวหยิงเข้าสู่ภวังค์เพื่อรายงานเรื่องต่างๆให้ซูจิ้งรู้)

 

“ถึงแกจะต่อต้านได้แต่ก็ไม่ได้ตลอดหรอกน่า” ซูจิ้งสบถออกมาพร้อมทั้งได้หยิบผ้าผืนหนึ่งขึ้นมา นั่นคือธงหลอนจิต ก่อนที่เขาจะเริ่มใช้มันนั้นเขาได้สะกดจิตคนอื่นๆโดยรอบก่อน เขาสั่งให้ทุกคนปิดประตูหน้าต่างเพื่อไม่ให้มีเสียงเล็ดลอดออกไป

 

ทันใดนั้นซูจิ้งได้เปิดธงหลอนจิตออก ทันใดนั้นจ้าวผีร้ายและบรรดาผีๆทั้งหลายค่อยๆทยอยออกมา ภาพที่หวู่หลิวหยิงเห็นตอนนี้ก็คือภาพที่กำลังโดนรายล้อมไปด้วยภูติผีวิญญาณที่แสนน่าสะพรึงกลัว

ผีหลายๆตัวปีนขึ้นมาบนตัวเขา บางตัวคอหัก บางตัวมีหน้าครึ่งเดียวบางตัวขาดครึ่งตัว บางตัวหน้าเน่าเปื่อย บางตัวหน้าเต็มไปด้วยเลือดและน้ำหนองที่กำลังหยดย้อยลงพื้นบางส่วนยังหยดลงมาบนหน้าของหวู่หลิวหยิง

หวู่หลิวหยิงตะโกนร้องลั่นวิ่งหนีไม่คิดชีวิตไปรอบๆแต่ก็ไปไหนไม่รอดเพราะมีแต่ผีรอบตัว

มีผีอยู่ตัวนึงอาศัยจังหวะที่เขาไม่รู้จะไปทางไหนจ้วงเข้าไปที่ท้องของเขาและควักเครื่องในของเขาออกมา

จนทำให้เขารู้สึกเต็มไปด้วยความหวาดกลัวและและล้มตัวลงเหมือนตายไปแล้ว

ทันใดนั้นภาพทุกอย่างก็มลายหายไป เจ้าผีร้ายได้กลับเข้าไปในธงแล้ว ท้องของหวู่หลิวหยิงก็ยังคงอยู่ดี ไม่มีล่องลอยการถูกควักเครื่องใน แต่ตอนนี้หวู่หลิวหยิงอยู่ในสภาพเป็นลมล้มพับไปแค่นั้นเอง

 

“หึ ก็ให้รู้กันไปว่าจะทนอยู่ได้ซักอีกกี่วัน” ซูจิ้งสบถออกมา เขาเก็บธงและค่อยๆถอนตัวเองออกไปจากที่นี่ หลังจากนั้นไม่นานกล้องวงจรปิดก็กลับมาใช้งานได้อีกครั้ง

 

ไม่นานหลังจากนั้นเมื่อหวู่หลิวหยิงตื่นขึ้นมา เขาลืมทุกอย่างที่เกิดขึ้นแล้วพบว่าตัวเองนอนอยู่กับพื้น เขารีบให้หมอเข้ามาตรวจในทันที โดยหมอบอกว่าเขาน่าจะทำงานหนักเกินไป ส่วนที่เหลือก็ดูปกติดี

 

หวู่หลิวหยิงไม่ได้ใส่ใจเรื่องที่เขาต้องไปนอนกองอยู่บนพื้นอีกต่อไป แต่ในคืนนั้นไม่เหมือนคืนที่ผ่านๆมา ตอนที่เขากำลังจะผลอยหลับไปเข้าฝันร้ายซึ่งเป็นฝันที่หลอนมากๆ มันน่ากลัวทุกความฝันร้ายที่เขาเคยฝันมาในชีวิตเป็นร้อยเท่า มันน่ากลัวจนถึงขั้นที่ว่าหัวใจเขาเกือบจะวาย หลังจากตื่นขึ้นมาทั่วทั้งตัวของเขาเปียกโชกไปด้วยเหงื่อ ใบหน้าของเขาซึดเซียวและดูอ่อนแรง ตอนกลางดึกเขาก็ฝันอีกครั้ง และอีกหลายๆครั้งในคืนนั้น

 

หวู่หลิวหยิงแทบไม่ได้นอนเลยในคืนนั้น แม้แต่คืนถัดมาเขาก็ยังฝันเหมือนเดิม มันเหมือนกับเขาได้เขาโปรแกรมฝันร้ายของปีศาจร้ายบางตัว เขากลัวจนต้องฝืนตัวเองแต่แค่เขาเผลองีบหลับนิดเดียวเขาก็ยังฝันถึงมันในทันที

 

หวู่หลิวหยิงเหนื่อยล้าจนทนไม่ไหวอีกต่อไป เขาไปโรงพยาบาลเพื่อให้หมอตรวจอาการและรักษา ถึงอย่างนั้นก็ไม่ได้ผลเลลยซักนิด คืนนั้นเขาก็ยังคงฝันร้ายเหมือนเดิม เขานั้นนอนไม่พอมาสามวันติดจนทำให้สติสตังของเขาไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ขอบตำดำคล้ำ เขาถึงกับยอมไปหาจิรแพทย์เพื่อตรวจประเมินและรักษา แต่ไม่ยังไงพวกหมอก็ไม่เจออะไรผิดปกติเลยซักนิดเดียว

 

หวู่หลิวหยิงเริ่มคลุ้มคลั่งขึ้นมาทันทีที่รู้ผล หวู่ฉิงติงและสมาชิกคนอื่นในตระกูลต่างพากันเสียขวัญจึ้นมา หวู่ฉิงติงพูดออกมาอย่างโมโหว่า “หมอมันก็แค่ฝันร้ายเองนะ พวกคุณทำอะไรกับมันไม่ได้เลยหรอ”

 

“พวกเราพยายามสุดความสามารถแล้ว…” หมอเองก็จนปัญญาจริงๆ พวกเขานั้นไม่เคยได้ยินว่ามีโรคที่ทำให้เป็นฝันร้ายมาก่อน และไม่เคยเห็นกับตาตัวเองจนกระทั่งเห็นก็วันนี้นี่แหล่ะ พวกเขาพยายามทุกหนทางแต่ก็ยังทำอะไรไม่ได้แม้แต่น้อย

 

ทั้งตระกูลหวู่และหมอทั้งหลายไม่มีทางคิดได้กันหรอกว่าฝันร้ายของหวู่หลิวหยิงนั้นไม่ได้มาจากโรคภัย แต่มาจากภูตผีปีศาจและวิญญาณร้ายที่มาจากห้วงเวลาฯจูเซียน

ไม่มีทางเลยที่วิทยาศาสตร์สมัยใหม่จะสามารถตรวจพบเจอและแก้ปัญหาได้ มันจะกลายเป็นเรื่องแปลกประหลาดสำหรับพวกเขาทันทีที่รู้สาเหตุ

 

ในช่วงสามวันมานี้ซูจิ้งเฝ้ารอคอยให้หวู่หลิวหยิงมีขวัญกำลังใจที่อ่อนแอลง ทฤษฎีของซูจิ้งไม่ผิดเลยสักนิด

ตราบใดที่ร่างกายแข็งแรงจิตใจก็จะแข็งแรง แต่เมื่อร่างกายของหวู่หลิวหยิงอ่อนแอลงจิตใจของเขาก็จะอ่อนแรงลงตาม เมื่อเป็นเช่นนั้นก็จะยิ่งทำให้เขาสะกดจิตได้สำเร็จง่ายขึ้น

 

สำหรับเขานั้น เขามีวิธีการเพิ่มพลังจิตของเขาด้วยวิธีง่ายๆด้วยการให้ผู้คนยกย่องสรรเสริญเขา แล้วเขาจะดูดซับพลังเหล่านั้นจากเหรียญตราเทวฑูต ถ้าคุณอยากให้ผู้คนสรรเสริญยกยอก็ต้องทำบางสิ่งที่ทำให้ผู้คนสรรเสริญยกยอชื่นชม ตัวอย่างเช่นการที่เขาเล่นเพลงใหม่ การเล่นกีฬาเอ็กซ์ตรีมจนทำให้ทุกคนตื่นตะลึง หรืออะไรก็ตามที่ช่วยเติมเต็มจิตใจของคนอื่น

 

อย่างไรก็ตามก่อนที่ซูจิ้งจะเริ่มดำเนินการใจขั้นถัดไป เขาได้นึกถึงบางสิ่งขึ้นได้เป็นเรื่องราวที่เคยเกิดขึ้นมาก่อนหน้านี้ เขาได้โทรไปหาเว่ยเสี่ยวหยวนในทันที เมื่อเสี่ยวหยวนรับเขารีบพูดออกไปว่า “เสี่ยวหยวน ได้มีพวกรายการทีวีหรือพวกบริษัทสื่อสารติดต่อคุณมาบ้างรึเปล่า”

 

“มีนะ เป็นเว็บไซต์ที่คุณไปสตรีมสดนั่นแหล่ะ พวกเขาอยากให้คุณสตรีมสดบนเว็บไซต์ของเขาอีกรอบน่ะ และเขายินดีพร้อมที่จะจ่ายเงินจำนวนมากเป็นค่าตอบแทนเลย ฉันว่าฉันบอกคุณไปก่อนหน้านี้แล้วนะแต่คุณเหมือนจะไม่สนใจและให้ฉันปฏิเสธไป” เว่ยเสี่ยวหยวนโวยวายเล็กน้อย

 

“จ้าๆ เอาเป็นเธอโทรไปติดต่อเขาอีกทีแล้วกันแล้วบอกไปว่าตอนนี้ผมสนใจแล้ว” ที่ซูจิ้งบอกไปแบบนั้นก็เพราะว่าตอนที่เขาสตรีมในครั้งนั้นก็เพียงต้องการช่วยเต็งหมินจิ้เท่านั่น

แต่เว็บไซต์เองก็ได้ผลประโยชน์ไปไม่น้อยและพยายามจะชวนซูจิ้งสตรีมอีกครั้งแต่เขาปฏิเสธเพราะยังไม่อยากเด่นดังมากมาย

แต่ตอนนี้เขารู้แล้วข้อดีแล้วเขาเลยอยากจะสตรีมอีกครั้ง นอกจากจะทำให้เว่ยเสี่ยวหยวนได้เงินพิเศษแล้วจะยิ่งทำให้เขาได้ประโยชน์มากขึ้นถ้าเขายอมให้เว็บไซต์สตรีมเขาไปในวงกว้าง

ตอนนี้เขาเริ่มคิดวางแผนแล้วว่าครั้งต่อไปเขาจะทำอะไรเจ๋งๆระหว่างสตรีมดี