วันถัดมาในเช้าวันอาทิตย์
ผู้จัดการของเว็บกรีนเปปเปอร์ ผู้ช่วยสนับสนุนงานถ่ายภาพและคนอีกจำนวนหนึ่งที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการถ่ายทอดสด(สตรีม)ได้มาที่บ้านของซูจิ้ง ที่นั่นได้มีเว่ยเสี่ยวหยวนและหลิวฉิงรออยู่ด้วยเช่นกัน เว่ยเสี่ยวหยวนทำหน้าที่เป็นตัวแทนในการทำสัญญาของซูจิ้ง ส่วนหลิวฉิงนั้นมาเพราะว่าได้ยินข่าวว่าซูจิ้งจะจัดการสตรีมขึ้นอีกครั้งเขาเลยอยากเข้ามาดูด้วย ซึ่งหลิวฉิงเองค่อนข้างจะตื่นเต้นกับเรื่องนี้เพราะว่าตอนที่ซูจิ้งสตรีมครั้งก่อนนั้นเขาพลาดโอกาสไปทำให้เขาจิตตกจนจะเป็นบ้าตาย คราวนี้ซูจิ้งต้องการสตรีมด้วยตัวเองเพราะฉะนั้นไม่ใช่เรื่องเล็กแน่นอน ถ้าพลาดคราวนี้ไปเขาคงเสียใจไปตลอดชีวิต
“คุณซูครับ คุณอยากจะสตรีมที่นี่จริงๆหรอครับ ผมอยากพาคุณไปสตรีมที่บริษัทมากกว่านะ เพราะเครื่องไม้เครื่องมือพร้อมกว่า การที่ผมต้องขนของพร้อมคนมา…” ผู้จัดการหวังยังไม่ทันพูดจบดีซูจิ้งก็พูดออกมาว่า
“อย่างกังวลเรื่องที่จะสตรีมที่นี่เลยครับ อินเตอร์เน็ตผมก็น่าจะเร็วพอนะ เอาจริงการสตรีมของผมคราวนี้ไม่เหมาะกับการไปนอกสถานที่น่ะ ถ้าอยู่ๆสัญญาณตัดไปผมยอมไม่เอาค่าจ้างเลยเอ้า” ซูจิ้งพูดออกมาอย่างมั่นใจ
“ก็ได้ครับ” ผู้จัดการหวังมันปัญญาที่จะค้าน
“น่าๆอย่าตื่นเต้นไปเลย เรายังมีเวลาอีกตั้งชั่วโมงครึ่ง เอางี้เรามานั่งดื่มชากันก่อน” ซูจิ้งพูดออกมา
“เอาล่ะงั้นไปทำการติดตั้งพร้อมเตรียมอุปกรณ์ประกอบให้พร้อมซะ” ผู้คนของบริษัทกรีนเปปเปอร์ต่างเริ่มทำงานตามหน้าที่ของตนเอง พวกเขาเองก็มืออาชีพพอตัวที่จะจัดการสตรีมนอกบริษัทของพวกเขา ยิ่งกว่านั้นซูจิ้งไม่ใช่คนดังทั่วๆไป เขานั้นนอกจากจะโดดเด่นกว่าใครแล้วยังมีฐานแฟนคลับของตัวเองก่อนจะเป็นดาราไม่ใช่น้อย
ในเวลาเดียวกันนั้นข่าวการสตรีมของซูจิ้งเผยแพร่ออกไปบนอินเตอร์เน็ตอย่างรวดเร็ว นั่นก็เพราะว่าบริษัทกรีนเปปเปอร์ได้โฆษณาไว้ตั้งแต่เมื่อคืน แค่ลงพาดหัวไว้ไปเดียวข่าวก็แพร่ไปยิ่งกว่าไฟลามทุ่ง เพราะนอกจากเขาจะเป็นที่นิยมแล้ว ทุกๆการกระทำของเขามีค่ายิ่งกว่าทองเพราะมีแต่ความน่าตื่นเต้นในทุกครั้ง พอจะกล่าวได้ว่าช่องแชทของช่องสตรีมทั่วไปนั้นจะมีข้อความพิมพ์พูดคุยตลอดเวลา แต่สำหรับซูจิ้งช่องแชทของเขานั้นแทบไม่กระดิกเพราะการพิมพ์ข้อความแชทจะทำให้เสียเวลาในการที่จะดูเขาสตรีมเลยก็ว่าได้
ยิ่งไปกว่านั้นตอนที่มีการโฆษณาเมื่อคืนมีฟุตเตจตอนที่ซูจิ้งเล่นกู่เจิ้ง(กู่ฉิน)ในงานเลี้ยงและตอนที่เล่นเอ็กซ์ตรีมช่วยบ้านหมินถัง ยิ่งกระตุ้นให้คนอยากติดตามมากขึ้นไปอีก
“เซี่ยนเอ๋อ ผู้จัดการเจ้าโทรมาเรื่องวาไรตี้โชวที่….” มีคนคนหนึ่งเข้ามาเพื่อจะพูดธุระกับมู่หรงเซียนเอ๋อ
“ไม่มีใครอยู่ทั้งนั้น ไม่มีคนอยู่เลยรับโทรศัพท์ไม่ได้ เธอไม่เห็นใครทั้งนั้นนะ” มู่หรงเซียนเอ๋อในตอนนี้เอาแต่จับจ้องหน้าจอคอมพิวเตอร์อย่างตั้งใจ เธอตอบคนที่เข้ามาโดยไม่หันไปมองซักวิเดียว หน้าจะนั้นเป็นหน้าจอที่เว็บเปปเปอร์กรียเตรียมไว้เพื่อที่จะสตรีมซูจิ้ง ซึ่งตอนนั้นยังไม่มีภาพอะไรขึ้นมาทั้งสิ้น
ผู้จัดการของเธอทำได้เพียงยิ้มออกมาก่อนที่จะโทรกลับไป โทรออกพร้อมพูดขอโทษกับเจ้าเต๋าพร้อมบอกไปว่าค่อยคุณกันโอกาสหน้า หลังจากเธอวางสายเธอได้มานั่งรออยู่ข้างๆมู่หรงเซียนเอ๋อพร้อมกับรอดูการสตรีมไปด้วยกัน เธอเข้าใจความรู้สึกของเซียนเอ๋อดี เธอเองก็ได้เคยดูตอนที่ซูจิ้งแสดงกู่เจิ้งมาแล้ว มีผลงานเพลงสองถึงสามชิ้นที่ซูจิ้งส่งมาให้เซียนเอ๋อ เอาจริงๆเธอก็ไม่รู้ว่าซูจิ้งช่วยเซียนเอ๋อมาไม่รู้เท่าไหร่ต่อเท่าไหร่แล้ว ยิ่งเขาช่วยเธอค่าตัวเธอก็ยิ่งเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัวทุกครั้งและนี่ไม่ใช่เหตุบังเอิญแน่นอน ผลงานเพลงชิ้นใหม่ของซูจิ้งคราวนี้ต้องสวยงามไม่น้อยกว่าก่อนหน้านี้แน่นอน
“นาลัน ไหนว่าเธอจะไปยิมไม่ใช่รึไง” ในบ้านหรูหลังหนึ่งมีผู้หญิงคนหนึ่งพูดกับผู้หญิงอีกคนด้วยความสนิทสนม
“ไม่ไปแล้ว มันจะใกล้เวลาสตรีมแล้ว” นาหลานเฟยเองก็กำลังจับจ้องไปที่ช่องการสตรีมเช่นเดียวกัน
“ฉันไม่รู้เลยจริงว่าวันนี้ซูจิ้งจะเล่นเพลงแบบไหนออกมา” ผู้หญิงคนนั้นหัวเราะออกมา
“ใครจะไปรู้ล่ะ แค่คอยดูก็พอน่า” นาหลันเฟยจับจ้องไปที่หน้าจอด้วยสายตาที่เปี่ยมล้นไปด้วยความหวัง
“เสี่ยวหญิง วันนี้เธอไม่สตรีมหรอ แถมยังมาเฝ้ารอคนอื่นสตรีมอีกเนี่ยนะ” ในห้องส่วนตาสีชมพู เด็กสาวคนหนึ่งเดินเข้ามาคุยกับเด็กอีกคนหนึ่งที่นั่งเฝ้าหน้าจอคอมอยู่ในห้อง เธอพูดพลางทำหน้าประหลาดใจ
“ฉันอยากรู้ว่านายคนนี้จะสตรีมอะไรออกมาน่ะ” หญิงสาวในชุดนักเรียกตอบกลับไป
“นั่นมันซูจิ้งเลยนะ คนที่เปรียบได้ดั่งเทพ พวกเราจะไปเทียบได้ยังไง แล้วทำไมเธอถึงได้ดูโกรธขนาดนั้นเนี่ย”
“ฮืมมม ยัยสำส่อนถังเซียวหยูน่ะซิ หล่อนใช้สัตว์เลี้ยงในการสตรีมครั้งก่อนจนทำให้ได้รางวัลไปมากกว่าฉัน และซูจิ้งเป็นคนให้สัตว์ตัวนั้นไปฉันเลยไม่ชอบซูจิ้งเลยจริงๆ” ตอนนี้หญิงสาวที่พูดโกรธจนลมออกหูแล้ว
“สตรีมแล้ว” ณ หอพักหญิงของโรงเรียนมัธยมอันดับหนึ่งแห่งเมืองจงหยุน ถังเซียวหยู ซือหยา และคนอื่นๆต่างมานั่งล้อมวงหน้าคอมกัน
“อาปิน มาดูนี่เร็ว ซูจิ้งจะสตรีมอีกแล้ว” ในห้องๆหนึ่ง เทียนซีได้ตระโกนออกมา
“หมอนี่จะทำอะไรอีกเนี่ย” ติงปินพูดออกมาในขณะที่เดินมาเพื่อดูการสตรีม
ในเวลาเดียวกันนั้น คุณครูและนักเรียนของโรงเรียนสอนร้องเพลงทะเลคราม อย่างเช่น กู่เยว่ กู่หยุน หลี่ซวน ดาราบางคนอย่างเล่าชง กัวไปถิ้ง หลินฉีหยู่ ฉินซูหลาน นักเรียนอย่าง จูเจียนหัว เป็งหมิง หลินฮัว เซี่ยวรุย ฉือเล่ย แฟนคลับอย่าง เต็งหมินถัง เต็งหมินจิ้ ปันเสวี่ย ล้วนแล้วแต่เฝ้ารอคอยอยู่หน้าคอมพิวเตอร์ ทั้งคนที่ว่างและไม่ว่างต่างก็ละทิ้งทุกอย่างเพื่อมานั่งเฝ้ารออยู่หน้าคอมพิวเตอร์
ในขณะนั้น ไม่มีใครคิดมาก่อนว่าก่อนที่ซูจิ้งจะเริ่มสตรีมไม่นาน
ได้มีข่าวหนึ่งโผล่ออกมาว่าฉิวหยุนจินได้ทวิสแค่ความและเขียนเพลงบรรเลงกู่เจิ้งไว้พร้อมติด@ซูจิ้งและเบ่ยเจี่ยฮัวเอาไว้
ทุกคนต่างรู้จักซูจิ้งดีแต่พวกเขาไม่รู้จักเบ่ยเจี่ยฮัว บางคนลองหาข้อมูลในเน็ตดูแล้วผมว่าคนๆนี้ก็มีความสามารถด้านกูเจิ้งเหมือนกัน
และเป็นที่รู้จักกันดีในวงการกู่เจิ้ง และถูกเชิญชวนให้เข้าร่วมในการแสดงงานดนตรีหลายครั้งหลายครา แถมยังได้รับคำชมจากคุณมู่หรงที่ยกย่องให้เขาเป็นหนึ่งในสามของนักกู่เจิ้ง “เสียงธรรมชาติ”
ทุกคนต่างรู้ดีว่าคุณมู่หรงเป็นนักแต่งเพลงชั้นยอดที่เคยมอบกู่เจิ้งให้อัจฉริยะแต่สามคนเท่านั้น
เขานั้นมอบมันให้แก่ศิษย์ของเขา และคนที่ได้รับกู่เจิ้งของเขาไปล้วนไม่มีใครไม่ยอมรับความสามารถของคนพวกนี้
เขานั้นถือได้ว่าเป็นจักรพรรดิแห่งวงการกู่เจิ้งซึ่งแน่นอนว่าเป็นหนึ่งในสาม “เสียงธรรมชาติ” ทำให้สถานะของเขาในวงการกู่เจิ้งไม่ธรรมดา
จนกระทั่งทำให้ฉิวหยุนจินอ้างเป็นศิษย์ของมู่หรง มาในตอนงานวันเกิดของมู่หรงเซียนเอ๋อ แถมยังกล้ามาท้าทายซูจิ้งซึ่งหน้าๆแบบนี้อีก
แต่คุณมู่หรงเองยังไม่ได้ยอมรับ เขาจึงได้ท้าทายซูจิ้งอีกครั้ง และถือโอกาสท้าทายเบ่ยเจี่ยเฮาไปด้วยเลย
เพลงใหม่ของฉิวหยุนจินมีชื่อว่า เพื่อน ซึ่งมันได้ส่งผลต่อจิตใจของมุ่หรง เพราะว่าตอนนี้มันเหมือนเป็นวันครบรอบ 50 ปี ที่คุณมู่หรงได้รู้จักกับเพื่อนเก่าที่ซื่อว่า ซี่ ในอีกไม่กี่วันนี้
พวกเขาต่างก็สนใจในกู่เจิ้งเหมือนกันจนสามารถพูดได้เลยว่าเป็นเพื่อนแท้สำหรับในเรื่องกู่เจิ้ง
ผลงานเพลงชิ้นนี้บรรเลงได้ดี ท่วงทำนองก็ดี และแนวคิดก็ดี แค่ปล่อยออกมาไม่นานก็มีคนกล่าวถึงแล้ว
รวมถึงคนที่ไม่ชอบขี้หน้าซูจิ้งต่างก็ไปอวยเพลงนี้อย่างกับราวเป็นเพลงแห่งสรวงสวรรค์ พร้อมสำทับมาว่าเมื่อเพลงนี้ออกมาผมงานเพลงก่อนหน้านี้ของซูจิ้งด้อยค่าไปเลย
ซึ่งแน่นอนว่าแฟนคลับของซูจิ้งนั้นทนไม่ได้จนต้องตอบโต้กลับไป(ในโลกอินเตอร์เน็ต) จนมีหลายคนอยากให้ซูจิ้งเล่นแพลงที่มีท่วงทำนองคล้ายๆกันจะได้ดีเท่าฉิวหยุนจินเลยด้วยซ้ำ
“คุณซู เรามาเล่นเพลงของพวกเราอย่าไปสนชาวเน็ตคอมเม้นดีกว่านะครับ” ผู้จัดการหวังพูดในขณะที่กำลังอ่านค้อมเม้นต์แบบเซ็ง
“ฮ่าฮ่า ไม่เป็นไรหรอกน่า เอาจริงๆเพลงที่ผมเตรียมมาก็มีส่วนคล้ายอยู่นะ แค่เปลี่ยนลำดับขั้นการบรรเลงนิดหน่อยแค่นั้นเอง เอาหล่ะใกล้ได้เวลาแล้วเรามาเริ่มกันดีกว่า” ซูจิ้งยิ้มออกมาเล็กน้อยพร้อมแตะไปที่กู่เจิ้งของเขาที่วางอยู่บนโต๊ะ