บทเพลง “เสียงเพรียกถึงเพื่อนเก่า” ชายแก่สองคนได้นั่งดื่มชาในขณะฟังเพลงนี้ไปด้วยกัน หนึ่งคือมู่หรงฉิน หนึ่งคือผู้เฒ่าซี่ พวกเขาวางคอมพิวเตอร์ไว้ข้างๆเพื่อที่จะมีดูการสตรีมของซูจิ้งที่เว็บกรีนเปปเปอร์ ในขณะที่ผู้เฒ่าซี่นั้นได้เปิดเพลงเสียงเพรียกถึงเพื่อนเก่าให้มู่หรงฉินฟัง
“ฮ่าฮ่า ความสามารถของเด็กนี่ถือว่าใช้ได้ แต่จิตใจแข็งกระด้าง ยากที่จะสอนสั่งได้จริงๆ” มู่หรงฉินพูดพร้อมรอยยิ้มแหยๆ
“ไม่รู้ว่าซูจิ้งจะยอมประลองกับเขาหรือเปล่านะ” ผู้เฒ่าซี่ยิ้มขณะพูดเหมือนอยากเห็นการประลอง
“หยุดพูดได้แล้วน่า สตรีมเริ่มแล้ว” มู่หรงฉินสายตาเป็นประกายในทันทีเมื่อเห็นจอคอมเริ่มมีการเปลี่ยนแปลง ผู้เฒ่าซี่เองก็ได้หันไปดูด้วยเช่นกัน
พวกเขาเห็นภาพที่กำลังสตรีมอยู่ตอนนี้เปลี่ยนไป โดยมีคนๆหนึ่งได้ออกมากล่าวแนะนำว่าที่นี่คือห้องของซูจิ้ง
แล้วซูจิ้งก็เข้ามาในหน้าจอซึ่งนั่นเรียกเสียงฮือฮาจากผู้รับชมจนบางคนให้ของขวัญผ่านช่องทางของเว็บโดยที่ซูจิ้งยังไม่ได้ทำอะไรเลย
“ลูกพี่จิ้งรีบเล่นเพลงใหม่เร็วเข้า ฉันรอต่อไปไม่ไหวแล้ว”
“รีบเล่นเพลงเสียงเพรียกถึงเพื่อนเก่าเร็วเข้า ฆ่าฉิวหยุนจินไปเลยจะได้ดีดดิ้นโวยวายเข้าไปอีก”
“ไม่ว่าจะเล่นเพลงอะไรก็รีบเถอะ ผมรอจนดอกไม้จนเฉาหมดแล้ว”
ซูจิ้งมองไม่ที่ข้อความแชทที่ขึ้นนมาที่จอ คนพวกนี้บางคนน่าจะเป็นแฟนคลับของเขา เขารู้สึกคุ้นๆชื่อกับภาพแสดงอยู่บ้าง
เขาเห็นดังนั้นจึงพูดออกมาด้วยรอยยิ้มว่า “ก็ได้งั้นผมจะไม่พูดมากความหล่ะนะ ผมขอมอบบทเพลงนี้ให้คุณมู่หรงและคุณซี่”
หลังจากได้ยินดังนั้น ทุกคนที่ได้ยินต่างคิดว่าเขาจะเล่นเพลงเสียงเพรียกถึงเพื่อนเก่าจริงๆ ซูจิ้งยอมรับคำท้าประลองจากฉิวหยุนจินงั้นหรอ เหล่าแฟนคลับรู้สึกตื่นเต้นขึ้นมา
ฉิวหยุนจินที่กำลังดูการสตรีมอยู่ก็ได้สบถออกมา เขาคิดไปว่าถ้าซูจิ้งเลือกที่จะเล่นเพลงที่เขาเตรียมไว้ตอนแรกก็คงจะพอเทียบเคียงกับเขาได้ แต่ถ้าซูจิ้งเลือกที่จะเล่นเพลงเสียงเพรียกถึงเพื่อนเก่าในแบบฉบับของซูจิ้งเอง ไม่มีทางที่จะดีเท่าเพลงที่เขาบรรเลงไว้อย่างแน่นอน อย่างมากก็คงแค่เทียบเคียงได้เท่านั้น เมื่อคิดได้ดังนั้นเขาก็ขมวดคิ้วพร้อมถอนหายใจออกมาอย่างดูถูก
ในตอนนั้น มือของซูจิ้งได้วางลงบนกู่เจิ้ง พร้อมดีดกู่เจิ้งสองเส้นเสียงที่ออกมาราวกับเสียงน้ำไหลที่แสนนุ่มนวล
หลังจากนั้นเสียงดีดอันหนักแน่นได้บรรเลงออกมาให้ความรู้สึกประดุจดั่งยอดเขาที่ค่อยๆพุ่งสูงตั้งตระหง่านสูงเทียบฟ้าตามกาลเวลารายล้อมไปด้วยหมู่เมฆทำให้คนที่ฟังรู้สึกตัวเองกำลังล่องลอยอยู่ในท้องฟ้า
หลังจากนั้นท่วงทำนองได้เปลี่ยนไปดูมีชีวิตชีวามากขึ้น ให้ความรู้สึกเย็นสบายเหมือนดั่งมีน้ำไหลเทออกมาจากหมู่เมฆลงไปบนยอดเขา
เว่ยเสี่ยวหยวน หลิวฉิง ผู้จัดการหวัง และคนอื่นๆที่กำลังฟังเพลงผ่านการสตรีมได้รู้สึกดำดิ่งไปตามท่วงทำนองแห่งเพลง พวกเขาได้นึกภาพตามท่วงทำนองแห่งเพลงแต่ละช่วงได้อย่างชัดเจน
บินไปบนยอดเขา ไหลลงไปบนภูเขาไล่ไปตามลำธารลงสู่แม่น้ำ
ให้รู้สึกเหมือนกับว่าพวกเขาอยู่ในสายน้ำจนเปียกปอนจริงๆ จนเหมือนกับเปียกจนไปชำระล้างจิตใจได้เลย
ทันใดนั้นทุกคนที่ได้ยินต่างนึกถึงความทรงจำมากมาย
ความทรงจำของเพื่อนสนิทสมัยเด็ก ความทรงจำของเพื่อนที่ดีที่สุดในชีวิต เพื่อรู้จักกันทุกอย่างเหมือนกับแค่มองตาก็รู้ใจ เพื่อนที่มีความรู้สึกดีๆร่วมกัน
ถ้าจะให้บอกว่าเพลงเสียงเพรียกถึงเพื่อนสนิทเป็นการบรรเลงถึงเพื่อนสนิทแล้วละก็ ความรู้สึกที่ได้ก็ช่างผิวเผินอย่างมาก
แต่กับเพลงของซูจิ้งให้ความรู้สึกเหมือนใช้เท้าเตะไปที่จิตใจเพื่อเรียกให้ความทรงจำดีๆเหล่านี้ผุดขึ้นมา
บอกได้เลยว่าเทียบกันไม่ติดเลยซักนิด
สักพักใหญ่เสียงบรรเลงกู่จิ้งก็ค่อยๆเบาลงแต่มันไม่ใช่แค่การบรรเลง ความเงียบนี้ยังลามไปถึงผู้ที่กำลังดูการสตรีมทั้งหมดด้วย หลังจากนั้นสักพัก ช่องแชตได้เด้งกันขึ้นมารัวๆ
ใบหน้าของมู่หรงฉินและผู้เฒ่าซี่ในตอนนี้เต็มไปด้วยความประหลาดใจพร้อมทั้งหลั่งน้ำตาออกมา เพลงของซูจิ้งนั้นได้ส่งไปถึงจิตใจของคนทั้งสอง
พวกเขานั้นคาดหวังในตัวของซูจิ้งมาตั้งนานแล้วแต่พวกเขาไม่คิดว่าจะมาได้ไกลถึงขนาดนี้
“เจ้าหนูนี่ช่างน่ามหัศจรรย์จริงๆ” ผู้เฒ่าซี่ถอนหายใจ
“ฉันบอกแล้วว่าฉันไม่ได้อวยเขาเกินไป ซูจิ้งมีความสามารถเป็นถึงขั้นจักรพรรดิแห่งกู่เจิ้งได้เลย ความสามารถของเขาไร้ขีดจำกัดจริงๆ” มู่หรงฉินได้พูดสำทับออกมา เขานั้นผมเจอการบรรเลงกู่เจิ้งมาหลากหลายรูปแบบในช่วงชีวิตของเขา แต่ไม่เคยมีใครเที่ยบเคียงเขาได้นอกจากกู่เจิ้งที่ดูเหมือนกำลังจะไล่เขาทัน
“สุดยอด คุณปู่ต้องหลงรักเพลงนี้แน่เลย” มู่หรงเซียนเอ๋อดีใจมากจนเหมือนเล่นออกมาเอง
“ดูเหมือนฝึมือกู่เจิ้งของเขาจะเพิ่มขึ้นนะเนี่ย” นาลันเฟยมีท่าทีตกตะลึงในขณะที่พูดออกมา
“ดีมาก ดีจริงๆ” กู่เยว่พูดชมออกมาไม่หยุดปาก พร้อมทั้งตบไปที่ต้นขาของเขาทำให้กู่หยุนและหลี่ซวนต้องดีใจจนน้ำตาไหล
มันเป็นภาพที่หาดูได้ยากที่จะทำให้เขาแสดงท่าทีแบบนี้ออก และแน่นอนว่าพวกเธอเองก็ดีใจไม่แพ้กัน
ถึงแม้พวกเขาจะได้ยินเพลงใหม่ของซูจิ้งมาหลายครั้งแล้วแต่ในทุกๆครั้งก็ยังตกตะลึงในทุกๆครั้งที่ได้ยิน นั่นก็เพราะความสามารถของซูจิ้งดีขึ้นเรื่อยๆทุกครั้งที่เล่น
บรรยากาศในห้องสตรีมตอนนี้อยู่สภาพตกตะลึง ไม่ว่าคนคนๆนั้นจะเข้าใจในการบรรเลงกู่เจิ้งดีหรือไม่
แต่คนต่างก็ตกตะลึงในเวลาเดียวกัน นั่นก็เพราะพวกเขาได้ล่องลอยไปตามท่วงทำนองเช่นเดียวกับคนอื่นๆ
แฟนคลับของซูจิ้งเองก็ตื่นเต้นไม่น้อยที่ได้ยินเพลงนี้ เพราะแค่เพลงนี้บรรเลงออกมา
เหล่าข้อความที่ถูกส่งมาดูถูกดูแคลนซูจิ้งก่อนหน้า คนที่พิมข้อความพวกนั้นไม่มีใครกล้าพิมอะไรออกมาอีกราวกับได้หายวับไปจากที่นี่แล้ว ถ้าใครยังกล้าพิมบอกได้เลยว่าสิ้นคิดอย่างแรงกล้า
“พี่จิ้งเพลงนี้ดีมากๆเลย เพลงนี้ชื่อว่าอะไรเหรอ”
“ฉันร้องไห้ออกมาเลย ฉันจะฟังมันอีกแน่นอน”
“ทำไมฉิวหยุนจินหายไปซะหล่ะ ฟังเพลงของพี่จิ้งแล้วเป็นยังไงบ้าง นายควรจะรู้ตัวแล้วนะว่าอะไรคือเพลงเพรียกหาเพื่อนเก่าที่แท้จริง อะไรคือเพลงที่ส่งไปได้ถึงจิตวิญญาณ อะไรคือการต่อสู้ในบทเพลงที่แท้จริง ไม่ใช่เพลงเหยาะแหยะแบบนั้นแน่นอน”
“อย่าไปเทียมกับเพลงเพรียกหาอะไรนั่นเลยน่า เทียบกันไม่ได้อยู่แล้ว”
“นี่สินะคนละระดับชั้น”
ถ้าเอาเพลงเสียงเพรียกถึงเพื่อนเก่าของฉิวหยุนจินเป็นบรรทัดฐานการประเมินหล่ะก็
ตอนแรกก็ฟังดูดีอยู่บ้าง แต่หลังจากที่ฟังเพลงของซูจิ้งไปแล้วบอกได้เลยว่าอย่าไปฟังเพลงของฉิวหยุนจินเลยดีกว่า
มันให้ความรู้สึกเหมือนจานสวยๆที่เอาไว้ใส่อาหารอร่อยๆที่มันดูดีแต่ก็กินไม่ได้
หลังจากฉิวหยุนจินอ่านคอมเม้นต์ของชาวเน็ตแล้วเขาได้เขวี้ยงเม้าคอมพิวเตอร์ทิ้งอย่างโกรธสุดๆ แต่สิ่งที่ทำให้เขาโกรธขนาดนี้ไม่ใช่คอมเม้นต์ของชาวเน็ตแต่เป็นตัวเขาเอง เขานั้นได้ฟังเพลงของซูจิ้งและได้จมดิ่งไปกับท่วงทำนองนั้นจริงๆทำให้เขานั้นยอมรับไม่ได้
หลังจากซูจิ้งอ่านคอมเม้นต์แล้วเขาก็ได้บอกไปว่าเพลงนี้มีชื่อว่า “ภูผาสูงและน้ำที่ไหลริน” ถึงเพลงนี้จะเลียนแบบขึ้นมาแต่ดูเหมือนทุกคนจะชอบกันนะ
ซูจิ้งในตอนนี้ไม่ได้เขินอายอีกต่อไปที่จะพูดว่าเขานั้นเล่นเพลงของคนอื่น เพลง”ภูผาและสายน้ำไหลริน”นี้เป็นบทเพลงของเอี้ยหยินจู มันเป็นเพลงที่ทรงพลังเพลงหนึ่ง
บทเพลงนี้จะทำให้เหล่าศัตรูอ่อนแรงและเพิ่มกำลังใจให้กับเพื่อนร่วมรบ อันที่จริงเพลงต้นฉบับนั้นบรรเลงได้ยากมากๆ
ต่อให้เป็นในอนาคตอันใกล้นี้ซูจิ้งก็ยังเชื่อว่าเขายังไม่สามารถที่จะแสดงพลังที่แท้จริงของบทเพลงออกมาได้
นั่นก็เพราะว่าทักษะด้านกู่เจิ้งของเขายังอ่อนแอเกินไปแถมยังไม่ค่อยพัฒนาอีกด้วย
อย่างไรก็ตามเมื่อเทียบกับเพลงของโลกมนุษย์แล้วยังดีกว่าหลายขุมเลยก็ว่าได้
ทุกคนที่กำลังดูการสตรีมนี้ต่างจดจำชื่อ “ภูผาและสายน้ำไหลริน” นี้ไว้ในใจ ตอนนี้ไม่มีใครคิดว่าเป็นเพลงเลียนแบบคนอื่นมาอีกต่อไป แต่คิดว่าเป็นเพลงของซูจิ้งแท้ๆไปแล้ว เหล่าแฟนคลับต่างชื่นชอบจนต้องวนกลับไปฟังอีกรอบ ยิ่งไปกว่านั้นตอนนี้มีรางวัลส่งมาตามช่องทางข้อความสตรีมกระหน่ำจนข้อความเริ่มกระตุกไปแล้ว