บทที่ 634 นี่คือศึกตัดสิน

ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่

“ยังมีใครจะขึ้นมาอีกมั้ย? ถ้าไม่มีแล้ว ผมก็สามารถสู้กับอิจิโร ยามาโมโตะ ได้แล้วใช่มั้ย?”

กรรมการทำตัวไม่ถูกขึ้นมาทันที ปกติแล้ว ผู้ท้าชิงจำเป็นต้องชนะติดต่อกันสามครั้งก่อนถึงจะมีสิทธิ์ท้าดวลกับผู้คุมสังเวียนได้ แต่ว่าตอนนี้เย่เทียนได้แสดงความแข็งแกร่งอันน่าทึ่งออกมา แล้วยังจะมีใครกล้ามาท้าทายอีก?

คำพูดของเย่เทียนนั้นเป็นเหมือนหินก้อนเดียวที่ทำให้เกิดคลื่นมากมาย ทุกคนที่อยู่ตรงนั้นนึกไม่ถึงว่าชายนิรนามชาวตะวันออกคนนี้ จะมาที่นี่เพราะอิจิโร ยามาโมโตะ !

“ปรมาจารย์ยามาโมโตะนั้นเป็นถึงปรมาจารย์แห่งดาบ แต่ไอ้หนุ่มนั่นกลับไปหาเรื่องเขาเนี่ยนะ?”

“ชนะไปแค่สองครั้งก็ทำตัวยโสขนาดนี้แล้ว ช่างไม่รู้จักเจียมตัวซะเลย!”

“ถึงไอ้หมอนั่นจะมีความสามารถอยู่บ้าง แต่ถ้าปรมาจารย์ยามาโมโตะออกโรงจริงฉันว่ามันคงทนได้ไม่เกินห้านาทีหรอก”

ถึงเย่เทียนจะชนะสองครั้งติด แถมยังล้มไชยเชื้อที่เป็นนักมวยไทยชื่อดังเพียงการโจมตีเดียว แต่ผู้ชมที่อยู่ใต้เวทีก็ยังดูถูกเขาอยู่ดี จนพากันส่งเสียงที่ไม่ชอบใจออกมา

นี่มันก็เป็นเรื่องปกติ ไม่ว่ายังไงอิจิโร ยามาโมโตะ ก็คือคนที่ครองสังเวียนได้นานเป็นอาทิตย์ เอาชนะผู้ท้าชิงไปแล้วไม่รู้ตั้งเท่าไหร่ ทุกคนต่างเห็นพ้องที่จะพนันในความแข็งแกร่งของเขา

หันมองมาที่ตัวอิจิโร ยามาโมโตะ เอง เหมือนรู้อยู่ก่อนแล้วว่าจะมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้น สีหน้าไม่ได้เปลี่ยนไปแม้แต่น้อย

“สามหาว! แกมาเรียกชื่อของอาจารย์ตรงแบบนี้ได้ยังไง?”

แต่ชายชาวประเทศหมิงที่ยืนอยู่ข้างๆ อิจิโร ยามาโมโตะ แสดงสีหน้าที่โมโหออกมา แล้วตะโกนออกไปว่า “ในเมื่อจงใจที่จะท้าทายอาจารย์ ถ้าอย่างนั้นก็ผ่านด่านของฉันให้ได้ก่อน!”

พูดจบ ชายหนุ่มก็ก้มหน้าลงเล็กน้อย แล้วพูดกับอิจิโร ยามาโมโตะ อย่างนอบน้อม “อาจารย์ครับ ไอ้หมอนั่นมันโอ้อวดเกินไปให้ผมไปเจอกับมันหน่อยนะครับ!”

“เอาเลย!”

อิจิโร ยามาโมโตะ หันมองเย่เทียน แล้วพูดเตือนไปว่า “ระวังตัวด้วย ไอ้หมอนั่นไม่น่าจะรับมือได้ง่ายขนาดนั้น”

“อาจารย์ไม่ต้องเป็นห่วง! ผมจะสั่งสอนมันให้เป็นอย่างดีเลยครับ!”

ชายหนุ่มขำออกมาอย่างชั่วร้าย แล้วเดินดุ่มๆ ออกไป เดินตรงไปบนเวที

เขามีชื่อว่าทาคาโอะ อูโนะ เป็นหนึ่งในลูกศิษย์ของอิจิโร ยามาโมโตะ ได้รับความรักใคร่จากอิจิโร ยามาโมโตะ เป็นอย่างดี ไม่อย่างนั้นก็คงไม่ได้ตามมาด้วย ตอนอยู่ที่ประเทศหมิงก็ถือเป็นคนรุ่นใหม่ที่พอมีชื่อเสียงอยู่บ้าง

“ทาคาโอะ อูโนะนี่! ลูกศิษย์คนโปรดเพียงคนเดียวของปรมาจารย์ยามาโมโตะที่ใช้สามดาบ!”

“ถึงปรมาจารย์ยามาโมโตะจะไม่ได้ออกโรงด้วยตนเอง แต่การที่ทาคาโอะ อูโนะขึ้นสังเวียน เชื่อว่าไอ้หนุ่มนั่นก็น่าจะแพ้อย่างรวดเร็วเหมือนกัน”

“จะพูดมากให้เปลืองน้ำลายไปทำไม? ยังไม่รีบไปแทงฝั่ง ทาคาโอะ อูโนะอีก!”

พอได้ยินเสียงคำวิจารณ์ของผู้ชมที่อยู่ใต้เวที ทาคาโอะ อูโนะที่อยู่บนเวทีก็แสดงสีหน้าที่ได้ใจออกมา สายตาที่มองไปยังเย่เทียนก็ยิ่งดูถูกเข้าไปใหญ่

“ในเมื่อแกกล้าท้าทายอาจารย์ของฉัน เดี๋ยวฉันจะทำให้แกได้รู้ว่าอะไรคือการไม่สามารถรอดพ้นจากภัยที่ตัวเองสร้างขึ้นได้!”

“คุณเนี่ยนะ?”

เย่เทียนเบ้ปาก กวาดตามองไปยังดาบสามเล่มที่หนีบอยู่ตรงเอวของทาคาโอะ อูโนะ “คุณยังมีดีไม่พอ! ไม่แน่ตาแก่อย่างอาจารย์ของคุณอาจจะพอเป็นไปได้ก็ได้”

“บัดซบ!”

ทาคาโอะ อูโนะโมโหขึ้นมาทันที จ้องมองเย่เทียนด้วยสีหน้าที่โกรธแค้น “แกไอ้คนสามหาว อย่างแก วันนี้ฉันจะทำให้แกได้เห็นถึงความร้ายกาจของวิชาสามดาบของฉัน!”

“ชิ! ยังจะมาวิชาสามดาบอีก!”

เย่เทียนเบ้ปาก แล้วพูดอย่างดูถูกว่า “เชื่อรึเปล่าว่าผมก็ยังสามารถล้มคุณได้ภายในหมัดเดียวเหมือนกัน?”

ทาคาโอะ อูโนะโมโหจนหน้าแดง จึงรีบหันมองไปยังกรรมการที่อยู่ข้างเวที เพื่อส่งสัญญาณให้เขารีบๆ เริ่มการต่อสู้ได้แล้ว

พอเห็นทาคาโอะ อูโนะมองมาอย่างนั้น กรรมการก็รีบโบกมือ ประกาศไปว่า “เริ่มการต่อสู้ได้!”

ทันทีที่สิ้นเสียงของกรรมการ ทาคาโอะ อูโนะที่กำลังโมโหก็ได้ขยับขา พุ่งใส่เย่เทียนอย่างรวดเร็ว

“รอเดี๋ยว!”

จู่ๆ เย่เทียนก็ตะโกนออกมา ทำให้ทาคาโอะ อูโนะต้องหยุดชะงัก

“ทำไม? หรือแกพยายามจะหนีด้วยการยอมแพ้อย่างนั้นเหรอ?”

ทาคาโอะ อูโนะตกใจ และได้พูดเยาะเย้ยไปว่า “ที่แท้ คนประเทศจีนอย่างพวกแกนี่มันช่างอ่อนแอจริงๆ!”

“คุณคิดมากไปแล้ว การที่ผมจะล้มคุณนั้นมันใช้เวลาไม่นานหรอก”

เย่เทียนเบ้ปาก “ผมแค่อยากทำให้มั่นใจก่อนว่า หลังจากที่ชนะคุณแล้ว ผมก็จะชนะสามครั้งติด ตามกติกาก็สามารถสู้กับอิจิโร ยามาโมโตะ ได้แล้วใช่มั้ย?”

พูดถึงตอนท้าย เย่เทียนก็ได้หันมองไปที่กรรมการ

เมื่อถูกเย่เทียนมองข้ามแบบนี้ ทาคาโอะ อูโนะก็โกรธจนเลือดขึ้นหน้า “รอแกชนะฉันให้ได้ก่อนค่อยว่ากัน!”

“แบบนั้นไม่ได้นะ!”

เย่เทียนเบ้ปาก “เวลาของผมมันมีค่ามาก เกิดเดี๋ยวมีพวกปลาซิวปลาสร้อยวิ่งออกมาอีก มันไม่เท่ากับทำให้ผมเสียเวลาหรอกเหรอ?”

“ตกลงแกจะสู้รึเปล่า? ไม่ต้องให้ถึงมืออาจารย์หรอก ฉันก็สามารถล้มแกได้แล้ว!”

พอเห็นว่ายังไงเย่เทียนไม่ยอมสนใจตัวเอง ทาคาโอะ อูโนะก็โกรธจนถึงขีดสุดแล้ว

อิจิโร ยามาโมโตะ มองดูสิ่งที่เกิดขึ้นบนสังเวียนอย่างเงียบๆ ทันใดนั้นก็มีชายคนหนึ่งเดินเข้ามากระซิบที่ข้างหูว่า “ปรมาจารย์ยามาโมโตะคุณคุโรดะ ถูกคนทำร้ายที่ชั้นหนึ่งครับ”

“ถูกคนทำร้าย?”

อิจิโร ยามาโมโตะ ขมวดคิ้วขึ้นมาทันที “เกิดอะไรขึ้น? ฝีมือของคุโรดะถือว่าใช้ได้เลย คนทั่วไปไม่มีทางสู้ได้ แล้วทำไมถึงถูกคนทำร้ายจนบาดเจ็บได้ล่ะ?”

“สถานการณ์โดยรวมไม่ชัดเจนครับ”

ชายคนนั้นส่ายหน้า จากนั้นก็มองไปบนเวทีอย่างไม่ตั้งใจ จากนั้นก็ชี้ไปที่เย่เทียนแล้วตะโกนด้วยความตกใจว่า “ปรมาจารย์ยามาโมโตะ ไอ้หมอนั่นแหละครับ?”

“มันเหรอ?”

ปรมาจารย์ยามาโมโตะที่ได้ยินอย่างนั้น สีหน้าก็เคร่งขรึมขึ้นมาทันที สายตาขุ่นมัวที่มองไปยังเย่เทียนก็ดูซับซ้อนขึ้นมา

หลังครุ่นคิดไปพักหนึ่ง เหมือนเขาจะนึกถึงอะไรขึ้นมาได้ จึงถามไปว่า “แล้วศิษย์พี่ของฉันอยู่ไหน?”

“ปรมาจารย์ยามาโมโตะ ปรมาจารย์ฟูจิโนะเป็นคนให้ผมมาหาคุณที่แหละครับ”

“ศิษย์พี่ให้นายมาหาฉัน?”

สีหน้าของอิจิโร ยามาโมโตะ ดูซับซ้อนขึ้นมาทันที คุโรดะเป็นถึงคนของฟูจิโน เขาถูกเย่เทียนทำร้าย แต่ไม่ตามมาเอาเรื่องเย่เทียนกลับให้คนมาบอกตน? นี่มันหมายความว่ายังไงกัน?

ถึงจะไม่เข้าใจ แต่อิจิโร ยามาโมโตะ ก็ไม่ได้ถามอะไรต่อ จู่ๆ ก็ลุกพรวดขึ้นมา ตะโกนหาเย่เทียนที่อยู่บนเวทีว่า “ถ้าแกสามารถเอาชนะลูกศิษย์ของฉันได้ งั้นก็ทำตามกฎของที่นี่ แกก็มีสิทธิ์ที่จะท้าประลองกับฉันเหมือนกัน!”

พอเขาพูดออกไป สีหน้าของทาคาโอะ อูโนะก็ดูแย่ขึ้นมาทันที ความหมายของอิจิโร ยามาโมโตะ นั้น เห็นได้ชัดว่าเขาจะไม่ชนะเหมือนกัน!

“โทษที ผมไม่ได้จะท้าประลองกับคุณ!”

เย่เทียนไม่ได้สนใจขนาดนั้น ดวงตาสีดำคู่นั้นมองตรงไปที่อิจิโร ยามาโมโตะ ส่ายหน้าแล้วพูดไปว่า “ตาแก่ คุณอย่าเข้าใจผิดไป ผมต้องการสู้ตัดสินกับคุณ!”

การท้าประลองนั้นเป็นสิ่งที่ผู้อ่อนแอกว่าทำกับผู้ที่แข็งแกร่งกว่า แต่การสู้ตัดสินนั้นเป็นการกระทำของคนที่ระดับเท่ากันสองคน

อิจิโร ยามาโมโตะ 一ชะงัก แล้วหัวเราะออกมาอย่างอดไม่ได้ พยักหน้าแล้วพูดไปว่า “ได้! สู้ตัดสิน!”

“ตอนนี้จะสู้ได้รึยัง?!”

ทาคาโอะ อูโนะโกรธจนแทบจะทนไม่ไหวแล้ว เขาคือคนรุ่นใหม่ที่โดดเด่นของประเทศหมิง แถมยังเป็นลูกศิษย์ของอิจิโร ยามาโมโตะ จะเคยถูกคนมองข้ามขนาดนี้ตอนไหน?

พอคิดได้อย่างนั้น สายตาที่มองไปยังเย่เทียนก็มีแต่ความอาฆาต และแอบสาบานว่าจะต้องสั่งสอนไอ้คนที่ไม่รู้จักเจียมตัวคนนี้ซะให้เข็ด

“เอาเลย!”

เย่เทียนยักไหล่ ยื่นมือไปกวักมือให้ทาคาโอะ อูโนะ

ทาคาโอะ อูโนะที่ได้ยินอย่างนั้น ก็ได้ทำเสียงฮึดฮัด ขยับขาแล้วพุ่งใส่เย่เทียนอีกครั้ง….