ตอนที่ 1022 - รักษา

The Divine Nine Dragon Cauldron

นอกจากเป็นที่ซ่อนที่ดีแล้วป่าลึกยังมีประโยชน์อีกหนึ่ง
  เพราะในป่าลึกมีมากกว่าคนมีดสวรรค์และตำหนักเมฆาม่วงการเข้าป่าลึกย่อมทำให้คนที่ตามรอยพวกเขาสับสน
  ครึ่งวันหลังจากพบเฉียนเฟิงซือหยูกลับไปที่ป่าลึกสำเร็จ
  ศัตรูที่ใช้พลังฉีกมิตินั้นเกือบตามพวกเขาทันหลายครั้งแต่ซือหยูก็เลี่ยงได้ทุกครั้งจากการที่สัมผัสการสั่นไหวของมิติได้ล่วงหน้า มันน่ากลัว แต่พวกเขาก็ไม่เคยตกอยู่ในอันตรายจริง ๆ
  และก็เป็นอย่างที่ซือหยูคาดพวกเขาเจอกับผู้เข้าร่วมแดนมณีแปลกหน้ามากมายในตลอดทาง พวกเขาเป็นคนดินแดนพรสวรรค์และมีดสวรรค์
  การปรากฏตัวของทั้งสองทำให้พวกมีดสวรรค์แตกตื่นพวกที่ไล่ตามมาจึงไขว้เขว
  หลังจากผ่านมาราวหนึ่งชั่วยามก็ไร้ร่องรอยของศัตรูซือหยูเลือกร่อนลงที่หน้าผาแห่งลหนึ่ง หน้าผาแห่งนี้มาทางเข้ารังที่สัตว์อสูรขุดเอาไว้ มันถูกภูเขาและเมฆาปกปิด มันค่อนข้างเป็นพื้นที่ลับตาทีเดียว
  ด้านในถ้ำซือหยูวางลู่จือยี่ลง เขากดนิ้วชี้และนิ้วกลางที่ข้อมือของนางเพื่อส่งพลังให้
  หลังจากตรวจดูร่างกายนางจนหมดซือหยูเลิกคิ้วเล็กน้อย
  บาดแผลของนางมิได้สาหัสมากนักแต่ก็มิได้เบาบางเช่นกันร่างของนางอาบไปด้วยเลือด พลังและกำลังกายถูกใช้จนหมด แต่บาดแผลก็มีเพียงแค่บาดแผลภายนอกที่มาจากคนทรยศ มันเป็นบาดแผลที่สะบั้นสายพลังของนางและทำให้อวัยวะภายในเสียหาย
  ยิ่งไปกว่านั้นด้วยพลังที่ใช้จนหมดที่ทำให้นางสูญเสียพลังในการฟื้นฟูร่างกายตัวเองนางต้องการพลังจากภายนอกเข้าช่วย  พลังภูติระดับเก้าของซือหยูเชื่อมต่อสายพลังของนางได้พอดีเขารักษาอวัยวะภายในของนางได้บ้าง นางจะยังต่อสู้ไม่ได้เป็นเวลาสั้น ๆ
  นางต้องการคนดูแล
  ซือหยูมองดูใบหน้าอันงดงามที่ไร้สติภาพวันเวลาเก่า ๆ ในกระโจมเทพสวรรค์ย้อนคืนมาในความทรงจำดั่งคลื่นน้ำหลาก
  ตั้งแต่การได้พบพานครั้งแรกไปจนถึงค่ำคืนที่ได้สวมกอดตอนที่นางกำลังจะตายและสุดท้ายคือสายสัมพันธ์ที่ทั้งสองได้เชื่อมโยงในทะเลเพลิง ความทรงจำในครั้งสุดท้ายยังคงตราตรึง ความโศกเศร้าเกิดเต็มหัวใจ ซือหยูมิอาจลืมเรื่องที่เขาพรากความบริสุทธิ์ไปจากนาง
  …นางที่มีคนรักอยู่แล้ว
  “ข้าช่วยชีวิตเจ้าครั้งนี้ถือว่าเสมอกัน”
  ซือหยูพูดคนเดียวเบาๆ
  ด้วยภยันอันตรายมากมายในแดนมณีการใช้พลังชีวิตทั้งหมดเพื่อรักษาคนอื่นถือเป็นเรื่องอันตรายอยู่แล้ว อีกทั้งยังมีพวกมีดสวรรค์ที่ไล่ล่าพวกเขามาอีก
  การช่วยชีวิตนางครั้งนี้อาจถือเป็นการล้างหนี้ในอดีตที่เขาติดค้างนาง
  เขาลงมือในทันทีที่ทำใจได้ซือหยูใช้พลังพยุงนางขึ้นนั่งไขว้ขาด้านหน้าเขา
  เขาวางฝ่ามือทั้งสองลงบนแผ่นหลังนางด้วยความแผ่วเบาสัมผัสเบาเป็นดั่งนุ่นอุ่นสบาย
  ซือหยูแววตาสดใสด้านในจุดกำเนิดพลังกว้างใหญ่ของเขานั้น พลังชีวิตกำลังเอ่อล้นไปที่ร่างของลู่จือยี่ พลังชีวิตไปถึงสายพลังของนางในจุดที่เจ็บปวด มันฟื้นฟูส่วนต่าง ๆ ที่ขาดสะบั้น เชื่อมต่อสมองกระตุ้นให้นางฟื้นคืนสติ
  นางลืมตาขึ้นหลังจากความสับสนงงงวย ลู่จือยี่ซัดพื้นด้วยมือทั้งสองข้างและกำลังจะลึกขึุ้น นางร้องเบา ๆ  “ใครน่ะ!”
  นางจำได้ว่าถูกเฉาลี่จู่โจมอย่างแรงและจำได้ว่านางไปตกอยู่ในมือของเฉียนเฟิงแล้ว
  แต่ก่อนที่นางจะยืนขึ้นฝ่ามือใหญ่ของชายชาตรีก็ได้กดบ่านางเอาไว้ เสียงของซือหยูดังมาจากด้านหลัง
  “พยายามนำทางให้พลังของข้ารักษาสายพลังเจ้าด้วย”
  ลู่จือยี่หยุดขยับตัวนางถามด้วยความตกใจ
  “ซือหยูเซี่ยนรึ?”
  นางหันไปมองและพบว่าเป็นเขาจริงๆ novel-lucky
  “เป็นเกียรติยิ่งนักที่เจ้าจำเสียงข้าได้”
  ซือหยูค่อนข้างแปลกใจที่ลู่จือยี่จำเสียงเขาได้พวกเขาทั้งสองมิได้พูดคุยกันมากนักในตอนที่ซือหยูใช้นามซือหยูเซี่ยน
  ลู่จือยี่หันมามองเขานางตั้งใจมองดวงตาใต้หน้ากากสีเงิน สายตานางขุ่นมัวในส่วนลึก  “อาจารย์ซือเป็นบุรุษมากความสามารถข้าย่อมต้องจำได้”
  แต่ความจริงทั้งหมดเป็นเพราะซือหยูเซี่ยนมีความคล้ายคลึงอย่างไม่น่าเชื่อกับชายหนุ่มผมสีเงินในความทรงจำของนาง ดังนั้นนางจึงสนใจซือหยูเซี่ยนเป็นพิเศษก่อนที่จะรู้ตัว
  นางยังจำเสียงของเขาได้อีกด้วย
  “แม่นางกล่าวเกินไปแล้ว”
  ซือหยูถอนฝ่ามือที่กดไหล่นางและเริ่มส่งพลังด้วยมือทั้งสองข้างอีกครั้ง
  ลู่จือยี่หันไปก้มหน้าเงียบๆ
  นางเชื่อใจซือหยูเซี่ยนมากอย่างไม่มีเหตุผลเช่นเดียวกับที่นางเชื่อใจชายหนุ่มผมสีเงิน…หยินหยู
  “ขออภัยที่ทำให้อาจารย์ซือต้องลำบาก”
  ลู่จือยี่กล่าวเงียบๆ นางหลับตาช้า ๆ และนำทางพลังชีวิตของซือหยูเข้าฟื้นฟูอวัยวะภายในของนาง  หลังจากพลังหมุนเวียนครบรอบเส้นสายพลังที่ขาดถูกซ่อมแซม อวัยวะภายในที่เสียหายต้องการพลังอีกหนึ่งรอบเต็ม
  สิ่งที่เรียกว่ารอบพลังนั้นคือรอบที่พลังชีวิตหมุนเวียนสู่ทุกสายพลังในร่างกายหนึ่งครั้งรอบพลังเต็มก็คือการที่พลังชีวิตไหลผ่านสายพลังหลักทั้งเก้าและสายพลังรองทั้งแปดสิบเอ็ดสาย
  “อาจารย์ซือข้ารักษาตัวเองได้แล้ว สายพลังข้าเชื่อมต่อกันแล้ว ข้าจะดูดซับพลังด้วยตัวเอง”
  ลู่จือยี่กล่าว
  ร่างกายของจ้าวเทวะแข็งแกร่งกว่าภูติเป็นอย่างมากจำนวนพลังชีวิตที่ต้องใช้ในหนึ่งรอบพลังนั้นเกินกว่าการรักษาสายพลังของภูติ
  สำหรับจ้าวเทวะระดับแปดอย่างนางพลังชีวิตเต็มรอบที่ต้องใช้จะยิ่งมหาศาล
  สำหรับนางมันน่าตกใจพอแล้วที่ซือหยูมีพลังเต็มรอบของร่างกายนางขณะที่เป็นภูติระดับเก้า ดูเหมือนว่าเขาจะเป็นภูติที่มีพื้นฐานแข็งแกร่งที่เกินกว่าภูติระดับเก้าทั่วไปอยู่ไกลโข
  การรักษาต่อมาจะต้องไหลเวียนพลังชีวิตผ่านสายพลังด้านข้างอวัยวะภายในสี่สิบเก้าจุดมากกว่าสิบรอบเล็กพลังที่ต้องใช้นั้นไม่น้อยไปกว่าหนึ่งรอบเต็มเลย
  ด้วยฐานพลังของซือหยูในตอนนี้เป็นเรื่องแน่นอนว่าเขาย่อมรักษาต่อไม่ได้
  ซือหยูยังคงหลับตาเขาพูดโดยไม่เงยหน้า เป็นการพูดอย่างเด็ดเดี่ยว
  “สบายใจได้เจ้าไม่ต้องห่วงเรื่องพลัง”
  ลู่จือยี่แปลกใจนางหันไปมองและก็ต้องหวาดหวั่นเมื่อเห็นว่าใบหน้าของซือหยูไม่ได้แสดงอาการไม่สบายกายเลยหลังจากใช้พลังมามหาศาล
  ลู่จือยี่นำทางพลังชีวิตเข้ารักษาอวัยวะภายในของนางด้วยความกระวนกระวายในทุกรอบที่พลังไหลผ่าน นางจะหันไปดูสีหน้าของซือหยู
  และทุกครั้งมันยิ่งทำให้นางหวาดหวั่นขึ้นไปเรื่อยๆ
  “ผ่านมาสามรอบเล็กแล้วเจ้ายังมีพลังชีวิตเหลืออยู่อีกหรือ?”
  ลู่จือยี่ตกใจถึงขั้นสุด
  ตามปกติสำหรับคนเป็นภูติยิ่งมีพลังชีวิตในจุดกำเนิดพลังมากเท่าใด การก่อร่างสร้างแก้วกำเนิดจะยิ่งง่ายขึ้นเท่านั้น และแก้วกำเนิดก็จะแข็งแกร่งกว่าและปลดปล่อยพลังได้มากกว่าคนอื่น ๆ
  ย้อนกลับไปในตอนที่กู้ไทซูเป็นภูติระดับเก้าพลังชีวิตในจุดกำเนิดพลังของเขาจะอยู่ที่หนึ่งรอบใหญ่และห้ารอบเล็กของนางในตอนนี้ ตอนนี้ซือหยูเซี่ยนมีพลังถึงหนึ่งรอบใหญ่และสามรอบเล็กแล้ว มันแทบจะเหมือนกับกู้ไทซูเลย! ลู่จือยี่แอบทึ่งในใจ
  ทีแรกนางคิดเพียงแค่ว่าซือหยูเซี่ยนเพียงแค่เชี่ยวชาญภาษาไม้ นางไม่รู้เลยว่าพื้นฐานการเป็นภูติของเขาจะน่ากลัวถึงเพียงนี้
  แต่ไม่น่าความตกใจก็ได้กลายเป็นความงุนงงซือหยูหมุนเวียนพลังถึงห้ารอบเล็กในไม่นาน และใบหน้าเขาก็ไม่ได้แสดงความแตกต่างออกมาเลย
  เขาบ่มเพาะจุดกำเนิดพลังของเขามางั้นหรือ?ลู่จือยี่ทึ่ง
  การบ่มเพาะจุดกำเนิดพลังต้องใช้ความแน่วแน่อันทรงพลังที่จะกดฐานพลังและบังคับสร้างจุดกำเนิดพลังขึ้นมาใหม่จุดกำเนิดพลังนี้จะแข็งแกร่งยิ่งกว่าเดิมเพื่อเก็บพลังชีวิตได้มากกว่า
  บางทีพลังชีวิตของกู้ไทซูอาจจะมิได้มีปริมาณเป็นอันดับหนึ่งในจิวโจวแต่มันก็มากพอที่จะเป็นสิบอันดับแรก
  ลู่จือยี่ตะลึงโดยแท้จริงจากการที่ซือหยูก้าวข้ามผ่านกู้ไทซูได้อย่างง่ายดายเช่นนี้
  ซือหยูยังคงมีใบหน้าสงบเมื่อไหลเวียนพลังต่อไปในร่างกายนาง
  รอบที่หก!
  รอบที่เจ็ด!
  รอบที่แปด!
  ลู่จือยี่ตกใจเกินกว่าจะอธิบายออกมาเป็นคำพูดนางมองซือหยูเปลี่ยนไปราวกับคนละคนแล้ว!
  เขาไม่ใช่ยอดฝีมือทั่วไปที่ไร้ที่มาเขาคือผู้ที่เหนือกว่าผู้คุมสวรรค์อย่างนาง! ทุกคนประเมินเขาต่ำเกินไป แม้เขาจะเจิดจรัสได้ไม่เท่าผู้คุมสวรรค์อันดับสูงอย่างกู้ไทซู เขาก็นำหน้าคนอื่น ๆ ในระดับของเขาไปมาก
  รอบที่เก้า!
  รอบที่สิบ!
  และก็เป็นอย่างที่ซือหยูคิดพลังชีวิตของเขาถูกใช้จนหมด เขาหน้าซีดขึ้นมาเป็นครั้งแรก