ตอนที่ 1023 - ภาพจากครั้งอดีต

The Divine Nine Dragon Cauldron

ดวงตาอันน่าหลงใหลของลู่จือยี่เปล่งประกายนางมองซือหยูทั้งตัวด้วยความชื่นชมอีกครั้ง
  “อาจารย์ซือจุดกำเนิดพลังของเจ้าคือสิ่งที่หายากที่สุดที่ข้าเคยเจอในชีวิตนี้เลย!”
  บางทีแม้แต่บุรุษเมฆาม่วงเองก็อาจจะไม่เคยเห็นจุดกำเนิดพลังเช่นนี้มาก่อน แน่นอนว่านางเองก็ไม่เคยพบ
  เพราะการสร้างจุดกำเนิดพลังขึ้นใหม่นั้นยากกว่าการพูดยอดฝีมือคนใดเล่าที่ยินดีทำลายจุดกำเนิดพลังของตัวเองและบ่มเพาะมันใหม่ตั้งแต่แรกเริ่มอีกครั้ง? คงจะไม่มีใครคิดทำมันต่อให้ตกอยู่ในสถานการณ์สิ้นหวังอย่างในตอนที่จุดกำเนิดพลังของซือหยูแตกสลาย
  ซือหยูหายใจเข้าลึกและขยับมือทั้งสองข้างเขาพูดโดยไม่ลืมตา  “แม่นางลู่รีบรักษาพลังเลย เวลาจะหมดลงแล้ว”
  เหล่านักล่าพร้อมที่จะเจอเขาในทุกเมื่อ!
  เมื่อเห็นว่าซือหยูไม่อยากจะเจอใครลู่จือยี่มองตาซือหยูและขยับปากเล็กน้อยราวกับจะพูดอะไรออกมา แต่นางก็พยักหน้าเงียบ ๆ
  “ขอบคุณเจ้ามาก”
  นางไม่ถามสิ่งที่ซือหยูหวังจากการช่วยนางเพราะทั้งสองแทบจะไม่ได้พูดคุยกัน
  ซือหยูเสี่ยงใช้พลังชีวิตจนหมดและยืนกรานที่จะช่วยนางในเวลาอันตรายที่ศัตรูไล่ล่าตามติดเขาจะประสงค์สิ่งใดกัน?
  นางมีคำตอบอยู่ในใจแล้ว
  ครึ่งชั่วโมงผ่านไปทั้งสองใช้เวลาทุกวินาทีในการฟื้นคืนพลังชีวิต ด้วยโอสถวิญญาณทุกประเภทที่มี ซือหยูฟื้นคืนพลังได้สามส่วน ลู่จือยี่เองก็ฟื้นคืนได้พอ ๆ กัน
  พลังปริมาณนี้แทบจะไม่พอหากพวกเขาต้องหนีเอาชีวิตรอดและมันจะอันตรายมากหากต้องเผชิญหน้ากับศัตรู โดยเฉพาะเมื่อมีจำนวนน้อยกว่า
  แต่เมื่อทั้งสองกำลังจะฟื้นพลังต่อหูซือหยูกระตุก เขาเบิกตากว้างทันที มังกรอสูรห้าตัวทะลวงผ่านอกร้องคำรามออกไปจากถ้ำบนหน้าผา
  เสียงกรีดร้องดังมาจากภายในถ้ำเสียงกรีดนภาสลายไปอย่างรวดเร็ว
  ซือหยูพุ่งออกจากถ้ำด้วยความเร็วปานสายฟ้าเขาพบคนที่หายตัวไปบนขอบนภา ซือหยูอยากจะไล่ตามแต่ก็คลาดสายตาเสียก่อน
  ซือหยูมองรอบๆ ชิ้นเถ้าถ่านดำล่องลอยแผ่วเบา ซือหยูจำได้ว่ามันคือเครื่องแต่งกายของดินแดนมีดสวรรค์ มีหนึ่งคนถูกฆ่าและอีกคนหนีไปได้!
  “เราต้องรีบหนีแล้ว”
  ซือหยูเลิกคิ้ว
  ศัตรูมีพลังพิเศษที่สามารถฉีกมิติได้อีกไม่นานเท่านั้นก่อนที่คนที่รอดจะชี้ตำแหน่งของพวกเขาและตามมาทัน
  ลู่จือยี่มองซือหยูนางย่อตัวแสดงความนับถือ
  “อาจารย์ซือจือยี่ผู้นี้จะจดจำน้ำใจที่ช่วยชีวิตข้าในครั้งนี้ไปตลอดชีวิต แต่เป้าหมายของดินแดนมีดสวรรค์คือข้า ไม่ใช่ตัวอาจารย์ซือ โปรดรีบหนีไป ข้าจะอยู่ที่นี่เพื่อยื้อเวลาให้” ไอลีนโนเวล
  ซือหยูถอนหายใจเงียบๆ เขาจะทิ้งลู่จือยี่ให้อยู่ตามลำพังได้อย่างไร? ถ้าหากเขาตัดสินใจจะช่วยใครแล้ว เขาย่อมต้องช่วยให้สุดความสามารถ เขายังไม่ช่วยนางแก้วิกฤติที่มีอยู่เลย แล้วเขาจะทิ้งนางไว้ตามลำพังได้หรือ?
  และด้วยร่างกายที่ยังไม่หายดีของนางนางไม่สามารถยื้อเวลาให้เขาได้หากต้องเจอจ้าวเทวะระดับเก้าที่แข็งแกร่งอย่างเฉาลี่ แล้วก็ยังมีเจ้าวายร้ายเฉียนเฟิงอีก
  “เจ้าจะพบพี่ไทซูได้หรือหากตายไป?มากับข้า อาจจะยังมีทางจัดการพวกมัน”   ซือหยูมีความคิดแล้ว
  ลู่จือยี่ตกใจนางหันไปมองซือหยูด้วยความหวั่นไหว
  หลังจากลังเลนางมองตาซือหยูและถาม
  “อาจารย์ซือข้าอยากถามว่าเจ้ารู้จักคนนามหยินหยูหรือไม่?”
  ซือหยูเหมือนถูกดึงสายโยงหัวใจนางยังจำเขาได้
  ซือหยูอยากจะสารภาพความจริงโดยทันทีแต่สุดท้ายเขาก็ส่ายหน้า
  “ข้าไม่รู้”
  เขาเดินมือไพล่หลังไปสู่ป่าลึก
  ทั้งคู่ออกจากถ้ำเพียงไม่นานรอยแยกมิติห้าสายปรากฏที่หน้าผา เฉียนเฟิง เฉาลี่ และเหล่ายอดฝีมือจากดินแดนมีดสวรรค์ก้าวออกมา
  เฉาลี่จ้องมองถ้ำ
  “ข้าจะไปหาพวกมัน!”   เฉียนเฟิงเหลือบมองถ้ำและจ้องมองป่าลึกเขาพูดอย่างเย็นชา
  “ไปต้องไปดูในถ้ำหรอก”
  ถ้าซือหยูกับลู่จือยี่ยังอยู่ที่นี่ทั้งสองก็คงจะประมาทเกินไปมาก ดูจากการตามล่ามาตลอดทาง ซือหยูที่เป็นผู้มากปัญญาควรจะมุ่งหน้าตรงไปยังใจกลางป่า ไม่มีเหตุผลให้เขาต้องอยู่ในถ้ำต่อไป
  “เป้าหมายของเราคือใจกลางสวนตำรา!”
  มือที่ขาดของเฉียนเฟิงฟื้นกลับคืนมาแล้วเขากำหมัดแน่น จิตสังหารปะทุจากแววตา
  “นำข้าไปที่ป่าลึกรึก็ได้! ครั้งนี้ข้าจะเล่นตามเจ้า!”
  ฟึ่บ!
  กลุ่มผู้มาเยือนจำนวนมากกำลังเข้าใกล้กลางสวนตำราดั่งเมฆามืดพลังมหาศาลนี้มิใช่สิ่งที่นักรบเดียวดายจะรับมือไหว
  ต่อให้ซือหยูมีพลังมากมายเขาก็มิอาจรับมือคนจำนวนมากขนาดนี้ได้ หากศัตรูตามทันเมื่อใด พวกเขาก็ไม่มีโอกาสรอดนอกจากจะต้องหนีอีกครั้ง
  เมื่อวิกฤติกำลังก้าวเข้ามาอย่างรวดเร็วซือหยูกับลู่จือยี่มาถึงกลางสวนตำราแล้ว แต่ถึงจะเป็นกลางสวนตำรา ขณะนี้มันก็ว่างเปล่า การต่อสู้ของตำหนักเมฆาม่วงกับพวกมีดสวรรค์ทำให้คนแถวนี้กลัวและออกนอกบริเวณไป
  อีกเหตุที่แถวนี้ไม่ค่อยมีคนก็เพราะมีข่าวว่าพวกมีดสวรรค์กำลังเข้าใกล้ด้วยปริมาณคนมหาศาลหลาย ๆ คนจึงเลือกที่จะหนี
  “ทำไมพวกเราต้องกลับมาที่กลางป่ากัน?”
  ลู่จือยี่สับสนถ้าหากพวกเขาเจอกู้ไทซูและร่วมมือกับตำหนักโลหิตก็อาจจะมีโอกาสชนะ ถ้าพวกเขามีกันแค่สองคน โอกาสที่จะเอาชนะได้ก็แทบจะไม่มีอยู่เลย
  ซือหยูเหลือบมองรอบๆ พร้อมหรี่ตา
  “ที่นี่จะทำให้พวกเรามีโอกาสรอด”   เขาลูบแหวนที่ปลายดัชนีด้วยมือลูกแก้วเก้าลูกที่มีขนาดเท่ากันเข้าล้อมรอบตัวซือหยู แปดลูกเป็นสีขาวเงิน ส่วนอีกลูกเป็นสีครามอำพัน
  “การตอบรับรึ?”
  ลู่จือยี่งุนงงไผ่เงินกล้วยไม้สวรรค์ของนางตอบสนองกับลูกแก้วทั้งเก้า ความคิดหนึ่งแล่นเข้ามาในหัวนางทันที
  “ไผ่เงินกล้วยไม้สวรรค์โตเต็มวัย!”
  นางจ้องมองลูกแก้วทั้งเก้าไม่วางตาความตื่นเต้นดีใจบนใบหน้าเกิดขึ้นจนนางแทบจะร้องตะโกน
  ไม่มีใครรู้ดีไปกว่านางถึงเรื่องมูลค่าของไผ่เงินกล้วยไม้สวรรค์มันคือไผ่เทวะอันดับหนึ่งแห่งจิวโจว! มันคือไผ่เทวะเก่าแก่ที่ต้องรดน้ำตลอดวันคืนด้วยแก่นโลหิตอสูรเนรมิตรหลายร้อยปีก่อนที่จะเติบโตเต็มที่
  มันแทบจะสูญพันธุ์ไปในยุคสมัยนี้ต่อให้ยังมีหลงเหลือ นางก็มีเพียงต้นอ่อนในมือ การได้เห็นไผ่เงินกล้วยไม้สวรรค์ที่เติบโตนั้นเป็นเหมือนฝันสำหรับนาง
  ใครจะรู้เล่าว่าไผ่เงินกล้วยไม้สวรรค์ที่นางเห็นอยู่ตรงหน้าจะมาจากเมล็ดทั้งสองที่นางให้ซือหยูในครั้งนั้น!นี่จึงเป็นเหตุให้ไผ่เงินกล้วยไม้สวรรค์ของนางตอบสนองกับลูกแก้วสีขาวเงินทั้งแปดลูก เพราะไผ่เงินของทั้งสองมีที่มาจากแหล่งเดียวกัน
  ซือหยูหวั่นไหวเขามองไผ่เงินกล้วยไม้สวรรค์อันคุ้นตาในมือลู่จือยี่
  ในอดีตเขาริษยาในพลังของเศษไผ่เงินกล้วยไม้สวรรค์นี้มาก แต่หลังจากหลายปีผ่านพ้น เขาก็ไม่สนใจมันอีกแล้ว เขาแสร้งทำเป็นไม่เห็น เขาขยับมือทั้งสองชี้ไปยังลูกแก้วทั้งเก้าจากระยะไกล
  ลูกแก้วแปดลูกทำให้มิติสั่นไหวทันทีมันกักขังพวกเขาเอาไว้ในน่านฟ้าภายในลูกแก้วทั้งเก้า
  นอกจากอสูรเนรมิตรที่เชี่ยวชาญในพลังมิติจะลงมือเองก็ไม่มีทางที่ใครจะรับรู้ตำแหน่งของพวกเขาได้
  หลังจากเตรียมการเสร็จซือหยูหันไปมองต้นไม้แห่งชีวิตรอบ ๆ ป่า
  “แม่นางลู่สนใจตัดต้นไม้กับข้าไหม?”
  ตัดต้นไม้รึ?ลู่จือยี่มองรอบ ๆ เหล่าผู้แข็งแกร่งจากดินแดนมีดสวรรค์กำลังใกล้เข้ามา พวกเขามีเวลาตัดต้นไม้ด้วยหรือ?
  ซือหยูกำลังจะทำเรื่องบ้าอะไรกัน?