TB:บทที่ 234 ราชินีมด

 

ต้องขอบคุณไป่ไท่ฮางที่ยืนขึ้นอย่างตื่นเต้น

“เพราะคุณนับถือฉันเหมือนเป็นอาจารย์ ฉันจะต้องสอนฝีมือหลากหลายอย่างให้ และนี่เป็นความสามารถหนึ่งที่เรียกว่า “ระฆังทอง” เป็นพลังเพื่อปกป้องร่างกายของเจ้าของ ตอนนี้ฉันจะสอนให้กับคุณ คุณจะต้องฝึกฝนให้มากกว่านี้” สิ้นคำเฉินหลงสอนไป่ไท่ฮางให้รู้ความสามารถทั้งหมดของ “ระฆังทอง”

 

หลังจากได้ยินชื่อกระบวนท่าของระฆังทอง ไป่ไท่ฮางได้เพิ่มพูนความสามารถในทันที

และเมื่อหลังจากที่เฉินหลงได้อ่านให้เขาฟังจบแล้วนั้น เขายังคงหมกมุ่นในพลังมากจนลืมขอบคุณอาจารย์ของตน

แต่เฉินหลงไม่ได้สนใจ

ความสามารถอย่าง “ระฆังทอง” ดูเหมือนว่าจะเป็นการปฏิบัติพิเศษสำหรับคนในคุนหลุน ไม่กี่นาทีต่อมา ไป่ไท่ฮางผ่านพ้นพลังระดับแรกไป จากนั้นเป็นระดับที่สอง ระดับที่สาม และเมื่อได้ฟังกระบวนท่าของระฆังทองแล้ว ไป่ไท่ฮางผ่านพ้นพลังของระฆังทองไประดับที่หก และพลังนั่นแข็งแกร่งเกินไป

ในตอนที่เฉินหลงสามารถเรียนรู้ “ระฆังทอง” นั้น เขาไปถึงระดับสิบเอ็ด

และนั่นเป็นการเริ่มต้นของเฉินหลงที่หยุดนิ่งอยู่อย่างนั้น แต่อย่างไรเสีย ไป่ไท่ฮางผ่านพ้นพลังของระฆังทองระดับที่หกไปภายในเวลาเพียงหนึ่งชั่วโมง และนั่นเป็นพลังและความสามารถทั้งหมดที่เขามี

หลังจากที่ได้ผ่านพ้นไประดับหกแล้ว ไป่ไท่ฮางตื่นขึ้นมาจากการทำสมาธิ เขาเห็นเฉินหลงอยู่ข้างกายเขา เขาคุกเข่าลงให้เฉินหลงและกล่าวไปว่า “ขอบพระคุณท่านอาจารย์ ข้าจะฝึกฝนให้หนักและทำให้ได้ตามที่ท่านอาจารย์คาดหวัง”

 

หลังจากที่เขาเรียนรู้ความสามารถอย่าง “ระฆังทองแล้ว” ไป่ไท่ฮางรู้ได้ถึงคุณค่าของพลังนี้ได้อย่างแน่ชัด เฉินหลงสามารถที่จะสอนวิชาที่แสนจะล้ำค่าอย่างความสามสารถนี้ให้เขาได้ ในใจของไป่ไท่ฮางเขาตัดสินใจจะดำน้ำลุยไฟไปได้เพื่อเฉินหลง

“ฝึกให้หนัก และผ่านพ้นระดับพลังไปเร็วเท่าที่จะทำได้ จะว่าไป เอานี่ไปซะ” สิ้นคำเฉินหลงถอดแหวนห้าเหลี่ยมที่อยู่บนมือเขา เขาหยิบขึ้นมาและส่งไปให้ไป่ไท่ฮาง

วงแหวนมิติอันนี้เป็นวงเฉินหลงที่แลกเปลี่ยนมาจากระบบ และเนื่องจากเขามีเครื่องมือที่เป็นวงแหวนมิติอยู่แล้วเขาจึงไม่ได้ใช้ของชิ้นนี้ ไป่ไท่ฮางเป็นศิษย์เขาแล้วในตอนนี้ ดังนั้นเขาเลยมอบแหวนนี่ให้

เมื่ออาจารย์มอบของบางอย่างให้ ไป่ไท่ฮางรีบยื่นมือออกไปตามที่เฉินหลงบอก

“เชื่อมต่อมันกับพลังจิตวิญญาณของนาย” เฉินหลงว่า

ไป่ไท่ฮางพยายามจะเชื่อมต่อเมื่อได้ฟังดังนั้น และเมื่อเขาเห็นว่ามีช่องว่างในแหวนอวกาศ เขานิ่งอึ้งไป

“อาจารย์นี่คืออุปกรณ์ช่องมิติ” หลังจากตัดการเชื่อมต่อ ไป่ไท่ฮางมองเฉินหลงและกล่าวไปอย่างตะกุกตะกัก

“จะว่าไป วงแหวนมิตินี่คงเล็กเกินกว่านายจะสวม แต่นายสวมเป็นสร้อยแทนได้นะ” เฉินหลงพยักหน้า

“อาจารย์ ของนี่มีค่าเกินกว่าจะรับไว้ได้” ไป่ไท่ฮางถือแหวนเล็กจิ๋วในมือ และรีบส่ายหน้า

อุปกรณ์แหวนนี่ล้ำค่ามากเพียงใดน่ะหรือ มากขนาดที่ว่ามีเพียงเจ้าเมืองเพียงหนึ่งร้อยแปดคนเท่านั้นที่ครอบครองได้ เขาเป็นเพียงนายพรานตัวเล็กๆ เขาจะไปมีอุปกรณ์ช่องมิติเช่นนี้ได้อย่างไร

“เอาไปเสีย ฉันยังมีอีกวง” เฉินหลงว่า “แล้วคุณก็เป็นลูกศิษย์ของเทพด้วย หากไม่มีวงแหวนมิติแล้ว คุณคงโดนหัวเราะเยาะใส่ ดังนั้นจงรับสิ่งที่อาจารย์ของคุณให้ไปเสีย”

“ขอบคุณสำหรับของล้ำค่าขอรับ” ไป่ไท่ฮางถือแหวนไว้ เขาก้มหัวลง และขยับสายตาไปมา

“เยี่ยม ลองใส่ดู แล้วลองสวมอีกรอบ”

ไป่ไท่ฮางรีบใส่แหวนนั้น ตอนนี้มันกลายเป็นสร้อยคอที่ไว้สวมคอแทน

“ท่านอาจารย์ ศิษย์จะปกป้องไว้อย่างดี” ไป่ไท่ฮางตัดสินใจแล้ว

จากนั้น เขาพยายามใส่สัมภาระชิ้นใหญ่ไป แน่นอนว่ามันหายวับไป แล้วเขาจึงหยิบออกมาอีกรอบ

เมื่อได้อุปกรณ์ช่องมิติมา ไป่ไท่ฮางยังมีสิ่งที่เขาเสพติดใหม่ด้วย

 

“ศิษย์เอ๋ย คุณต้องฝึกฝนที่นี่ก่อน เพราะอาจารย์จะไปในภูเขา” สิ้นคำ เฉินหลงไปยังภูเขาที่เต็มไปด้วย “มดสีทอง” อีกครั้ง

“อาจารย์ขอรับ ที่นั่นอันตรายเกินไป อย่าไปที่นั่นเลยขอรับ” ไป่ไท่ฮางได้ยินที่เฉินหลงบอกว่าเขายังอยากจะเข้าไปยังภูเขาอีกครั้ง เขาจึงล้มเลิกความตั้งใจจะหว่านล้อมเฉินหลงไป

 

“ศิษย์ คุณรู้ถึงพลังของระฆังทอง มดจ้อยร่อยพวกนั้นไม่อาจทำร้ายอาจารย์ได้หรอก ยิ่งไปกว่านั้นแม้พวกมันจะไร้คู่ต่อกร ทว่าอาจารย์สามารถจะถอยออกมาจากภูเขาได้ ดังนั้นแม้พวกมันจะเป็นเช่นนั้นก็ไม่มีทางจะจัดการอาจารย์ได้ ตอนคุณเข้าภูเขาไป คุณควรจะไปฝึก “ระฆังทอง” อย่างสุดฝีมือที่นี่ก่อน เมื่อคุณมีพลังถึงระดับสิบเอ็ดแล้วคุณจึงจะเข้าภูเขาไปกับฉันได้” เฉินหลงชี้ไปที่ตีนเขา ชี้ที่ “มดสีทอง” และชี้ไป่ไท่ฮางที่เผยยิ้มมั่นใจออกมา

“ขอรับท่านอาจารย์” ไป่ไท่ฮางพยักหน้า

 

เฉินหลงอยากจะตบบ่าไป่ไท่ฮาง ทว่าเมื่อเขาเห็นขนาดตัวแล้ว เฉินหลงทำได้แค่ตบสีข้างเขาและเดินไปยังภูเขา

“อาจารย์ ศิษย์จะฝึกหนักอย่างแน่นอนเพื่อไม่ให้เป็นภาระของอาจารย์” เขามองหลังของเฉินหลง ไป่ไท่ฮางตัดสินใจแล้ว

เฉินหลงเดินไปทางภูเขา ที่พวก “มดสีทอง” ยังคงเดินวนไปมาอยู่ที่ตีนเขา พวกมันตื่นตัวและเคลื่อนที่เร็วขึ้นเรื่อยๆ ฟันงอเหมือนเคียวของพวกมันเปิดและปิดอย่างสม่ำเสมอ พร้อมที่จะกัดกินมนุษย์หน้าไหนที่กล้าทำร้ายพวกของมันในเขตของพวกมันให้เป็นชิ้นๆ

“หากอยากจะต้อนรับฉันนัก ฉันจะจัดของขวัญให้ ออกมาจากภูเขาสิ”

สิ้นคำเฉินหลงโจมตีกลุ่ม“มดสีทอง”กลุ่มหนึ่ง

แต่มดยังคงเป็นมด แม้ว่าพวกมันจะตัวใหญ่ขึ้น พวกมันไม่มีชื่ออยู่ดี

มดโดนตัดครึ่งโดนมีดลมของเฉินหลงไปทีละตัวทีละตัว บางตัวที่อยู่ข้างหลังเขายังคงอ้อยอิ่งอยู่ที่ตีนเขา และรอให้เฉินหลงฆ่า

จากนั้น เฉินหลงฆ่ามดไปเกือบพันตัวที่ตีนเขา หลังจากที่ฆ่าไป“มดสีทอง”พวกนั้นไป พลังของเฉินหลงเพิ่มขึ้นเล็กน้อย ทว่ายังห่างไกลจากการผ่านพ้นพลังไป หากระดับลมปราณ นับเป็นระดับย่อยๆ คงต้องสะสมถึง 100 % ถึงจะทะลวงระดับ ต่อไป  ทว่าพลังในตอนนี้ของเฉินหลงเพิ่มขึ้นมาเพียงยี่สิบเปอร์เซ็นเท่านั้น และ“มดสีทอง” เกือบพันตัวที่ตายไปเพิ่มพลังให้เฉินหลงได้เพิ่มศูนย์จุดหนึ่งเปอร์เซ็น อย่างไรเสียแม้จะเพิ่มเพียงศูนย์จุดหนึ่งเปอร์เซ็นก็เป็นเรื่องที่เยี่ยมยอดสำหรับเฉินหลงแล้ว หากเฉินหลงต้องการจะฆ่าฟันมากมาย คงไม่นานหนักกว่าเฉินหลงจะทะลวงระดับได้

เมื่อฆ่ามดไปกว่าพันตัวแล้ว เฉินหลงเก็บของที่มีประโยชน์ไปจากภูเขาทั้งหมดและกลับไปยังภูเขาอีกครั้ง

หลังจากนั้นเฉินหลงฆ่า “มดสีทอง” และเข้าภูเขาอีกรอบ ที่นั้นมีเสียง “ขู่” ที่ทรงพลังอยู่

เมื่อได้ยินเสียง “ขู่” ที่ว่าแล้ว เฉินหลงอดไม่ได้ที่จะรู้สึกว่าเสียงนี้นั่นช่างแข็งแกร่งไปกว่าตัวเขาแม้ว่าพลังของเขาไปถึงระดับลมปราณแล้ว

“ราชินีมด”

ความคิดหนึ่งผดขึ้นมาในหัวเฉินหลง

“ราชินีมดหรือ แล้วอย่างไรละ เพื่อที่เขาจะได้เพิ่มพลัง ถึงเป็นราชินีมดเขาก็จะฆ่า”

เมื่อคิดได้ดังนั้น เฉินหลงเข้าภูเขาไปอีกครั้ง

ก่อนหน้านี้เสียง “ขู่” และเสียงที่ “ขู่” ดังขึ้นไปทั่วทุกมุมของภูเขา

ในเวลาเดียวกัน เฉินหลงรู้สึกได้ถึง“มดสีทอง”ทั้งหมดในภูเขาที่กำลังเข้ามาหาเขา