ตอนที่ 1028 - ตระกูลบูรพา

The Divine Nine Dragon Cauldron

เมื่อจากลู่จือยี่มาแล้วซือหยูมุ่งหน้าไปยังชายแดนสวนตำรา
  เมื่อภัยจากจ้าวสวนตำรายังคงอยู่าเขาจะไม่มีทางปลอดภัยถ้าหากเขาอยู่ในสวนตำราต่อไป
  ครึ่งวันต่อมาซือหยูมาถึงชายแดนที่ล้อมรอบไปด้วยต้นไม้สูงร้อยศอก เขาเป็นเทือกเขาสูงชันจากระยะไกล
  เหนือภูเขามีกระบี่หลายเล่มใบมีดหักพัก และมีดปักอยู่ คลื่นลมส่งเสียงโหยหวนออกมา
  “นั่นคงจะเป็นสวนวิชาสินะ”
  ซือหยูพูดกับตัวเอง
  ในสวนทั้งห้าเขาเดินทางผ่านสวนบุพผาและสวนตำรามาแล้ว เขาค่อนข้างได้สิ่งที่น่าดีใจ ตั้งแต่ตัวจ้าวสวนบุพผาและน้ำผึ้งร้อยบุพผา เขายังได้ตำราหยางของม่อจือเต๋ามาอีก
  เขาอยากจะรู้ว่าสวนวิชามีสิ่งใดอยู่เขาตาลุกวาวเมื่อได้เห็นสวนวิชา แต่เขาก็ต้องหันหลังกลับไปโดยไม่รู้ตัว เพลิงค่อย ๆ สลายไปในป่า ตามมาด้วยคลื่นความร้อนสูง!
  ด้วยพลังมิติที่มีซือหยูยังสัมผัสพลังมิติอ่อน ๆ ที่สัมผัสไม่ได้และกำลังสั่นไหวอีกด้วย
  “ใครน่ะ?”
  ซือหยูตกใจมีคนเพิ่งจะฉีกมิติมาที่ด้านหลังเขา ถ้าหากไม่ใช่ว่าเขาไวต่อสัมผัสมิติ เขาก็คงจะไม่รู้ตัวเลย
  หรือจะเป็นจ้าวสวนตำรา?ซือหยูคิดก่อนจะส่ายหน้า เพราะถ้าหากเป็นจ้าวสวน เขาก็คงจะถูกจู่โจมไปแล้ว ไม่จำเป็นต้องเร้นกายเช่นนี้
  ซือหยูแววตาแข็งกร้าวเขากำลังถูกคนลึกลับที่ใช้พลังนำทางฟ้าติดตาม เขาถูกตามมานานเท่าใดกัน? แล้วอีกฝ่ายคิดจะทำอะไร?
  ซือหยูมุ่งหน้าไปยังสวนวิชาด้วยความเร็วที่มากกว่าเดิมในตอนนั้นเอง จิตสังหารอันเยือกเย็นพุ่งเข้ามาเขาด้วยความเร็วสูงสุด  ซือหยูหันไปมองสีหน้าของเขาดุร้าย
  “กู้ไทซู!”
  เขาไม่คิดเลยว่ากู้ไทซูจะไล่ตามเขามา!
  กู้ไทซูเห็นใบหน้าซือหยูเช่นกันใบหน้าหล่อเหลาของเขาหมองหม่น
  เขาคิดว่ามีหลายคนที่อาจช่วยลู่จือยี่ได้แต่ซือหยูคือความเป็นไปได้เดียวที่เขาไม่คิดมาก่อนเลย! คนที่มาจากทวีปเฉินหลง ผู้ที่เขาคิดว่าเป็นแมลงต่ำต้อยในอดีต!
  ในกระโจมเทพสวรรค์พฤติกรรมของลู่จือยี่ต่อแมลงตัวนี้นับว่าน่าแปลกใจ และก็ชัดเจนแล้วว่าเจ้าแมลงนี้มีความรู้สึกลึกซึ้งต่อลู่จือยี่เช่นกัน กู้ไทซูเห็นมันทั้งหมดกับตา
  เมื่อคิดถึงเวลาที่ลู่จือยี่จงใจปกปิดเรื่องที่ซือหยูช่วยชีวิตนางกู้ไทซูยิ่งรู้สึกว่าถูกหลอก ทุกคนย่อมรู้ว่ามันหมายความว่าอย่างไรหากผู้หญิงของตนปิดบังเรื่องความสัมพันธ์กับชายอื่น!
  “เป็น!เจ้า! เอง! เรอะ!”   กู้ไทซูบินเข้าหาด้วยความแค้นในดวงตา
  ซือหยูไม่คิดว่าความหวังดีของเขาต่อลู่จือยี่จะทำให้กู้ไทซูเข้าใจผิดไปมากกว่าเดิม
  เขามองกู้ไทซูและต้องเก็บจิตสังหารของตัวเองเอาไว้เพราะเวลานี้เขาไม่มั่นใจเต็มที่ว่าจะสังหารกู้ไทซูได้โดยเฉพาะหลังจากที่เขาได้เห็นฎีกาสวรรค์พิสุทธิ์ขั้นสูงสุดของกู้ไทซู พลังของกู้ไทซูนั้นเกินกว่าจะวัดได้
  เหตุผลที่สองก็คือพลังชีวิตของเขายังฟื้นฟูไม่เต็มที่พลังการต่อสู้ของเขายังไม่อยู่ในขั้นสูงสุด
  เหตุผลที่สามต่อให้เขามีพลังเต็มที่ เขาก็ไม่อยากจะเสียเวลาต่อสู้ที่นี่ เขาจะมีโอกาสนับไม่ถ้วนในการสังหารกู้ไทซูเมื่อออกจากแดนมณี ใยจะต้องรีบร้อน? แดนมณีจะเปิดในทุกร้อยปี และมันไม่ใช่สนามรบ
  กู้ไทซูตระหนักได้เช่นกันถ้าหากเป็นคนอื่น เขาคงจะพุ่งเข้ามาและจับตัวไปสืบสวนแล้ว แต่เขารู้ว่าซือหยูคือผู้ที่สังหารคนอย่างจักรพรรดิโลหิตได้ด้วยมือตัวเอง เขาครอบครองพลังอันน่าสะพรึงกลัวอยู่ เขาไม่อยากจะสู้กับซือหยูจนตัวตายในวันนี้
  หลังจากเก็บรวบรวมรางวัลจากแดนมณีและได้เป็นอสูรเนริมตรการสังหารซือหยูจะเป็นเรื่องง่ายดายกว่ามาก
  สานตาทั้งสองผสานกันปะทุเป็นสายฟ้าจิตสังหารมากมายโอบล้อมทั้งคู่ ต้นไม้ทมิฬรอบ ๆ เหี่ยวเฉาแห้งตายไม่เหลือสิ่งใด
  ก้อนศิลาระหว่างทั้งสองแหลกสลายราวกับโดนฟ้าผ่า
  “ข้ามาแดนมณีครั้งนี้เพื่อหาโลหิตสัตว์วิญญาณหยดสุดท้ายหากทำสำเร็จเมื่อไหร่ มันจะเป็นวันตายของเจ้า!”
  กู้ไทซูชี้หน้าซือหยูด้วยความกระหายเลือด
  เขาเป็นจ้าวเทวะระดับเก้ามานานแล้วถ้าเขาปรารถนาก็ไม่อยากที่เขาจะได้เป็นอสูรเนรมิตร
  กู้ไทซูกดพลังของตัวเองเอาไว้เพราะเขาไม่อยากจะเป็นอสูรเนรมิตรธรรมดาๆ เขาหวังจะปรุงโอสถเก้าภูติและทำกายาวิญญาณค่ายกลเก้าวิญญาณให้สมบูรณ์!
  หากสำเร็จเมื่อใดจะไม่มีอสูรเนรมิตรคนใดที่เทียบเคียงเขาได้ แม้แต่ม่อเทียนฉวนที่ถือว่าแข็งแกร่งที่สุดรองจากเซียนก็นาม นางเองก็จะเทียบเขาไม่ได้
  ถึงตอนนั้นในทั้งจิวโจว จะมีแค่คนที่อยู่ใต้การปกป้องจากราชาเก้าเขตและจ้าวผาบั่นภูติเท่านั้นที่จะปลอดภัยจากเขา!
  “ถ้าเจ้าอยากรู้ว่าใครจะตายนักก็หลับตาซะสิ!”
  ซือหยูพูดอย่างไม่แยแส
  ทั้งสองเผยจิตสังหารออกมามากจนจะแผดเผาอีกฝ่ายทั้งเป็นได้
  ในตอนนั้นเองเสียงหัวเราะเย็นชาดังมาจากความว่างเปล่า
  “ฮ่าๆๆๆทำไมพวกเจ้าไม่ตายไปด้วยกันเล่า?”   เสียงจากความว่างเปล่าดังก้องเสียงฟังดูประหลาด จะเป็นใครไปได้นอกจากจ้าวสวนตำรา?
  เสียงมิติถูกฉีกกระชากดังที่เหนือศีรษะของพวกเขาตำราสามสีปรากฏตัวออกมา
  “จ้าวสวนตำรารึ?”
  ซือหยูแววตาเยือกเย็นผ่านมาหลายวันแล้ว แต่จ้าวสวนตำราก็ยังหาเขาเจอ
  คนดินแดนมีดสวรรค์จะต้องบาดเจ็บล้มตายไปมากการถูกจ้าวสวนตำราตามล่าเป็นเวลานานนั้นคงทำให้เหลือรอดได้แค่หยิบมือเดียว
  กู้ไทซูนำมือไปไพล่หลังและมอง
  “อะไรของเจ้า?เจ้ามีสิทธิ์อะไรมาพูดแทรกพวกข้า?”
  จ้าวสวนตำราไม่รู้เรื่องของกู้ไทซูเลยมันยั่ว
  “เจ้าคนโง่เขลากล้าดียังไงมาทำหยาบคายในดินแดนของข้า! ข้าแค่อยากจะเอาชีวิตน่าสงสารของมันไป ย่อมได้ ถ้าการสังหารเริ่มขึ้นแล้ว ข้าจะส่งเจ้าไปตายกับมันด้วย!”
  เมื่อพูดจบพลังอสูรเนรมิตรมหาศาลกดลงมาจากสวรรค์เข้าปะทะทั้งสอง
  กู้ไทซูหันไปมองซือหยูและหยามจ้าวสวนตำรากลับไป
  “ชีวิตน่าสงสารเรอะ?ข้าว่าเจ้าอยู่ในแดนมณีมานานเกินไปแล้ว เจ้ามันไม่ต่างกับกบในก้นวารี!”
  “กล้าดียังไงมาขู่เอาชีวิตมันทั้งๆ ที่เป็นแค่อสูรเนรมิตรขั้นหนึ่ง?”
  กู้ไทซูถามกลับ
  กู้ไทซูมิได้ชื่นชมซือหยูแต่พูดความจริงที่เขาได้รับรู้มาถ้าหากซือหยูอยากจะสังหารจ้าวสวนตำรา มันก็เป็นเรื่องง่ายดั่งปอกกล้วย
  ในตอนนี้กู้ไทซูไม่อยากจะยอมรับว่าซือหยูคือศัตรูที่แข็งแกร่งที่สุดของเขาเป็นแค่คนธรรมดาในสายตาของคนอื่น เพราะถ้าหากเขายอมรับ ชื่อเสียงของเขาจะไม่เป็นมลทินรึ?
  จ้าวสวนตำราตกใจมันสัมผัสพลังมหาศาลของกู้ไทซูได้ แต่กับซือหยู เขาไม่ได้เป็นแค่ภูติระดับเก้าตัวน้อยหรอกหรือ?
  จ้าวสวนตำราเย้ยหยันทั้งที่หวั่นใจ
  “พวกเจ้าก็ยังคงชอบแสร้งทำเป็นว่าคนอื่นแข็งแกร่งกว่าเจ้าคิดว่าข้าจะถูกหลอกได้ง่าย ๆ เรอะ?”
  เมื่อพูดจบพลังอสูรเนรมิตรจากร่างของมันก่อตัวเป็นเงาสูงพันศอก มันเข้าปะทะกับทั้งสอง เป้าหมายแรกคือกู้ไทซู!
  กู้ไทซูไม่เกรงกลัว
  “เจ้าประเมินตัวเองสูงไปแล้ว!”
  ลำแสงเก้าสายปะทุออกมาจากร่างกู้ไทซูพวกมันเหมือนกับถ้ำขนาดใหญ่เก้าแห่ง แสงสีม่วงที่แขนขวาของเขาสว่างที่สุด เขากำหมัดขวา แสงสีม่วงเข้ารวบรวมที่มือ มือซ้ายยังคงไพล่หลัง เขาปล่อยหมัดขวาไปยังท้องนภา
  ตู้ม!ปั้ง!   ตำราเล่มยักษ์แลดูยิ่งใหญ่แต่ด้วยกำปั้นของกู้ไทซู มันได้ขาดครึ่งไปหลายหน
  แรงปะทะของหมัดถาโถมเข้าใส่ตัวจ้าวสวนตำราจ้าวสวนพยายามป้องกันตัวเอง novel-lucky
  แต่ก็เกิดเสียงดังลั่นขึ้นพลังที่จ้าวสวนตำราใช้ป้องกันแตกสลายไป จ้าวสวนตำราร่างต้นกระเด็นไปด้านหลัง
  น้ำเสียงอวดดีของมันแทนที่ด้วยความตกตะลึง
  “หมัดนั่น…ไม่สิมันคือร่างกายเจ้า! กายาเก้าวิญญาณ!! เป็นไปได้ยังไง? เจ้ามีสายเลือดอันดับสามงั้นเรอะ?”
  น้ำเสียงของจ้าวสวนตำราเต็มไปด้วยความตกตะลึง
  กู้ไทซูตะโกน
  “ข้าคิดว่าเจ้าจะเก่งกว่านี้นะ!”
  เขายกมืออีกครั้งและปล่อยหมัดออกไปเขาเล็งไปที่จ้าวสวน
  จ้าวสวนตำรากระเด็นไปไกลพร้อมเสียงกรีดร้องร่างต้นของมันเสียหายและฉีกขาดราวกับบาดเจ็บหนัก
  ไม่นานกู้ไทซูก็พับแขนเสื้อและมองจ้าวสวนตำรา
  “ได้ยินว่าสวนที่หกจะเปิดได้ถ้ารวบรวมจ้าวสวนทั้งห้ามาด้วยกัน!ข้าไม่แน่ใจว่าจ้าวสวนคนอื่นจะถูกจับตัวไปแล้วหรือไม่”
  ทำให้จ้าวสวนที่เป็นอสูรเนรมิตรบาดเจ็บหนักและจับตัวทั้งเป็นนั้นกินเวลากู้ไทซูเพียงไม่นานในใจซือหยูหวาดผวาเมื่อเห็นสิ่งที่เกิดขึ้น นี่คือพลังเพียงเล็กน้อยของกู้ไทซู!
  แต่ในตอนนั้นเองซือหยูก็ตาเปล่งประกายราวกับสายฟ้าเมื่อมองกู้ไทซูด้านหลัง
  รอยแยกมิติปรากฏที่ด้านหลังของเขามืออันงดงามยื่นออกมาคว้าตัวจ้าวสวนในมือกู้ไทซู
  กู้ไทซูตะคอก
  “ออกมา!”
  เขาจับตัวจ้าวสวนตำราด้วยมือขวาอย่างแน่นหนาเขาส่งแรงมากไปอีก
  เสียงตะโกรนของสตรีดังมาจากรอยแยกมิติ
  ตามด้วยเสียงวิหคเพลิงกรีดร้องเพลิงคลั่งพุ่งออกมา
  ซือหยูหันไปจ้องมองเขาพบสาวน้อยอ่อนหวานน่ารักยืนอยู่บนวิหคเพลิงเมื่อนางถูกกู้ไทซูดึงตัวออกมา
  นางในเย็นเมื่อเจอกับกู้ไทซูเพลิงสีส้มพุ่งออกมาจากมือขวาที่ถูกกู้ไทซูจับลาก
  กู้ไทซูเห็นว่าฝ่ามือของเขาแปลกไปและปล่อยมือทันทีสาวน้อยกระโดดตีลังกาออกมาจากรอยแยกมิติพร้อมกับวิหคเพลิง
  นางทิ้งระยะห่างจากกู้ไทซูพันศอกนางจ้องมองจ้าวสวนตำราในมือของเขา
  เด็กสาวคนนี้อายุราวสิบแปดปีผิวของนางเรียบเนียนไร้ที่ติ นางมิได้สวยงามนัก แต่นางอ่อนหวานราวกับน้องสาวในวัยเด็ก หลายคนคงชอบนาง  แต่ถ้าหากคิดถึงพลังของนางและวิหคเพลิงที่นางเหยียบอยู่และคิดว่านางไร้พิษภัยนั่นก็คงจะเป็นการคิดผิดมหันต์
  นางเป็นจ้าวเทวะระดับเก้าในขั้นสูงสุดแต่ภัยที่นางทำได้นั้นยิ่งใหญ่กว่า
  วิหคเพลิงที่นางยืนอยู่บนแผ่นหลังคือสัตว์อสูรเนรมิตรมันดุร้ายมากและเทียบพลังกับจ้าวสวนตำราได้เลย
  กู้ไทซูมองฝ่ามือร้อนผ่าวของตัวเองเขาเห็นเศษแก้วติดอยู่
  “ผลึกหญ้ารึ?”
  กู้ไทซูหนักใจเขาสะบัดมือ ผลึกหญ้าหายไปก่อนจะเกิดขึ้นมาใหม่
  เขามองสาวน้อยและชักสีหน้า
  “เจ้าคือบุตรสาวคนที่สองตงฟางเถียนเฟิงรึ?”
  ตงฟางเถียนเฟิง?นี่คือนามที่ซือหยูไม่เคยได้ยินมาก่อนเลย เขาไม่เคยได้ยินมันสักครั้ง แต่ไม่ผิดแน่ นาจะต้องเป็นคนที่แอบตามเขามาจนถึงตอนนี้ พลังของนางมิใช่ธรรมดา เพราะนางสามารถต่อสู้กับกู้ไทซูได้โดยไม่เสียเปรียบ
  ซือหยูยิ่งตกใจเมื่อเห็นว่าคนอย่างกู้ไทซูหวั่นเกรงนาง
  สาวน้อยลูบข้อมือดวงตาสดใสของนางเป็นประกาย นางบ่น
  “ข้าเจ็บนะ!บอกมาว่าเจ้าจะชดใช้ข้ายังไง?”
  กู้ไทซูปิดบังจิตสังหารเขาไม่ได้แสดงความรำคาญที่นางจู่โจมเขา เขากลับยิ้ม
  “อภัยให้ข้าด้วยที่ไม่ทันรู้ว่าเป็นเจ้าแม่นางเถียนเฟิง เป็นความผิดข้าเอง”
  กู้ไทซูเหลือบมองจ้าวสวนตำราในมือและพูดด้วยความใจกว้างตรงไปตรงมา
  “หากแม่นางเถียนเฟิงอยากได้ตัวจ้าวสวนตำราข้าจะมอบให้เป็นของขวัญแทนการชดเชยของข้า”
  ดูจากคำพูดกู้ไทซูนั้นอยากจะเอาใจแม่สาวน้อยคนนี้
  ซือหยูแปลกใจเขารู้ว่ากู้ไทซูไม่ใช่แค่ศิษย์ของตำหนักเมฆาม่วง เขายังเป็นคนที่เกี่ยวข้องกับราชาเขตกลางในหลาย ๆ ทาง ตัวตนของเขานั้นเหนือกว่าคนทั่วไป
  ถ้าหากคนอย่างเขาประจบประแจงสาวน้อยตรงหน้าเช่นนี้แล้วตัวนางจะแข็งแกร่งเพียงใดกัน?
  ถ้าซือหยูรู้ว่าตงฟานเถียนเฟิงมาจากทวีปตะวันออกมาจากตระกูลที่สร้างเซียนได้ถึงสองคน เขาคงจะไม่แปลกใจ เพราะนางคือสมาชิกของตระกูลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก นางมาจากตระกูลบูรพา!
  ยิ่งไปกว่านั้นตงฟางเถียนเฟิงยังเป็นหนึ่งในสี่นภาจรัส นางไม่ได้อ่อนแอไปกว่ากู้ไทซูแน่นอน แล้วทำไมกู้ไทซูจะไม่พยายามเป็นมิตรกับคนที่สูงส่งเช่นนี้เล่า?
  เป้าหมายของเขามิใช่สวนที่หกอยู่แล้วแต่เป็นโลหิตของจิตวิญญาณหยดสุดท้าย  ตงฟางเถียนเฟิงเบ้ปากเชิดคางราวกับนกยูงโอหังตัวน้อย
  “เจ้าโชคดีที่รู้จักกาลเทศะ!”
  กู้ไทซูยิ้มและก้าวออกมายื่นจ้าวสวนตำราให้
  ก้าวแรกในการผูกมิตรกับนางถือว่าสำเร็จ
  แต่ตงฟางเถียนเฟิงมิได้รับของขวัญของเขานางกลับพูด
  “ข้าไม่ต้องการมัน!”
  รอยยิ้มของกู้ไทซูหายไปเขาถาม
  “แม่นางเถียนเฟิงไม่อยากได้จ้าวสวนตำราหรอกรึ?”
  “ไม่ทุกสิ่งที่ข้าต้องการคือจ้าวสวนบุพผา”
  ตงฟางเถียนเฟิงชายตาสดใสมองไปยังซือหยู
  “จ้าวสวนบุพผาเป็นของข้าตั้งแต่แรกแต่เจ้าเอาตัวนางไป!”
  แท้จริงแล้วตอนที่ซือหยูเห็นผลึกหญ้าในมือกู้ไทซู เขาก็รู้ว่าตงฟางเถียนเฟิงคือสตรีจากตระกูลบูรพาที่ศิษย์พี่ใหญ่สำนักช่างสวรรค์เอ่ยถึง นางตามเขามาตั้งแต่สวนบุพผาสินะ?
  แต่ซือหยูก็ไม่คิดจะสยบต่อตงฟางเถียนเฟิงเขาหวังจะเก็บตัวจ้าวสวนบุพผาไว้ปลดพันธนาการของสวนที่หกเพื่อรับสมบัติจากที่นั่น
  “ขออภัยนามเจ้าไม่ได้สลักอยู่ที่ตัวจ้าวสวนบุพผา เจ้ามีสิทธิ์อะไรมากล่าวอ้างเช่นนี้?”
  ซือหยูถามอย่างไร้อารมณ์เขาไม่คิดจะมอบจ้าวสวนบุพผาให้
  ตงฟางเถียนเฟิงโมโห
  “ถ้าเรื่องอื่นไม่มาขวางข้าจนข้ามาช้าจ้าวสวนบุพผาก็เป็นของข้าไปแล้ว!”
  ซือหยูหันไปประสานหมัดให้นาง  “ข้าก็มีเรื่องสำคัญเช่นกันข้าคงไปไหนมาไหนกับเจ้าไม่ได้ ถ้าไม่มีอะไรข้าก็ขอตัวก่อน”
  กู้ไทซูยิ้มอย่างสนใจเมื่อมองสิ่งที่เกิดขึ้น
  ซือหยูโง่เขลานักที่ทำให้บุตรสาวลำดับสองของตระกูลบูรพาโกรธแค้นฮ่าๆๆๆ!
  แม้ว่าตงฟางเถียนเฟิงจะไม่ทำอะไรก็มีคนมากมายในแดนมณีที่ยินดีจะต่อสู้เพื่อนางรวมถึงสามนภาจรัสที่คนที่เหลือด้วย!
  “ข้ารู้ข้าเลยจะแลกนางกับจ้าวสวนตำรายังไงล่ะ!”
  ตงฟางเถียนเฟิงหันไปมองกู้ไทซู
  “เจ้ารออะไรอยู่?เอาตัวจ้าวสวนตำราให้เขาซะ! ข้าไม่เคยเจอใครกะโหลกหนาอย่างเจ้ามาก่อนเลย!”
  กู้ไทซูโกรธแค้นในใจทันที!
  ให้ตัวจ้าวสวนตำราที่เขาจับกับซือหยู…ตงฟานเถียนเฟิงเห็นเขาเป็นตัวอะไรกัน?ข้ารับใช้ที่ต้องรับฟังคำสั่งจากนางงั้นเรอะ?   คงจะไม่เป็นไรหากนางให้มันกับคนอื่นแต่คนคนนั้นคือซือหยู!
  ความแค้นอัดแน่นเต็มอกเขายืนนิ่งไม่ไหวติง