กรามลั่น

 

“พระเจ้า ฉันไม่ได้เข้าใจผิดใช่รึเปล่า” ถังฮ่าวหลุดปากออกมาแทบจะทันทีที่เห็นคริสตัลสีแดงนั้น เขาจ้องจนตาแทบถลนออกมา

 

“ขอผมตรวจดูใกล้ๆก่อนนะ” คุณหวู่นั้นแสดงท่าทางตกใจยิ่งกว่า เขาแทบจะควักเอาเครื่องมือต่างๆของเขาออกมาในทันทีในขณะที่จ้องคริสตัลตาไม่กระพริบ ยิ่งเขาดูมากเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งประหลาดใจมากขึ้นเท่านั้น จนในที่สุดเมื่อตัดสินการประเมินแล้วคางของเขาก็อ้ากว้างจนแทบจะตกไปตามพื้น มือของเขาสั่นเทิ้มด้วยความตื่นเต้น

 

“ใช่แล้วมันเป็นของจริง มันคือเลือดนกพิราบแดง แถมดูเมื่อเหมือนว่าจะเป็นเลือดนกพิราบแดงที่สมบูรณ์ที่สุดเท่าที่เคยพบมา พระเจ้า น้ำหนักขนาดนี้อย่างน้อยก็ 50 กะรัตได้เลย มันไม่ควรจะมากกว่านั้นนะ ถ้ามากกว่าล่ะก็…” ตอนที่คุณหวู่มาที่นี่นั้นเขาเองก็เตรียมตัวเตรียมใจไว้บ้างเหมือนกันเพราะเขาเองก็ได้ยินชื่อเสียงของซูจิ้งมาก็ไม่ใช่น้อยๆ แต่พอพบแล้วเขาบอกได้เลยว่าแค่คำพูดไม่ได้สิ่อเท่าเห็นกับตาเลยจริงๆ

 

“งั้นฉันก็ดูไม่ผิดจริงๆสินะ” ซูจิ้งยิ้มแหยๆกับความงี่เง่าของตัวเองก่อนหน้านี้

 

“ซู คุณซู ถ้างั้นคุณก็รู้จักเพชรนี่อยู่แล้ว แล้วทำไมคุณยังทำตัวปกติได้อีกหล่ะ” ทั้งถังฮ่าวและหวู่เหลามองซูจิ้งด้วยท่าทางที่ยากจะยอมรับได้

 

พลอยแดง(รูบี้)แค่เอ่ยชื่อก็คงคุ้นหูกันบ้าง

แต่มีสิ่งหนึ่งที่น้อยคนจะรู้นั้นก็คือพลอยแดงอีกเกรดหนึ่งที่เรียกว่าพลอยเลือดนกพิราบแดง

เจ้าพลอยเลือดนกพิราบแดงนี้ที่เรียกกันอย่างนั้นก็เพราะสีแดงที่เข้มและลักษณะที่สวยงาม

ราคาของมันค่อนข้างแพงนั่นก็เพราะว่าผลชนิดนี้ในท้องตลาดมีจำนวนที่น้อยมาก

ส่วนใหญ่จะมาจากเหมืองพลอยในพม่า

บางคนก็บอกว่าเจ้าพลอยแดงเลือดนกพิราบนี่มีค่าพอๆกับเพชรเลยทีเดียว

ในปัจจุบันนี่มีผู้จำหน่ายพลอยหลายเจ้าที่ยินยันว่าพลอยของเขาคือพลอยแดงเลือดนกพิราบ

ซึ่งในความจริงแล้วพลอยเกรดนี้จำเป็นต้องดูในปัจจัยหลายๆด้านไม่ว่าจะเป็นสี ความบริสุทธ์ โทนสี และเฉดสี

ซึ่งในปัจจุบันราคาของพลอยแดงเลือดนกพิราบจะอยู่ที่สองหมื่นถึงสามหมื่นดอลล่าต่อหนึ่งกะรัต

ซึ่งเป็นไปไม่ได้เลยที่จะหาซื้อได้ตามช่องทางปกติหรือห้างร้านทั่วไป

 

ในปี2011 โรงประมูลแห่งหนึ่งในภาคกลางได้ประมูลพลอยแดงชั้นยอดจำนวนสองก้อนที่ได้มาจากเหมืองพลอยในหมู่บ้านหมากู่

โดยบริษัทเบาเกอลี่ ได้ประมูลไปเม็ดหนึ่งมีน้ำหนัก 27.67 กะรัต มันเป็นแหวนพลอยแดงประดับเพชรมูลค่าเริ่มจาก 12 ล้าน สิ้นสุดการประมูลที่ 20 ล้านดอลล่าฮ่องกง ซึ่งในตอนนั้นถือได้ว่าเป็นพลอยแดงเลือดนกที่ใหญ่ที่สุดในโลกที่มีการบันทึกเอาไว้

พลอยแดงเลือดนกอีกชนิดหนึ่งเรียกว่า คาร์เมนลูเซีย เป็นพลายจากพม่าในช่วงปี 1930 มันถูกจัดให้เป็นพลอยชั้นหนึ่ง

โดยพิพิธภํณฑ์ประวัติศาสตร์ธรรมชาติในสหรัฐเองก็ได้มันมาจำนวน 1 กะรัต ส่วนราคานั้นมีแต่พิพิธภัณฑ์เท่านั้นที่รู้

 

และตรงหน้าของพวกเขาในตอนนี้คือพลอยเลือดนกพิราบที่มีความโปร่งใสและสวยมากกว่าทุกชิ้นที่กล่าวมาแถมยังมีน้ำหนักมากกว่า 50 กะรัต ไม่ต้องสงสัยเลยว่าทำไมทั้งคู่ถึงตกใจอย่างเห็นได้ชัดเกินกว่าจะควบคุมได้ เอาจริงๆไม่จะเป็นต้องรู้เรื่องอัญมณีแค่เห็นขนาดก็ต้องตกใจกันหมดเช่นกัน

 

“คุณซูพอจะมีที่ชั่งดิจิทอลรึเปล่าครับ” หวู่เหลาถามอย่างกระตือรือล้น

 

“มีนะ” ซูจิ้งนำที่ชั่งดิจิทอลออกมา และหวู่เหลาได้บรรจงชั่งอย่างระมัดระวัง ข้อมูลที่ขึ้นแสดงให้เห็นว่าน้ำหนักอยู่ที่ 12 กรัมหรือก็คือ60 กะรัต ทำให้หวู่เหลาเมื่ออ่านตาชั่งแล้วต้องตกใจจนผงะไปเล็กน้อย

 

“คุณซู อัญมณีก้อนนี้…” ถังฮ่าวพูดออกมาด้วยความตื่นเต้นเพื่อที่จะคุยเรื่องการค้า แต่เขาก็ต้องหยุดชะงักเพื่อหาเหตุผลที่จะทำให้ซูจิ้งยอมปล่อยอัญมณีเม็ดนี้ให้เขา แต่พอนึกถึงว่าการจะขายอัญมณีพวกนี้จำเป็นจะต้องกรีดเลือดตัวเองไปก่อนอย่างลึกมากแล้วล่ะก็ กว่าจะทุนคืนก็น่าจะนานไม่ใช่น้อยเพราะด้วยขนาดและความสวยงามนี้ต่อให้มีคนอยากได้ทั่วหล้าแต่ราคาอยากหยั่งถึงได้

 

“ฮ่าฮ่า เอาเป็นเรามาดูเม็ดอื่นกันก่อนดีกว่านะ” ซูจิ้งชี้ไปที่อีกสองเม็ดที่เหลือ

 

ถังฮ่าวนั้นมัวแต่สนใจพลอยแดงเลือดนกพิราบมากเกินไปเพราะความเด่นสะดุดตาจนเขาไม่ได้สังเกตุไพลินอีกสองเม็ดไปเลย เขานั้นได้ค่อยๆตั้งใจดูไพลินได้ซักพักเขาก็แสดงอาการตกใจออกมา เช่นเดียวกับหวู่เหลาที่หยิบไพลินอีกก้อนไปดูแล้วก็ทำท่าตกใจไม่ต่างกัน

 

พวกเขานั้นในตอนแรกดูไพลินทั้งสองก้อนโดยไม่ได้แตะต้องก็เห็นแค่ว่าเป็นไพลินน้ำงามธรรมดาเท่านั้น แต่เมื่อสังเกตุดีๆก็พบว่าในไพลินมีจุดดาวข้างในอยู่หกจุด ซึ่งมันสวยงามมาก พอพวกเขาลองหมุนไพลินดูก็พบว่าจุดดาวพวกนั้นขยับตาม ในไม่ช้าก็มีคนหนึ่งอุทานออกมาว่า

 

“พระเจ้า นี่มันไพลินดาวชั้นเลิศ” หวู่เหลาอุทานมาด้วยความตกใจ

 

“ทั้งความเปล่งประกาย ความโปร่งแสง แสงดาวเป็นประกายสมบูรณ์ การหักเหของแสงดีเยี่ยม กระจ่าง และสว่างจ้า แถมยังขนาดใหญ่ขนาดนี้ นี่เป็นครั้งแรกเลยที่เคยได้เห็นไพลินประกายดาวใหญ่ขนาดนี้” ถังฮ่าวแสดงความตื่นเต้นออกมาไม่แพ้กัน

 

“มันเรียกว่าไพลินประกายดาวงั้นหรอ มันพิเศษยังไงหล่ะ” ซูจิ้งนั้นจะถามในสิ่งที่เขาไม่เข้าใจทุกครั้ง เข้ารู้จักไพลินดี แต่เขาไม่ค่อยคุ้นหูกับไพลินประกายดาวมาก่อน ทำให้เขาไม่รู้ว่ามันวิเศษตรงไหน

 

“เอาง่ายๆก็คือเป็นไพลินที่ให้กำเนิดแสงได้ด้วยตัวมันเอง เหตุผลก็เพราะมันมีแร่เซริไซตอยู่ภายใน

ในขั้นตอนการเจียระไนนั้นเมื่อใดก็ตามที่เจียระไนผิวของอัญมณีในองศาที่จำเพาะเท่านั้นถึงจะเกิดแสงประกายดาวขึ้น

และการทำให้เกิดแสดงประกายดาวได้ถึงหกจุดแสดงว่าผู้เจียระไนต้องมีความแม่นยำอย่างสูงทำจะทำให้เกิดมุมตกกระทบกับแร่เซริไซตที่อยู่ตรงกลางก้อนแร่

เคยมีข่าวลือมาก่อนว่ามีคนเจียระไนได้สองจุดประกายแสงแต่การหักเหของแสงประกายดาวไม่สมบูรณ์พอทำให้ราคาตกไป” หวู่เหลาเว้นพักหายใจพักหนึ่งก่อนที่จะพูดต่อ

 

“มาตรฐานของประกายแสงดาวในอัญมณีถือได้ว่าเป็นเรื่องสำคัญในวงการอัญมณี ยกตัวอย่างเช่นในกรณีการที่มีประกายแสงดาวในอัญมณีถึงหกจุดก็ต้องดูว่าแสงในแต่ละจิตนั้นมีการส่องประกายเชื่อมถึงกันรึเปล่า ถ้าเช่นถึงกันแล้วมีความชัดแค่ไหน แล้วมุมในการเชื่อมถึงกันมีความสมดุลกันหรือไม่ ยิ่งชัด ยิ่งเชื่อมถึง ยิ่งราคาดี และบอกได้เลยว่าไพลินสองเม็ดนี้ไม่ได้ต่ำการมาตรฐานเลยซักด้าน”

“น้ำหนักเท่าไหร่กัน” ถังฮ่าวพูดเสร็จก็ค่อยๆบรรจงวางไพลินทั้งสองเม็ดในตาช่างดิจิทัล พวกมันทั้งสองหนักเท่ากันนั่นก็คือ 15 กรัม หรือก็คือ 75 กะรัต

 

“ฉันยังสติดีอยู่สินะ” ทั้งถังฮ่าวและหวู่เหลาในตอนนี้ตื่นเต้นเล็กน้อย ด้วยตัวของน้ำหนักนั้นไม่ได้ทำให้เขาตกใจเท่าไหร่นักเพราะว่า อัญมณีแห่งอินเดียที่ตั้งอยู่ในพิพิธภัณฑ์นิวยอร์กนั้นมีขนาดถึง 563 กะรัตซึ่งถือได้ว่าเป็นสมบัติหายากอย่างหนึ่งแต่ เมื่อเทียบกับไพลินคู่นี้ที่มีน้ำหนักน้อยกว่ามาก แต่ฝีมือการเจียระไนต่างกันหลายขุมนัก

 

“เดี๋ยวก่อนนะ ผมขอลองอะไรบางอย่าง” หวู่เหลาเปลี่ยนสีหน้าก่อนที่จะหยิบโคมไฟขนาดเล็กออกมาจากกระเป๋า แล้วให้มันส่องแสงสีเหลืองให้ตกกระทบบนไพลิน ไพลินเองก็ได้เปลี่ยนสีเป็นสีม่วง เมื่อเขาใช้แสงยูวี ไพลินก็เปลี่ยนเป็นสีแดง “พระเจ้านี่มันไม่ใช่ไพลินประกายแสงธรรมดา แต่เป็นไพลินประกายแสงที่เปลี่ยนสีได้”

 

โดยปกตินั้นไพลินประกายแสงที่เปลี่ยนสีได้นั้นหาได้ยากยิ่งกว่าไพลินประกายแสดงนับพันเท่า ส่วนใหญ่ที่พบจะเป็นน้ำหนัก 3 กะรัต ถ้ามีเจอที่น้ำหนักมากกว่า 5 กะรัตถือได้ว่าหาได้อยากยิ่ง ถ้าขนาดใหญ่กว่า 10 กะรัตถือได้ว่าเป็นของขวัญจากพระเจ้าเลยก็ว่าได้ ก้อนที่ใหญ่ที่สุดที่ได้รับการบันทึกไว้คือปี 2013 ช่วงเดือนพฤศจิกายน ได้มีการจัดแสดงเพชรดวงดาวม่วงครามขึ้น ซึ่งผลงานการออกแบบของนักเจียรไนอัญมณีของจีน ซึ่งถือได้ว่าเป็นไพลินเปลี่ยนสีก้อนที่ใหญ่ที่สุดน้ำหนักอยู่ที่ 67.98 กะรัต ซึ่งเป็นข่าวดังไปทั่วโลก

 

ไม่ต้องพูดถึงสองเม็ดนี้ที่มีน้ำหนัก 75 กะรัต แถมยังเป็นไพลินเปลี่ยนสีได้ทั้คู่ ตอนนี้ หัวใจ ของถังฮ่าวและหวู่เหลาเต้นไม่เป็นส่ำ หายใจติดขัด มึนงง หน้ามืดไปชั่วขณะ