หนูวิเศษ
ถังฮ่าวและหวู่เหลาทั้งสองแสดงท่าทางตื่นเต้นออกมาอย่างออกหน้าออกตา แต่พวกเขาไม่ได้ถามถึงราคาเพราะพวกเขารู้ดีว่าร้านของเขานั้นไม่มีทางที่จะได้อัญมณีทั้งสามนี้มาครองอย่างแน่นอน ต่อให้ร้านของพวกเขาจะหาอัญมณีชั้นยอดจากโรงประมูลอื่นมาได้แต่ก็บอกได้เลยว่ายังไม่คู่ควร
ในที่สุดซูจิ้งก็ได้นำอัญมณีที่เคยประมูลออกมาแทน พวกนี้คืออัญมณีที่ทั้งสองหมายตาไว้แต่แรก เหมือนเขาเห็นอัญมณีพวกนี้พวกเขาได้แสดงความตื่นเต้นออกมาเพียงเล็กน้อยเท่านั้น เหตุผลก็คือเขาได้พบเห็นของที่ดีกว่าถึงสามชิ้นไปก่อนหน้านี้แล้วทำให้ต่อมความตื่นเต้นเกิดความด้านชา
หลังจากที่ถังฮ่าวและหวู่เหลาเดินทางกลับไป ซูจิ้งก็ได้ตรงเข้าไปยังสถานีกำจัดขยะห้วงเวลาฯในทันที ตัวเขาเองก็ตื่นเต้นไม่น้อยที่ขยะรอบนี้ดูมีมูลค่าสูงกว่าที่เขาคิด นี่แค่เพิ่งจะเริ่มจัดการเองนะ เขาทนรอไม่ไหวที่จะจัดการขยะส่วนอื่นต่อแล้ว
อย่างไรก็ตามทันทีที่เขาเข้ามาในสถานีต้องตกใจอย่างมาก เขาเห็นเหล่าหมาๆขู่กรรโชก หมาป่าสงครามวิ่งอย่างรวดเร็วเพื่อไล่เจ้าสิ่งมีชีวิตสีน้ำตาล มองแวบแรกมันก็ดูเหมือนหนูทุกประการ เพียงแต่มันมีขนาดตัวที่ใหญ่มากและขนที่หางยาวสุดๆ ยาวพอๆกับหูกระต่ายได้เลย มันดูเหมือนจะน่ารัก แต่ด้วยความเร็วที่พวกมันกำลังวิ่งไล่กันนั้นเร็วมากทำให้มองไม่ถนัดเท่าไหร่ เจ้าหนูด้วยการที่มีที่หลบมากมายและหมาป่าสงครามก็ไม่อยากทำลายกองขยะทำให้มันไม่สามารถจับเจ้าหนูยักษ์นี่ได้ซักที
อย่างไรก็ตามถ้าเป็นหมาและแมวปกติก็คงไม่สามารถ แต่สัตว์เลี้ยงของซูจิ้งได้รับการฝึกฝนจนมีสติปัญญาที่มากกว่าสัตว์ธรรมดา พวกมันเริ่มร่วมมือกันปิดเส้นทางหนีของเจ้าหนู และค่อยๆบีบวงเข้าไปจนจับมันได้
“ดูเหมือนเจ้าหนูนี่จะติดมากับขยะห้วงเวลาฯนะ เป็นไปได้ว่าขนาดของมันเล็กและกลัวจนไม่กล้าขยับตัวเลยตรวจไม่พบก่อนหน้านี้” ซูจิ้งพูดในขณะที่ออกคำสั่งให้เหล่าสัตว์เลี้ยงหยุดคุกคามและปล่อยกระแสจิตเข้าไปเพื่อทำพันธสัญญา ถ้าไม่รีบคงโดนหมาป่าสงครามฟัดกระจุยเป็นแน่
แต่ไม่ทันที่จะทำอะไรได้ เจ้าหนูได้แสดงท่าทีแก้มป่องเหมือนมันกำลังโกรธ ทันใดนั้นได้มีเมฆสีครามปรากฎอยู่ที่ข้างหน้าของมัน
“ปึ้ก” หมาของซูจิ้งโดนโจมตีเหมือนมีร่องรอยถูกน้ำแข็งปาใส่ ร่างกายบริเวณนั้นมีเกล็ดน้ำแข็งเกาะ และมันค่อยๆเคลื่อนไหวช้าลงอย่างเห็นได้ชัดเพราะว่ามันคอยวิ่งวนรอบๆไม่อยู่เฉย เมื่อซูจิ้งเห็นดังนั้นเขารีบกระโดดออกมาแล้วหันไปมองพบว่า เจ้าหนูยังพ่นอะไรบางอย่างสีเหลืองออกมาด้วย ซึ่งเขาสัมผัสได้ว่ามันค่อนข้างอันตรายทีเดียว
“ไม่ดีแล้ว พวกหมาๆออกไปก่อน” ซูจิ้งรู้สึกกลัวในทันที หนูบ้าอะไรกันเนี่ย แล้วเมื่อกี้มันทำอะไรกัน พ่นอะไรออกมา เหล่าหมาๆรีบวิ่งออกมาอยู่แนวหลัง ซูจิ้งเองก็รีบวิ่งเข้าไปเพื่อดูอาการของเจ้าหมาที่โดนเล่นงานพร้อมปฐมพยาบาลในทันที
“อวู้” หมาป่าสงครามโกรธแล้ว ในสายตาของมัน เจ้าหนู่นี่ได้ทำร้ายหนึ่งในลูกน้องใต้อาณัติของมัน ด้วยร่างกายที่เสริมสมรรถภาพมาจากการกินชาถังเข้าไปเต็มพิกัด หมาป่าสงครามรุกคืบเข้าไปด้วยความเร็วสูงสุด ขนของมันตั้งขึ้นจนเห็นเป็นเข็มสีทองรอบตัว
“ปังปัง” เจ้าหนูสีน้ำตาลได้ทำให้เกิดก้อนเมฆสีครามสามก้อนข้างหน้าของมัน สองอันแรกหมาป่าสงครามสามารถหลบได้ แต่อันสุดท้ายนั้นหลบไม่พ้น ซึ่งตอนนี้ความเร็วของหมาป่าสงครามเริ่มลดลงแต่นั่นก็ไม่ใช่ปัญหาเพราะไม่เกือบจะถึงตัวของเจ้าหนูแล้ว
เจ้าหนูรู้สึกกระวนกระวายในทันที
เจ้าหนูรีบกุลีกุจอหันซ้ายหันขวาก่อนที่จะมุดไปในช่องของกองขยะที่มันเห็น สำหรับมันแล้วกองขยะนี่ก็เหมือนเต้าหู้นิ่มๆที่แหวกไปทางไหนก็ง่ายดาย ผิดกับหมาป่าสงครามที่ร่างกายใหญ่โตถ้าจะเข้ามาต้องเสียเวลาขุดเจาะ
“พอได้แล้วหมาป่าสงคราม” ซูจิ้งบอกมาดังนั้นทำให้หมาป่าสงครามหยุดในทันที มันเองก็ตะโกนไปยังซูจิ้งเหมือนไม่เต็มใจมากนักเพราะเจ้าหนูนี่มาหาเรื่องพวกมันก่อนในตอนแรก แถมทำให้มันเสียหน้า แถมตอนนี้ยังทำให้พวกมันโกรธอีก
“คิดดีๆนาถ้าแกเข้าไปขยะมากมายต้องโดนทำลายแหงๆ ถ้าหนึ่งในนั้นเป็นสมบัติหล่ะจะทำยังไง” ซูจิ้งพูดออกมาพร้อมทั้งวางหมาที่ถูกโจมตีในตอนแรกวางไว้กับพิ้นแล้วให้หมาอีกตัวคอยป้องกันไว้พร้อมพูดออกมาว่า “ปกป้องอาซือด้วยหล่ะ”
ตอนนี้ซูจิ้งได้ตรวจสอบอาซือแล้วพบว่าไม่ได้บาดเจ็บร้ายแรงอะไรเพียงแค่หนาวจนตัวชาไปแค่นั้นเอง หลังจากทำการรรักษาไปแล้วตอนนี้ก็เกือบหายดีแต่ซูจิ้งยังไม่อยากให้ลุกขึ้นมาในตอนนี้เท่านั้นเอง มันจึงยกหัวมาเลียมือเพื่อบอกว่ามันดีขึ้นแล้ว
“เจ้าหนูน้อยตัวนี้ฉันจัดการเอง เมื่อฉันทำพันธสัญญากับมันแล้วจะให้มันมาขอโทษนะ” ซูจิ้งพูดออกมาด้วยรอยยิ้ม ทันใดนั้นเขาได้ปล่อยกระแสจิตเข้าไปในกองขยะตรงหน้าในทันที ในไม่ช้าเขาก็พบที่ซ่อนของเจ้าหนูตัวนี้ ต่อให้มันออกไปได้จริงแต่ด้วยเรดาห์พลังจิตของซูจิ้งไม่มีทางที่มันจะหนีออกไปได้เลย
ที่ตรวจพบได้เร็วขนาดนี้ก็เพราะว่าแทนที่เจ้าหนูนี่จะอยู่นิ่งๆซ่อนตัวแต่มันกับวิ่งวุ่นขุดหาทางไปต่ออยู่ไม่หยุด หลังจากนั้นไม่นานมันไปหยุดอยู่ที่มุมๆหนึ่งด้วยสภาพที่เหนื่อยอ่อน หมดแรง หวาดกลัว เมื่อซูจิ้งสำรวจดูรอบๆเหมือนตรงนี้จะเป็นรังของมัน
“เจ้าหนูนี่เป็นตัวอะไรกันแน่นะ แถมสารที่มันพ่นออกมานั่นอีก” ซูจิ้งค่อนข้างจะจริงจังกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เขาค่อยๆปลดปล่อยแระแสจิตเข้าไปยังหนูนี่ เจ้าหนูนี่มีพลังจิตที่มากกว่าสัตว์ทั่วไป เท่าๆที่ประเมินคร่าวๆนี่พอๆกับคนธรรมดาคนหนึ่งเลย อย่างไรก็ตามมันไม่มีทางจะต่อต้านเขาได้ ในไม่ช้าซูจิ้งก็ทำพันธสัญญากับเจ้าหนูนี่ได้ มันค่อยๆออกมาจากกองขยะ ทันทีที่ออกมาเมื่อเห็นบรรดาหมาๆกับหมาป่าเทพสงครามจ้องมองมันอย่างสายตาไม่กระพริบ มันกลัวมากจนต้องวิ่งไปที่เท้าของซูจิ้งแล้วไต่ขึ้นมาจนถึงหัวไหล่ มันได้ทำแก้มพองและแลบลิ้นปลิ้นตาใส่หมาป่าสงครามทันที ดูเหมือนเจ้าหนูนี่ทำตัวเหมือนคุ้นชินกับซูจิ้งเรียบร้อยแล้ว หนึ่งคือมันถูกพันธสัญญาและอีกหนึ่งคือมันค่อนข้างฉลาดเลยทีเดียว
“เฮ่ๆ นี่แกต้องขอโทษพวกเขานะรู้รึเปล่า” ซูจิ้งพูดออกมาเชิงติเตียน
“ฮอว” เจ้าหนูร้องออกมาอย่างไม่อยากจะขอโทษเหล่าหมาๆและหมาป่าสงคราม ถ้าไม่ใช่ซูจิ้งล่ะก็ไม่มีทาง ทันใดนั้นเจ้าหนูก็ได้กระโดดลำดำดิ่งลงไปยังรังของมัน ก่อนที่จะยกคอลเล็กชั่นที่มันเก็บสะสมเอาไว้ เท่าที่ดูจากสีหน้าบอกได้เลยว่าต้องเป็นคอลเล็กชั่นสุดรักแน่นอน
แม้แต่หมาป่าสงครามและหมาตัวอื่นๆเห็นก็ยังต้องหัวเราะออกมาหลังจากนั้นเจ้าหนูได้ไต่กลับไปอยู่ที่ไหล่ของซูจิ้งตามเดิม
“ไหนลองแสดงการโจมตีที่นายใช้มาก่อนหน้านี้สิ” ซูจิ้งพูดพร้อมทำหน้าตาบอกบุญไม่รับในทันทีที่เจ้าหนูไต่มาอยู่บนไหล่
“ฮอว” เจ้าหนูร้องออกมาทันใดนั้นมันก็ทำปากขมุบขมิบจนแก้มมันพองโต ทันใดนั้นก็มีสายลมแรงพัดออกมาตรงหน้าของมัน มันเหมือนมีคนยกซีนพายุหิมะตัดมาไว้ตรงหน้าของเขา เหมือนอยู่ก็มีตู้เย็นมาวางอยู่ก็ว่าได้
“ฉันขอลองหน่อย” ซูจิ้งถึงกับงงเลยทีเดียว พอดูๆไปแล้วมันช่างเหมือนกัยการโจมตีของเวทมนต์น้ำแข็งในตำนานที่ไม่มีสอนในโรงเรียนเวทมนต์ทั่วไปแน่นอน หรือว่านี่จะเป็นสัตว์วิเศษในตำนานกันนะ