ตอนที่ 1582 ส่งคุณไปพันลี้

Pet King นักล่าสัตว์เลี้ยง

บนชายฝั่งทะเลห่างไกลไร้ผู้คน กลับบังเอิญเห็นเท้าขาดสวมรองเท้าข้างหนึ่งถูกฝังอยู่ในชายหาดครึ่งหนึ่ง…เรื่องฆาตกรรมปริศนาแบบนี้ รู้สึกว่าควรจะอยู่ในพล็อตเรื่องโคนันมากกว่า แต่กลับเกิดขึ้นตรงหน้าจางจื่ออันจริงๆ  

 

 

ความจริงมีเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น ฆาตกรก็คือ…ถึงอย่างไรก็ไม่ใช่จางจื่ออันแน่นอน  

 

 

ตั้งแต่พบเท้าขาดข้างนี้ บรรยากาศระหว่างพวกภูตสัตว์เลี้ยงกับฝูงหมาป่าก็อ่อนไหวขึ้นมา แม้ภูตสัตว์เลี้ยงที่อยู่ที่นี่จะดูถูกคนต่างๆ นานา แต่เรื่องกินคนแบบนี้…พวกมันรับไม่ได้  

 

 

ฟราเทอร์เป็นตัวกลาง มันเองก็ลำบากใจมากเหมือนกัน  

 

 

ฝูงหมาป่าก็รู้สึกว่าบรรยากาศผิดปกติ แต่พวกมันไม่เข้าใจว่าทำไม  

 

 

จางจื่ออันไกล่เกลี่ย “พวกนายคิดมากไปแล้ว เจ้าของรองเท้าข้างนี้น่าจะตายในทะเล แล้วถูกคลื่นซัดขึ้นฝั่ง หมาป่าไม่ได้ทำหรอก”  

 

 

พวกภูตสัตว์เลี้ยงตะลึง พวกมันมีอคติและความระแวดระวังต่อสัตว์ป่าแบบหมาป่าก็จริง แต่ไม่ได้คิดถึงขั้นนั้น ถึงอย่างไรถ้าแค่เท้าขาดฝังอยู่ในชายหาดครึ่งหนึ่งก็บอกได้แล้ว ว่าคนคนนี้ไม่ได้ตายในทะเล โอกาสตายบนแผ่นดินมากกว่าตายในทะเลอย่างเห็นได้ชัด  

 

 

เท้าขาดข้างนี้สวมรองเท้าเดินป่า อาจจะเป็นนักเดินป่าคนหนึ่ง อย่างน้อยก็เป็นนักท่องเที่ยวคนหนึ่ง ถึงแม้นักท่องเที่ยวจะหลงใหลกับน้ำทะเลจนอยากลงไปว่ายน้ำแค่ไหน ก็คงไม่ใส่รองเท้าลงน้ำหรอกมั้ง?  

 

 

อีกอย่างชายฝั่งแคลิฟอร์เนียมีกระแสลมหนาวผ่านมา ถึงเป็นช่วงกลางฤดูร้อนก็มีไม่กี่คนที่ยอมลงไปว่ายน้ำ ทะเลที่นี่น่าชมเพียงไกลๆ แต่ไม่น่าแก้ผ้าลงไปเล่น  

 

 

จางจื่ออันรู้ดีว่าข้อสรุปเพียงอย่างเดียวไม่มีทางทำให้พวกภูตสัตว์เลี้ยงเชื่อได้ จึงพูดเสริมอีก “ความจริงแล้วการพบเท้าขาดสวมรองเท้าบนชายฝั่งทะเลตะวันตกของอเมริกาก็ไม่ใช่เรื่องแปลก นอกจากเท้าขาดข้างนี้ตรงหน้าเรา เท้าขาดที่ถูกพบครั้งก่อนก็อยู่บนชายหาดของเกาะท่าเรือรัฐวอชิงตัน ห่างจากที่นี่เกินพันกิโลเมตร เวลาก็คือช่วงวันปีใหม่ของปี 2019…ส่วนตำแหน่งที่พวกเราอยู่ตอนนี้คือทางเหนือของรัฐแคลิฟอร์เนีย พรมแดนติดต่อกับรัฐโอเรกอน ไปทางเหนือของรัฐโอเรกอนอีกก็คือรัฐวอชิงตัน”  

 

 

ก่อนจะมาป่าเรดวูด เขาทำความเข้าใจกับอันตรายของการเดินป่าแล้ว เพราะจะได้ปรับตัวให้เหมาะสมกับสถานการณ์ ตอนที่เขาค้นหาข้อมูล ก็เห็นรายงานของปริศนาเท้าขาดบนชายหาดของชายฝั่งทะเลทางตะวันตกของอเมริกาเหมือนกัน  

 

 

ในช่วงระยะเวลาสิบกว่าปีตั้งแต่เดือนสิงหาคมปี 2007 บริเวณชายฝั่งพรมแดนอเมริกาและแคนาดาพบเท้าคนขาดสวมรองเท้าบ่อยครั้ง ถึงขนาดเอาไปถ่ายทำเป็นซีรีย์ตอนหนึ่งที่มีสาระสำคัญของเรื่องนี้ ไม่ว่าผู้เขียนบทซีรีย์หรือนักวิทยาศาสตร์ รวมถึงนักสืบตำรวจ ต่างก็คิดแทบล้มประดาตายเพื่อหาคำอธิบายที่สมเหตุสมผลให้กับที่มาของเท้าขาดพวกนี้  

 

 

นักวิทยาศาสตร์คิดว่ากระแสน้ำในมหาสมุทรพาเท้าขาดมาบนชายหาด ส่วนชิ้นส่วนอื่นๆ ของศพอาจจะถูกสัตว์ทะเลกัดกินหรือแยกชิ้นส่วนไปแล้ว เพราะเท้าขาดสวมรองเท้าไม่เหมาะกับรสนิยมของสัตว์ทะเล เลยได้แต่ลอยอยู่บนผิวน้ำทะเล จนสุดท้ายถูกซัดมาบนชายหาด เพราะรองเท้าสมัยนี้เบามาก แรงลอยตัวจึงสูงไปด้วย  

 

 

ฟังดูแล้วมีเหตุผลอยู่บ้าง แต่ยังคงอธิบายปัญหาสำคัญอย่างหนึ่งไม่ได้ นั่นก็คือ เรื่องนี้เริ่มตั้งแต่เดือนสิงหาคมปี 2007 แต่ทำไมก่อนหน้านั้นหลายปีถึงไม่เคยเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น?  

 

 

เท้าขาดพวกนี้มีแค่ไม่กี่ข้างที่ถูกยืนยันตัวตนแล้ว บนวิกิพีเดียมีเว็บเพจเฉพาะทางหน้าหนึ่ง บันทึกเวลา สถานที่ ตำแหน่งชัดเจน รูปแบบรองเท้า ขนาด และเอกลักษณ์ต่างๆ ของเท้าขาดที่ถูกพบพวกนี้ หวังว่าจะมีสักวันที่เจ้าของเท้าขาดพวกนี้จะได้เจอกับครอบครัว  

 

 

ข่าวแปลกๆ แบบนี้ดึงดูดความสนใจของผู้คนได้เสมอ ไม่เว้นแม้แต่จางจื่ออัน ตอนนั้นเขาอ่านแค่ผ่านๆ แต่คิดไม่ถึงว่าตัวเองจะได้มาเห็นเท้าขาดบนชายหาดกับตาตัวเอง  

 

 

ก่อนหน้านี้ผู้คนไม่ได้พบเท้าขาดในสถานที่ที่ใกล้ทางใต้ขนาดนี้ แต่นี่ก็ไม่แปลก เพราะสถานที่ที่พบเท้าขาดก่อนหน้านี้คือชายหาดคึกครื้นใกล้ตัวเมือง ผู้คนมักจะพาสุนัขมาเดินเล่นหรือเดินทอดน่องบนชายหาด พบวัตถุแปลกประหลาดได้บ่อยครั้ง แต่ป่าเรดวูดแห่งนี้ห่างไกลผู้คน หลายปีมานี้อาจจะไม่มีคนมาเดินเล่นเลียบชายหาด ดังนั้นก่อนหน้านี้ไม่พบเท้าขาดก็สมเหตุสมผลดี  

 

 

เขาหยิบโทรศัพท์มือขึ้นมาถ่ายรูปเอาไว้ ขณะเดียวกันก็บันทึกตำแหน่งจีพีเอส พอออกจากป่าก็จะอัพโหลดรูปภาพ แก้ไขหน้าเว็บเพจเรื่องนี้บนวิกิเดียใหม่อีกครั้ง  

 

 

ไม่มีใครสามารถอธิบายที่มาของเท้าขาดได้อย่างสมเหตุสมผล แม้จะมีคนคาดเดาทำนองว่าฆ่าตัวตาย จมน้ำตาย ตกเครื่องบินตาย หรือภัยทางทะเล แต่ถ้านึกถึงช่วงเวลาเดือนสิงหาคมปี 2007 กลับหาคำอธิบายที่ชัดเจนไม่ได้ ทั้งที่ก่อนเดือนสิงหาคมปี 2007 ก็มีคนตายจากการฆ่าตัวตาย จมน้ำตาย ตกเครื่องบินตาย และภัยทางทะเลเช่นกัน แต่ทำไมถึงไม่มีคนพบเท้าขาดบนชายหาด?  

 

 

ถ้าคิดดูจากช่วงเวลา คำอธิบายที่มีเหตุผลที่สุดน่าจะเป็น องค์กรทำผิดกฎหมายที่ก่อตั้งประมาณปี 2007 โยนศพผู้เคราะห์ร้ายลงทะเลเพื่ออำพรางความผิด พวกเขาโยนศพในสถานที่เดิม แต่กระแสน้ำทะเลพาน้ำทะเลและศพไปยังทิศทางที่กำหนดไว้เฉพาะ อย่างเช่น ชายหาดที่เชื่อมต่ออเมริกากับแคนาดา  

 

 

จางจื่ออันเล่าเรื่องและข่าวพวกนี้ให้พวกภูตสัตว์เลี้ยงฟัง ความคิดใหม่อย่าหนึ่งผุดขึ้นในหัวของเขากับพวกภูตสัตว์เลี้ยง กลุ่มน่าสงสัยของพวกหลี่ผีเท่อก่อตั้งปีไหน?  

 

 

พวกเขาไม่ค่อยรู้เรื่องของหลี่ผีเท่อและกลุ่มของเขานัก แต่ระหว่างเดินทางในประเทศอียิปต์ ตอนตั้งแคมป์กลางคืน เขาบังเอิญได้ยินหลี่ผีเท่อพูดคุยกับสมาชิกทีมของเขาอย่างดุเดือด น่าจะตั้งใจดึงดูดสาวน้อยไร้เดียงสาในทีมสำรวจทางวิทยาศาสตร์อย่างเหอเหอ พวกเขาพูดกันว่ากลุ่มของพวกเขาก่อตั้งมาสิบกว่าปีแล้ว นับดูแล้วก็พอๆ กับปี 2007 บวกกับที่นี่เป็นรังโจรของพวกเขา…  

 

 

ถ้าการคาดเดาของจางจื่ออันถูกต้อง พวกหลี่ผีเท่อคงไม่ได้มีทำผิดแค่การกักขังหน่วงเหนี่ยวเท่านั้น…อาจจะรวมถึงฆาตกรรมด้วย  

 

 

ส่วนคนที่ถูกหลอกมาที่นี่แต่ไม่ยอมถูกล้างสมองเสียที หลี่ผีเท่อจะเลี้ยงพวกเขาและกันไม่ให้พวกเขาหนีตลอดไหม? คนแบบหลี่ผีเท่อที่แม้แต่เลี้ยงกวางก็รู้สึกยุ่งยากคงไม่ทำอย่างนั้น เขาอาจจะไม่ได้ฆ่าพวกเขาให้ตายทันที แต่แค่ไม่จัดหาอาหารและยาให้อย่างเพียงพอ คนพวกนั้นก็คงจะตายไปเอง ถึงมีชีวิตก็อยู่รอดได้ไม่นานเท่าไร  

 

 

หลังจากคนพวกนั้นป่วยตาย หิวตาย และตายจากความทรมาน หลี่ผีเท่อก็จะสั่งคนโยนศพของพวกเขาลงไปในทะเลเพื่อทำลายศพและหลักฐาน เดิมทีนี่เป็นวิธีปิดบังที่ดีมาก แต่ที่เขาคิดไม่ถึงคือ กระแสน้ำในมหาสมุทรไม่ได้พาศพของคนพวกนั้นออกไปยังทะเลลึก แต่พาไปยังพรมแดนของอเมริกาและแคนาดา  

 

 

แต่ไม่เป็นไร ถึงอย่างไรผู้คนก็คงยากจะเชื่อมโยงเรื่องเท้าขาดกับการกระทำผิดในที่ห่างไกลไม่ได้ น่าเสียดายที่สวรรค์มีตา เพราะจางจื่ออันมาที่นี่และพบร่องรอยของการกระทำความผิดแล้ว  

 

 

ส่วนทำไมเท้าขาดข้างนี้ถึงอยู่ที่นี่ นี่ก็อธิบายได้ง่าย เพราะยังไม่ทันพัดไป กระแสน้ำทะเลจะม้วนเท้าขาดข้างนี้กลับไปในทะเลตอนน้ำลง แล้วซัดกลับไปทางเหนือ  

 

 

นี่เป็นการคาดเดาของเขา ถึงแม้เขาจะคิดเอาเองว่ามีเหตุผลมาก แต่ยังต้องการหลักฐานมาพิสูจน์ ไม่อย่างนั้นก็ได้แต่บอกว่าไร้สาระ