ตอนที่ 1583 ร่างกายซื่อสัตย์เสมอ

Pet King นักล่าสัตว์เลี้ยง

จางจื่ออันพูดการสันนิษฐานของตัวเองจบ พวกภูตสัตว์เลี้ยงก็คิดว่ามีเหตุผลมาก พากันพยักหน้าเห็นด้วย ถึงอย่างไรเขาก็มีวาทศิลป์ โดยเฉพาะเรื่องการเล่นลูกไม้ใส่คนอื่น 

 

 

นักวิทยาศาสตร์และนักสืบตำรวจของอเมริกากับแคนาดาไม่ใช่คนโง่ เรื่องเท้าขาดบนชายหาดที่เกิดขึ้นบ่อยครั้ง พวกเขาก็เคยสงสัยอยู่แปดส่วนว่าเป็นเรื่องที่องค์กรผิดกฎหมายทำหรือเปล่า แต่ก็ติดตรงที่ไม่มีหลักฐานเช่นเดียวกัน 

 

 

กระแสน้ำในมหาสมุทรซับซ้อนอย่างยิ่ง ทุกวันนี้ผู้คนทำได้แค่คาดเดาทิศทางสำคัญของมัน แต่ความจริงแล้วกระแสน้ำอาจจะไหลเป็นรูปทรงสามมิติ ในน้ำทะเลลึกลงไปสามชั้น ชั้นบนสุดอาจจะไหลไปทางเหนือ ชั้นกลางไหลไปทางตะวันตก และชั้นล่างไหลไปทางใต้ ทฤษฎีนี้นับว่ามีความเป็นไปได้ 

 

 

พวกนักวิทยาศาสตร์คิดว่ารองเท้าถูกกระแสน้ำในมหาสมุทรพัดมาบนชายหาด แต่พวกเขาไม่รู้ว่ากระแสน้ำในมหาสมุทรสายไหนพัดพามายังอเมริกาและแคนาดา เงินทุนและฝีมือติดตัวพวกเขาไม่เพียงพอให้ดำเนินการสืบสาวไปจนถึงต้นตอ ถึงอย่างไรเรื่องนี้ก็ไม่ได้เป็นคดีสะเทือนโลก 

 

 

วิธีง่ายที่สุดในการติดตามทิศทางของกระแสน้ำในมหาสมุทรก็คือปล่อยทุ่นลอยติดเครื่องส่งสัญญาณ แล้วใช้ดาวเทียมรับสัญญาณและบันทึกวงโคจรของทุ่นลอยพวกนี้ เพื่อหาวงโคจรของกระแสน้ำในมหาสมุทร แต่วิธีนี้ได้แค่ติดตามกระแสน้ำในมหาสมุทรชั้นตื้น ใช้ไม่ได้กับกระแสน้ำลึกที่ซ่อนอยู่ใต้ผิวน้ำทะเล 

 

 

จางจื่ออันหันหน้าไปเรียกเซฮวา เธอไม่กล้ามองเท้าขาดบนชายหาดตั้งแต่เมื่อครู่แล้ว 

 

 

“เซฮวา ได้เวลาเธอออกโรงแล้ว ก่อนหน้านี้ฉันเห็นวาฬในทะเล เธอไปถามวาฬหน่อยได้ไหมว่าที่นี่มีกระแสน้ำในมหาสมุทรไปทางเหนือหรือเปล่า” เขาพูด 

 

 

เขารู้อยู่แล้วว่ากระแสลมหนาวแคลิฟอร์เนียไหลจากเหนือลงใต้ ถ้าการสันนิษฐานเรื่องเท้าขาดของเขาถูกต้อง ที่นี่จะต้องมีคลื่นใต้น้ำไหลจากใต้ขึ้นเหนือสักสาย ไม่อย่างนั้นคงพาเท้าขาดมายังพรมแดนอเมริกากับแคนาดาไม่ได้ 

 

 

คราวนี้เซฮวาที่ปกติอยากไปเที่ยวเล่นตลอดกลับไม่สมัครใจ 

 

 

“ฉันไม่ไป! ถ้าว่ายไปว่ายมาในน้ำแล้วเจอเท้าขาดลอยมา…ฉันอาจจะกลัวทะเลไปเลยก็ได้นะ!” เธอบ่นพึมพำ ใช้มือกดหน้าอกเอาไว้ “อเมริกาน่ากลัวมาก! ตอนนี้หัวใจดวงน้อยๆ ของฉันกลัวจนเต้นดังตึกตักแล้ว!” 

 

 

จางจื่ออัน “…จะบังเอิญขนาดนั้นที่ไหน? เธอคิดว่าจะเห็นเท้าขาดในทะเลเสมอไปเหรอ อีกอย่างก็มีคนจมน้ำตายหรือฆ่าตัวตายทุกวัน ถึงเป็นในทะเลของเมืองปินไห่ เธอก็อาจจะว่ายน้ำกับศพอยู่บ่อยๆ…” 

 

 

“ไม่ฟังๆ คนน่ารังเกียจสวดมนต์!” 

 

 

เซฮวากลัวจนต้องรีบใช้มือทั้งสองข้างปิดหูเอาไว้ ส่ายหน้าเหมือนกลองสั่น สะบัดผมสีเขียวเข้มในน้ำใส่เต็มหน้าจางจื่ออัน 

 

 

ฟีน่าถลึงตาใส่เขาอย่างโหดเ**้ยม “เจ้าจะโน้มน้าวเช่นนี้หรือ?” 

 

 

จางจื่ออันก็รู้สึกว่าคำพูดล้อเล่นเมื่อครู่เกินไปเล็กน้อย เขาใจกล้า แต่ไม่ได้หมายความว่าคนอื่นจะใจกล้าเหมือนกัน คำพูดล้อเล่นกับคนตายแบบนี้เล่นให้น้อยๆ หน่อยเป็นดี 

 

 

เขาเปลี่ยนคำพูด “ขอโทษที ฉันแค่ล้อเล่น ที่จริงไม่ได้ร้ายแรงขนาดนั้นหรอก พูดตามสถิติแล้ว มีโอกาสแค่หนึ่งในร้อยที่จะเจอเท้าสองข้างของคนลอยคเว้งในทะเล! หนึ่งในร้อยเชียวนะ! โอกาสยังต่ำกว่าฉันถูกล็อตเตอรีรางวัลที่สองหรือเธอกลายเป็นสุดยอดเน็ตไอดอลซะอีก!” 

 

 

“เหอะ! ฉันต้องกลายเป็นสุดยอดเน็ตไอดอลแน่นอน อย่ามาดูถูกฉันเชียวนะ!” เซฮวาพูดอย่างมีน้ำโห 

 

 

“แกว๊กๆ! โอกาสที่คนธรรมดาจะถูกล็อตเตอรีรางวัลที่สองหรือมากกว่านั้นไม่มีอยู่จริงหรอก! เจ้าโง่เอ็งอย่าฝันไปเลย!” ริชาร์ดกลับไม่กลัวเท้าขาด กำลังหวีขนอย่างสบายใจเฉิบ 

 

 

พวกเขาพูดไร้สาระไปเรื่อย สุดท้ายก็ขจัดความรู้สึกกลัวของเซฮวาไปได้ แต่เธอยังมีเรื่องสงสัยอยู่ “โอกาสมีแค่หนึ่งในร้อยจริงๆ เหรอ คุณไม่ได้กำลังเล่นลูกไม้กับฉันใช่ไหม?” 

 

 

“นี่เป็นตัวเลขสถิติที่พวกนักวิชาการคำนวณออกมา เชื่อได้แน่นอน ฉันขอสาบานกับกระเป๋าเงินของฉันเลย” จางจื่ออันควักกระเป๋าเงินออกมา ก่อนจะวางไว้ตรงหน้าอกด้วยสีหน้าเคร่งขรึม 

 

 

ฟราเทอร์ “…” คำสาบานคือการกระทำอันศักดิ์สิทธิ์ มันไม่เคยเห็นใครสาบานกับกระเป๋าเงินเลยจริงๆ 

 

 

“แกว๊กๆ! กระเป๋าเงินของเอ็งไม่มีเงินด้วยซ้ำ หลอกคนอื่นได้ แต่อย่าคิดจะหลอกข้า! ไม่ใช่ว่าข้าไม่เคยเห็นกระเป๋าเงินของเอ็ง แต่ข้างในไม่มีเงินสักแดง!” ริชาร์ดร้อง 

 

 

“นั่นมันตอนอยู่ที่จีน แม้แต่ขอทานที่จีนยังใช้คิวอาร์โค้ดรับเงินกันเลย แต่ที่นี่คืออเมริกา ออกจากบ้านไม่พกเงินไม่ได้ ฉันกลัวเจอโจรแล้วไม่มีเงินให้พวกมันจนยิงฉันไส้แตก!” จางจื่ออันพูด ก่อนเปิดกระเป๋าเงินให้พวกมันดู ข้างในมีธนบัตรดอลลาร์จำนวนไม่เท่ากันอยู่ปึกหนึ่ง 

 

 

“เอาล่ะ งั้นฉันจะลองเชื่อคุณสักครั้ง” คราวนี้เซฮวาถึงได้เชื่อ 

 

 

“???” 

 

 

ฟราเทอร์ทำหน้าตาเหมือนมีเครื่องหมายคำถาม 

 

 

มันไม่เข้าใจตรรกะนี้เลย ใช้กระเป๋าเงินสาบานก็ได้ด้วยเหรอ 

 

 

ไม่ว่าจะพูดอย่างไร ในที่สุดเซฮวาก็รับปากจะไปช่วยตามหาวาฬแล้ว 

 

 

“ฉันไม่ช่วยคุณฟรีๆ หรอกนะ คุณมีอะไรมาแลกเปลี่ยน?” เธอยื่นมือออกมาข้างหนึ่ง ราวกับกำลังขอบางอย่าง 

 

 

เรื่องนี้เธอเหมือนเด็กมาก ขอให้ช่วยทำเรื่องเล็กน้อยก็ต้องมีเงื่อนไข 

 

 

“เธออยากได้อะไรล่ะ?” เขาย้อนถาม 

 

 

“…ตอนนี้ยังไม่ได้คิด” เธอเอียงคอคิด 

 

 

“งั้นเธอคิดได้แล้วค่อยบอก ขอแค่อยู่ในขอบเขตที่รับได้ ฉันก็จะรับปาก” เขาสัญญา 

 

 

เซฮวาพอใจกับคำตอบนี้มาก “เฮอะ ก็ยังใช้ได้!” 

 

 

นานๆ ครั้งเธอถึงจะได้กลับทะเลสักครั้ง จึงดีใจเหมือนมังกรกลับทะเล เสือกลับเข้าป่า พอพุ่งลงไปในน้ำก็หายไปนาน แต่วันนี้เธอกลับเหมือนเด็กที่เพิ่งรู้จักข้ามถนนด้วยหลักการ “หนึ่งหยุด สองมอง สามข้าม” สังเกตน้ำทะเลรอบๆ ด้วยตัวสั่นกลัว เมื่อแน่ใจแล้วว่าไม่มีวัตถุลอยน้ำปริศนา ถึงจะรวบรวมความกล้ามุดหัวลงไปใต้น้ำ ก่อนจะสะบัดหางปลาที่ยาวและแข็งแรง ทำให้เกิดเส้นน้ำสีขาวสายหนึ่ง แล้วว่ายไปในทะเลลึก 

 

 

จางจื่ออันยกกล้องส่องทางไกลขึ้นมา หลังจากวาฬตัวนั้นพ่นน้ำเมื่อครู่ก็เงียบหายไป ไม่รู้ว่าไปแล้วหรือเปล่า แต่เขาเชื่อว่าเซฮวาจะเรียกมันกลับมาได้ 

 

 

เซฮวาราวกับอยากเร่งให้ภารกิจเสร็จโดยเร็วเพื่อออกจากน่านน้ำนี้ให้เร็วที่สุด เธอจึงว่ายน้ำเร็วมาก ไม่นานก็มองไม่เห็นแม้แต่น้ำกระเพื่อมแล้ว 

 

 

จางจื่ออันยกกล้องส่องทางไกลขึ้นมาพร้อมหมุนตัวช้าๆ ตามหาร่องรอบของวาฬบนผิวน้ำทะเล 

 

 

หลังจากนั้นหลายนาที ริชาร์ดก็ใช้ปีกตีหัวของเขา “แกว๊กๆ! ตรงนั้นมีน้ำพุ่ง!” 

 

 

“ตรงไหนๆ?” 

 

 

จางจื่ออันกระปรี้กระเปร่าขึ้นมา รีบเคลื่อนกล้องส่องทางไกลไปตรงนั้น แต่ก็ได้สติในทันที แล้วโบกมือจะตีมัน “พ่นน้ำก็บอกว่าพ่นน้ำ นายอย่าใช่คำพูดชวนเข้าใจผิดแบบนี้สิ!” 

 

 

ริชาร์ดคาดการณ์ถึงปฏิกิริยาเขาได้ จึงบินหนีขึ้นไปบนฟ้าก่อน หลบฝ่ามือของเขา ก่อนจะร้องอย่างภาคภูมิใจ “แกว๊กๆ! ปากบอกว่าไม่ต้องการ แต่ร่างกายซื่อสัตย์เชียวนะ!” 

 

 

จางจื่ออันโมโหจนต้องถลึงตา แต่มันบินอยู่บนท้องฟ้า เมื่อครู่เขาพิงไม้เท้าเดินป่าไว้บนหินโสโครก ตอนนี้ในมือไม่มีอาวุธถนัดมือตีมันได้ ทำได้แค่ปล่อยมันไปก่อน ไปดูการพ่นน้ำ…ของปลาวาฬก่อน