เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า บทที่ 861
ในคุกน้ำ

ยังคงเป็นค่ำคืนมืดมิด แสงเรืองแสงเต็มท้องฟ้า

ลู่ฝานอยู่ที่นี่นานห้าเดือนเต็มแล้ว

หม้อสือฟ้าด้านหน้ามีความวาวของน้ำมันเป็นชั้นหนา เหมือนโดนคนมากมายกินขาหมูเสร็จแล้วไม่ล้างมือมาจับหม้อใบนี้

แสงแวววาวนี้มีชื่อว่าคราบยา

เหมือนคราบชาที่อยู่ในกาน้ำชาตอนดื่มชา ถือเป็นของล้ำค่าชนิดหนึ่ง

กาน้ำชาที่มีคราบชา จึงจะถือว่าเป็นกาน้ำชาที่ดี ชาที่ชงออกมาจะมีกลิ่นหอมเข้มข้น ถึงต้มแค่น้ำเปล่า ก็สามารถทิ้งกลิ่นหอมไว้ในปาก

ส่วนคราบยา คือเศษยาที่หลงเหลือไว้ หลังจากกลั่นยาเสร็จ ด้านในยังมีฤทธิ์ยาแฝงอยู่ สามารถเพิ่มฤทธิ์ยาตอนที่กลั่นยาได้นิดหน่อย อันที่จริงลู่ฝานสงสัยมาก หม้อยาในมือพวกผู้ฝึกชี่ที่แข็งแกร่ง พอเอาออกมามีแสงสะดุดตา เป็นเพราะคราบยาที่สะสมไว้เยอะเกินไปหรือเปล่า

ลู่ฝานยิ้มบางๆ ยื่นมือไปหยิบสมุนไพรที่อยู่ข้างๆ

การกระทำนี้เป็นธรรมชาติมาก ห้าเดือนมานี้ เขาทำมานับครั้งไม่ถ้วนแล้ว

แต่ครั้งนี้ เขาหยิบอะไรไม่ได้เลย

เมื่อลู่ฝานหันไป ตอนนี้เขาเพิ่งเห็นว่าข้างมือตัวเอง ไม่มีสมุนไพรอะไรแล้ว

สมุนไพรที่แต่เดิมกองเป็นภูเขา ถูกเขาใช้ไปจนหมดแล้ว

ลู่ฝานอึ้งนิดหน่อย จากนั้นเขาหัวเราะออกมา

“สมุนไพรถูกฉันกลั่นจนหมดแล้ว ดูเหมือนการกลั่นยาที่บ้าคลั่งครั้งนี้ ควรจบลงสักที”

เมื่อพูดเช่นนี้ ลู่ฝานเก็บหม้อสือฟาง

ลู่ฝานตบเข็มขัดตัวเอง เขา “เห็น” ในจวนอากาศธาตุของตัวเอง มียาวางอยู่เต็มไปหมด

เพราะไม่มีขวดยาเหลือแล้ว จึงต้องวางยาจำนวนมากซ้อนกันไว้

ลู่ฝานพยักหน้าอย่างพอใจ ปราณชี่ในร่างกายปล่อยออกมาทันที

พรวด!

เสียงเบาๆ ดังมาจากฟ้าดิน

ปราณชี่อันแข็งแกร่งปกคลุมทั้งตัวลู่ฝาน แอบเห็นเป็นรูปร่างของเกราะ

ลวดลายหนึ่งลาย ลวดลายสองลาย ลวดลายสามลายจนถึงลายเจ็ดลาย

ลายทั้งเจ็ดลายแสดงถึงวิทยายุทธของลู่ฝานในตอนนี้ คือแดนปราณชีวิตขั้นเจ็ด!

เวลาห้าเดือน ลู่ฝานเริ่มจากแดนปราณชีวิตขั้นสองทะลุไปถึงแดนปราณชีวิตขั้นเจ็ด ความเร็วระดับนี้ ไม่รู้ทำให้พวกโง่ทะนงตัว นักบู๊ที่โอ้อวดตัวเองว่าเป็นอัจฉริยะอับอายตั้งเท่าไร

ถ้าเรื่องนี้ถูกพูดออกไป คงสั่นสะเทือนไม่น้อยกว่าการที่เขาเป็นผู้ตรวจการชั้นกลางแน่นอน

นี่เริ่มตั้งแต่แดนปราณชีวิตระยะแรกทะลุไปถึงแดนปราณชีวิตระยะปลาย เดือนละระดับ ไม่มีอุปสรรค ราบรื่นเป็นอย่างมาก

ลู่ฝานปล่อยและเก็บปราณชี่ออกมาอย่างต่อเนื่อง ไม่มีความช้าเลยแม้แต่น้อย

เมื่อเป็นเช่นนี้ พละกำลังที่ยกระดับด้วยยา ยังไงก็ต้องไม่มั่นคง ยิ่งยกระดับมากเท่าไร ก็ยิ่งควบคุมยาก

เพราะพวกพลังที่ออกมามากมาย ไม่ได้ผ่านการปรับสภาพก่อนใช้งาน ไม่ได้เป็นพลังที่ยกระดับทีละขั้นอย่างมั่นคง ถึงขนาดที่อาจเกิดสภาวะแว้งกัดได้

นี่คือเหตุผลที่ทำไม ถึงเป็นพวกลูกหลานคนรวยที่มีทุน สามารถกินยาได้ทุกวัน ก็ยังไม่กล้ากินยาเยอะ

พลังที่ไม่สามารถควบคุมได้ เหมือนน้ำไหลบ่าสัตว์ป่าบุก กัดกินตัวเอง

แต่สิ่งเหล่านี้ไม่ได้เป็นปัญหาสำหรับลู่ฝาน เหตุผลง่ายดายมาก เพราะลู่ฝานฝึกควบคุมพลังพวกนี้อยู่ตลอดเวลา

มีวันไหนบ้างที่เขาไม่ใช้ปราณชี่กลั่นยาจนหมดพลัง มีวันไหนบ้างที่เขาไม่ได้ใช้ยาค่อยๆ ฟื้นฟูกลับมาจนเป็นปกติ

ยกระดับไปพร้อมกับใช้อย่างหนัก นี่คือวัฏจักรที่ดี ลดผลข้างเคียงลงให้น้อยที่สุด

ขนาดอาจารย์หวูเฉินคงคิดไม่ถึง ผลดีของการฝึกทั้งบู๊และชี่ควบคู่กัน ไม่ใช่แค่ยกระดับอย่างรวดเร็วในช่วงระยะแรก ยังสามารถยกระดับได้มั่นคงด้วย

“ยินดีด้วยเจ้านาย พละกำลังเพิ่มขึ้นเล็กน้อย คิดว่าอีกไม่นาน เจ้านายคงทะลุถึงแดนปราณดินได้ เข้าสู่แดนปราณฟ้า ร่างกายเข้าสู่หยินหยาง มือกุมฟ้าดิน”