TB:บทที่ 244 นักฆ่าทั้งเจ็ด
พลังจิตของราชินีผึ้งไม่มีทางเข้าไปหาเฉินหลงได้ เธอขยับตัวเองไม่ได้ ลูกๆของเธอไม่มีทางเข้าหาเฉินหลงได้ด้วย ในตอนนี้มันจึงปล่อยเฉินหลงไปเลยตามเลย
แม้ว่าพลังของราชินีผึ้งจะมีถึงระดับ “หลอมรวมธรรมชาติ”
แต่พลังของเฉินหลงได้ก้าวไปถึงระดับปลดปล่อยลมปราณแล้ว อีกอย่างหนึ่งคือมีพลังที่เพิ่มขึ้นจากสร้อยเครื่องมือ เขาจึงควบคุมพวกมันได้โดยใช้พลังกระบวนท่าปราบสัตว์อสูรทั้งหมื่น
สิบนาทีต่อมา นอกจากราชินีผึ้งแล้ว เฉินหลงยังมีราชินีผึ้งอีกตัวหนึ่ง
หลังจากนั้นเขาเดินเข้าไปหาราชินีผึ้ง เฉินหลงเก็บเอาน้ำผึ้งทั้งหมดไปด้วย ตัวอ่อนผึ้งและเยลลี่ชั้นเยี่ยมจากรังโดยไม่ต้องเกรงใจ เขาสั่งราชินีผึ้งให้ขยายรังต่อ ทำน้ำผึ้งให้มากขึ้นและวางไข่เพิ่ม หลังจากนั้นเขาออกจาก “เขาผึ้ง” ไป เช่นเดียวกับที่เขาเคยทำ หลังจากนั้น“แมลงป่องหางเสือ”ในเขานี้โดนกำจัดไปหมดแล้ว เขาจึงเรียกภูเขานี้ว่า “เขาผึ้ง”
หลังจากออกจากเขาผึ้งไปแล้ว เฉินหลงเข้าไปด้านในภูเขา
ในเขาทุกลูกมีสัตว์ป่าอยู่ ราชาสัตว์ป่าที่แข็งแกร่งที่สุดในเขาที่ไกลที่สุดมีระดับพลังหลอมรวมธรรมชาติ มีระดับพลังเวทย์มนต์อยู่สิบระดับ ภายในระดับสิบเอ็ดนั้นมีพลังจิตวิญญาณที่สกัดในร่างกาย ภายในส่วนลึกสุดของภูเขามีปรมาจารย์แห่งดวงดาวระดับสิบสองอยู่ ทว่าในตอนนี้พลังของเฉินหลงได้ผ่านพ้นไปถึงระดับแปดของระดับ “ปลดปล่อยพลังลมปราณ” หากว่าเขายังคงจัดการกับพวกลูกน้องแบบนี้ เขาคงไม่อาจจะเพิ่มระดับพลังได้ เขาจะต้องเข้าไปด้านในป่า
“จะมีอะไรอย่างอื่นให้เขาทำอีก” เมื่อเห็นว่าเฉินหลงเขาไปในภูเขาอีกรอบ นักบุญรุ่นเยาว์ทั้งสองที่ซ่อนอยู่ในเมฆพูดอะไรไม่ออก
“ไม่รู้สิ แต่ไม่ต้องคิดมากไป เราควรจะตามไปให้ทันดีกว่า เพื่อกันไม่ให้เขาตกอยู่ในอันตราย” นักบุยไป่รุ่นเยาว์อีกคนว่า
“ข้าหวังว่า เขาจะไม่เข้าไปมากไปนะ ไม่เช่นนั้นเราคงปกป้องเขาไม่ได้” นักบุญเฮ่ยรุ่นเยาว์ว่าอย่างทำอะไรไม่ได้
เฉินหลงในสายตาพวกเขาก็เหมือนเป็นปิศาจ เขาปรับความเข้าใจเกี่ยวกับเรื่องต่างๆ ที่ทำให้เขาคิดได้ว่ามีคนเช่นนี้อยู่จริงๆบนโลก
เขาทุกลูกช่างกว้างใหญ่ และด้วยพลังของเฉินหลงในตอนนี้ เขายังไม่สามารถจะบินได้ เขาจึงใช้เวลากว่าสิบวันเพื่อจะข้ามเขาไป การเดินเท้าช่างเชื่องช้าเสียจริง
ห้าวันต่อมาเฉินหลงไม่อาจจะผ่านเขาลูกที่อยู่เบื้องหลังเขาผึ้งไปได้
เนื่องจากสัตว์ประหลาดในเขานี้คือสัตว์ประหลาดที่คล้ายหมาป่า ทว่าร่างกายของมันใหญ่โตกว่าหมาป่าหลายเท่า ชื่อของมันที่เรียกขานกันใน “นิวเวิร์ล” นี้คือ “อสูรหมาป่ายักษ์” พลังของมันไปถึงระดับ “ลมปราณ”
“ไม่ ฉันทำไม่ได้ ถ้าเข้าไปทางนี้จะต้องใช้เวลาเข้าเขาไปหลายวันทีเดียว เขานี้ยังมีสัตว์ที่แข็งแกร่งอยู่อีกด้วย นี่ไม่ใช่สิ่งที่ฉันต้องการ”
หลังจากที่เฉินหลงตัดอสูรหมาป่าให้ขาดครึ่งแล้วด้วยมีดแล้ว เขารู้สึกไม่สบายใจเล็กน้อย
ด้วยความเร็วขนาดนี้ เวลาจะเสียไปกับการเดินทาง
ในตอนนั้นเองที่เฉินหลงกำลังจะเข้าระบบไปเพื่อดูว่ามีเครื่องมืออะไรใช้บินได้บ้าง เขาพลันได้ยินคนบางคนคุยกัน
“น่าแปลก มีใครคนอื่นมาที่นี่ด้วยหรือ” เฉินหลงมีสายตาที่แปลกไป
เขาทั้งแสนลูกเป็นหนึ่งในสี่สถานที่อันตรายที่ยิ่งใหญ่ในอาณาจักรคุนหลุน เป็นที่ที่อันตรายยิ่งนัก เว้นเสียแต่จะเป็นคนอย่างเฮยจุ่ยที่อยากจะเข้าในภูเขานี้ไปเพื่อขุดเหมือง คนส่วนมากก็จะไม่เข้าไปที่นั่นเลย ทว่าในตอนนี้ คงจะเป็นเรื่องไม่บ่อยนักที่จะมีคนเข้าไปในเขาแสนลูกนี้
เขาไม่ได้คุยกับใครมาหลายวันแล้ว เฉินหลงต้องการจะคุยกับใครสักคน
ไม่นาน คนของ “คุนหลุน” เจ็ดคนก็ปรากฏกายเบื้องหน้าเฉินหลง ห้าคนจากเจ็ดคนนั้นคือยักษ์ขาวอีกสองคนเป็นยักษ์ดำ
คนของ “คุนหลุน” ทั้งเจ็ดได้เปลี่ยนสีหน้าไปเมื่อเห็นเฉินหลง ทว่าพวกเขาก็ไม่ได้แสดงท่าทีทักทายอย่างที่คนคุนหลุนห้าคนนั้นทำเมื่อเห็นเฉินหลงก่อนหน้านี้
“ดูสิ นั่นคือพวกเวรทั้งเจ็ดนี่ เราควรจะลงไปแล้วฆ่าพวกมันไหม คงจะเป็นความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่นะ” หลังจากที่พวกเขาเห็นคน “คุนหลุน” ทั้งเจ็ดคนแล้ว นักบุญเฮยรุ่นเยาว์ที่ลอยอยู่ในอากาศพลันตื่นเต้นขึ้นมา
“ไม่ต้องขยับสักครู่ ขอดูให้รู้ก่อน” นักบุญไป่รุ่นเยาว์อีกคนหนึ่งหยุดเพื่อนที่มาด้วยกันไว้ก่อนเขาจะพุ่งลงไป
ในหมู่คนคุนหลุนทั้งเจ็ดคน หกคนในกลุ่มนั้นมีพลังจิตที่ทรงพลังระดับแปดเท่ากับเฉินหลง คนหนึ่งมีพลังระดับเก้า “หลอมรวมธรรมชาติ” แม้ว่าคนทั้งเจ็ดจะบดขยี้เฉินหลงได้เมื่อมองจากระดับพลัง ทว่าพวกเขากลับมีความรู้สึกว่าสถานการณ์จะกลับกัน
ท่านเทพคนสุดท้ายในรุ่นนี้ได้มอบสติปัญญาให้กับคนในคุนหลุน และมีคนไม่ดีที่ปรากฏตัวในประชากรคุนหลุนด้วย อาจจะกล่าวได้ว่าที่ที่มีผู้คน ย่อมมีทั้งแม่น้ำและทะเลสาบ
คนทั้งเจ็ดนี้เป็นพี่น้องแห่งความศรัทธา เนื่องจากพลังของสามพี่น้องที่ไปถึงระดับเก้าแล้ว แต่พวกเขาไม่ได้อยากจะเข้าไปยังวิหารศักดิ์สิทธิ ดังนั้นแล้วพวกเขาจึงทำได้เพียงหลบหนีการไล่ล่าของวิหารศักดิ์สิทธิไปรอบๆอาณาจักรคุนหลุน
ในเวลาเดียวกัน ในตอนที่พวกเขาซ่อนตัวอยู่ พวกเขาก็ได้ทำผิดกฎหมายมากมาย ชาวหมู่บ้านบางคนโดนปล้นและโดนคนทั้งเจ็ดนี้สังหาร
โทษทางกฎหมายที่คนพวกนี้ทำนั้นได้ทำให้ “คนคุนหลุน” ต้องการตัวพวกเขา อีกทั้งยังมีชื่อฉายาให้ด้วยว่า “ฆาตกรทั้งเจ็ดแห่งคุนหลุน”
“เจ้าคือท่านเทพนี่” คนยักษ์เฮยที่มีไม้เท้าเหล็กแนบที่หลังมองเฉินหลงด้วยเจตนาร้าย
ชายคนนี้คือไม้เท้าดำ (เฮยกุน)ในหมู่ฆาตกรทั้งเจ็ด เมื่อเขาฆ่าใครแล้ว เขาชอบที่จะใช้ไม้เท้าเหล็กของเขาไปเสียบจากเท้าของคนนั้นถึงมือ นี่จะทำให้คนที่โดนเขาฆ่าทรมานไปจนตาย
หลังจากที่เห็นเฉินหลง เฮยกุน รู้ว่าคนคนนี้จะต้องเป็นเทพแน่นอน ทว่าพวกเขาไม่กล้าจะเข้าไปสู้กับทางวิหารศักดิ์สิทธิ อีกอย่างเฉินหลงนั้นอ่อนแอเกินไปขนาดที่ว่าตามปกติแล้วพวกเขาคงไม่ให้ความสนใจกับเฉินหลง
“เจ้ามาที่นี่ได้อย่างไร” เฉินหลงขมวดคิ้วเล็กน้อย นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้เห็น “คนคุนหลุน” ที่ไม่อยู่อย่างสุขสงบและจองหอง
“ที่นี่ไม่ใช่ที่ศักดิ์สิทธิของเจ้า แล้วทำไมข้าจะมาที่นี่ไม่ได้กัน อีกอย่าง ด้วยพลังของเจ้าแล้ว พวกเทพคงไม่กลัวจะโดนสัตว์อื่นกินเข้าไปหรอกเวลาจะเข้ามาที่เขาแสนลูกนี่” ยักษ์ขาวอีกคนที่มีมีดแขวนอยู่บนเอวมองเฉินหลงด้วยเจตนาไม่ดีเช่นกัน
คนนี้คือ “ดาบขาว(ไป๋เต๋า)” ยักษ์ขาวในกลุ่มฆาตกรทั้งเจ็ด เขาไม่ชอบการทรมานผู้คนนักอย่างที่ไม้เท้าดำชอบ ทว่าเขาชอบที่จะเฉือนคนให้ขาดท่อนด้วยมีดเล่มเดียว
“เจ้าไม่ต้องเป็นกังวลเรื่องนี้ไป ข้ามั่นใจว่าเจ้ามาที่นี่ได้ แค่อย่าโดนสัตว์ป่าแปลกๆแถวนี่ฉีกเป็นชิ้นๆแล้วกัน” สิ้นคำเฉินหลงอยากจะออกไปจากที่นั้น
เขาเพียงต้องการจะหาใครสักคนมาคุยด้วย แต่เนื่องจากว่าเขาคงไม่อาจจะเป็นมิตรกลับคนพวกนี้ได้ ดังนั้นเขาจึงไป
“ท่านเทพท่านกำลังจะไปไหนหรือ” ไป่เต๋า พลันกล่าวไปและหยุดเฉินหลงไว้
“มีอะไรละ เจ้าจะไม่ปล่อยให้ข้าไปหรือ ที่นี่เป็นเขตเจ้าหรือ” แม้เฉินหลงจะไม่รู้ว่าใครคือฆาตกรทั้งเจ็ดทว่าเขาไม่ชอบคนพวกนี้และอยากจะตบพวกนี้ให้ตาย
“ที่นี่คือเขาแสนลูก จะเป็นเขตของเราไปได้อย่างไร ข้าคิดว่าดาบของท่านคงจะใช้ดีมากเลยละ แต่ของข้าน่ะไม่ได้ดีเท่าของท่าน โปรดเอาดาบท่านมาให้ข้าเถอะ” ไป่เต๋าไม่เกรงกลัวความตาย เขาทำแม้กระทั่งล้อเลียนมีดนรกของเฉินหลง
“เจ้าชอบมีดข้าหรือ ตาดีนี่ ชื่อของมีดนี้คือนรก หากว่าชอบมีดนี่ก็เอาไปสิ” เฉินหลงถือมีดในแนวนอน เขาจับคมมีดและกล่าวกับพวกนั้น
เนื่องจากไป่เต๋าท้าทายเฉินหลงเอง เขาจึงอยากให้พวกนี้ได้ลิ้มลองรสชาติของนรก