ไม่อยากจะเชื่อ

 

เมื่อดงชุ่น หวังซือหยา โจวเสวี่ย และ เซียวหลู ต่างรอกันอยู่ข้างนอกประตู

ช่างแต่งหน้าบางคนที่ไม่รู้ว่าไปได้ยินเรื่องการเสริมความงามของซูจิ้งมาจากไหนก็ได้ค่อยๆแอบเข้ามารออย่างรวดเร็ว

หนึ่งในนั้นถามพวกเธอว่า “ดิฉันได้ยินมาว่าคุณซูกำลังทำการเสริมความงามผ่านศาสตร์การนวดและแพทย์แผนจีนโบราณใช่รึเปล่าคะ”

 

“เอ่ออออ ก็ใช่นะ” โจวเสวี่ยพยักหน้ารับเล็กน้อย

 

“คุณซูทำได้ด้วยหรอ” เหล่าช่างแต่งหน้าที่มาเมื่อได้ยินก็ทำท่าประหลาดใจ

 

“พวกเราน่ะคิดว่าเขาแค่เห็นหลี่ฮวนแล้วอยากลองดูเฉยๆน่ะ เลยรอดูกันอยู่นี่แหล่ะ”

หวังซือหยาพูดออกมาเมื่อเหล่าช่างแต่งหน้าได้ยินก็ยิ่งสงสัยจนทำให้พวกเธอขออยู่ดูด้วยเช่นกัน

หวังซือหยาเองก็เข้าใจความรู้สึกของพวกเธอดี อีกอย่างพวกเธอก็เสร็จงานแล้วตอนนี้ก็ไม่มีอะไรทำแล้วเธอจึงไม่ได้ว่าอะไร

 

ในขณะเดียวกันภายในห้อง ซูจิ้งได้นำขวดผงยาเล็กๆออกมาขวดหนึ่ง

ขวดนี้เป็นยาขวดเดียวกับที่ใช้แก้ปัญหาของเซียวหลูและใช้ก่อปัญหาให้กับบริษัทชิไล

แต่เขานั้นไม่ได้ให้หลี่ฮวนกินแต่เขาเลือกที่จะโปรยลงไปที่หน้าของหลี่ฮวนแทน

 

หลังจากใบหน้าของหลี่ฮวนเต็มไปด้วยผงยาจนทั่วใบหน้า

ใบหน้าของเธอก็ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆเกิดขึ้น แต่หลังจากซูจิ้งเริ่มใช้นิ้วกดลงไปบนใบหน้า

ทันใดนั้นใบหน้าของเริ่มมีการเปลี่ยนแปลง

ตอนนี้ใบหน้าของเธอดูเหลวจนเหมือนแอ่งโคลน

ตอนนี้ใบหน้าของเธอแทบจะบอกได้เลยว่าเปลี่ยนสภาพไปเลย จนแทบไม่เห็นเค้ารางเดิมด้วยซ้ำ

นี่คือวิธีการใช้ยาอีกรูปแบบหนึ่งที่ซูจิ้งค้นพบ ผลของยามีอยู่ด้วยกันสองแบบขึ้นกับวิธีใช้

วิธีแรกคือการกิน ยาตัวนี้เมื่อกินเข้าไปแล้วรูปร่างของผู้กินจะเปลี่ยนแปลงไปตามที่จิตใจคาดหวังไว้ ซึ่งให้ผลในระยะสั้นๆช่วงเวลาหนึ่งตามปริมาณของยา

อย่างที่สองคือการใช้ทา เมื่อใช้ทาภายนอกตัวยาจะส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของร่างกายแต่จะมากหรือน้อยนั้นไม่อาจคาดเดา อีกทั้งต้องใช้ปริมาณยาที่มากกว่าการกินพอสมควร

แต่ผลของยาจะคงอยู่จะบอกว่าถาวรเลยซูจิ้งก็ยังไม่แน่ใจ แต่ที่แน่ๆนับจากเขาทดลองกับหนูด้วยการใช้ภายนอก แม้แต่ตอนนี้เจ้าหนูทดลองก็ยังไม่คืนสภาพเลย

โดยการเปลี่ยนแปลงรูปร่างนี้เขาใช้เพียงแค่การนวดและการถูเพียงเท่านั้น

 

ซูจิ้งยังคงถูไปบนใบหน้าของหลี่ฮวนทีละเล็กทีละน้อยอย่างละเอียดละออ

จมูกของเธอนั้นค่อนข้างใหญ่และแก้มที่กว้าง ผิวหน้าเธอดูสดใส และคิ้วที่ค่อนข้างบาง

หากมองในภาพรวมแล้วนั้นก็พอจะบอกได้เลยว่าหน้าเธอแมนมากๆ แต่พอเป็นผู้หญิงทำให้ดูน่าเกลียดไปเท่านั้นเอง

นี่จึงทำให้เธอนั้นไม่มีความมั่นใจในตัวเอง ซึ่งเขาเองก็ไม่แน่ใจว่าเป็นเพราะเธอนั้นมันรู้ว่าควรจะดูแลใบหน้าของเธอยังไงดี หรือเธอสิ้นหวังกับใบหน้าของเธอจนปล่อยให้ดูแมนขึ้นเรื่อยๆ

แต่ที่แน่ๆคือเธอในตอนนี้เธอนั้นได้ทำลายความมั่นใจของตนเองไปจนหมดสิ้นแล้ว ความจริงถ้าเธอสังเกตุดีๆก็จะพบว่าเพียงแค่เธอเสริมคิ้วนิดหน่อยและแต่งหน้าเล็กน้อยเธอจะดูดีขึ้นในทันที

 

ซูจิ้งยังคงลงมือทำการเสริมความงามของเขาต่อไป ในตอนนี้เข้าไม่เพียงแค่ทำการนวดและถูใบหน้าของหลี่ฮวนเท่านั้น

เขายังตรวจสอบใบหน้าของเธอด้วยการใช้พลังจิตของตัวเองตลอดตั้งแต่เริ่มลงมือ

แทบจะบอกได้ว่าทุกๆการขยับปลายนิ้วของซูจิ้งได้เปลี่ยนโฉมใบหน้าของหลี่ฮวนละเอียดพอการกับการประมวลผลของคอมพิวเตอร์

และด้วยการเสริมพลังจิตลงไปที่ปลายนิ้วในทุกการนวดถูบนใบหน้า

ทำให้โครงหน้าในส่วนที่เปลี่ยนแปลงได้ยากด้วยการผ่าตัดแต่ซูจิ้งสามารถเปลี่ยนได้ภายในไม่กี่นาที

ตอนนี้น่าของหลี่ฮวนบางส่วนก็เล็กลง บางส่วนก็ใหญ่ขึ้น บางส่วนก็หายไปเลยก็มี

 

ความจริงนั้นเรื่องความสวยนั้นก็เข้าใจง่ายอย่างเหลือเชื่อ หลายๆคนพยายามทำให้บางสวยของใบหน้าดูดีขึ้นและดูสวยขึ้นอย่างเช่น ตา ใบหู จมูก แก้ม หรือไม่ก็ริมฝึปาก

แต่พวกเขานั้นมองผิดที่ คนจะสวยหรือดูดีไม่ใช่เกิดจากเพราะส่วนใดส่วนหนึ่งของใบหน้า แต่เป็นการดูภาพรวมของใบหน้า

นี่คือสิ่งที่ทำให้บางคนนั้นต่อให้ไม่มีอะไรสวยเลยแม้แต่สักส่วนเดียว แต่พอมองแล้วก็รู้สึกสวยขึ้นมาได้ นั่นก็เพราะว่าคนพวกนั้นไม่เคยคำนึงถึงเรื่องพวกนี้และรู้สึกสบายกับใบหน้าของตัวเองที่ดูพอเหมาะ เมื่อไม่ได้กังวลอะไรความสวยก็จะตามมาเอง

 

ซูจิ้งนั้นไม่ได้ต้องการที่จะเปลี่ยนแปลงใบหน้าของหลี่ฮวนให้สวยขึ้น

เขานั้นเลือกที่จะเปลี่ยนในส่วนที่เขาคิดว่าทำให้หลี่ฮวนเป็นกังวลให้ดูมีการเปลี่ยนแปลงนิดหน่อยแค่นั้น

นั่นด้วยเหตุผลสองอย่างคือตัวยานี้เปลี่ยนแปลงรูปร่างของใบหน้าได้ไม่มากนัก

สองคือเขานั้นคิดว่าปัญหาของเธอคือการกังวลก็บางส่วนของใบหน้าที่ไม่ดีมากเกินไปจนทำให้ส่วนอื่นของใบหน้าแย่ตามที่เธอคิดไว้แค่นั้นเอง

 

หรือจะพูดให้ถูกที่สุดก็คือการทำให้ใบหน้าของหลี่ฮวนดูกลมกลืนก็เท่านั้น

 

ถ้าจะให้พูดว่าเป็นงานที่ยากหรือไม่นั้นก็พอจะบอกได้ว่าไม่ยาก

แต่เป็นเรื่องของจุดที่เธอเกิดความกังวลนั้นมากเกินไปแค่นั้นเอง

บางจุดของใบหน้าของเธอบ้างก็ใหญ่เกินไป บางก็น้อยเกินไป บ้างก็เล็กเกินไป บ้างก็มากเกินไป หรือให้พูดก็คือแค่ไม่ได้สัดส่วนเท่านั้น

เพื่อให้เกิดความสมดุลของใบหน้านี้ ซูจิ้งถึงกับต้องใช้พลังจิตของเขาในการคำนวนใบหน้าที่ดูเหมาะสมกับหลี่ฮวน แล้วทำการสร้างแบบเอาไว้ หลังจากนั้นเขาจึงค่อยๆปรับ ลด เพิ่ม ลบ จุดที่เป็นปัญหาเหล่าตามแบบที่เขาร่างเอาไว้ภายในหัว ถ้าจะให้บอกอีกครั้งว่ายากหรือไม่ก็บอกได้เลยว่าไม่ยากแต่ยุ่งยากมากกว่า ยุ่งยากชนิดที่ว่าต่อให้เป็นการผ่าตัดศัลยกรรมบนใบหน้าก็ไม่ทางจะแก้ได้หมดในทีเดียวแน่นอน

 

หลังจากใช้เวลาไปเกือบหนึ่งชั่วโมงนั้น ในที่สุดซูจิ้งที่ตอนนี้อยู่ในสภาพที่เหงื่อทั่วทั้งตัวก็ได้หยุดมือ

ผลของผงยานั้นได้หมดฤทธิ์ลงแล้ว ซูจิ้งนั้นมองไปยังใบหน้าของหลี่ฮวนที่ทำการเปลี่ยนแปลงแล้วด้วยความพึงพอใจก่อนที่เขาจะพูดออกมาสั้นๆพร้อมรอยยิ้มภูมิใจในผลงานว่า “ใช้ได้แล้ว”

 

“เสร็จแล้วหรอ” หลี่ฮวนได้สูดหายใจเข้าลึกๆก่อนที่จะลืมตาขึ้นมา เธอเองก็ค่อนข้างตกใจกับสภาพของซูจิ้งในตอนนี้

แต่พอเธอเห็นรอยยิ้มของซูจิ้ง เธอได้นิ่งไปเล็กน้อยก่อนที่จะปิดตาลงอีกครั้ง

หลังจากนนั้นเธอค่อยๆหันหน้าตัวเองไปทางกระจกแล้วค่อยหรี่ตาขึ้นข้างหนึ่งเพื่อแอบดูหน้าของเธอในกระจก แต่เมื่อตาข้างนั้นเห็นเธอ เธอได้มองค้างด้วยท่านั้นไปเล็กน้อย ก่อนที่เธอจะรีบปิดตาเหมือนคิดอะไรบางอย่าง เธอขยี้ตาเล็กน้อยก่อนจะเปิดตาดูด้วยตาทั้งสองข้างของตัวเอง

เธอจ้องมองอย่างตื่นตะลึงจนลืมหายใจ สายตาเธอจ้องมองภาพตัวเองในกระจกอย่างไม่กระพริบแต่หัวใจของเธอกลับเต้นแรงมากยิ่งขึ้น

เธอค่อยเอามือสัมผัสกับแก้มของตัวเอง ก่อนที่จะลองจับไปทุกส่วนที่เธอเคยคิดว่าทำให้เธอน่าเกลียดมากๆ

ไม่นานนักเธอได้ตะโกนกู่ร้องออกมาด้วยความดีใจอย่างที่สุดในชีวิต

นั่นทำให้หวังซือหยา ดงชุ่น โจวเสวี่ย เซียวหลู และช่างแต่งหน้าคนอื่นๆที่เฝ้ารอดูผลการแปลงโฉมของซูจิ้งวิ่งเข้ามาทันที

ทันทีที่พวกเธอเข้ามาพวกเธอได้เห็นหญิงสาวคนหนึ่งกำลังกระโดดโลดเต้นด้วยความดีใจ

พวกเธอมองค้างอยู่ซักพักเพราะไม่แน่ใจว่าผู้หญิงคนนั้นคือใคร

แต่เมื่อได้ยินเสียงดีใจซ้ำๆพวกเธอก็แน่ใจแล้วว่าเธอคนนั้นคือหลี่ฮวน แต่เธอไม่ใช่หลี่ฮวนที่พวกเธอเคยเห็นอีกต่อไปแต่เป็นหลี่ฮวนที่สวยมากๆ

 

ด้วยนิสัยของหลี่ฮวนทำให้เธอนั้นคอยให้คะแนนใบหน้าของคนอื่น รวมถึงของตัวเองด้วย เธอได้ให้คะแนนกับหน้าตาของตัวเองเอาไว้ว่าไม่มีทางได้คะแนนเกินกว่าสามจากสิบแน่นอน

แต่ตอนที่แวบแรกที่เธอเห็นใบหน้าของเธอในตอนนี้นั่นก็คือตอนที่เธอหรี่ตามองข้างเดียวแวบแรกในกระจก

อยู่ๆในใจเธอก็บอกว่าคนที่เห็นได้คะแนนไม่ต่ำกว่าหกหรือเจ็ดคะแนนเลยทีเดียว ถึงจะไม่ได้สวยแต่ก็ดูดีและให้ความรู้สึกสบายๆ

แต่เมื่อเธอตระหนักได้ว่าคนที่เธอเห็นนั้นเป็นหน้าของเธอเอง นั่นทำให้เธอตกตะลึงและดีใจจนกระโดดโลดเต้นจนเหงื่อโทรมกายตามซูจิ้งไป

 

“คุณซู คุณแต่งหน้าให้หลี่ฮวนอย่างนั้นหรอ” เซียวหลูถามอย่างงงๆ

 

“แน่นอนเลยอาจิ้ง ถึงนายจะแต่งหน้าให้เธอดียังไงแต่เดี๋ยวก็หมดสวยอยู่ดี แล้วนายจะแต่งไปทำไมเนี่ย” ดงชุ่นเองก็ถามออกมาในทำนองเดียวกัน

 

“ใช่แล้วต้องเป็นการแต่งหน้าแน่ๆ เธอจะสวยขึ้นโดยไม่ได้ผ่าตัดศัลยกรรมได้ยังไง แถมยังเร็วขนาดนี้อีก”

เหล่าช่างแต่งหน้าที่ก็ยังคงอยู่นั้นต่างก็พูดเป็นเสียงเดียวกัน แต่ไม่ว่าจะรอไปนานเท่าไหร่ ผลของการแต่งหน้าที่พวกเธอเชื่อนั้นไม่ยอมหายไปแบบตอนของเซียวหลูซักที

พวกเธอก็ได้แต่พูดงึมงัมอะไรบางอย่างพร้อมท่าทางเหมือนกำลังจะสติแตกไม่เชื่อในสิ่งที่เห็น

 

“คุณซูนี่คุณเสริมความงามจริงๆให้ฉันอย่างนั้นหรอ” หลี่ฮวนเองก็รู้สึกอดไม่ได้ที่จะถามออกมา เธอนั้นแค่หวังให้แค่ซูจิ้งแต่งหน้าให้เธอดูสวยแต่ไม่เคยคิดเลยว่าซูจิ้งจะทำถึงขนาดเสริมความงามจริงๆให้กับเธอ

 

“ฉันเองก็พูดได้แค่ว่าจะเป็นการแต่งหน้าหรือจะเป็นการเสริมความงามจริงๆนั้นแล้วแต่เธอจะเชื่อก็แล้วกัน” ซูจิ้งยิ้มก่อนที่จะพูดแบบนั้นออกมาเพราะเขาเองก็ยังไม่แน่ใจว่าผลของยานั้นจะอยู่ได้ถาวรรึเปล่า ก็เลยไม่กล้าที่จะตอบคำถามนี้

 

หวังซือหยา ดงชุ่น โจวเสวี่ย เซียวหลู และช่างแต่งหน้าคนอื่นๆต่างเอานิ้วของตัวเองไปจิ้มที่หน้าของหลี่ฮวนอย่างสงสัยใคร่รู้อย่างหนัก

พวกเธอนั้นไม่พบร่องรอยการแต่งหน้า ไม่พบร่องรอยของผงแป้ง พวกเธอถึงขนาดถูใบหน้าของหลี่ฮวนอย่างหนักแล้วลากเธอไปล้างหน้าซ้ำๆ

แต่ไม่ว่าพวกเธอจะทำยังไงใบหน้าของหลี่ฮวนเองก็ไม่เปลี่ยนแปลงเลยสักนิด

เหล่าหญิงสาวทั้งหลายที่ร่วมกันกระทำการดังกล่าวค่อยๆตกใจมากขึ้นเป็นลำดับหลังจากทำการพิสูจน์ไปทีละอย่าง ประหนึ่งดังพวกเธอค่อยๆก้าวเท้าไปยังนรกทีละก้าว

ถึงจะขนาดนั้นแล้วพวกเธอก็ยังไม่เชื่อ พวกเธอได้เลือกวิธีการทดสอบสุดท้ายนั่นคือการรอเวลา หวังซือหยาและดงชุ่นได้ชวนซูจิ้งไปเลี้ยงข้าว

ซูจิ้งรีบตอบรับทันทีเพราะเขาใช้พลังงานไปมากสำหรับเรื่องนี้แต่สำหรับสองคนนั้นที่ชวนก็เพราะว่ากันซูจิ้งแอบมาแต่งหน้าหลี่ฮวนเพิ่มเพราะพวกเธอคิดว่าซูจิ้งกำลังแกล้งพวกเธอเล่น

หลังจากกินข้าวเสร็จแล้วซูจิ้งจึงขอตัวกลับบ้านก่อน

 

เมื่อหวังซือหยาและดงชุ่นกลับมาบริษัทเธอก็ยังเห็นว่าหน้าของหลี่ฮวนยังคงสวยเหมือนเดิม โดยมีคนอื่นๆแอบๆเฝ้าดูอยู่แทบจะไม่ห่าง พวกเธอแกล้งชวนหลี่ฮวนทำอะไรไปเรื่อยจนถึงเย็นหน้าของหลี่ฮวนก็ยังเหมือนเดิม

 

ในตอนนี้ทุกคนเริ่มเชื่อขึ้นมาแล้ว แม้แต่เหล่าช่างแต่งหน้าเองก็ยังเชื่อเรื่องที่เกิดขึ้น พวกเธอในตอนนี้พยายามจะไปหาซูจิ้งในทันทีเพื่อที่จะขอให้เสริมความงามแบบหลี่ฮวนบ้างเพราะว่าการเสริมความงามจริงๆโดยไม่ใช้มีดผ่าตัดนั้นล้วนเป็นความฝันของผู้หญิงทุกคน