บทที่ 179 กบฏ
ขบวนสัตว์อสูรกลับใหญ่ขึ้น !
ข่าวนี้แพร่ระบาดอย่างรวดเร็วทั่วแผ่นดิน พอ ๆ กับที่ขบวนสัตว์อสูรขยายขนาดอย่างรวดเร็ว
และเพราะไม่ได้เตรียมตัว ทหารเผ่าคนเถื่อนที่ป้องกันอยู่แนวหน้าจึงไม่คิดว่าสัตว์อสูรจะบุกตะลุยเข้ามาอย่างเกรี้ยวกราดเช่นนี้ ไม่มีเวลาแม้แต่การตั้งรับ ดังนั้นจึงถูกสัตว์อสูรทำลายไม่ไยดี
ทหารจำนวนมากตายกลางสนามรบ ทัพแนวหน้าถูกบีบให้ล่าถอยนับพันลี้
อสูรกายเข้าโจมตีอย่างรวดเร็ว บุกเข้ามาทุกทิศ สังหารทุกอย่างที่ฝังกรงเล็บลงไปได้ จนเลือดหลั่งไหลดังสายน้ำอยู่ไหนแดนคนเถื่อน
เมื่อตอนขบวนสัตว์อสูรเริ่มโจมตีระลอกที่สอง ตานปาก็กลับมายังค่ายหลักของชนเผ่ากิ้งก่ากรวดแล้ว
ตานปาเหม่อมองเกล็ดหิมะที่โปรยลงจากฟ้าอยู่เนิ่นนาน
“เรามั่นใจแล้วว่าซูเฉินยั่วให้ใจสีเลือดโกรธด้วยการชิงสมบัติสำคัญทั้งหลายในวังมันไปจนหมด ใจสีเลือดคุมขบวนอสูรให้เดินหน้าเต็มกำลังอยู่แล้ว ดูท่าจะไม่หยุดจนกว่าจะตายกันไปข้าง” จาเค่อว่า ในมือคือรายงานสงครามปึกหนึ่ง
“ทำไมคนเถื่อนต้องมารับกรรมที่พวกมนุษย์ก่อด้วย ? ไอ้บัดซบใจสีเลือดไม่รู้หรือไงว่าใครชิงสมบัติมัน ?” เป็นเสียงบ่นกล่าวจากหัวหน้าผู้คุ้มกันของตานปา มีนามว่าไหลซี
ซาหลัวมือสังหารฝีมือฉกาจตอบ “เขาย่อมรู้ สัตว์อสูรเองก็เริ่มไล่ล่าซูเฉินแล้ว แต่นั่นไม่สำคัญนัก สำหรับพวกเขาแล้ว การบุกโจมตีต้องมีต่อ แม้จะมีการคนแจ้งข้อเท็จจริงไป แต่คำตอบคือทูตที่ส่งไปถูกฉีกร่างลงท้องพวกสัตว์อสูรไปแล้ว แต่อย่างไรใจสีเลือดก็ยังมอบคำตอบให้ เขากล่าวว่าหากไม่ใช่เพราะความไร้กำลังของคนเถื่อน มนุษย์หน้าไหนก็คงเข้ามาปล้นชิงของในแดนพวกเขาไม่ได้ อีกทั้งเขายังต้องเอาสิ่งที่เสียไปคืน จะลอบเข้าแดนจักรพรรดิอสูรกายอื่นหรืออาณาจักรมนุษย์ก็ไม่ได้ จึงได้แต่ต้องมาลงกับเรา หรือก็คือ คนเถื่อนต้องรับผิดชอบกับสิ่งที่เขาเสียไป”
“ไอ้พวกเวรนั่นมันไร้เหตุผล !” จาเค่อตะโกนลั่นเสียงโกรธ
ซาหลัวหัวเราะเสียงเย็น “หากสัตว์อสูรมีเหตุผล ก็คงไม่ใช่สัตว์อสูรแล้ว สัตว์อสูรบัดซบพวกนี้ไร้เหตุผลกว่าพวกเราคนเถื่อนเสียอีก”
ผู้บัญชาการคนเถื่อนทั้งหมดยิ้มขัน
“ปัญหาหลักคือเราจะทำอย่างไรต่อ” จาเค่อเอ่ย
ได้ยินแล้ว คนเถื่อนทั้งหลายจึงเหลือบมองตานปา
คนเถื่อนทั้งหมดก็เป็นเช่นนี้ มีคนที่ฉลาด 2-3 คนโผล่ขึ้นมาบ้าง แต่ก็ไม่ได้มีจำนวนมาก ซึ่งในเผ่ามนุษย์ไม่มีทางเป็นเช่นนี้ เพราะแต่ละคนมีความคิดเป็นของตนเอง ปกติแล้วคนเถื่อนส่วนมากชอบเอ่ยวาจาไร้สาระ ส่วนคนหัวหน้าก็ชอบตัดสินใจจากประโยคเดียว
สำหรับตานปา เรื่องนั้นก็มีทั้งดีและแย่
ส่วนที่แย่คือเขาต้องคอยรับหน้าสถานการณ์ทั้งหลายด้วยตนเองเกือบทั้งหมด
ส่วนที่ดีคือไม่จำเป็นต้องกังวลว่าจะมีใครปฏิเสธข้อแนะนำหรือคำสั่ง การตัดสินใจของเขาคือกฎ ไม่ว่าจะเป็นหัวหน้าหรือพวกทหารต่างก็ทำตามไม่มีลังเล
แต่ในวันนี้พวกเขาจะยังทำเช่นนั้นหรือ ?
ตานปาขบคิดถึงเรื่องนี้อย่างสงบ
ไม่นานเขาก็รีบหยุดความคิดนั้น
เรื่องบางอย่างคิดมากไปก็ไม่มีอะไรดี
ในฐานะที่เป็นคนเถื่อน เขาจำเป็นต้องมีความคิดเห็นอย่างคนอื่นบ้าง
ตานปามองผู้คนรอบกาย จากนั้นเลยเสียงนิ่งขึ้น “อานู๋ปี่ส่งคำสั่งออกมาแล้ว ว่าให้ทหารเผ่าคนเถื่อนที่รอดชีวิตทั้งหมดรวมตัวกัน และป้องกันการรุกรานจากขบวนสัตว์อสูรที่กำลังรุดหน้า”
ทหารเผ่าคนเถื่อนทั้งหมดหันมามอง
แม้ว่าคนเถื่อนจะไม่ได้แยกออกเป็นหลายอาณาจักรเหมือนเผ่ามนุษย์ แต่กลับสู้กันเองบ่อยครั้งกว่าพวกมนุษย์เสียอีก
ชนเผ่าเพลิงเป็นผู้นำเผ่าคนเถื่อนในนามเท่านั้น ด้วยเป็นชนเผ่าที่แข็งแกร่งที่สุด แต่เมื่อเวลาผ่านไป อิทธิพลนั้นก็ค่อย ๆ คลาย ชนเผ่าใหญ่อื่น ๆ จึงขึ้นสู่ความรุ่งเรือง ภายในอาณาจักรเหล็กเลือดมีความปั่นป่วนคุกรุ่นอยู่มากมาย แต่ก็เป็นเช่นเผ่าอื่น เมื่อศัตรูภายนอกมาถึงหน้าประตู ก็เกิดแรงกดดันทำให้ต้องร่วมมือกัน แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะมีใครยอมกัน
เพราะเหตุนี้ จาเค่อ ซาหลัว และคนอื่น ๆ จึงไม่สนใจการรวมตัวเช่นนั้น
หากแต่ตานปากลับยกเรื่องนี้ขึ้นมาอย่างไร้เหตุผล
ทุกคนจึงสับสนอยู่เล็กน้อยว่าทำไมตานปาถึงพูดเรื่องนี้ขึ้นในตอนนี้
ตานปากล่าว “ข้าคิดว่าจะตอบรับการรวมตัวนั้น เราจะพาชนเผ่ามุ่งไปทางเหนือเพื่อต่อต้านขบวนสัตว์อสูรนั่น !!”
“ว่าอะไรนะ ?” ทหารเผ่าคนเถื่อนทั้งหมดอึ้งไป
“คิดจะทำเช่นนั้นจริงหรือ ? นายน้อย ท่านหมายจะทำให้ทัพเราอ่อนกำลังลงเพื่อชนเผ่าเพลิงงั้นหรือ ?” ไหลซีกล่าว
ตานปาถอนใจ “มีบางเรื่องที่พวกเจ้าไม่เข้าใจ ข้าก็ไม่มีแรงจะมาอธิบาย รู้เพียงว่าทำเช่นนี้จะมีประโยชน์ต่อเรามากกว่าแอบหลบอยู่ก็แล้วกัน”
“ขอรับ ! ความต้องการของประมุขน้อยก็คือความต้องการของกองทัพ !” คนเถื่อนทั้งหมดร้องขึ้นพร้อมกัน
กระทั่งคนเถื่อนที่บ้าคลั่งป่าเถื่อนยังรู้จักแสดงความภักดีเมื่อจำเป็น
“แต่ยังมีเรื่องหนึ่งที่จำต้องใส่ใจ นั่นก็คือเสบียงเราเริ่มร่อยหรอ” จาเค่อเอ่ยเตือน “อีกครั้งอย่างไรเราก็เป็นชนเผ่ากิ้งก่ากรวด ยังต้องรายงานหัวหน้าเผ่าว่าจะให้ความช่วยเหลือกับฝ่าบาทอานู๋ปี่ อีกทั้งยังต้องให้คำอธิบายกับหัวหน้าเผ่าในเรื่องที่เกี่ยวกับปาเหยียนด้วย……”
ตานปาพยักหน้า “ข้ารู้ ข้าจึงวางแผนว่าจะกลับไปยังเผ่าก่อนตอนที่เรามุ่งหน้าไปทางเหนือ ถึงตอนนั้นก็จะเติมเสบียงและกำลังคนที่นั่นด้วย”
เติมกำลังคนงั้นหรือ ? หมายความว่าอย่างไร ?
ทุกคนเหลือบมอง
ซาหลัวเอ่ยถาม “ประมุขน้อยคิดจะขอกำลังเสริมมาสักเท่าไหร่ ?”
ตานปาตอบเสียงเรียบ “ดินแดนบ้านเกิดกำลังมีปัญหา เมื่อทางการเรียกรวมตัว เราก็ต้องหาคนให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้… ข้าอยากได้ทหารพร้อมรบทั้งหมดจากชนเผ่ากิ้งก่ากรวด”
ได้ยินแล้วทุกคนก็ตาเป็นประกาย
ไม่ว่าจะโง่เขาเพียงไหน แต่ก็เข้าใจความหมายเบื้องหลังคำพูดตานปากันทั้งสิ้น
หากแต่เป็นซาหลัวที่เอ่ยอย่างไม่อยากเชื่อขึ้น “กำลังคนพวกนี้ไม่ใช่ของประมุขน้อย แต่เป็นของหัวหน้าเผ่า”
“ไม่เลย พวกเขาเป็นของอาณาจักรเหล็กเลือด และเป็นของคนเถื่อนทั้งเผ่า” ตานปาตอบเสียงเรียบ “และเพื่ออาณาจักรเหล็กเลือดและเผ่าคนเถื่อนทั้งหมดแล้ว ข้าเชื่อว่าหัวหน้าเผ่าคงไม่ขี้เหนียวหรอก”
“เช่นนั้นหากว่าหัวหน้าเผ่าไม่ตอบตกเล่า ?” จาเค่อถาม
ตานปาหัวเราะ
เขาหยุดพูดแล้วเหลือบสายตามองทุกคน “พวกเราจึงต้องมีเอกสารจากทางการมารองรับอย่างไรเล่า”
ผู้บัญชาการคนเถื่อนหลายคนมองหน้ากัน ต่างก็เข้าใจความหมาย มีแต่คนหัวทึบอย่างหลงเจ๋อเอ่อร์เท่านั้นที่ยังไม่เข้าใจ “ทางการที่ไหนหรือ ?”
“เจ้าโง่ ! ก็ต้องเป็นผู้นำอาณาจักร ฝ่าบาทอานู๋ปี่ไงเล่า” ไหลซีเอ็ด
ตานปาดึงจดหมายที่เขาจะเตรียมเอาไว้ล่วงหน้าออกมา “ไหลซี ไปบอกจินสุ่นให้นำสิ่งนี้ไปส่งที่ปราการกู่หลาน ภายใน 5 วันต้องได้คำตอบ”
“ขอรับ !” ไหลซีรับจดหมายมา จากนั้นเดินออกจากกระโจมเพื่อทำตามหน้าที่
“จาเค่อ ไปเตรียมกองกำลังหลักให้เตรียมพร้อมเคลื่อนพล เราจำเป็นต้องกลับเผ่าภายใน 5 วัน ดังนั้นจึงเหลือเวลาไม่มาก เร่งมือด่วน !”
“ขอรับ !” จาเค่อออกจากระโจมไป
“หลงเจ๋อเอ่อร์”
“ขอรับ !”
“ให้เจ้านำกองกำลังเราส่วนหนึ่งไปตั้งค่ายในสถานที่นี้ ต้องเดินทางไปถึงภายใน 3 วัน จากนั้นทำภารกิจที่ข้าให้จนสำเร็จ เจ้าทำได้หรือไม่ ?”
“ไม่ว่าอย่างไรหลงเจ๋อเอ่อร์ก็จะทำสำเร็จให้จงได้ !” หลงเจ๋อเอ่อร์รับคำสั่งแล้วก็เดินจากไปเช่นกัน
เมื่อตานปาออกคำสั่งต่อ ทหารชนเผ่ากิ้งก่ากรวดจึงเริ่มเคลื่อนพล
5 วันให้หลัง ตานปาก็ออกจากทัพ กลับมายังชนเผ่ากิ้งก่ากรวด
หัวหน้าเผ่ากิ้งก่ากรวดออกมาต้อนรับเขาด้วยตนเอง
แต่เมื่อได้ยินคำร้องขออันเสียมารยาทของตานปา และรับรู้ว่าบุตรชายตายอย่างน่าอนาถ หัวหน้าเผ่าก็โกรธเกรี้ยวเป็นยิ่งนัก ปฏิเสธคำขอของเขาทันที
ระหว่างทางกลับ หลงเจ๋อเอ่อร์นำทัพเข้าบุก หัวหน้าชนเผ่ากิ้งก่ากรวดตายในการต่อสู้นั้น
และในวันนั้น ตานปาก็ใช้อำนาจเพลิงของอานู๋ปี่เรียกรวมพลและควบคุมคนทั้งเผ่า เพื่อมุ่งหน้าไปปกป้องดินแดนบ้านเกิดที่ทางเหนือ !