บทที่ 713 คนแก่แก้แค้นแทนคนหนุ่ม

Throne of Magical Arcana ศึกบัลลังก์เวทอาร์คานา

“ไวเคานต์แอนดรี…” แอนนาเอ่ยทวนนามนั้นเสียงเบา ทว่าน้ำเสียงของนางกลับฉายชัดถึงความหวาดกลัวอย่างมิอาจควบคุมได้

ชายหนุ่มที่ยืนอยู่หน้าแท่นบูชานั้นก็คือไวเคานต์แอนดรี นายเหนือหัวในอนาคตของพวกตน เครื่องหน้าของเขาชัดเจนโดดเด่นดั่งรูปสลัก แต่กลับดูหยาบกระด้างและเศร้าหมอง เขามีเส้นผมสีทอง ดวงตาสีน้ำเงิน และรูปร่างกำยำล่ำสันเหมือนดั่งสมาชิกตระกูลวลาดิเมียร์คนอื่นๆ ทว่าน่าเสียดายนักที่ดวงตาของเขากลับปริ่มล้นด้วยความตื่นตระหนกอย่างเหนือคำบรรยายในขณะนี้ ไม่อาจทราบได้เลยว่ามันเป็นเพราะดูดากับเหล่าอัศวินพ่ายแพ้อย่างง่ายดาย หรือเป็นเพราะว่าเขาถูกจับได้คาสถานที่บูชาปีศาจกันแน่

แต่ทว่า แอนนากลับไม่ได้มองสังเกตใบหน้าของไวเคานต์แอนดรีเลย ในหัวของนางนั้นเต็มไปด้วยข่าวกรอง นิทานเรื่องเล่า และตำนานเกี่ยวกับชายผู้นี้ ไม่ว่าจะเป็นอัศวินมากสามารถ อนาคตท่านเคานต์แห่งคัลเคต สมาชิกผู้หนึ่งของตระกูลวลาดิเมียร์ มหาอัศวินรุ่นเยาว์ และลูกศิษย์ของอัศวินชั้นตำนาน…

ผู้ใดก็ตามที่มีกิตติศัพท์มากมายเช่นนี้ย่อมทำให้ทหารรับจ้างธรรมดาๆ อย่างแอนนาหวาดกลัว ด้วยเหตุนี้ หลังจากที่นำกิตติศัพท์ทุกอย่างมารวมกัน แม้ว่าไวเคานต์แอนดรีจะยังมิลงมือโจมตี และแม้ว่านักเวทกับแวมไพร์ผู้ทรงพลังกำลังลอยตัวอยู่เคียงข้าง นางก็ยังรู้สึกว่าหัวใจสั่นสะท้าน

‘ตัวเขาต้องมีอะไรพิเศษเป็นแน่ เขาคือหนึ่งในมหาอัศวินขั้นที่ห้าที่โดดเด่นที่สุด มิเช่นนั้นเขาย่อมไม่มีทางได้รับเลือกโดยอัศวินชั้นตำนาน…’

‘เขาคืออนาคตท่านเคานต์แห่งคัลเคต หากการต่อสู้ระหว่างเราถูกค้นพบ อัศวินอาภาจะต้องตามไล่ล่าสังหารเพื่อปิดปากเราเป็นแน่แท้…’

‘อีกอย่าง…อีกอย่างคือ เขาเป็นลูกศิษย์ของอัศวินชั้นตำนาน เราไม่มีทางรู้ได้เลยว่านิโคลล์ พายุมรณะ ได้มอบอุปกรณ์ชั้นสูงกับความสามารถพิเศษให้กับเขาหรือไม่…พี่คาทรินาจะถูกอัศวินชั้นตำนานตามไล่ล่าหรือไม่หากว่านางสังหารเขา’

ความคิดมากมายผุดขึ้นในหัวแอนนาพร้อมๆ กัน ใยต้องถามด้วยว่าคาทรินากับแวมไพร์ผู้หล่อเหลาจะสามารถเอาชนะไวเคานค์แอนดรีได้หรือไม่ เพียงตัวตนในฐานะลูกศิษย์ของอัศวินชั้นตำนานก็ทำให้ทั้งสองต้องคิดให้รอบคอบและเกิดความกลัวแล้ว นิโคลล์อาจรู้สึกเหมือนถูกตบหน้าหากว่าแอนดรีถูกสังหารเพียงสองเดือนหลังจากได้เป็นลูกศิษย์ตนก็เป็นได้ แล้วใครเล่าจะหลบหนีการไล่ล่าของอัศวินชั้นตำนานไปได้

บรรดาทหารรับจ้างต่างรู้สึกหวาดกลัวเช่นเดียวกัน และยาคอฟก็มิใช่ข้อยกเว้น แต่ไม่นานเขาก็สงบจิตใจลงได้ เป็นไวเคานต์แอนดรีที่พยายามสังหารพวกเขา หากพวกตนไม่ต่อต้าน ก็ย่อมตกตายลงในยามนี้ แต่หากลงมือต่อต้าน พวกตนก็อาจรอด อย่างไรเสีย สำหรับอัศวินชั้นตำนานและเคานต์คัลเคตแล้ว พวกตนก็เป็นเพียงมดปลวกเท่านั้น หากพวกตนหนีไป ก็เป็นไปได้ว่าคนพวกนั้นคงไม่เสียสติจนตามไล่ล่าพวกตนหรอก

เพราะฉะนั้น เขาจึงเลือกได้ไม่ยาก!

“เจ้าไม่ควรเข้ามาในนี้ เจ้าบังคับให้ข้าต้องทำมัน เจ้าบังคับข้า…” ตรงหน้าแท่นบูชา แอนดรีเอาแต่พูดคำเดิมซ้ำๆ ขณะที่หมอกโลหิตซึ่งพวยพุ่งออกมาจากแท่นบูชาเข้มข้นหนาแน่นขึ้นเรื่อยๆ

“เขาเป็นอะไรเช่นนั้นรึ” ไวเคานต์คาเรนเดียมักมองว่าตนเองรอบรู้พอสมควร แต่เขากลับไม่เข้าใจสภาพปัจจุบันของแอนดรี เขาจึงถามผ่านทางกระแสจิต

คาทรินามองไปทางไวเคานต์แอนดรีที่มีท่าทางผิดปกติด้วยสีหน้าเรียบเฉยพลางเอ่ยสรุปว่า “เขาคงจะถูกพลังปีศาจกัดกินและสติฟั่นเฟือนไปชั่วขณะเพราะเรามาขัดขวางพิธีกรรม เรามาฉวยโอกาสนี้จัดการเขากันเถิด”

ขณะส่งกระแสจิต แสงเจิดจ้าหลากสีสันก็เปล่งประกายจากร่างของนาง ปลดปล่อยแสงสว่างตระการตาดูราวกับพลุให้พุ่งไปยังหมอกหนา หุ่นจำลอง และแท่นบูชา

ยามที่นางใช้ ‘เวทแสงแห่งอาร์คานา’ ตัวนางดูราวกับกำลังสวมเสื้อคลุมขนนกแห่งแสงและดูงดงามสูงสุดอย่างยิ่ง สำหรับแอนนาและยาคอฟแล้ว นางเปรียบดั่งนางฟ้าบนโลกมนุษย์เลยทีเดียว สภาเวทมนตร์ได้สร้างเวทมนตร์บทนี้ขึ้นโดยอ้างอิงจากพลังศักดิ์สิทธิ์ มันจึงดูเหมือนกันมาก เว้นแต่ว่าเวทมนตร์บทนี้มิได้มีคลื่นพลังพิเศษของพลังศักดิ์สิทธิ์เพียงเท่านั้น

เมื่อแสงนั้นตกกระทบหมอกโลหิต แสงสว่างจ้าละลานตาก็พลันลุกโพลง ทว่า หมอกโลหิตรอบๆ แท่นบูชาแห่งนี้ดูจะแข็งแกร่งกว่าแห่งเดิมนัก มันเพียงสลายตัวไปเล็กน้อยหลังจากถูกเวทแสงแห่งอาร์คานาพุ่งเข้าใส่

แต่ในทางกลับกัน ‘เวทแสงแห่งอาร์คานา’ ของคาทรินาได้เรียกสติของไวเคานต์แอนดรีกลับมา แววตาของเขามิหลงเหลือความหวาดกลัวอยู่อีกต่อไปขณะที่เขาเอ่ยเสียงสลด “อย่างที่ข้าบอกไป เจ้าบังคับให้ข้าต้องทำมัน!”

เส้นสายลวดลายสีดำบนพื้นพลันเปล่งแสงวิบวับพร้อมกับคำพูดและท่าทางของเขา มันแผ่ออกไปทุกทิศทางจนไปถึงแท่นบูชา ก่อเป็นลวดลายวงแหวนเวททรงลูกบาศม์ หมอกสีเข้มพวยพุ่งออกมาจากแท่นบูชา ทำให้หุ่นจำลองดูเลือนลางและแผ่กลิ่นอายเย็นเยียบ

“เร็วเข้า! พิธีกรรมใกล้จะจบลงแล้ว!” คาทรินาโจมตีใส่แท่นบูชากับไวเคานต์แอนดรีด้วย ‘ลูกไฟของลูเซียน’ และเวทมนตร์บทอื่นในขณะที่นางเอ่ยกระตุ้นไวเคานต์คาเรนเดียให้ลงมือโจมตี

นางสังหรณ์ใจว่าจะเกิดเรื่องอันตรายร้ายแรงขึ้นหากพิธีกรรมถูกกระตุ้น พิธีกรรมนี้เกือบจะเสร็จสมบูรณ์แล้วและรอเพียงการกระตุ้นครั้งสุดท้ายเท่านั้น!

ไวเคานต์คาเรนเดียส่งเสียงขึ้นจมูก “ข้าคิดได้อย่างไรกันนะว่าทุกอย่างกำลังดำเนินไปด้วยดี…”

เสื้อคลุมทางด้านหลังของเขาโบกสะบัดและกลายเป็นความมืดมิดสุดหยั่งถึง ซึ่งมันเข้าโอบล้อมทั้งตัวเขาและแท่นบูชากับลวดลายเวทมนตร์ที่มีฤทธิ์กัดกร่อนเอาไว้

ไวเคานต์แอนดรีที่มีวงแหวนเวทคุ้มกันกายอยู่ เฝ้ามองการสลายตัวของหมอกโลหิตแล้วส่ายศีรษะรัวแรง “เจ้าบังคับให้ข้าต้องทำมัน!”

เขาหยิบกริชสีเข้มออกมาจากกระเป๋า แท้จริงแล้วมันเป็นสีขาวงาช้าง ทว่ามันกลับอัดแน่นด้วยกลิ่นอายแห่งความตาย

“นี่คือ ‘คำเชิญแห่งนิโคลล์’ กริชชั้นสูงที่อาจารย์มอบให้แก่ข้า บัดนี้ ข้าจะใช้มันเป็นเครื่องบูชาในพิธีกรรมนี้ มันจะเปลี่ยนเป็นพายุแห่งความตายที่รุนแรงที่สุดและสมบูรณ์แบบที่สุด และกลืนกินพวกเจ้าทุกคน!” แอนดรีหัวเราะอย่างบ้าคลั่งและโยน ‘คำเชิญแห่งนิโคลล์’ ขึ้นไปบนแท่นบูชา

“ท่านคือเจ้าแห่งความมืดและตัวแทนของความสิ้นหวัง ท่านจักทำให้โลกใบนี้หยุดนิ่งเมื่อวันโลกาวินาศมาถึง…” แอนดรีสวดคาถาด้วยท่าทางที่ดูราวกับนักบวชประจำลัทธิมากกว่าจะเป็นอัศวิน

“พวกนั้นบูชากอนไฮล์ม!” ด้วยเคยได้ยินเรื่องราวมากมายเกี่ยวกับเดโมกอร์กอนแห่งความมืด คาทรินาจึงคุ้นเคยกับปีศาจตนนี้ดี นางเอ่ยเตือนไวเคานต์คาเรนเดีย

ความมืดแผ่พุ่งออกมาจากแท่นบูชาและแช่แข็งบริเวณรอบๆ นั้น และทันใดนั้นก็บังเกิดแผ่นดินไหว มวลอากาศแห่งความทดท้อสิ้นหวังอันลึกล้ำพวยพุ่งขึ้นมา ทันทีที่เห็นมัน แอนนาก็รู้สึกเหมือนว่าตนเองกำลังจะตายอีกครั้ง

ทหารรับจ้างทุกคน รวมถึงยาคอฟเอง ต่างก็ถูกมวลอากาศนั้นดึงดูดความสนใจ พวกเขารู้สึกเหมือนวิญญาณกำลังต่อสู้กับร่างกายจนเกินจะควบคุม

หลังจากเกิดการปะทะ ความมืดที่แผ่กระจายออกจากแท่นบูชาก็ถูกมวลอากาศยกลอยขึ้น ค้างคาวสีดำปลิวไปกระแทกกับผนังจนตายไปหลายตัว

“พายุแห่งความตาย…” ไวเคานต์คาเรนเดียมายืนเคียงข้างคาทรินาด้วยใบหน้าซีดเผือดกว่าก่อนหน้านี้ เขานิ่วหน้า “ข้าเกลียดการต่อสู้ที่มีของวิเศษชั้นสูงมาเกี่ยวข้องด้วยที่สุดเลย…”

ขณะที่เขาพูด เขาก็หยิบกรอบรูปออกมาจากกระเป๋าเสื้อ ภายในกรอบรูปนั้นคือภาพวาดของไรห์นผู้มีเส้นผมสีเงินและดวงตาสีเงิน รูปวาดของเขาดูเป็นทางการเสียยิ่งกว่าตัวจริง

เมื่อสัมผัสได้ถึงความรู้สึกใกล้ตาย แอนนาก็ครุ่นคิดด้วยความสิ้นหวังและหวาดกลัว ‘นี่คือพลังของชั้นตำนานเช่นนั้นหรือ ของวิเศษชั้นสูงที่มีกลิ่นอายเพียงเสี้ยวเดียวของอัศวินชั้นตำนานก็ทรงพลังถึงเพียงนี้แล้วหรือ’

นางหันไปมองคาทรินาอย่างยากลำบาก พยายามจะบอกให้อีกฝ่ายรีบหนีไป ทว่า ภายใต้แรงกดดันแห่งความตาย นางจึงไม่อาจส่งเสียงใดออกไปได้หลังจากอ้าปาก!

‘หือ นั่นพี่คาทรินากำลังทำอะไร…’ ในตอนที่นางกำลังจะหมดสติ แอนนาก็เห็นว่าคาทรินากำลังกดมือซ้ายบนเหรียญตราสีเงินซึ่งมีลวดลายสัญลักษณ์ดูลี้ลับมากมาย

“ฮ่าๆ เจ้าจักได้ลิ้มรสชาติพายุแห่งความตายในเร็วๆ นี้” แอนดรีหัวเราะร่าอย่างเสียสติ มินำพาต่อม่านหมอกและวงแหวนเวทที่กำลังสั่นสะท้านสะเทือน

แอนนาหลับตาลงด้วยความเจ็บปวด แรงกดดันแห่งความตายช่างมากมายเหลือทน ทว่า จู่ๆ นางกลับได้ยินเสียงแหลมสูงของคาทรินาดังลอยมาไกลๆ ซึ่งเสียงนั้นช่างแตกต่างจากยามปกติเวลานางพูด

“เสียงคำรามจากอวกาศอัญเชิญจักรวาลอะตอม…”

แอนนามองดูจักรวาลอันไร้ขอบเขตปรากฏขึ้นเบื้องหน้าคาทรินาด้วยความตกตะลึง มันทั้งมืดมิดและลึกล้ำเกินหยั่งถึง และดวงดารามากมายก็ผลัดกันส่องแสงหลากสีสัน

‘อวกาศเยือนถิ่นงั้นรึ’

‘จักรวาลเยือนถิ่นเช่นนั้นรึ’

เหล่าทหารรับจ้างต่างมีคำถามเดียวกันนี้ผุดขึ้นในใจ

จากนั้น พวกเขาก็สัมผัสได้ถึงความลึกล้ำของจักรวาลและพลังงานอ่อนๆ จากดวงดาว ราวกับมีความลี้ลับอันไร้ที่สิ้นสุดอัดแน่นอยู่ภายในนั้น

ความรู้สึกลึกสุดหยั่งนั้นทำให้จิตใจพวกเขาที่ถูกความตายกดดันอยู่สงบลงโดยพลัน จึงไม่รู้สึกถึงความสิ้นหวังหรือความเจ็บปวดใดๆ อีกต่อไป

‘นี่มัน…นี่มันพลังอะไรกัน’

‘นี่ก็เป็นพลังชั้นตำนานเช่นกันน่ะหรือ’

ดวงตาเบิกโพลงของพวกเขาจดจ้องมองดูสิ่งที่มีลักษณะของก๊าซกลายเป็นของสีฟ้าแผ่ไอเย็น แล้วคาทรินาก็โยนหลอดแก้วบรรจุของเหลวสีใสออกไป

ด้วยการเสริมพลังจาก ‘จักรวาลอะตอม’ หลอดแก้วจึงแตกกระจายโดยไม่ต้องพึ่งพาเวทมนตร์ใด แล้วของเหลวนั้นก็ตกกระทบลงบนวงแหวนเวทที่กำลังพังทลายลงหลังจากถูกย่อขนาดกลายเป็นลำแสงดูแปลกประหลาด

ทั้งไอควัน ม่านหมอก และอากาศต่างถูกแช่แข็ง เช่นเดียวกับพายุดำแห่งความตาย ซึ่งถูกทำให้กลายเป็นเกล็ดหิมะสีดำแทน

และท่ามกลางสิ่งเหล่านั้น ไวเคานต์แอนดรีก็ถูกแช่แข็งไปด้วยเช่นกัน ข้าวของอุปกรณ์ของเขาแตกสลาย และเลือดในกายก็กลายเป็นของแข็ง สีหน้าตื่นตะลึงยังคงแสดงออกชัดเจนบนใบหน้าเขา

จากนั้น ความหนาวเหน็บก็หายไป ก่อนที่ทุกอย่างจะเริ่มละลาย กลายเป็นแอ่งน้ำ

ขณะเฝ้ามองภาพอันเหลือเชื่อตรงหน้า แอนนาและคนอื่นๆ ต่างรู้สึกว่าพวกเขายังอยู่ในความฝัน

“หากข้ารู้ว่าเจ้าเตรียมพิธีกรรมไว้แล้ว ข้าคงไม่ต้องนำกรอบรูปออกมา…” ไวเคานต์คาเรนเดียเก็บรูปวาดของไรห์นกลับไป “เวทลำแสงแช่แข็งของอีวานส์เช่นนั้นรึ”

“เจ้าค่ะ” คาทรินาหน้าค่อนข้างซีดเซียว “ดูเหมือนว่าแอนดรีจะจัดทำพิธีบูชา ‘เดโมกอร์กอนแห่งความมืด’ เพื่อเพิ่มพูนพลังกับความสามารถให้ตนเองนะเจ้าคะ”

“ก็คงใช่ มันอธิบายได้ว่าเหตุใดเขาจึงกลายเป็นลูกศิษย์ของ ‘พายุมรณะ’ ไม่นานหลังจากทำพิธีกรรม อีกอย่าง เดโมกอร์กอนแห่งความมืดก็เป็นเจ้าแห่งปีศาจที่มีนิสัยเหมือนภูตผีมากที่สุด มันจึงเป็นเรื่องปกติอย่างยิ่งที่เขาจะสร้างความศรัทธาให้กับผู้คน” ไวเคานต์คาเรนเดียกล่าวขณะครุ่นคิดอย่างหนัก

ภายในปราสาทแห่งหนึ่ง หน้าจอที่รูปร่างเหมือนกระจกได้แสดงภาพเหตุการณ์ทุกอย่างที่เกิดขึ้นในคฤหาสน์ของดูดา

“นายท่านสามารถสังหารทุกคนได้อย่างง่ายดายแท้ๆ” สตรีผู้มีความงามแสนเย้ายวนนั่งคุกเข่าอยู่ข้างกายชายหนุ่มและคอยป้อนไวน์ให้เขาด้วยปากตนเอง บนหน้าผากของนางมีเขาเล็กน่ารักอยู่คู่หนึ่ง

ชายหนุ่มลูบผมของนางแล้วเบนสายตาจากหน้าจอ เขามีใบหน้าที่เหมือนไวเคานต์แอนดรีทุกกระเบียดนิ้ว!

“ฮะๆ ถึงข้าจะทำเช่นนั้น แล้วอย่างไรเล่า หนึ่งในนั้นคือลูกศิษย์ของมหาจอมเวท และอีกหนึ่งก็เป็นลูกหลานสายสัมพันธ์ใกล้ชิดของเจ้าชายแวมไพร์ เจ้าคิดว่าสิ่งต่างๆ จะหยุดลงอย่างนั้นหรือ” ‘แอนดรี’ แย้มยิ้ม “หากเป็นนักเวทกับแวทไพร์ตนอื่นแล้วล่ะก็ ข้าคงจะสังหารพวกมันแล้วป้ายความผิดให้กับใครสักคนไปแล้ว สภาเวทมนตร์กับพวกแวมไพร์ย่อมมิให้ความสนใจเท่าไหร่หรอก แต่ว่า ในเมื่อเป็นสองคนนี้ที่มา ข้าจึงทำได้เพียงมอบ ‘คำตอบ’ ให้พวกเขา อย่างไรเสีย แผนการของเราก็ดำเนินไปด้วยดี และตัวตนของแอนดรีก็หาได้เป็นประโยชน์อีกต่อไปไม่”

สตรีแสนเย้ายวนผู้นั้นพยักหน้า “เจ้าค่ะ หากว่าสภาเวทมนตร์กับพวกแวมไพร์ตรวจสอบต่อไป ภารกิจในอนาคตของเราย่อมประสบปัญหามากกว่านี้ แต่ท่านทราบได้อย่างไรเจ้าคะว่าทางสภาเวทมนตร์จะส่งคาทรินา ลูกศิษย์ของผู้บัญชาอะตอมมา มิเช่นนั้น ดูดาย่อมสังหารยาคอฟกับทหารรับจ้างคนอื่นๆ ไปแล้วในระหว่างที่พวกเขาเดินทางอยู่”

‘แอนดรี’ ยิ้มนิ่งๆ แต่มิได้ตอบคำถามโดยตรง “อย่างไรก็ดี นี่คือจุดจบของทุกสิ่งทุกอย่าง ข้าไม่อยากให้เกิดอะไรขึ้นกับพวกเขา มิเช่นนั้นลูเซียน อีวานส์ กับไรห์นอาจมาด้วยตัวเอง ข้าล่ะเกลียดคนแก่ที่ชอบแก้แค้นแทนคนหนุ่มหลังจากที่คนหนุ่มพ่ายแพ้ยิ่งนัก…”

และที่สำคัญที่สุดก็คือ เขายังไม่สามารถเอาชนะคนแก่ที่ว่านี้ได้…

เขาผุดลุกขึ้นยืน กล้ามเนื้อบนใบหน้าเขาบิดเบี้ยว พร้อมกับที่ความสูงลดลงมา ก่อนที่เขาจะกลายเป็นชายวัยกลางคนผมดำหน้าตาไร้อารมณ์