ภูติประจำตัวของฟ่านจั๋วคือวิญญาณอาวุธ ครั้งนี้ภูติของเขากับผีเสื้อนรกของหรงรั่วได้รับบาดเจ็บน้อยที่สุด แม้แต่ตู๋เถิง, อิงซู่, และบัวเมาก็ได้รับบาดเจ็บ หลังจากจวินอู๋เสียทำลายอักขระเสริมวิญญาณของหอคอยโยวหลิงแห่งแรกแล้ว เจ้าแมวดำก็ฟื้นและกลายร่างเป็นสัตว์อสูรสีดำร่วมต่อสู้อย่างกล้าหาญ ตอนนี้มันกลับร่างเป็นแมวน้อยสีดำนั่งอยู่ข้างเท้าของจวินอู๋เสีย ดูเชื่องมากทีเดียว
แม้ว่ามังกรเพลิงจะไม่อยู่ แต่วิญญาณสัตว์อสูรก็ยังเฝ้าระวังอย่างเข้มงวด ด้วยความกลัวว่าเมื่อผู้นำทั้งสองของพวกมันไม่อยู่ วิญญาณมนุษย์จะร่วมมือกับวิญญาณอาวุธมาก่อปัญหา วิญญาณสัตว์อสูรที่ไม่ได้ไปที่หอคอยโยวหลิงแห่งแรกได้รู้ถึงแผนการชั่วร้ายของอูจิ่วจากพวกพ้องของพวกมัน พวกมันล้วนเกลียดอูจิ่วจนเข้ากระดูกดำ
วิญญาณทุกตนที่นั่นต่างรอคอย รอให้จ้าววิญญาณจัดการให้ผลลัพธ์ที่สมเหตุสมผลกับพวกมัน
แต่การรอคอยนั้นดำเนินไปตลอดทั้งวัน ภายใต้ท้องฟ้าที่มืดสลัวของโลกวิญญาณ จึงไม่สามารถแยกแยะกลางวันกลางคืนได้ ได้แต่ใช้นิ้วนับเวลาที่ผ่านไป
หลังจากรอมาทั้งวันก็ยังไม่เห็นพวกมังกรเพลิงกลับมา เฉียวฉู่จึงเริ่มหมดความอดทน
“เกิดอะไรขึ้น? มังกรเพลิงบอกว่าอย่างมากครึ่งวันก็กลับแล้วไม่ใช่หรือ?” เฉียวฉู่อดไม่ได้ที่จะวิ่งออกไปที่ปากถ้ำของมังกรเพลิงและมองไปรอบๆ เขาแหงนหน้ามองท้องฟ้า รู้สึกเกลียดที่ไม่สามารถให้พวกมังกรเพลิงกลับมาได้ตามที่หวัง.novel-lucky.
“ครั้งนี้อูจิ่วก่อเรื่องใหญ่ขนาดนั้น จ้าววิญญาณต้องโกรธมากแน่ๆ ก็ปกตินะถ้าเขาจะไม่สามารถสงบสติอารมณ์ได้สักพัก จ้าววิญญาณคงกำลังคิดว่าจะลงโทษอูจิ่วยังไงอยู่ล่ะมั้ง เรารอกันอีกสักพักเถอะ จะรีบอะไรนัก” เฟยเหยียนตวัดสายตามองเฉียวฉู่ จะเป็นวิญญาณในตอนนี้หรือตอนที่เป็นมนุษย์ปกติ เจ้าทึ่มนี่ก็ไม่ค่อยจะมีความอดทนเอาซะเลย
เฉียวฉู่ทำปากยื่นหน้ามุ่ย ดูเหมือนจะใจเย็นไม่ได้
จวินอู๋เสียมองเฉียวฉู่ แล้วสุดท้ายก็มองไปที่ตู๋เถิงซึ่งยืนอยู่ทางด้านเดียวกัน
“วิญญาณพืชที่มาช่วยเมื่อวาน ช่วยขอบคุณพวกเขาแทนข้าทีนะ” การต่อสู้เมื่อวานดุเดือดมาก แต่นางไม่ลืมร่างที่ดูไม่คุ้นเคยเหล่านั้น เป็นเพราะวิญญาณพืชพวกนั้นที่ทำให้สถานการณ์มั่นคงขึ้น
“อืม ขอบคุณแล้ว” ตู๋เถิงตอบเบาๆ สีหน้าเหมือนใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว
“ตู๋เถิง”
“อะไร?” ตู๋เถิงได้สติกลับมาอีกครั้ง เขามองจวินอู๋เสียอย่างงุนงง
“เจ้ากังวลอะไร?” สัญชาตญาณอันเฉียบคมของจวินอู๋เสียจับได้ว่าตู๋เถิงมีเรื่องกวนใจอยู่
ตู๋เถิงขมวดคิ้ว เงียบไปนิดนึงก่อนจะพูดขึ้นว่า “ข้าไม่แน่ใจ”
“ไม่แน่ใจอะไร?”
“ไม่แน่ใจว่าสิ่งที่ข้าคิดเป็นความจริงรึเปล่า”
“เจ้าไม่บอก จะรู้ได้ยังไงว่าจริงหรือไม่จริง”
ตู๋เถิงถอนหายใจ แล้วเดินไปนั่งลงบนพื้นข้างๆจวินอู๋เสีย อาจเป็นเพราะความสัมพันธ์ในฐานะภูติประจำตัวกับเจ้าของพันธะสัญญาระหว่างเขากับจวินอู๋เสีย ตู๋เถิงที่รังเกียจการติดต่อกับมนุษย์มาโดยตลอดดูเหมือนจะไม่สังเกตเห็นความใกล้ชิดของเขากับวิญญาณมนุษย์
“ข้ามีความรู้สึกว่าการที่พวกมังกรเพลิงไปพบท่านจ้าววิญญาณเป็นการตัดสินใจที่ผิดพลาด”
“ตอนที่มังกรเพลิงกำลังจะไป ก็ดูท่าทางเจ้าลังเลที่จะพูดอะไรสักอย่าง เจ้าอยากเกลี้ยกล่อมเขาไม่ให้ไปหรือ?” จวินอู๋เสียถาม
ตู๋เถิงพยักหน้า
“ข้าไม่สงสัยความปราดเปรื่องของท่านจ้าววิญญาณ แต่ท่านจ้าววิญญาณในช่วงร้อยปีที่ผ่านมาทำให้ข้ารู้สึกแปลกๆ……”
จ้าววิญญาณเป็นผู้ปกครองของโลกวิญญาณอย่างไม่ต้องสงสัย ตัวตนของเขาไม่เพียงเป็นสัญลักษณ์ของพลังและอำนาจสูงสุดที่ไม่มีใครเทียบเท่านั้น แต่ยังเป็นผู้สร้างโลกวิญญาณอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นวิญญาณใดจากเผ่าพันธุ์ไหน ทุกตนล้วนเคารพนับถือและสำนึกบุญคุณจ้าววิญญาณอย่างที่สุด ถ้าไม่ใช่เพราะจ้าววิญญาณสร้างโลกวิญญาณขึ้นมา พวกเขาที่เป็นวิญญาณก็คงต้องเข้าสู่การเวียนว่ายตายเกิด หรือไม่ก็กลายเป็นวิญญาณเร่ร่อน กล่าวได้ว่าจ้าววิญญาณคือผู้มีพระคุณของวิญญาณทุกตน