ตอนที่ 744 เงื่อนไขสองประการ

ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ

“เจ้าคิดว่ากระบี่เล่มนั้นที่ข้ามอบให้เจ้า ข้าให้ฟรี ๆ อย่างนั้นเหรอ เจ้าหมอนั่นใช้ชีวิตมานานหลายปี หัวสมองเต็มไปด้วยกลอุบาย หากทำให้หอหมอปีศาจแข็งแกร่งในดินแดนอวี้โจวไม่ได้ เช่นนั้นก็น่าอับอายขายหน้าเสียจริง” มู่เฉียนซีกล่าว

จอมมารอดไม่ได้จึงพรวดออกมาจากกระบี่ เขากล่าว “นายท่าน นึกไม่ถึงว่าท่านจะให้ข้าไปขายยา ข้าเคยเป็นถึงจอมมารยุคหนึ่ง ท่านจะให้ข้าไปขายยาเนี่ยนะ ?”

เดิมทีให้สอนผู้ที่ไร้ปัญญาอย่างอนาถจนไม่อาจทนดูได้คนหนึ่งแล้ว อีกทั้งยังให้เขามาเป็นเจ้านาย แค่นี้เขาก็รู้สึกเสียใจมากพออยู่แล้ว นี่ยังจะให้เขาไปขายยาอีก

มู่เฉียนซีกล่าว “ไม่ได้ให้เจ้าไปขายยา ต่อให้เจ้าอยากไปขายก็ขายไม่ได้ ข้าให้เจ้ามาสอนศิษย์น้องของข้า ให้สร้างอำนาจที่แข็งแกร่ง เมื่อก่อนเจ้าก็คงจะมีอำนาจมีกองกำลังอยู่เหมือนกันใช่ไหมล่ะ!”

จอมมารไม่คิดว่าเป็นเช่นนั้น “ขายยา นับว่ามีอำนาจอันใดกัน ?”

มู่เฉียนซีตอบ “ขอเพียงแค่เจ้าช่วยจินซ่านซ่านทำเป้าหมายของข้าให้สำเร็จ เมื่อถึงตอนนั้นเจ้าก็จะเห็นว่ามันมีอำนาจเช่นไร หากเจ้าไม่เชื่อฟังแล้วละก็ ข้าจะเรียกกระบี่มังกรเพลิงออกมาต้อนรับเจ้า เป็นเช่นไร…”

จอมมารได้ยินเช่นนี้ก็ตกใจกลัวจนตัวสั่น และกล่าวว่า “ข้าทำ ข้าทำ!”

มู่เฉียนซีกล่าว “ผู้ช่วย ข้าก็เตรียมให้เจ้าเรียบร้อยแล้ว เจ้าตั้งใจทำให้ดีล่ะ”

มู่เฉียนซีโยนขวดยาขวดหนึ่งออกมา ด้านบนเขียนคำว่า ‘ซี’ อยู่

“นี่เป็นสิ่งยืนยัน เอาสิ่งนี้ไปให้ผู้ดูแลของหอหมอปีศาจที่อวี้โจว พวกเขาก็จะรู้เอง”

“ข้าเข้าใจแล้ว แต่ว่า…”

มู่เฉียนซีขมวดคิ้วพลางกล่าว “แต่อะไร…”

“ฮือ ฮือ ฮือ พี่ใหญ่มู่ ข้าทำใจที่จะจากท่านไปไม่ได้!” จินซ่านซ่านร้องไห้เสียงดังขึ้นอีกครั้ง

“ไสหัวไปได้แล้ว!” มู่เฉียนซีเตะเจ้าหมอนี่ออกไป

หลังจากที่เตะจินซ่านซ่านออกไปแล้ว อาจารย์ใหญ่ซวนและผู้อาวุโสสูงสุดก็มา อาจารย์ใหญ่ซวนกล่าวถามว่า “สาวน้อย พวกเราจะกลับสำนักศึกษาเมื่อไหร่ล่ะ ตอนนี้พวกเขาต่างก็เรียกร้องกลับสำนักศึกษา ขาดก็แค่ตัวหลักอย่างเจ้าคนเดียวแล้ว”

มู่เฉียนซีครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็กล่าวขึ้นว่า “ท่านอาจารย์ใหญ่ ข้าอยากจะอยู่เหลยโจวอีกสักช่วงหนึ่ง”

สนามรบโบราณหลายแห่งที่ดินแดนเหลยโจว ไม่แน่อาจจะมีตัวกระบี่ของกระบี่มังกรเพลิงพิฆาตวิญญาณอยู่ นางอยากจะลองหาดูอีกสักหน่อย

“อะไรนะ ?” สีหน้าของพวกเขาพลันเปลี่ยนไปทันที

ผู้อาวุโสสูงสุดกล่าว “ตอนนี้หุบเขาหมอเทวดารอโอกาสที่จะลงมือกับเจ้า เจ้าอยู่ข้างนอกเช่นนี้มันไม่ปลอดภัยจริง ๆ”

มู่เฉียนซีกล่าว “ต่อให้ถูกหุบเขาหมอเทวดาจ้องเขมือบ ข้าก็จะไม่ยอมล้มเลิกแผนการด้วยเหตุผลนี้แน่ และก็จะไม่ยอมเก็บตัวอยู่ในสำนักศึกษาซวนเสียจนไม่ออกตามล่าหาประสบการณ์แน่นอน”

ก็จริง สำนักศึกษาซวนเสีย ดินแดนเสียโจวนั้น สำหรับนางแล้วมันเล็กเกินไป

นางต้องการท่องโลกกว้าง พวกเขานั้นเข้าใจดี แต่พวกเขาอดที่จะเป็นห่วงนางไม่ได้…

มู่เฉียนซีกล่าว “ข้าจะดูแลตัวเองให้ดี หุบเขาหมอเทวดาคิดจะทำร้ายข้า มันไม่ง่ายเช่นนั้น”

อาจารย์ใหญ่ซวนกล่าว “ในเมื่อเจ้าตัดสินใจเช่นนี้แล้ว ข้าก็ทำได้แค่มอบวันหยุดยาวให้กับเจ้าแล้วล่ะ ระวังตัวเองดี ๆ ล่ะ!”

ผู้อาวุโสสูงสุดกล่าว “ระวังตัวด้วยล่ะ!”

ซวนอี้มองมู่เฉียนซี และกล่าวว่า “ดูแลตัวเองด้วย”

“อืม!”

พวกเขาต่างก็กลับสำนักศึกษาไป ส่วนมู่เฉียนซีก็แปลงร่างเป็นอาถิงเพื่อไปดูอาการบาดเจ็บของเหลยหมิง

ถึงแม้ว่าจะได้เห็นชายหนุ่มผู้นี้เป็นครั้งที่สอง แต่เหลยหมิงก็ยังคงรู้สึกทึ่งอยู่ดี

เหลยหมิงกล่าว “ได้ยินมาว่ามู่เฉียนซีเปิดโปงว่านอู๋เทียน อีกทั้งนางยังคว้าอันดับหนึ่งในการแข่งขันใหญ่ร้อยสำนักครั้งนี้ได้ด้วย”

มู่เฉียนซียิ้มพลางกล่าว “ทำไม อิจฉาเหรอ หรือว่าอยากจะประลองกับนางสักตั้ง ?”

“นางเป็นถึงผู้มีพระคุณของข้านะ ข้าเหลยหมิง ต่อให้คิดอยากจะแข่งขัน แต่ก็ไม่มีทางเนรคุณต่อผู้มีพระคุณเด็ดขาด”

“รอให้พลังของนางเพิ่มขึ้นมากกว่านี้สักหน่อย ต่อให้เจ้าไม่อยากจะเนรคุณ นางก็จะต้องเป็นฝ่ายมาท้าแข่งกับเจ้าแน่”

“เช่นนั้นข้าก็รอคอย”

การรักษาวันนี้เป็นไปด้วยความราบรื่นมาก เหลยหมิงก็รู้สึกได้ว่าเส้นปราณพลังของตนเองนั้นฟื้นฟูกลับมาดีขึ้นมากแล้ว

รักษาไปสามวัน อาการของเหลยหมิงก็ดีขึ้นอย่างสมบูรณ์ และไม่ต้องนอนอยุ่บนเตียงแล้ว

อาจารย์ใหญ่เหลยรู้สึกดีอกดีใจเป็นอย่างยิ่ง นี่คือปาฏิหาริย์ ปาฏิหาริย์จริง ๆ

คนป่วยก็รักษาเสร็จแล้ว ครั้นแล้วมู่เฉียนซีจึงไปหาอาจารย์ใหญ่เพื่อคุยเงื่อนไขทั้งสองข้อ

อาจารย์ใหญ่เหลยก็รู้ เรื่องต่อไปนี้ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้

มู่เฉียนซีเอ่ยปากกล่าว “อาจารย์ใหญ่เหลยติดค้างเงื่อนไขข้าอยู่สองข้อ ตอนนี้ข้าพร้อมบอกเงื่อนไขของข้าแล้ว”

“ข้อแรก ให้สำนักศึกษาอันดับหนึ่งแห่งเสียโจวของพวกท่านพยายามอย่างสุดความสามารถช่วยให้หอหมอปีศาจกลายเป็นหอโอสถอันดับหนึ่งแห่งดินแดนเหลยโจว”

อาจารย์ใหญ่เหลยตกใจนิ่งอึ้งไป “เพียงแค่นี้เนี่ยนะ ?”

เขาคิดว่าจะให้ไปต่อสู้อย่างถวายชีวิตกับหุบเขาหมอเทวดา

มู่เฉียนซีกล่าว “อาจารย์ใหญ่คิดว่าเช่นไรล่ะ ต่อให้ข้าเกลียดหุบเขาหมอเทวดาจนอยากจะล้างทำลายเพียงใด แต่ข้าก็ไม่ให้สำนักศึกษาอันดับหนึ่งแห่งเหลยโจวไปเปิดศึกกับหุบเขาหมอเทวดาหรอก ตอนนี้หอหมอปีศาจของข้ากำลังแย่งช่องทางการค้าของหุบเขาหมอเทวดา หากอาจารย์ใหญ่เหลยช่วยข้า พวกหุบเขาหมอเทวดาก็ไม่สามารถทำการค้าได้ เช่นนี้ก็นับว่าเป็นการต่อกรกับพวกนั้นแล้ว”

การต่อกรเช่นนี้เมื่อเทียบกับการต่อสู้แบบเผชิญหน้าก็เป็นเพียงแค่เรื่องจิ๊บจ๊อยเท่านั้น ถึงอย่างไรดินแดนเหลยโจวแห่งนี้ก็เป็นอาณาเขตของเขา

อาจารย์ใหญ่เหลยกล่าวถาม “แล้วเงื่อนไขที่สองล่ะ ?”

“ข้าอยากเข้าไปในสนามรบโบราณอีกหกแห่ง”

“ว่าไงนะ ?” อาจารย์ใหญ่ลุกพรวดขึ้นด้วยความตกใจ

เงื่อนไขที่แรกนั้นนับว่าธรรมดา แต่เงื่อนไขที่สองนี้แปลกประหลาดไปสักหน่อย

อาจารย์ใหญ่กล่าว “เหลยโจวมีสนามรบโบราณเจ็ดแห่ง สนามรบโบราณที่สี่ถูกสำนักศึกษาอันดับหนึ่งแห่งเหลยโจวของพวกข้าควบคุมเอาไว้แล้ว ยังมีอีกสามแห่งที่อยู่ในความควบคุมของกองกำลังอื่น ส่วนอีกสามแห่ง ตอนนี้ยังไม่รู้ว่าอยู่แห่งใด”

“อีกสามกองกำลังที่ว่านั้น ถ้าความแข็งแกร่งไม่พอฟัดพอเหวี่ยงกับสำนักศึกษาอันดับหนึ่งแห่งเหลยโจวของพวกเรา ก็แข็งแกร่งกว่าพวกเรา พวกเขาไม่ยอมให้สำนักศึกษาอันดับหนึ่งแห่งเสียโจวอย่างพวกเราเข้าไปในสนามรบโบราณที่เป็นของพวกเขาแน่ อีกอย่างเส้นทางนั้นไม่ใช่คิดจะเปิดแล้วจะเปิดได้”

มู่เฉียนซีกล่าวถาม “เช่นนั้น อาจารย์ใหญ่มีข้อมูลเกี่ยวกับสนามรบโบราณทั้งหกหรือไม่ ?”

“ในสำนักศึกษาพอมีอยู่ หากเจ้าต้องการ ก็ตามไปดูกับข้าที่สำนักศึกษาอันดับหนึ่งแห่งเหลยโจว เป็นเช่นไร ?”

มู่เฉียนซียิ้มพลางกล่าว “นี่แหละที่ข้าต้องการ!”

อาการบาดเจ็บของเหลยหมิงดีขึ้นแล้ว และพวกเขาก็กลับไปยังสำนักศึกษาอันดับหนึ่งแห่งเหลยโจว

มู่เฉียนซีผู้คว้าอันดับหนึ่งในการแข่งขันใหญ่ร้อยสำนักมาได้ นางเป็นแขกของสำนักศึกษาอันดับหนึ่งแห่งเหลยโจว ดังนั้นสามารถเข้าออกตามสถานที่ต่าง ๆ ของสำนักศึกษาอันดับหนึ่งแห่งเหลยโจวได้

มู่เฉียนซีได้อ่านข้อมูลสนามรบโบราณเจ็ดแห่งในห้องตำราของอาจารย์ใหญ่ก่อน

สนามรบโบราณที่สอง ถูกกองกำลังระดับสองที่แข็งแกร่งที่สุดแห่งเหลยโจวอย่างหอโม่ปิงควบคุม

สนามรบโบราณที่ห้า ถูกกองกำลังระดับสองอย่างสำนักหลัวเทียนควบคุม

สนามรบโบราณที่หก ถูกกองกำลังระดับสองอย่างกองกำลังผู้นำเจ็ดอสูรควบคุม

และยังมีสนามรบโบราณที่สี่ที่สำนักศึกษาอันดับหนึ่งแห่งเหลยโจวควบคุมอยู่ ส่วนสนามรบโบราณที่หนึ่ง สนามรบโบราณที่สาม และสนามรบโบราณที่เจ็ด ตลอดเวลาหลายปีที่ผ่านมานี้ก็ยังหาตำแหน่งและทางเข้าไม่ได้เลย

หลังจากที่อ่านข้อมูลเหล่านี้เสร็จแล้ว มู่เฉียนซีก็รู้สึกว่าการที่ได้เข้ามาในสำนักศึกษาใหญ่เช่นนี้แล้วทั้งที หากไม่ได้ไปหาข้อมูลเพิ่มเติมให้ดีมันจะเป็นสิ่งที่น่าเสียดาย

อาจารย์ใหญ่เหลยให้สิทธิมู่เฉียนซีเป็นพิเศษ มู่เฉียนซีสามารถเข้าออกห้องตำราทุกชั้นของสำนักศึกษาได้ แต่ทันทีที่เข้าไปห้องตำรานางก็ถูกมุงดู

“ว้าว! คนงามผู้นี้ก็คือมู่เฉียนซี ผู้ที่คว้าอันดับหนึ่งในการแข่งขันใหญ่ร้อยสำนักผู้นั้นไง!”

“งดงามเช่นนี้ยังต่อสู้ได้อีก แข็งแกร่งเกินไปแล้ว”

“……”

ความรู้สึกเหมือนกำลังถูกชื่นชมราวกับเป็นสมบัติแห่งแคว้นก็มิปาน ครั้นแล้วมู่เฉียนซีจึงใช้ย่างก้าวพันเงาเพื่อไปหาตำราอ่านข้อมูลที่เกี่ยวกับมหาวัตถุศักดิ์สิทธิ์เทพนิรันดร์และคัมภีร์หมื่นคำสาป

และสิ่งนี้ทำให้ผู้คนเหล่านั้นต่างต้องอุทานขึ้นว่า “ความเร็วก็เร็วมาก!”

เมื่อมู่เฉียนซีมา คะแนนความนิยมของเหลยหมิงนั้นก็ตกลงมาทันที

อย่างไรก็ตามอาการของเหลยหมิงนั้นก็ได้ฟื้นฟูกลับมาแล้ว นั่นเป็นสิ่งที่ทุกคนล้วนแต่คิดไม่ถึง เมื่อสอบถามเรื่องราว ที่แท้ก็เป็นหมอปีศาจแห่งหอหมอปีศาจเป็นคนรักษาเขา

หลังจากการโฆษณาอันทรงพลังเช่นนี้ ทำให้การค้าของหอหมอปีศาจนับวันยิ่งรุ่งเรืองมากขึ้นเรื่อย ๆ จนกระทั่งมีนักปรุงยาชั้นนำของเหลยโจวไปขอคำชี้แนะจากหมอปีศาจ

“ท่านอาจารย์เรียกหาเจ้า!” มู่เฉียนซีอยู่อ่านตำราในห้องตำรามาหลายวันไม่ออกไปไหนเลย เหลยหมิงจึงมาหานางด้วยตัวเอง