มู่เฉียนซีกล่าว “ยังเหลืออีกไม่กี่เล่มแล้ว อ่านเสร็จเดี๋ยวค่อยว่ากัน”
เหลยหมิงพบว่ามู่เฉียนซีนั้นอ่านตำราเร็วมาก อ่านเร็วเช่นนี้จะเข้าใจเนื้อหาในตำราเหรอ
มู่เฉียนซีเปิดอ่านตำราที่เหลือสุดท้ายจบ และกล่าวกับเหลยหมิงว่า “ไปเถอะ!”
มหาวัตถุศักดิ์เทพนิรันดร์ นั่นคือตำนาน
คัมภีร์หมื่นคำสาป ยิ่งเป็นสิ่งที่หายาก
แม้แต่ในห้องตำราของสำนักศึกษาอันดับหนึ่งแห่งเหลยโจวก็ไม่ได้อะไรสักอย่าง
เหลยหมิงกล่าวถามว่า “เจ้ากำลังหาสิ่งใดอยู่เหรอ ?”
“ของล้ำค่าที่จะทำให้ข้าแข็งแกร่งขึ้น แล้วก็สิ่งที่จะจะช่วยคนสำคัญของข้า” มู่เฉียนซีตอบ
เหลยหมิงกล่าว “แม้แต่หมอปีศาจก็ช่วยไม่ได้อย่างนั้นเหรอ ?”
ในคนที่เหลยหมิงรู้จัก ฝีมือการรักษาของชายหนุ่มผู้นั้นแข็งแกร่งที่สุดเท่าที่เขาเคยเห็นมาแล้ว
มู่เฉียนซีกล่าวอย่างจนปัญญาว่า “หากหมอปีศาจสามารถรักษาเขาให้หายได้ เขาก็คงไม่ต้องเจ็บปวดทรมานเช่นนั้นแล้ว”
เหลยหมิงกล่าว “เจ้าวางใจเถอะ ไม่ว่าจะรักษายากแค่ไหน หมอปีศาจจะต้องหาวิธีได้แน่”
เมื่อได้ยินคำพูดที่ให้กำลังใจนี้ของเหลยหมิงแล้ว มู่เฉียนซีก็กล่าวว่า “ต้องเป็นเช่นนั้นแน่นอน!”
มู่เฉียนซีไปหาอาจารย์ใหญ่เหลยกับเหลยหมิง นางเดินเข้าไปพลางกล่าวถามว่า “อาจารย์ใหญ่เหลยมีเรื่องอันใดเหรอ ?”
“เรื่องที่เจ้าอยากจะเข้าไปในสนามรบโบราณ ข้าช่วยไม่ได้ ดังนั้นข้ายังติดค้างเจ้าอยู่เรื่องหนึ่ง สาวน้อย เจ้าจะไม่เอาหรือไง ?”
อาจารย์ใหญ่เหลยดูกระตือรือร้นเป็นอย่างยิ่งที่จะให้นางขูดรีด มู่เฉียนซีครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็กล่าวว่า “ข้ายังมีเรื่องหนึ่งอยากจะให้อาจารย์ใหญ่เหลยช่วย”
มู่เฉียนซีเอาใบรายชื่อสมุนไพรวิญญาณแผ่นหนึ่งออกมา “หากอาจารย์ใหญ่เหลยเจอสมุนไพรวิญญาณตามใบรายชื่อนี้ ให้รีบแจ้งข้าทันที”
อาจารย์ใหญ่เหลยกล่าว “นี่…นี่มันง่ายเกินไปแล้ว เงื่อนไขของเจ้าก็แค่ให้ช่วยหาสมุนไพรวิญญาณอย่างนั้นเหรอ ?”
มู่เฉียนซีกล่าว “สมุนไพรวิญญาณเหล่านี้หายาก ทางด้านหุบเขาโอสถยังหามาได้ไม่เท่าไหร่”
อาจารย์ใหญ่เหลยกล่าวกับเหลยหมิงว่า “เหลยหมิง เจ้าเขียนใบรายชื่อสมุนไพรวิญญาณนี้เพิ่มอีกใบ แล้วเอาไปให้หน่วยสำนักปรุงยาของสำนักศึกษาเรา ให้พวกเขาช่วยข้าหาอย่างสุดความสามารถ”
แต่ละคนมีความเชี่ยวชาญที่ไม่เหมือนกัน สมุนไพรวิญญาณเหล่านี้เขาไม่รู้จักเลยแม้แต่ชนิดเดียว แน่นอนว่าต้องมอบหน้าที่นี้ให้กับหน่วยสำนักปรุงยาแห่งสำนักศึกษาของพวกเขาจัดการ
มู่เฉียนซี “ขอบคุณท่านมาก”
ในเมื่อตัดสินใจที่จะอยู่เหลยโจวต่อ หลังจากที่จัดการเรื่องที่สำนักศึกษาอันดับหนึ่งแห่งเหลยโจวเสร็จสิ้น มู่เฉียนซีก็เตรียมตัวไปที่หอหมอปีศาจ
เหลยโจว อยู่ในความดูแลของนาง
ศัตรูรายใหญ่เตรียมพร้อมที่จะบุกลงมืออยู่ในที่ลับ นางไม่สามารถทำตัวว่างแล้วมอบหน้าที่ให้คนอื่นจัดการแทนได้ จำต้องจัดการกับอันตรายที่แฝงเร้นนี้อย่างเฉียบขาดและรวดเร็วถึงจะถูก
เมื่อได้ยินว่ามู่เฉียนซีไม่ได้อยู่ที่สำนักศึกษา อาจารย์ใหญ่เหลยจึงกล่าวขึ้นว่า “เหลยหมิง ตอนนี้เจ้าอยู่ในสำนักศึกษาก็ว่าง ไปเป็นองครักษ์ให้สาวน้อยซีสิ”
สาวน้อยผู้นี้ ถามถึงหน้าตาก็งดงามเป็นอย่างมาก จะถามถึงความแข็งแกร่ง ก็มีความแข็งแกร่งเป็นอย่างมาก อีกทั้งยังฉลาดและเป็นเด็กที่รอบรู้อีกด้วย…
หากสามารถทำให้นางมาเป็นฮูหยินได้ ชีวิตนี้ของเหลยหมิงก็นับว่าสมบูรณ์แบบแล้ว
เมื่อครุ่นคิดแทนศิษย์รักของตนเองเช่นนี้แล้ว อัจฉริยะอันดับหนึ่งแห่งดินแดนเหลยโจวก็ได้ถูกเตะออกไปให้เป็นองครักษ์ของมู่เฉียนซี
นี่เป็นการแย่งชิงตำแหน่งของชิงอิ่งโดยตรง ร่างสีเขียวร่างหนึ่งปรากฏขึ้นข้างกายมู่เฉียนซี เขากล่าวด้วยน้ำเสียงที่ราบเรียบว่า “เฉียนมีข้าอยู่แล้ว”
ตอนนี้ชิงอิ่งให้สวมหน้ากากบดบังใบหน้าตัวเองเอาไว้ ใบหน้าที่น่าหวั่นกลัวนั้นไม่ได้เผยออกมา
ทว่า ร่างสีเขียวอันเพรียวบางนั้นดุจดั่งภาพวาด ช่างเป็นที่น่าดึงดูดผู้คนยิ่งนัก
คนผู้นี้ออกมาจากมิติใดกัน
นึกไม่ถึงว่าเขาจะรับรู้ไม่ได้ ถึงอย่างไรเขาก็เป็นถึงอัจฉริยะอันดับหนึ่งแห่งเหลยโจว ทว่า ตอนนี้ใบหน้าของอาจารย์ใหญ่เหลยตกอกตกใจขึ้นแล้ว
แต่เขาก็ยังคงยิ้มพลางกล่าวว่า “คนนึงอยู่ในที่มืด อีกคนอยู่ในที่แจ้ง รับประกันสองเท่า ไม่ดีกว่าเหรอ!”
ถึงอย่างไรอาจารย์ใหญ่เหลยก็ยังคงหน้าด้านยัดเยียดศิษย์รักของตนเองให้ไปอยู่ข้างกายมู่เฉียนซีจนได้
ชิงอิ่งมองไปที่มู่เฉียนซีและกล่าวเสียงต่ำว่า “เฉียน…”
มู่เฉียนซีกล่าว “หอหมอปีศาจยังต้องการเหลยหมิงในการโฆษณา หากเจ้าอยากไปก็ไปเถอะ แต่หากมีอันตรายใดขึ้นเจ้าอย่าได้แทรกมือเด็ดขาด ชิงอิ่งจัดการได้”
ชิงอิ่งได้อันตรธานหายไป ทำให้เหลยหมิงกับอาจารย์ใหญ่เหลยตกใจเป็นอย่างยิ่ง
ชายหนุ่มผู้ที่แข็งแกร่งอย่างลึกลับเช่นนี้ นึกไม่ถึงว่าเชื่อฟังคำพูดของมู่เฉียนซีเช่นนี้
“ไปกันเถอะ!”
มู่เฉียนซีประจำการอยู่ที่หอหมอปีศาจ มีเหลยหมิงเป็นโฆษณาให้ และมีสำนักศึกษาอันดับหนึ่งแห่งเหลยโจวคอยช่วยเหลือ การค้าของหุบเขาหมอเทวดาแทบจะไปต่อไม่ได้แล้ว
มู่เฉียนซีเปิดแผนที่แดนใต้ ปักหมุดไว้ที่เซี่ยโจว ต่อมาก็เป็นเสียโจว อวิ๋นโจว เหลยโจว…
นางต้องจัดการไปทีละขั้นตอน ทำให้หุบเขาหมอเทวดาหายสาบสูญไปโดยสมบูรณ์ให้ได้
ตัดแหล่งที่มาของรายได้พวกเขาได้สำเร็จ เช่นนั้นพวกเขาก็จะไม่มีสมุนไพรวิญญาณที่เพียงพอ นั่นก็เท่ากับว่าตัดการเจรจาเรื่องยาวิญญาณของพวกเขาได้
หุบเขาหมอเทวดาที่ปรุงยาออกมาได้ไม่เท่าไหร่ จะสามารถรักษาชื่อเสียงเอาไว้ได้นานแค่ไหนกันเชียว
“เอาข่าวที่ดินแดนอวี้โจวมา” มู่เฉียนซีกล่าว
เมื่อได้เห็นสถานการณ์ในดินแดนอวี้โจว มุมปากของมู่เฉียนซีก็ยกยิ้มขึ้น นึกไม่ถึงเลยว่าสถานการณ์ที่อวี้โจวจะรวดเร็วกว่าเหลยโจวเช่นนี้
สาเหตุที่เร็วมากเช่นนี้ ก็เพราะว่าจินซ่านซ่านนั้นได้ใช้วิธีทีง่ายและหยาบคายเป็นอย่างมาก
ไม่มีผู้ใดรู้เลยว่าผู้ที่ดูแลหอหมอปีศาจที่ดินแดนอวี้โจวนั้นเป็นจินซ่านซ่าน นายน้อยแห่งตระกูลจิน เขาได้กระทำเรื่องร้ายกาจอย่างลับ ๆ และแน่นอนว่าสิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นจอมมารที่เป็นคนสอนเขา
ต่อมา นายน้อยจินผู้เย่อหยิ่ง ผู้มั่งคั่งและมีอำนาจในดินแดนอวี้โจว เมื่อได้เห็นร้านขายโอสถของหุบเขาหมอเทวดาก็อารมณ์ไม่ดีทันที อารมณ์ไม่ดีก็พังทำลายร้านขายโอสถนั้น
เมื่อโดนเช่นนี้ แน่นอนว่าฝ่ายตรงข้ามนั้นก็โกรธเกรี้ยวขึ้นเป็นธรรมดา แต่ท่านพ่อผู้แข็งแกร่งผู้นั้นของจินซ่านซ่านก็ใช้หยกวิญญาณหุบปากคนพวกนั้นเอาไว้ ทำให้พวกเขาพูดไม่ออก
แต่เมื่อร้านโอสถเหล่านั้นที่ถูกพังได้ปรับปรุงร้านใหม่ และได้เปิดการค้าใหม่ก็พบว่าไม่สามารถค้าขายได้เลย เพราะหอหมอปีศาจได้แย่งการค้าของพวกเขาไปหมดแล้ว
มู่เฉียนซีได้เปิดแผนที่และปักหมุดตรงตำแหน่งดินแดนอวี้โจวไว้
จากนั้นก็เป็นดินแดนเหยียนโจว ดินแดนเหยียนโจวมีโม่จิ่นคอยประจำการอยู่ ใช้เวลาไม่นานเท่าไหร่
เช่นนั้นก็เหลือดินแดนหยู่โจวแล้วที่จัดการได้ยาก เพราะที่แห่งนั้นเป็นฐานที่มั่นของหุบเขาหมอเทวดา
ตอนนี้สมุนไพรวิญญาณทั่วไป หรือสมุนไพรวิญญาณล้ำค่าที่หุบเขาหมอเทวดาซื้อได้ก็ลดน้อยลงเรื่อย ๆ แล้ว ทำให้พวกเขาตกอยู่ในวิกฤต
เรื่องเหล่านี้ล้วนแต่เป็นฝีมือของหอหมอปีศาจทั้งสิ้น
หากเป็นเมื่อก่อน พวกเขาคงจะทำทุกวิถีทางเพื่อให้ศัตรูอันตรธานไปจากแดนใต้ แต่กับหอหมอปีศาจจะไปกระทำเช่นนั้นได้เหรอ
มีกองกำลังคอยช่วยเหลืออยู่ทั่วทุกพื้นที่ ที่น่ากลัวยิ่งกว่านั้นก็คือหมอปีศาจผู้นั้น ทักษะด้านพิษของเขายากที่จะหยั่งรู้ได้ อีกทั้งหมอปีศาจยังสามารถควบคุมเวลาได้อีกด้วย หากพวกเขากล้าลงมือเคลื่อนไหวแล้วล่ะก็ ไม่รู้เลยว่าจะต้องตายไปเช่นไร
“ต้องกอบกู้สถานการณ์กลับมาให้ได้ ไม่ว่าจะต้องทุ่มเทไปมากเพียงใดก็ตาม ไหนจะมู่เฉียนซีผู้นั้น มันจะต้องตาย!” ท่านผู้เฒ่าแห่งหุบเขาหมอเทวดากล่าวอย่างโกรธแค้น
ทว่า ภายใต้สถานการณ์ที่รุมล้อมด้วยกองกำลังของหอหมอปีศาจเช่นนี้ คิดว่าจะกอบกู้สถานการณ์กลับมาไหวเหรอ
ในทางการค้า หุบเขาหมอเทวดาได้พ่ายแพ้ลงแล้ว
ทว่า สิ่งที่นางต้องการไม่ใช่มีเพียงแค่นี้ มู่เฉียนซีมองออกไปนอกหน้าต่าง แววตาของนางก็ค่อย ๆ ล้ำลึกขึ้นเรื่อย
ในตอนนี้เองเหลยหมิงก็ปรากฏตัวขึ้น และได้นำข่าวดีมาบอกมู่เฉียนซี “แม่นางมู่ ผลหวายมหามหาจักรพรรดิ สมุนไพรวิญญาณขั้นปฐพีที่เจ้าตามหาอยู่ ตอนนี้ผู้อาวุโสโม่ ผู้อาวุโสสูงสุดของหน่วยสำนักปรุงยาแห่งสำนักศึกษาได้ข่าวมาแล้ว พอดีพวกเขาไปหาสมุนไพรวิญญาณชนิดอื่นที่ป่าเชียนโยวซึ่งเป็นที่ที่มีผลหวายมหาจักรพรรดินี้อยู่ ก็เลยนำกลับมาให้เจ้าด้วย”
สมุนไพรวิญญาณเหล่านี้หายากมาก หน่วยสำนักปรุงยาพยายามอย่างสุดความสามารถกว่าจะหามาได้
ดวงตาของมู่เฉียนซีเปล่งประกายขึ้น “มีข่าวของผลหวายมหาจักรพรรดิแล้ว ข้าอยากเจอผู้อาวุโสโม่ท่านนั้นสักหน่อย”
เหลยหมิงกล่าว “อันที่จริงแล้ว เมื่อตอนที่ท่านผู้อาวุโสโม่ได้เห็นรายชื่อสมุนไพรวิญญาณนั้นท่านก็อยากจะเจอเจ้า แต่ท่านอาจารย์ไม่อยากให้เขารบกวนเจ้า ดังนั้นก็เลยไม่รับปาก แต่ในเมื่อเจ้าเป็นคนเรียกร้องเช่นนี้ ก็ตามข้ามาเถอะ!”