บทที่ 2377 ร่วมมือ 2 / บทที่ 2378 ร่วมมือ 3

ลำนำบุปผาพิษ

บทที่ 2377 ร่วมมือ 2

เขามองกู้ซีจิ่วแวบหนึ่ง ค่อนข้างประหลาดใจที่นางเป็นห่วงเป็นใยเด็กน้อยที่ประวัติความเป็นมาไม่ชัดเจนเช่นนี้ นี่ผิดจากนิสัยของนางเกินไป

นิ่งไปแวบหนึ่ง แล้วเขาก็เอ่ยเสริมอีกประโยคด้วยท่าทียิ้มมิเชิงยิ้ม

“ถึงอย่างไรเขาก็เป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของเราสองคน เปิ่นจวินไม่ทารุณเขาหรอก”

กู้ซีจิ่วตอบไปเพียงคำเดียว

“อืม”

ข้อนี้ไม่จำเป็นต้องย้ำอยู่ตลอดก็ได้มั้ง?!

ทำให้เธอมีความรู้สึกละอายอย่างหนึ่ง…

อีกอย่างมาพูดเรื่องนี้ต่อหน้าคนรักก็คงไม่ดีกระมัง? เขาไม่กลัวว่าอวิ๋นชิงหลัวจะงอนเขามากกว่าเดิมหรือ?

หรือว่าเขาจงใจยั่วโมโหนาง เพื่อให้นางทำตัวดีๆ หน่อย?

หรือว่าเป็นเพราะตี้ฝูอีทะเลาะขัดแย้งกับอวิ๋นชิงหลัว ทั้งสองทำสงครามเย็นกัน เขาต้องการให้อวิ๋นชิงหลัวยอมจำนน จึงจงใจลากตัวเธอกู้ซีจิ่วให้มาร่วมทางกัน เพื่อยั่วโมโหอวิ๋นชิงหลัวสินะ? ทำให้นางรู้สึกถึงวิกฤตหรือ?

พอเถอะ ไม่เดาแล้ว!

กู้ซีจิ่วรู้สึกว่า ทุกครั้งที่พบกับเรื่องราวของตี้ฝูอีความคิดเธอจะฟุ้งซ่านเป็นพิเศษ คิดมากเป็นพิเศษ…

นี่ไม่เหมือนตัวเธอเลย!

ตอนนี้สมาธิของเธอควรใช้ไปกับการตามหาจระเข้วงแหวนเงิน

จะว่าไปทำไมตี้ฝูอีถึงรู้ว่าเธอกำลังตามหาจระเข้วงแหวนเงินล่ะ? ดุเหมือนเขาก็ตามหาเจ้าสิ่งนี้อยู่เหมือนกัน แล้วเขาทำเพื่ออะไรล่ะ?

เธออดไม่ได้ที่จะมองไปทางเขา

“เจ้ารู้ได้ยังไงว่าข้ากำลังตามหาจระเข้วงแหวนเงิน?”

ตี้ฝูอีตอบ

“มิใช่ว่าพิษในร่างเจ้าต้องใช้หัวใจมันทำกระสายยาหรอกหรือ?”

กู้ซีจิ่วชะงักไปแวบหนึ่ง

“ใช่!”

เธอมองอวิ๋นชิงหลัวอย่างเยียบเย็นแวบหนึ่ง เอ่ยเสริมอีกประโยค

“ต้องขอบคุณนางแล้ว!”

สีหน้าอวิ๋นชิงหลัวเผือดขาวนิดๆ ทำราวกับไม่ได้ยิน ยังคงมองออกไปที่อื่น

ตี้ฝูอีกล่าวขึ้นมาว่า

“นั่นก็ใช่ เส้นทางของพวกเราแตกต่าง ทว่ามีเป้าหมายเดียวกัน”

กู้ซีจิ่วหน้าเปลี่ยนสีนิดๆ

มองจากท่าทีของอวิ๋นชิงหลัวก็เห็นได้ชัดว่าไม่เต็มใจ หากไม่เหนือไปจากความคาดหมายล่ะก็ ตี้ฝูอีคงบังคับนางมา…

มิน่าล่ะพวกเขาจึงทำสงครามเย็นกัน

นี่คือเป้าหมายที่ตี้ฝูอีพาอวิ๋นชิงหลัวมางั้นหรือ?

ใครผูกคนนั้นก็ต้องแก้…

แสดงความจริงใจขั้นสูงสุดของพวกเขาออกมา หลอมยาถอนพิษให้ตัวเธอกู้ซีจิ่ว แก้พิษร้ายแรงบนร่างเธอ ให้เธอยอมอภัยให้อวิ๋นชิงหลัวสินะ?

เขาช่างมีความตั้งใจโดยแท้!

ดูเหมือนเขาจะยังดีต่อตัวเธอกู้ซีจิ่วมากนัก ต่อให้ไม่ใช่คนรักแล้วก็อยากเป็นสหายกันอยู่…

เอาเถอะ เธอจะลองเป็นเพื่อนกับเขาดูแล้วกัน ขบคิดปัญหาเหล่านี้ในแง่มุมของสหายธรรมดา…

เธอสูดหายใจเบาๆ

“ที่แท้เจ้าก็ทำเพื่อข้า เช่นนั้นก็ขอบคุณ น้ำใจนี้ข้าได้รับแล้ว! เอาล่ะ ในเมื่อทุกคนมีเป้าหมายเช่นเดียวกัน งั้นก็มาหารือแผนการขั้นต่อไปกันหน่อยไหม?”

ตี้ฝูอีมองนางแวบหนึ่ง ตรงไปตรงมายิ่งนักเช่นกัน

“ก่อนหน้านี้เปิ่นจวินเข้าไปสำรวจส่วนลึกของบึงมา ในนั้นมีพิษหนาแน่นที่สุด สัตว์พิษไม่ต่ำกว่าร้อยชนิด ล้วนเป็นสัตว์ที่ดุร้ายยิ่ง หากว่าพวกเราต่อสู้อยู่ในนั้น อันตรายเกินไป จะถูกสัตว์อื่นโจมตีได้ง่ายดายนัก อีกทั้งจระเข้วงแหวนเงินก็อยู่เป็นฝูง ถ้าโจมตีสักตัว ตัวอื่นๆ ก็จะโผล่ขึ้นมาเหมือนกัน ดังนั้นมีแต่ต้องหาทางล่อจระเข้วงแหวนเงินตัวนั้นออกมา จากนั้นค่อยล้อมสังหาร”

กู้ซีจิ่วหลุบตาเล็กน้อย

“ข้ามีวิชาเคลื่อนย้าย ข้าจะไปล่อออกมาสักตัว!พวกเจ้าเก็บกวาดสถานที่ใกล้เคียงแล้วซุ่มโจมตีแล้วกัน”

ทุกคนที่อยู่ ณ ที่นี้ไม่ใครเร็วไปกว่าเธอแล้ว! ดังนั้นให้เธอไปล่อจระเข้จะดีที่สุด

ตี้ฝูอีกลับส่ายหน้า

“ไม่ได้ เข้าไปคนเดียวอันตรายเกินไป อีกทั้งเรื่องนี้จะต้องพานางไปด้วย เปิ่นจวินจะไปกับพวกเจ้าด้วย”

กู้ซีจิ่วเลิกคิ้วมองเขา

“เหตุใดต้องพานางไปด้วย? เพราะนางคุ้นเคยกับภูมิประเทศหรือ?”

ในเมื่ออวิ๋นชิงหลัวเคยใช้จระเข้วงแหวนเงินหลอมยา ก็ยืนยันได้ว่านางเคยมาที่บึงแล้ว เมื่อก่อนนางสามารถล่าถอยกลับไปโดยปลอดภัยได้ ก็น่าจะเกี่ยวข้องกับความคุ้นเคยในภูมิประเทศ

ตี้ฝูอีเหลือบมองอวิ๋นชิงหลัวแวบหนึ่ง

————————————————————————————-

บทที่ 2378 ร่วมมือ 3

อวิ๋นชิงหลัวเคยบอกเอาไว้ ถ้าจระเข้ตัวนั้นออกมาจำเป็นต้องใช้โลหิตหัวใจที่กรีดออกมาสดๆ ของนาง และโลหิตที่ใช้ก็ต้องให้นางนำออกมาเอง ถ้าให้คนอื่นทำแทน เช่นนั้นจะถือว่านางไม่ได้ยินยอมพร้อมใจ โลหิตที่ได้มาจากสภาวะไม่ยินยอมพร้อมใจนี้จะไม่สามารถดึงดูดจระเข้ตัวนั้นให้ออกมาได้

แน่นอนว่าทุกสิ่งที่อวิ๋นชิงหลัวบอกก็ยังไม่แน่ว่าจะเป็นความจริงทั้งหมด อาจจะโป้ปดก็ได้

ตี้ฝูอีไม่สามารถนำเรื่องนี้มาเสี่ยงได้ ดังนั้นเขาจึงยอมรับเงื่อนไขบางอย่างของอวิ๋นชิงหลัว

ยกตัวอย่างเช่นหลังจบเรื่องนี้แล้ว ต้องละเว้นชีวิตของนาง…

ยกตัวอย่างเช่นอย่าพูดเรื่องของนางต่อหน้าคนอื่น เหลือเกียรติไว้ให้นางบ้าง…

มิเช่นนั้นนางจะยินยอมถูกทรมานจนตาย ทว่าไม่ยินดีจะสละโลหิตหัวใจให้…

เนื่องจากเงื่อนไขเหล่านี้ไม่หนักหนาอะไร ตี้ฝูอีจึงรับปากนาง

เขารักษาคำพูดมาโดยตลอด ถ้าอยู่ในพื้นฐานที่อีกฝ่ายรักษาสัจจะ เขาย่อมไม่บิดพลิ้วเช่นกัน

ดังนั้นเขาจึงตอบคำถามของกู้ซีจิ่วด้วยถ้อยคำที่คลุมเครือเพียงสองประโยค

“จะแก้กระพรวนก็ต้องใช้คนที่ผูกกระพรวน จะต้องตามจระเข้วงแหวนเงินที่เคยถูกเอาเลือดไปในครั้งนั้นมาถึงจะได้เรื่อง ตัวอื่นล้วนไม่มีผล มีเพียงนางที่มีวิธีตามหา ดังนั้นจึงจำเป็นต้องให้นางไป”

มีแบบนี้ด้วยเหรอ?

กู้ซีจิ่วไม่พูดอะไรแล้ว ถึงอย่างไรเธอก็ไม่มั่นใจว่าเท็จหรือจริง

หารือกันเรื่องคนล่อจระเข้เสร็จแล้ว ทุกคนก็หารือกันเรื่องสถานที่ดักสังหารจระเข้ต่อ

จระเข้วงแหวนเงินชนิดนี้ตื่นตัวยิ่งนัก ไม่ยอมออกห่างจากใจกลางบึงไกลเกินไป

ดังนั้นต่อให้ล่อมาก็ล่อให้ออกจากรัศมีบึงไม่ได้อยู่ดี

มีแต่ต้องเสาะหาสถานที่ในละแวกนั้น

แต่จากการสำรวจของตี้ฝูอี ละแวกนั้นไม่มีสถานที่ปลอดภัยเลยสักจุด ยิ่งไม่ต้องพูดถึงหมอกพิษที่หนาแน่นเลย สัตว์ประหลาดสัตว์พิษก็มีโผล่มาไม่ขาดสายเช่นกัน…

วางแผนต่อเนื่องกันสองสามแผนแล้วล้วนแต่ไม่ได้เรื่องทั้งสิ้น จู่ๆ อวิ๋นชิงหลัวที่เงียบงันมาโดยตลอดก็เอ่ยขึ้นว่า

“ข้ารู้จักสถานที่ลับแห่งหนึ่ง อยู่ไกลจากแหล่งจระเข้ และไม่มีสัตว์พิษชนิดอื่นโผล่มาด้วย”

สายตาของทุกคนล้วนมองไปที่นาง กู้ซีจิ่วก็อดไม่ได้ที่จะมองนางแวบหนึ่งเช่นกัน คล้ายจะนึกไม่ถึงว่านางจะเป็นฝ่ายเสนอออกมาเองเช่นนี้

ตี้ฝูอีกลับไม่แสดงอารมณ์ใดเลย

“สถานที่ลับแห่งนั้นอยู่ที่ไหน?”

อวิ๋นชิงหลัวหันหลังออกเดิน

“พวกเจ้าตามข้ามา!”

พลางเดินก้าวไปด้านหน้า

กู้ซีจิ่วชะงักไปแวบหนึ่ง ยังคงติดตามไป

ตี้ฝูอีโบกมือส่งสัญญาณ ให้ลูกน้องทั้งสองคอยติดตามอยู่ข้างกายอวิ๋นชิงหลัว ป้องกันเหตุไม่คาดฝัน

ตัวเขาเองเดินเคียงไหล่กับกู้ซีจิ่ว

จู๋ตู๋ชิงย่อมไม่ยอมถูกทิ้งไว้ข้างหลัง คิดจะเดินเคียงกู้ซีจิ่วเช่นกัน เขาไม่ไว้ใจอวิ๋นชิงหลัวเท่าไหร่ จึงกระซิบถาม กู้ซีจิ่ว

“จะไว้ใจนางได้หรือ? ถ้าลากพวกเราลงคลองไปด้วยล่ะ!”

กู้ซีจิ่วส่ายหน้า

“ผลลัพธ์ที่เลวร้ายที่สุดก็คือสถานที่แห่งนั้นของนางไม่ปลอดภัย เท่ากับไม่ได้หา และไม่เสียหายอะไร เชื่อนางดูสักครั้งเถอะ”

เมื่อเช่นนี้ จู๋ตู๋ชิงจึงไม่พูดต่อแล้ว

ตี้ฝูอียิ้มนิดๆ

“ยังคงเป็นซีจิ่วที่หลักแหลม!”

กู้ซีจิ่วไม่โต้ตอบอะไร

เธออดใจไม่อยู่เหลือบมองอวิ๋นชิงหลัวที่อยู่ด้านหน้าแวบหนึ่ง ตัวนางเหยียดตรง ไม่เหลียวกลับมาเลย แต่มือที่อยู่ในแขนเสื้อกลับกำไว้แน่น

อืม หึงหวงอีกแล้ว

ตี้ฝูอีจะไม่ละความพยายามในการทำให้อวิ๋นชิงหลัวหึงหวงจริงๆ…

ดูเหมือนตัวเธอกู้ซีจิ่วจะกลายเป็นเครื่องมือที่ตี้ฝูอีใช้เพื่อบ่มความหึงหวงไปเสียแล้ว…

กู้ซีจิ่วกลอกตาเล็กน้อย ในใจเธอยังมีความแค้นกับอวิ๋นชิงหลัวอยู่ ถึงแม้ตัดสินใจแล้วว่าจะเห็นแก่หน้าของตี้ฝูอีไม่ตามล้างแค้นนางอีก แต่ยังอยากยั่วอารมณ์ของอีกฝ่ายอยู่ ได้ระบายความแค้นสักหน่อยก็ดีเหมือนกัน

เธอยิ้มนิดๆ เขยิบไปใกล้ร่างของตี้ฝูอีอีกเล็กน้อย

“เจ้าก็รู้จักข้าดีนี่ มิเสียทีที่เป็นบิดาของเฮ่าเอ๋อร์”

นางเป็นฝ่ายเข้ามาใกล้ก่อนเช่นนี้ช่างหาได้ยากนัก ตี้ฝูอีจึงยื่นแขนข้างหนึ่งไปโอบเอวคอดของนางไว้เสียเลย

“นี่ยังต้องพูดอีกหรือ? ก็เจ้าเป็นแม่ของลูกข้านี่!”

เขาแทบจะโอบเธอเข้าสู่อ้อมอกแล้ว ร่างกายกู้ซีจิ่วพลันแข็งทื่อไปเล็กน้อย

นี่…ก็เกินไปหน่อยแล้วมั้ง…

….