TB:บทที่ 264 โปรเจคซุปเปอร์แมน

 

“นี่ เสี่ยวยี่ เธอโตเป็นสาวแล้ว อีกสักพักเธอคงจะหาแฟนแล้ว ทำไมเธอจึงยังร้องไห้ในอ้อมแขนพี่ชายเหมือนเด็กน้อยแบบนี้” เฉินหลงกล่าวพร้อมรอยยิ้ม

จริงๆแล้ว เขาไม่ได้เจอหน้าครอบครัวมามากกว่าสองปีแล้ว ในตอนนั้น เฉินหลงรู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อย เขาอยากจะร้องไห้ออกมา แต่ด้วยความที่เป็นพี่ใหญ่และเป็นผู้ชาย เขาจึงต้องฝืนไว้

 

“พี่ชาย พี่ หมายถึงอะไรกัน คนเราไม่ต้องหาแฟนหรอก” เมื่อได้ยินที่เฉินหลงพูดเรื่องประมาณว่าจะหาแฟน ใบหน้าของเฉินยี่พลันเป็นสีแดงขึ้นมา เธอเพิ่งจะสอบเข้ามหาลัยได้ พี่ใหญ่ของเธอบอกให้เธอไปหาแฟนแล้ว เป็นพี่ประเภทไหนกัน

“ได้สิ ถ้าจะไม่หาน่ะ พี่ชายของเธอก็เลี้ยงดูเธอได้ทั้งชีวิต” เฉินหลงกล่าวพร้อมรอยยิ้ม

“เสี่ยวยี่เป็นน้องสาวของเรา เป็นพี่มาพูดแบบนี้ได้ไงกัน” จี้โม่ซีได้ยินที่เฉินหลงข้างๆเธอว่าแล้ว เธอพูดอะไรไม่ออกเลย

 

เมื่อได้ยินเสียงของจี้โม่ซี เฉินยี่อับอายอย่างบอกไม่ถูก เธอปล่อยมือจากเฉินหลง ที่ตรงนี้ควรเป็นของจี้โม่ซี

อย่างไรก็ตาม ใจของเฉินยี่มีความอิจฉาจี้โม่ซีเล็กๆที่เจอคนดีๆแบบพี่ชายเธอได้ ในอนาคตเธอจะหาแฟน หากเป็นคนดีได้สักเสี้ยวหนึ่งของพี่ชายเธอ คงจะขอบคุณพระเจ้าแล้ว

“พี่สะใภ้ ฉันต้องขอโทษด้วยที่อยู่ในที่ของพี่” เฉินยี่ผละออกจากเฉินหลง และหันไปทางจี้โม่ซี

คำของเฉินยี่ทำหน้าของจี้โม่ซีขึ้นสีเล็กน้อย ทว่าเธอยังเข้าไปหาเฉินหลงและกอดชายคนรักของเธออย่างแนบแน่น

 

เฉินหลงก็กอดจี้โม่ซีแน่นเช่นกัน เขากระซิบเธอแผ่วเบา “ผมต้องขอโทษด้วยนะที่รัก ผมกลับมาแล้ว”

ในทันทีที่ประโยคนั้นกล่าวออกมา จี้โม่ซีร้องไห้ออกมาทันที

เมื่อจี้โม่ซีหยุดร้องแล้ว เฉินหลงและหญิงสาวทั้งสองจึงออกไปเจอพ่อแม่เขา

หลังจากที่เฉินหลงกลับมาแล้ว แน่นอนว่า มีการเฉลิมฉลองที่ยิ่งใหญ่ คืนนั้น ทั้งครอบครัวเฉินต่างมาและร่วมกินมื้ออาหารในคฤหาสน์

 

เนื่องจากความสัมพันธ์ของ “นิวเวิร์ล” เป็นธรรมดาที่พลังของครอบครัวเฉินจะเป็นถึงระดับสอง ขณะที่พลังของจี้โม่ซีมีพลังระดับสาม ที่ถือว่าแข็งแกร่งที่สุดในหมู่ครอบครัวเขา

พลังของจี้โม่ซีนั้นแข็งแกร่งที่สุดเพราะว่าเธอทำได้เพียงเพ่งความสนใจมาที่พลังและการพัฒนาพลังเพื่อไม่ให้คิดเรื่องเฉินหลงตลอดเวลา

เมื่อรู้เรื่องนี้แล้ว เฉินหลงจึงได้แรงบันดาลใจเป็นอย่างมาก

ในเวลากลางคืน เฉินหลงเป็น “ผู้ปลอบใจ” ที่ดีให้จี้โม่ซี

เธอไม่ได้เจอเขามานานกว่าสองปี จี้โม่ซีก็ไม่ได้ชอบที่เธอไม่ได้อยู่กับเฉินหลง

หนึ่งวันหลังจากที่เฉินหลงกลับมา งานแต่งงานของเฉินหลงและจี้โม่ซีได้มีการจัดแจง พิธีงานแต่งจะจัดขึ้นในวันที่หนึ่งตุลาคม สามเดือนหลังจากนี้ ตอนแรก งานแต่งงานนี้ควรจะจัดไปได้สองปีแล้ว แต่จู่ๆเฉินหลงก็หายตัวไป เป็นธรรมดาที่งานแต่จะจัดขึ้นไม่ได้ ทว่าในตอนนี้ เขากลับมาแล้ว เขาคงลากงานให้ออกไปมากกว่านี้ไม่ได้แล้ว เขามีเรื่องที่ต้องจัดการ

 

วันต่อมาเฉินหลงไม่ได้สิ่งอื่น เขาอยู่เป็นเพื่อนครอบครัวเขา

อย่างไรก็ตามเพราะความสัมพันธ์ของเฉินหลงกับสกุลซ่งและสกุลคง พวกเขามีพันธะจะต้องไปจัดการ สุดท้ายในที่สุด สิ่งที่พวกเขาพูดไปคงเพิกเฉยไม่ได้แล้ว

ในฐานะที่เป็นประเทศที่ทรงพลังที่สุดในโลก พวกเขาตามหาโอกาสที่จะกู้หน้าและศักดิ์ศรีกลับมา

ณ ฐานทัพลับลึกลงไปชั้นใต้ดินที่ตีนเขา รัฐเนวาด้า กลุ่มนักวิจัยในชุดกาวน์ขาวกำลังทำการวิจัยรอบๆหลอดทดลองที่ใส่ของเหลวหลากประเภทไว้

 

ภายในห้องทำงานของฐานทัพ ชายผิวขาวคนหนึ่งในชุดสูทสีดำ เขาสวมแว่นตาดำ เขาช่างคล้ายกับเจ้าหน้าที่ตำรวจพิเศษในสูทดำ เขามองชายคนหนึ่งในชุดกาวน์สีขาวที่สวมแว่น ที่ดูแล้วรู้เลยว่าเป็นนักวิทยาศาสตร์ที่ทำงานวิจัย เขาถามไปว่า “ศาสตราจารย์สตีฟ โครงการซุปเปอร์แมนเป็นอย่างไรบ้างครับ คุณรู้ไหมว่าเวลาของเราจะหมดแล้ว และหากเรายิ่งประวิงเวลาออกไป พวกเราจะไม่มีวันหันกลับมาได้จริงๆแล้ว”

 

“คุณโคลแมน นักวิทยาศาสตร์ที่วิจัยงานที่เข้มข้นแบบนี้ต้องอาศัยการทดลองจำนวนมากจนกว่าจะสมบูรณ์ ผมรู้อยู่ว่าสถานการณ์ปัจจุบันไม่ดีต่อพวกเราเท่าไร แต่โครงการซุปเปอร์แมนคงออกปฏิบัติการช้าหน่อย สุดท้ายแล้วนี่ก็เป็นเรื่องอนาคตของอเมริกา ฉันคงจะทำลวกๆไม่ได้” สตีฟดันแว่นบนดั้งเขา ท่าทีจริงจัง

“ฉันรู้ แต่เราก็รอไม่ได้ หากว่าตอนนี้เราทำการทดลองได้ เราจะสามารถทำการทดลองกับมนุษย์ได้เร็วเท่าที่จะทำได้ ผมไม่ได้หมายความแบบนั้น แต่ท่านประธานโคลแมนพูดไว้เสียจริงจัง”

หากจะว่าตามจริง โคลแมนก็เล่น “นิวเวิร์ล” ด้วย แม้หากจะไม่ใช่เวอร์ชั่นเต็ม เขาก็รู้สึกได้ว่าพลังของ “นิวเวิร์ล” นี้ช่างทรงพลัง ด้วย “นิวเวิร์ล” นี้จะทำให้สามารถพัฒนาพลังกาย พวกเขาจะแข็งแกร่งขึ้น และแม้แต่กดให้พวกอเมริกันได้หากใช้เวลา สถานการณ์แบบนี้ไม่ใช่สิ่งที่สหรัฐต้องการจะเห็น

 

พวกเขายังต้องการจะไข “นิวเวิร์ล” ให้ออก ทว่าหาก “นิวเวิร์ล” นั้นไขได้ง่ายดาย เฉินหลงคงถอนออกจากธุรกิจเขา

เนื่องจากการไขนี้เป็นวิธีที่ไม่อาจจะทำได้ แต่พวกเขาสามารถจะหาทางได้จากร่างมนุษย์เลย ชนชาติที่มีพลังกายแห่งสหรัฐอเมริกามักจะเป็นประเทศผู้นำเสมอมา นี่คือเหตุผลว่าทำไมทุกการแข่งโอลิมปิก สหรัฐอเมริกาจึงเป็นประเทศที่ได้เหรียญทองมามากที่สุด พรสวรรค์ของประเทศพวกเขาช่างไม่มีที่ใดมาเทียบเคียงได้

 

ยิ่งไปกว่านั้นหากว่าพวกเราต้องการจะพัฒนาพลังทางกายของมนุษยชาติต่อไป

แล้ว ถ้าไม่มีเวอร์ชั่นสมบูรณ์ของ“นิวเวิร์ล” พวกเขาคงต้องปล่อยไปก่อน เพราะคงอีกนานหากจะพัฒนาพลังกายด้วยตนเอง

ถึงกระนั้น หลังจากการเกิดขึ้นมาของ “นิวเวิร์ล” จากประเทศจีน จึงไม่มีเวลาให้พวกเขารอช้าให้ทุกสิ่งสรรพเกิดขึ้นตามธรรมชาติแล้ว พวกเขาต้องการจะพัฒนายาแบบหนึ่งขึ้นมาเพื่อจะพัฒนาพลังกายของมนุษย์ให้เปลี่ยนแปลงไปเป็นซุปเปอร์แมน

จริงๆแล้ว ในสหรัฐอเมริกา พวกเขาเริ่มจะศึกษาเรื่องนี้มาเป็นทศวรรษแล้ว

พวกเขาเอายีนส์ของเอเลี่ยนเข้ามาผสมผสานกับยีนส์ของมนุษย์เพื่อเตรียมยีนส์เหลวออกมา

ตราบใดที่ใช้ยีนส์เหลวนี้แล้ว พลังของผู้ใช้จะเพิ่มขึ้นเป็นสิบหรือแม้กระทั่งร้อยเท่า

 

ถึงกระนั้นการทดลองก็ยังไม่สำเร็จเลยสักครั้ง ยีนส์ของเอเลี่ยนไม่อาจจะผสานกับพลังของมนุษย์ได้เลย แม้จะฉีดเข้าไปในร่างของมนุษย์แล้วก็ตาม คนนั้นจะกลายเป็นปิศาจและตายไปไม่นานหลังจากนั้น

เนื่องจากการทดลองล้มเหลวไป พวกผู้มีอำนาจจึงพับโครงการซุปเปอร์แมนไปก่อน จนเมื่อสองสามปีก่อน ที่สหรัฐอเมริการู้สึกว่ากดดันอย่างหนักจากจีน พวกเขาจึงเริ่มโครงการนี้ใหม่

อาจเป็นเพราะพวกเขาเป็นที่โปรดปรานของพระผู้เป็นเจ้า พวกเขาพบพืชที่ชื่อ “หญ้ากันราก” ที่นำมาใช้ผสมกับยีนส์ทั้งสองได้

หลังจากที่แก้ปัญหานี้ได้ แต่นั่นไม่ได้หมายถึงว่ายีนส์ที่ผสมผสานกันจะใช้ในร่างมนุษย์ได้ แต่ด้วยการคำนวนของเครื่องคอมพิวเตอร์ สัตว์ทดลองและสิ่งต่าง สุดท้ายแล้ว นี่ก็เกี่ยวพันกับความเป็นความตายของทั้งสหรัฐอเมริกา ที่อาจดูประมาทเล็กน้อย แต่ก็ไม่มีเวลาจะรอช้าแล้ว