ติดตามการแจ้งเตือนตอนใหม่ที่แฟนเพจ Facebook Fanpage กดเลย
••••••••••••••••••••
นิยายอื่นที่ทางค่ายแปล
••••••••••••••••••••
**บทที่****287:**กำลังเสริมจากกองทัพอสูรกาย
ช่วงเวลาที่สำนักเสวียนเทียนล่าถอยกลับไป เหล่าสาวกจากหอเฉวียนจี้ก็ถอยกลับด้วยเช่นกัน ในตอนนี้เหลือเพียงสำนักพันปีศาจเท่านั้นที่ยังคงยืนอยู่อย่างโดดเดี่ยว ย้อนกลับไปในช่วงที่พวกเขาก้าวเข้ามาในเรือลำนี้ ทั้งสามสิบหกนั้นดูยิ่งใหญ่เต็มไปด้วยออร่าอันเย่อหยิ่ง แต่ในตอนนี้พวกเขาทั้งหมดที่กำลังล่าถอย ดูคล้ายกับเหล่าหนูที่วิ่งอยู่บนถนนเท่านั้น
สำนักพันปีศาจไม่เพียงแค่ต้องทุกข์ทรมานจากการโจมตีของสำนักปีศาจปรารถนาและดาบโบราณ มีอีกหลายสำนักที่เข้าร่วมการต่อสู้ที่สนุกนานนี้ด้วยเช่นกัน ทั้งหมดเป็นกลุ่มคนที่ขาดทุนเมื่อเหล่าสำนักใหญ่ทั้งสามได้ก้าวเข้ามา ในตอนนี้พวกเขาเห็นประโยชน์บางอย่างจากการต่อสู้ครั้งนี้ แน่นอนว่าคงจะพลาดโอกาสนี้ไม่ได้ โชคดีที่เหล่าสามสำนักมหาอำนาจล้วนแต่มีประสบการณ์และบวกกับมีผู้เชี่ยวชาญระดับหยวนหยินคอยดูแลอยู่ถึงหกคน ทั้งหมดสามารถต่อสู้จนหาทางออกได้อย่างดีเยี่ยม แต่อย่างไรก็ตามเมื่อครั้งที่พวกเขาก้าวเข้าไปนั้นมีถึงสามสิบหกคน ในตอนนี้พวกเขากลับออกมาเพียงสิบกว่าคนเท่านั้น แน่นอนว่าการสูญเสียครั้งนี้มากเกินกว่าจะรับไหว
เหล่าสาวกที่ก้าวขึ้นเรือมังกรทองคำล้วนแต่ไม่ใช่บุคคลธรรมดา ทั้งหมดเป็นสาวกระดับจินตัน! การล้มเหลวในภารกิจเช่นนี้ทำให้เกิดการสูญเสียมหาศาล ผู้ฝึกตนระดับหยวนหยินทั้งหมดล้วนแต่ต้องการจะร้องไห้ออกมา แต่น้ำตาของพวกเขาตกในไม่อาจเปล่งเสียงร้องออกมาได้
แต่นี่ยังไม่ใช่สิ่งที่ทำให้เขาปวดหัวมากที่สุด ที่น่ากังวลที่สุดคือเหล่าผู้ฝึกตนมากมายที่กำลังไล่ล่าเขาจากด้านหลัง พวกเขาทั้งหมดอยู่ที่นี่เพื่อสังหารซ่งจงและหยุดการบินของเรือมังกรทองคำ แต่ในตอนนี้ผลลัพธ์ก็คือการต่อสู้กันเองได้อย่างไร? ไม่เพียงแค่ล้มเหลวในภารกิจและเสียเวลา ทั้งหมดกลายเป็นหมาจนตรอกที่กำลังถูกไล่ล่าจากสำนักอื่น! เรื่องนี้มันน่าอายเกินไปแล้ว!
อันที่จริงแล้วนักบวชเซือหมัว นักบวชฮัวอวิ๋นและฮัวชิงหยุนนั้นหดหู่นมากยิ่งกว่าพวกเขาทั้งหมด ทั้งสามส่งทีมไปเพื่อทำลายรูปแบบการบินของเรือมังกรทองคำ แต่ทีมที่ถูกส่งไปกลับวิ่งถอยหลังและนำกลุ่มคนขนาดใหญ่มาไล่ล่าพวกเขาแทน แล้วทั้งสามจะสามารถอดกลั้นกับเรื่องเหล่านี้ได้อย่างไร?
ทั้งสามผิดหวัง แต่ก็ไม่อาจเพิกเฉยต่อสาวกที่หนีตายกลับมาได้ อีกทั้งยังต้องรีบเข้าไปช่วยแม่มดเมฆาและวายุที่น่าสมเพชอีกด้วย จากนั้นต้องหยุดอีกฝ่ายและคลี่คลายความเข้าใจผิดที่เกิดขึ้นทั้งหมด
หลังจากที่แยกทั้งสองฝ่ายออกจากกันแล้ว ทั้งหมดพยายามจะหาเหตุผลที่ดีเพื่อเกลี่ยกล่อมแต่ละฝ่าย แต่ทันใดนั้นท้องฟ้าที่เคยสดใสกลับกลายเป็นสีดำ เมฆสีดำมากมายลอยปกคลุมทั่วทั้งพื้นที่อย่างรวดเร็ว ราวกับว่าพายุกำลังจะมาถึงในอีกไม่ช้า ซึ่งแน่นอนว่าภายในทะเลตะวันออกแห่งนี้เรื่องฟ้าฝนนั้นไม่อาจคาดเดาได้ แต่สถานการณ์เช่นนี้มันแปลกประหลาดเกินไปและมันมีร่องรอยของปราณจิตวิญญาณของเหล่าอสูรกายเล็ดลอดออกมา ทุกคนที่อยู่ในที่แห่งนี้ล้วนแต่อยู่ในระดับจินตันและตระหนักได้ว่าอาจจะเป็นฝีมือของเหล่าอสูรกาย
เมื่อทั้งหมดรู้ได้ว่าเหล่าอสูรกายกำลังจะสร้างปัญหา ทุกคนล้วนแต่หดหู่และเปลี่ยนท่าทีอย่างรวดเร็ว ทั้งหมดมองสิ่งแวดล้อมรอบๆด้วยความระมัดระวัง ท้ายที่สุดแล้วอสูรกายนั้นแข็งแกร่งอย่างมากและมนุษย์เมื่อพบกับสถานการณ์เช่นนี้ พวกเขาจะต้องรวมพลังกันเท่านั้น นั่นคือทางเลือกสุดท้าย
ในขณะที่เรือมังกรทองคำที่เดินหน้าเต็มกำลังมาโดยตลอด ตอนนี้กำลังลงจอดบนผิวน้ำของทะเลตะวันออก จากเรือที่บินอยู่ในอากาศ ตอนนี้มันลอยอยู่ในน่านน้ำอย่างยิ่งใหญ่
เมื่อเห็นภาพเช่นนี้ ทุกคนมึนงงทันที เมื่อมันบินอยู่ในอากาศความเร็วของมันถูกปลดปล่อยออกมาอย่างเต็มกำลัง ถ้าหากลงน้ำความเร็วของมันจะลดลงอย่างมากแม้ว่าจะใช้เวทมนตร์เคลื่อนย้ายเข้าช่วยเหลือ แต่เรือมังกรทองคำนั้นไม่ได้ใช้เวทมนตร์ใดและมีความเร็วเพียงพันหน่วยเท่านั้นเมื่ออยู่บนผิวน้ำ เรือที่ไล่ตามมันมานั้นล้วนแต่มีความเร็วที่เหนือกว่าและสามารถจับกุมเรือมังกรทองคำได้อย่างง่ายดาย ดังนั้นทุกคนจึงไม่เข้าใจสถานการณ์ในตอนนี้ว่าซ่งจงคิดจะใช้โอกาสจากการที่เหล่าอสูรกายล้อมรอบนี้อย่างไร เขากลับใช้โอกาสที่ดีในการหลบหนีลงจอดบนผิวน้ำแทน อย่างไรก็ตามคำถามทุกอย่างได้รับคำตอบอย่างรวดเร็ว ร่างกายมากมายขึ้นมาจากน้ำ มันคือเหล่าอสูรกายมากมายปรากฏตัวขึ้น ทั้งฉลาม หมึกยักษ์ เต่า กุ้งมังกร ทุกตนที่ปรากฏล้วนแต่มีขนาดใหญ่!
เนื่องจากอสูรกายเหล่านี้อ่อนแอจนเกินไป พวกมันไม่สามารถบินขึ้นไปยังเรือมังกรทองคำที่บินอยู่ในอากาศได้ ซ่งจงเลือกที่จะลงจอดเรือบนพื้นผิวน้ำเพื่อช่วยเหลือพวกเขา สำหรับเรื่องความเร็วในการหลบหนี ฮี่ฮี่ มันยังจำเป็นอยู่งั้นหรือ? เรือมังกรทองคำนั้นเป็นยานพาหนะของจักรพรรดิแห่งทะเลตะวันออก มันเป็นเพียงจักรพรรดินีรู้สึกว่ามันสิ้นเปลืองจนเกินไปจึงไม่ใช้งานมันเท่านั้น ดังนั้นเหล่าผู้ฝึกตนที่เป็นมนุษย์จึงไม่รู้ตัวแม้แต่น้อย แต่ในขณะที่เหล่ามนุษย์นั้นไม่รู้เกี่ยวกับสิ่งนี้ แต่เหล่าอสูรกายนั้นพวกมันรู้ทุกอย่างชัดเจน อีกทั้งพวกมันยังรู้อีกด้วยว่าจักรพรรดินีได้มอบเรือมังกรทองคำนี้ให้กับฝ่าบาทน้อยที่จะได้ขึ้นเป็นจักรพรรดิคนต่อไปเมื่อสองถึงสามปีที่แล้วอีกด้วย!
ดังนั้นเรือมังกรทองคำจึงถูกค้นพบอย่างรวดเร็วเมื่อเข้าสู่เขตแดนของทะเลตะวันออก เมื่อทั้งหมดได้เห็นว่าฝ่าบาทน้อยของพวกเขากำลังถูกไล่ล่าโดยเหล่ามนุษย์ผู้ฝึกตน ทั้งหมดตื่นตระหนกทันทีพร้อมกับรายงานเรื่องนี้อย่างรวดเร็ว
แน่นอนว่าอณาจักรนั้นอยู่ห่างไกลออกไปมาก กว่าที่ผู้เชี่ยวชาญจะเดินทางมาถึงจะต้องใช้เวลาพอสมควร แต่กลุ่มจักรพรรดิทะเลตะวันออกที่ถูกแต่งตั้งขึ้นล้วนแต่เพื่อการนี้ ทั้งหมดจะต้องปกป้องเขตแดนของทะเลตะวันออก ซึ่งทั้งหมดเป็นหน้าที่ของพวกเขา
หลังจากที่ได้รับข่าว แม้จะรู้ว่ามีผู้ฝึกตนระดับหยวนหยินมากมายอยู่บนเรือที่บินอยู่ แต่ทั้งหมดก็มาช่วยเหลือซ่งจงอย่างไม่ชักช้า ตอนนี้เหล่ากองทัพอสูรกายนั้นมีสองฝ่าย นั่นก็คือเหล่าทูตของจักรพรรดิที่ถูกแต่งตั้งได้มาถึงแล้ว พร้อมด้วยเหล่าอสูรกายที่อยู่ในทะเลกำลังขึ้นมาช่วยเหลือซ่งจงบนเรือ มีเพียงบางคนเท่านั้นที่ออกไปไล่ล่าสำนักเสวียนเทียนและหอเฉวียนจี้ แต่สำนักปีศาจปรารถนาและดาบโบราณมากมายยังคงอยู่บนเรือมังกรทองคำ
ในตอนแรกซ่งจงนั้นอยู่เพียงลำพัง เขาไม่สามารถจัดการกับเหล่าอสูรกายพวกนี้ได้ แต่ในตอนนี้ด้วยการช่วยเหลือของเหล่าอสูรกายมากมาย สถานการณ์จึงเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว
ภายในน้ำ พลังของเหล่าอสูรกายนั้นแทบจะไร้ขีดจำกัด ในขณะที่มนุษย์นั้นถูกจำกัดไว้มากมาย นอกเหนือจากผู้ฝึกตนธาตุน้ำแล้วแน่นอนว่าส่วนที่เหลือล้วนแต่ได้รับผลกระทบที่รุนแรง แม้ว่าความแข็งแกร่งของมนุษย์จะมากกว่าเหล่าอสูรกาย แต่พวกเขาก็ไม่อาจเอาชนะอสูรกายที่มีจำนวนมากเช่นนี้ได้!
เพียงแค่เหล่ากลุ่มทูตพิทักษ์เขตแดนก็ถือได้ว่าน่าเกรงกลัวอย่างมากแล้ว เหล่าทูตพวกนี้ล้วนแต่มีลูกน้องกว่าแสนตน แม้ว่าพวกเขาจะอ่อนแอ แต่ตัวเลขนั้นน่ากลัวเกินไป ทั้งหมดเข้าไปในเรือมังกรทองคำผ่านจุดที่แตกหักราวกับฝูงมด พวกมันอยู่ในทุกที่ ทุกห้อง ทุกบริเวณที่มีน้ำไหลผ่าน บนเรือนี้อย่างมากแล้วมีผู้ฝึกตนไม่กี่พันคนเท่านั้น เมื่อต้องเผชิญหน้ากับศัตรูที่มีมากกว่าร้อยในพื้นที่เล็กๆเช่นนี้ พวกเขาไม่อาจต้านทานไว้ได้อย่างแน่นอนไม่ว่าจะแข็งแกร่งมากเพียงใดก็ตาม
แต่อย่างไรก็ตาม บนท้องเรือนั้นก็ไม่ได้สงบสุขเช่นกัน อสูรกายบางตนนั้นมีความสามารถในการต่อสู้บนบก เมื่อพวกเขาไม่สามารถหาทางเข้าเรือได้ ทุกตนล้วนแต่ทนไม่ไหวและกระโดดขึ้นเรือทันที เหล่าอสูรกายที่กระโดดขึ้นเรือนั้นส่วนมากคือปีศาจปูเพลิงยักษ์ รูปร่างมันเหมือนกับปูทั่วไป แต่ต่างกันที่ขนาดของมันซึ่งใหญ่กว่าห้าฟุต ซึ่งสามารถโตได้มากที่สุดถึงสามสิบฟุต เปลือกสีแดงเพลิงของพวกมันแข็งแกร่งมากและสามารถป้องกันการโจมตีของผู้ฝึกตนระดับปฐมภูมิได้ ปูเหล่านี้ไม่มีทักษะการโจมตีระยะไกลและความเร็วของพวกมันต่ำมาก จึงทำให้ผู้ฝึกตนสามารถส่งมันไปสวรรค์ได้อย่างง่ายดาย แต่ขนาดของดาดฟ้าเรือนั้นไม่ได้มีพื้นที่มากพอให้พวกมันยืนอยู่ได้ เหล่าผู้ฝึกตนจึงไม่มีทางเลือกนอกจากถูกพวกมันเกาะเต็มไปทั่วบริเวณอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยง ผู้ฝึกตนมนุษย์ไม่อาจหลีกเลี่ยงนอกจากจะบินขึ้นไปบนอากาศ เช่นนี้ปูเพลิงจึงไม่สามารถตามไปได้ และเริ่มแทรกซึมเข้าไปในเรือเอง ภายในพริบตา เรือทองคำขนาดสามพันฟุตได้เต็มไปด้วยเหล่าอสูรกายมากมาย ในตอนนี้ผู้ฝึกตนที่อยู่บนเรือมังกรทองคำได้พบเจอกับปัญหาร้ายแรง ด้านล่างนั้นเต็มไปด้วยอสูรกายแห่งท้องทะเล บนดาดฟ้าเรือนั้นเป็นเหล่าปูเพลิงมหาศาล แต่บนท้องฟ้านั้นมีอสูรกายที่แข็งแกร่งกว่านั้นรอพวกเขาอยู่ ในตอนนี้ผู้ฝึกตนมนุษย์ต้องพบเจอกับศัตรูที่มาจากรอบทิศ
แน่นอนว่าเพียงแค่ทูตเพียงไม่กี่คนพร้อมด้วยลูกน้องของเขานับหมื่นแสน สามารถต่อกรกับผู้ฝึกตนมนุษย์ที่แข็งแกร่งได้อย่างไม่ต้องเกรงกลัวสิ่งใด แต่ทางฝ่ายของมนุษย์แม้ว่าจะตื่นกลัวในช่วงแรก แต่พอสุดท้ายแล้วเขารู้ว่าเหล่าอสูรกายนั้นอ่อนแอกว่า พวกเขาจะเริ่มโต้กลับอย่างรวดเร็ว
ผู้ฝึกตนที่อยู่บนเรือมังกรทองคำนั้นรู้ดีว่าไม่อาจหลบหนีไปได้ แต่หลังจากนั้นพวกเขาก็พบสถานที่ที่จะหลบอสูรกายเหล่านี้และสามารถป้องกันการโจมตีได้อย่างยอดเยี่ยม
เหล่าอสูรกายมากมายถูกสังหาร เลือดเนื้อของพวกมันเปรอะเปื้อนเต็มท้องเรือ อย่างไรก็ตามพวกมันไม่อาจทำอะไรผู้ฝึกตนมนุษย์ได้เลย สำหรับผู้ฝึกตนที่อยู่ด้านนอกของเรือนั้นคล่องตัวกว่ามาก พวกเขายิงปืนใหญ่ออกไปกว่าสองโหลเพื่อกำจัดเหล่าอสูรกายในมหาสมุทร เหล่าอสูรกายที่ซ่อนตัวอยู่ใต้น้ำถูกยิงจนร่างกายลอยขึ้นเหนือน้ำ ในตอนนี้ทะเลตะวันออกถูกเคลือบไปด้วยเลือด
กองทัพอสูรกายที่หนาแน่นได้รับบาดเจ็บอย่างหนัก การโจมตีที่ดุร้ายของพวกเขาค่อยๆลดลงตามจำนวนที่ตายตกไป ผู้ฝึกตนมนุษย์ต่างพากันร่าเริงเมื่อเห็นภาพเช่นนี้ ทั้งหมดเริ่มคิดว่าตนเองได้เปรียบและฮึกเหิมอย่างรวดเร็ว ผู้เชี่ยวชาญเพียงไม่กี่คนเรียกพายุลมเพื่อพัดให้เมฆดำที่อยู่ด้านบนหายไป เมื่อไร้เมฆดำท้องฟ้ากลับมาสดใสอีกครั้ง เหล่าผู้ฝึกตนมนุษย์ต่างพากันร้องไห้ด้วยความดีใจ แต่หลังจากที่พวกเขาร่าเริงกันอยู่ได้สักพักใหญ่เท่านั้น ทั้งหมดหยุดการโห่ร้องและจ้องมองไปสถานที่ไกลๆด้วยสายตาที่ตื่นตระหนก
มีจุดสีดำมากมายปรากฏขึ้นจากระยะไกล ชั่วพริบตามันกลายเป็นภาพของนกยักษ์ จากทิศตะวันออกปรากฏอินทรีย์สายฟ้านับหมื่นตัวทั่วบริเวณ ด้านทิศตะวันตกมีนกกระจอกสายฟ้าอีกนับหมื่นตัวเช่นกัน ปีกของพวกมันกว้างใหญ่กว่าสิบฟุต ความเร็วของพวกมันช้ากว่าอินทรีย์ไม่มากนักและอยู่ในระดับขั้นที่สอง อย่างไรก็ตามตัวเลขของพวกมันน่ากลัวเกินไป ทั้งหมดบินผ่านพระอาทิตย์ทำให้ยิ่งดูน่าเกรงขามมากขึ้นไปอีก
จากทิศเหนือมีแผ่นทองคำขนาดใหญ่ซึ่งมีปีกสีทองกว้างกว่าพันฟุต ร่างกายของมันประดับไปด้วยขนนกสีทอง ด้วยการมองเพียงครั้งเดียวเรียกได้ว่าพวกมันแกร่งแขร่งยิ่งกว่าอินทรีย์สายฟ้าเสียอีก จากทิศใต้มีอสูรกายที่บินได้มากมายเช่นกัน พวกมันนับหมื่นพุ่งมาอย่างรวดเร็ว ทั้งขนาดเล็กใหญ่ ต่างเรียกได้ว่าพวกมันมาที่จุดๆนี้เพียงที่เดียว! แม้ว่าพวกมันจะอ่อนแอ แต่ความกล้าหาญในการต่อสู้นั้นนับได้ว่ามหาศาล
อย่างไรก็ตามแม้ว่าพวกจากทิศใต้จะไร้พลัง แต่พวกมันได้นำพากำลังเสริมกลุ่มใหญ่มาด้วยเช่นกัน นกหัวยักษ์นั้นนำพาอสูรกายที่อยู่บนดินมาด้วยกัน ประกอบด้วยหมาป่าเพลิง ปีศาจหมียักษ์และอีกมาก ซึ่งเหล่าอสูรกายพวกนี้อยู่ในขั้นสี่ทั้งหมด แต่พวกมันไม่สามารถบินได้และเคลื่อนไหวได้ช้ามาก ดึงนั้นการที่มากับนกหัวยักษ์นับได้ว่าเป็นวิธีที่ถูกต้องที่สุด
ผู้ฝึกตนมนุษย์เมื่อเห็นว่าเหล่าอสูรกายมากมายกว่าสองถึงสามแสนตนปรากฏขึ้น แน่นอนว่าทั้งหมดสูญเสียกำลังใจในการต่อสู้โดยสมบูรณ์ แม้ว่าเหล่าผู้ฝึกตนมนุษย์จะแข็งแกร่งแต่พวกเขาพ่ายแพ้ในด้านตัวเลข ก่อนหน้านี้พวกเขามีจำนวนมากกว่าสี่พันคน แต่ในตอนนี้ทั้งหมดได้ตายตกไปในการต่อสู้ภายในกว่าพันคน จำนวนของพวกเขาในตอนนี้มีเพียงสามพันเท่านั้น เห็นได้ชัดว่าทั้งหมดไม่อาจต่อสู้กับอสูรกายนับแสนเหล่านี้ได้
อีกทั้งในตอนนี้ทั้งหมดอยู่ในเขตแดนของอสูรกาย ในเวลาสั้นๆมีอสูรกายมากมายปรากฏตัวขึ้น ใครจะรู้ว่าพวกมันจะพากันมาอีกหรือไม่? ทั้งหมดล้วนแต่ไม่มีใครตอบได้ ภายในใจของพวกเขาตอนนี้ล้วนแต่คิดที่จะหลบหนี นี่คือทางเลือกสุดท้ายที่พวกเขามี!
ท้ายที่สุดผู้ฝึกตนระดับหยวนหยินกล่าวออกมาพร้อมกับขมวดคิ้ว “อสูรกายเหล่านี้แข็งแกร่งเกินไปและเป็นการดีที่สุดที่พวกเราจะถอยก่อน!” คนอื่นที่ได้ยินไม่ได้กล่าวอะไรนอกจากพยักหน้าเพื่อยอมรับ
แต่นักบวชฮัวอวิ๋นนั้นไม่ยอมแพ้ง่ายๆ เขากล่าวออกมาอย่างรวดเร็ว “สหายเอ๋ย พวกเจ้ากำลังคิดผิด หลังจากที่พวกเราจ่ายออกไปมหาศาล ในตอนนี้เราได้ทำลายเรือมังกรทองคำไปมากโขแล้ว พวกเราจะยอมแพ้กันจริงๆงั้นหรือ? พวกเจ้าสามารถทนได้งั้นหรือที่ต้องสูญเสียเรือลำนี้ไป?”
“เรื่องนั้น…” เมื่อทุกคนได้ยินเช่นนั้น พวกเขาเริ่มลังเลทันที แต่ความจริงแล้วทุกคนล้วนแต่ฉกฉวยสิ่งของมากมายจากเรือมังกรทองจนเต็มท้องแล้ว ซึ่งในตอนนี้ถ้าหากแยกเรือออกเพื่อคนนับพัน แน่นอนว่ามันก็คงไม่มีประโยชน์อะไรนัก แต่ทว่ายังไม่มีผู้ใดค้นพบห้องเก็บสมบัติของเรือมังกรทองคำ ซึ่งมันก็คงจะเต็มไปด้วยสมบัติมากมาย รวมถึงสมบัติวิญญาณของซ่งจงทั้งสองชิ้น ผู้ฝึกตนหลายคนถูกล่อลวงทันที พวกเขาหันหน้าไปทางภูเขาทองคำที่รออยู่ แน่นอนว่าไม่มีใครอยากที่จะยอมแพ้ง่ายๆ
เมื่อเห็นว่าฝูงชนติดกับแล้ว นักบวชเซือหมัวกล่าวเพิ่มทันที “สหายทุกคน อย่าได้ลืมว่าซ่งจงยังไม่ตายและเรือมังกรทองคำยังคงอยู่ตรงนี้ ถ้าหากเจ้าปล่อยให้เขาไป แน่นอนว่าเขาจะกลับมาแก้แค้น ขึ้นอยู่กับว่าเขาโกรธแค้นพวกท่านมากเพียงใด วันนั้นเขาก็คงมาเคาะประตูหน้าบ้านของพวกท่านอย่างแน่นอน!” เมื่อกล่าวจบ เขาลูบเคราด้วยท่าทีสบายใจ “แม้แต่สำนักพันปีศาจยังไม่อาจป้องกันการโจมตีของซ่งจงได้ ข้าอยากจะรู้ว่าพวกท่านจะสามารถทำได้ไหม?”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น ใบหน้าของทุกคนเปลี่ยนไปทันที แน่นอนว่าทุกคนสามารถละเลยสมบัติตรงหน้าได้ แต่ทว่าไม่อาจเผชิญหน้ากับซ่งจงในอนาคตได้อย่างแน่นอน ในตอนนี้ซ่งจงเป็นเพียงมือใหม่ความสามารถของเขายังมากถึงเพียงนี้ เขาสามารถทำลายหอเฉวียนจี้และทำลายสำนักพันปีศาจที่เป็นสำนักเก่าแก่ในภูเขาใหญ่มานานกว่าหมื่นปีได้อย่างง่ายดาย! พร้อมด้วยทั้งหมดนี้ถูกทำลายโดยเขาเพียงผู้เดียว มันมากกว่าปาฏิหารย์ด้วยซ้ำ! ตอนนี้พวกเขาทั้งหมดได้ล้อมรอบเด็กเหลือขอที่อยู่บนเรือมังกรทองคำที่ใกล้จะพัง พร้อมทั้งไล่ล่ากันมาไกลกว่าหมื่นลี้ ซ่งจงจะไม่ขุ่นเคืองได้อย่างไร? ถ้าหากปล่อยให้เขาหนีไป ทั้งหมดจะต้องเดือดร้อนแน่นอนถ้าหากซ่งจงหวนคืนมาเก็บหนี้ทั้งหมด!
เมื่อคิดเช่นนี้ ทั้งหมดปล่อยจิตสังหารออกมาจากดวงตา เห็นได้ชัดว่าการชักชวนได้ผล ผู้ฝึกตนจากสำนักพันปีศาจกล่าวทันที “ถ้าหากเป็นเช่นนี้ พวกเราจงมาจัดการเรื่องนี้กันให้ดีเถิด ตอนนี้พวกเราต้องร่วมมือกันทำลายเรือมังกรทองคำ!” เมื่อกล่าวจบ สายตาของทุกคนที่ได้ยิน ต่างเบิกโพล่งขึ้นเพราะมันคือความเป็นไปได้สุดท้าย แต่ฮัวชิงหยุนกล่าวแทรกอย่างรวดเร็ว “เราไม่ควรทำเช่นนั้น สหายของพวกเรามากมายอยู่บนเรือลำนั้น ถ้าหากเราเปิดการโจมตี สาวกของพวกเราจะไม่มีทางเห็นด้วย!” เมื่อนางกล่าวจบ นางมองไปที่เรือบินรอบๆเพื่อขอความเห็นด้วยทันที
ทุกคนล้วนเข้าใจความหมายของฮัวชิงหยุนอย่างดี ถ้าหากว่าพวกเขาเพิกเฉยต่อสาวกของสำนักอื่นๆ แน่นอนว่าพวกเขาจะถูกต่อต้านอย่างรวดเร็ว ในเวลานั้น ความจริงก็คือบนเรือมังกรทองคำนั้นเต็มไปด้วยสาวกมากมาย ถ้าหากมันถูกทำลาย คนของพวกเขาจะหายไปจำนวนมาก ซึ่งแน่นอนว่ามันมากกว่าเหล่าสาวกที่อยู่ด้านนอกของเรือมังกรทองคำเสียอีก!
นอกจากนั้นในช่วงเวลาที่สำคัญเช่นนี้พวกเขาไม่สามารถจ่ายค่าความขัดแย้งภายในที่เกิดขึ้นได้ ถ้าหากพวกเขาต้องลงเอยด้วยการต่อสู้กันเองอีกครั้ง แล้วใครกันที่จะต่อสู้กับเหล่าอสูรกาย? ถ้าหากเป็นเช่นนั้น แน่นอนว่าทุกคนจะต้องลงเอยที่การเป็นอาหารกลางวันให้กับเหล่าอสูรกาย ถ้าหากสถานการณ์ดำเนินไปถึงจุดนั้น ทั้งหมดก็จะต้องตายตกไปเพียงเพราะความโง่เขลาของตนเอง เมื่อเข้าใจถึงจุดนี้ ทุกคนได้แต่เงียบและยอมรับในสิ่งที่ฮัวชิงหยุนกล่าวออกมาอย่างเงียบๆ
เมื่อเห็นว่าไม่มีใครกล่าวอะไร นักบวชฮัวอวิ๋นหันไปกล่าวกับฮัวชิงหยุนว่า “ศิษย์พี่อาวุโส แล้วท่านคิดว่าพวกเราควรทำอย่างไร?”
“เราไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต่อสู้กับความตาย ถ้าหากเรานำเรือของทุกสำนักมารวมกัน มันก็จะสามารถจัดการกับเหล่าอสูรกายที่บินอยู่ในอากาศได้ สามสำนักใหญ่ให้จัดการกับเหล่าอสูรกายที่บินได้ สำหรับสหายปีศาจพันปรารถนาและดาบโบราณ พวกท่านทุกคนจงกลับไปที่เรือมังกรทองคำอีกครั้ง ในเวลานี้ไม่ต้องค้นหารูปแบบการบินอีกต่อไป พวกท่านต้องทำลายทุกสิ่งทุกอย่างให้มากที่สุดเพื่อบังคับให้ซ่งจงออกมาโดยเร็ว! ตราบใดที่เขาปรากฏตัวออกมา แน่นอนว่าแผนของเราสำเร็จ!” ฮัวชิงหยุนกล่าวอย่างเฉียบแหลม “เอาล่ะ! ตกลง!” ผู้ฝึกตนระดับหยวนหยินจากสำนักดาบโบราณพยักหน้าโดยไม่มีเงื่อนไข “จงวางใจเถิด!” ในขณะที่เขากล่าวออกมาเช่นนั้น เขาบินลงไปที่เรือมังกรทองคำพร้อมกับสาวกทันที
ภายใต้การนำของผู้ฝึกตนระดับหยวนหยินเพียงไม่กี่คน ทั้งหมดต่อสู้เพื่อที่จะเข้าไปในเรือมังกรทองคำอีกครั้ง เหล่าอสูรกายมากมายถูกสังหารเกลื่อนไปหมด พวกมันสูญเสียและร้องขอกำลังเสริม หลังจากจัดการกับพวกมันเสร็จสิ้น ผู้ฝึกตนทั้งหลายเริ่มบินออกค้นหาซ่งจงอย่างรวดเร็ว
ในเวลานี้ผู้ฝึกตนทั้งหมดนั้นรู้ดีว่าพวกเขาต้องสามัคคีกัน แม้ว่าแม่มดเทวะจะพยายามทำให้พวกเขาแตกแยก แต่ความวุ่นวายถูกระงับไว้ได้อย่างรวดเร็ว แม่มดเทวะทำได้เพียงยอมรับความพ่ายแพ้และออกคำสั่งให้เหล่าอสูรกายโจมตีเท่านั้น เนื่องจากสถานะเจ้าชายของซ่งจง ทำให้เหล่าอสูรกายนั้นเชื่อฟังแม่มดเทวะอย่างง่ายดาย อีกทั้งแม่มดเทวะทุกตนล้วนแต่เป็นจิ้งจอกเจ้าเล่ห์ พวกนางล้วนแต่ผ่านสงครามมากมายและเต็มไปด้วยประสบการณ์และพวกนางยังคุ้นเคยกับเรือมังกรทองทุกซอกทุกมุมอีกด้วย นับได้ว่าเป็นความได้เปรียบที่ยอดเยี่ยม ภายใต้การออกคำสั่งของเหล่าแม่มดเทวะ เหล่าอสูรกายนั้นต่อสู้กับผู้ฝึกตนมนุษย์ได้อย่างสูสี!