ตอนที่ 748 ยอมไร้ยางอายเพื่อรักษาชีวิต

ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ

จะดีจะร้ายอย่างไรกองกำลังผู้นำเจ็ดอสูรของพวกเขาก็เป็นกองกำลังอันดับต้น ๆ ของดินแดนเหลยโจวไม่ต่างอะไรกับสำนักศึกษาอันดับหนึ่งแห่งเหลยโจว นึกไม่ถึงว่าหญิงสาวผู้นี้จะกล่าววาจาดูถูกดูแคลนพวกเขาเช่นนี้ได้

“อือ!” ในตอนนี้เอง เสียงอันนิ่มนวลเสียงหนึ่งก็ดังขึ้น

หญิงสาวชุดเขียวที่ดูอ่อนแออย่างไร้ที่เปรียบที่ถูกกลุ่มผู้นำเจ็ดอสูรปกป้องผู้นี้ ตอนนี้นางได้ดึงดูดความสนใจของทุกคนแล้ว

เอวบางร่างน้อย หน้าตางดงามดุจดั่งดอกท้อ ผู้ใดเห็นแล้วต่างก็ชื่นชอบ

นางกล่าวเสียงต่ำว่า “ข้าผิดเอง พวกเราจะไม่รบกวนพวกท่านแล้ว”

“คุณหนูใหญ่ ตอนนี้ดึกมากแล้ว พวกเราก็ล้วนแต่ได้รับบาดเจ็บกันหมด มันไม่ปลอดภัยเลย หรือว่า……”

ตูม บูม บูม!

ตอนนี้มีสัตว์ศักดิ์สิทธิ์กลุ่มใหญ่บุกเข้ามาอีกแล้ว สีหน้าของผู้อาวุโสโม่เคร่งขรึมลง

มีพวกเขาอยู่เช่นนี้ พวกเขาไม่ปลอดภัยเป็นแน่

เผชิญหน้ากับฝูงสัตว์ศักดิ์สิทธิ์เช่นนี้ ผู้อาวุโสโม่กล่าวว่า “นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ หากว่ากันตามหลักเหตุผลแล้วสัตว์ศักดิ์สิทธิ์เหล่านี้ไม่มีทางพัวพันไม่ยอมปล่อยเช่นนี้เด็ดขาด”

สายตาของมู่เฉียนซีมองไปที่ร่างของพวกเขา “ตกลงพวกเจ้าเอาของพิเศษใดมากันแน่ ถึงได้ทำให้พวกมันไล่ไม่ยอมปล่อยไปเช่นนี้ได้”

“ไม่มีเลย จะเอาอะไรมาได้ล่ะ”

มู่เฉียนซีกล่าว “ท่านผู้อาวุโสโม่ พวกเขากำลังโกหก จับพวกเขาโยนให้กลุ่มสัตว์ศักดิ์สิทธิ์พวกนั้น แต่นี้ก็หมดปัญหาแล้ว”

ฝูงสัตว์ศักดิ์สิทธิ์กลุ่มนี้มีจำนวนมากกว่ากลุ่มก่อนหน้านี้มาก หากเอาเป็นเอาตายกันไปข้างนึงแล้วล่ะก็ เกรงว่าพวกเขาจะได้รับบาดเจ็บกันหมด

ทั้งหมดนี้ล้วนแต่เป็นคนเหล่านี้นำพามา เช่นนั้นก็ให้พวกเขาจัดการกันเองก็แล้วกัน

“พวกเจ้ากล้าเหรอ!” ชายวัยกลางคนผู้นั้นกล่าวด้วยความโกรธเกรี้ยว

เพื่อใช้วิธีที่ลดปัญหาที่จะเกิดขึ้น การจัดการกับปัญหานี้ สัญชาตญาณของมู่เฉียนซีบอกว่าต้องลงมือจับคุณหนูใหญ่ผู้นั้น

ทันใดนั้นเองสีหน้าของคุณหนูใหญ่พลันซีดเผือดทันที เข็มพิษขนาดเล็กและบางพุ่งออกมาจากต่างหูนางโดยมีเป้าคือมู่เฉียนซี

มู่เฉียนซีเอียงตัวหลบ จากนั้นมือสองข้างก็ได้บีบคอนางเอาไว้ นางกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “ทางที่ดีพวกเจ้าพูดความจริงออกมาดีกว่า มิเช่นนั้นข้าจะจัดการกับนางซะเดี๋ยวนี้”

“ปล่อยคุณหนูใหญ่ของพวกเราเดี๋ยวนี้นะ” ชายวัยกลางคนผู้นั้นกล่าว

“บอกมาเดี๋ยวนี้ว่าเหตุใดสัตว์ศักดิ์สิทธิ์กลุ่มนั้นถึงได้ตามไล่ล่าพวกเจ้าเช่นนี้ ?”

คุณหนูใหญ่ผู้นี้กล่าว “เอาออกมา!”

องครักษ์วัยกลางคนผู้นั้นเอาลูกนกห้าสีตัวหนึ่งออกมา ในขณะที่ลูกนกตัวนี้ปรากฏขึ้น สัตว์ศักดิ์เหล่านั้นกล่าวว่า “เอาเสี่ยวอู่คืนมาเดี๋ยวนี้”

“คืนให้พวกมันซะ!” แย่งเอาลูกสัตว์มา อีกทั้งสายเลือดของมันไม่ธรรมดาเช่นนี้ มิน่าล่ะว่าเหตุใดพวกมันถึงได้ตามไล่ล่าเช่นนี้

เพื่อช่วยชีวิตคุณหนูใหญ่ของพวกเขาเอาไว้ พวกเขาก็จำต้องปล่อยลูกนกห้าสีตัวนั้นไป

ดูเหมือนว่าเจ้านั่นจะรู้ว่ามู่เฉียนซีเป็นคนช่วยมันเอาไว้ มันจึงบินไปตรงหน้ามู่เฉียนซีอย่างรวดเร็ว

มู่เฉียนซีเอายาเม็ดหนึ่งป้อนให้มัน และยิ้มพลางกล่าวว่า “ของกินนี้ถือว่าเป็นการที่ทำให้เจ้าตกใจก็แล้วกันนะ ต่อไปก็ต้องระวังตัวให้มาก อย่าให้ใครมาจับได้อีกล่ะ”

มันพยักหน้าเหมือนกับจะเข้าใจแต่ก็ไม่เข้าใจ จากนั้นก็ได้บินไปที่นกห้าสีตัวใหญ่

กลิ่นยาในปากของมันช่างหอมและบริสุทธิ์เสียจนทำให้มันรู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อย มันกล่าวอย่างเย็นชาว่า “เห็นแก่ที่เจ้าเด็กผู้นี้รู้ว่าสิ่งใดควรสิ่งใดไม่ควร วันนี้ข้าจะปล่อยพวกมนุษย์ที่น่ารังเกียจอย่างพวกเจ้าไป”

กล่าวจบ พวกสัตว์ศักดิ์สิทธิ์กลุ่มนั้นก็ได้จากไปทันที

ปัง! มู่เฉียนซีโยนร่างของคุณหนูใหญ่ผู้นี้ออกไป องครักษ์ของนางโกรธเป็นฟืนเป็นไฟขึ้น คิดจะลงมือกับมู่เฉียนซี

“พวกเจ้าลองลงมือดูสิ!” ผู้อาวุโสโม่กล่าวอย่างโกรธเกรี้ยว

ความแข็งแกร่งของฝ่ายตรงข้ามนั้นเทียบกับพวกเขาไม่ได้เลย ถึงแม้ว่าจะโกรธเกรี้ยวมากเพียงใดก็ไม่กล้าทำอะไรผลีผลาม สุดท้ายก็อดทนเอาไว้ได้

มู่เฉียนซีกล่าว “วันนี้ทุกคนก็เหนื่อยมามากแล้ว รีบพักผ่อนเถอะ!”

ในตอนนี้เอง หญิงสาวชุดเขียวได้เดินมาตรงหน้ามู่เฉียนซี “ขะ……ข้าไม่ได้ตั้งใจจริง ๆ ข้าแค่รู้สึกว่าลูกนกตัวนั้นสวยดี ข้าชอบมันมาก ก็เลยจับมันมา คิดไม่ถึงว่าจะกลายเป็นเรื่องใหญ่เช่นนี้ได้”

หญิงสาวทำท่าทางอ่อนแอดูน่าสงสารเป็นอย่างมาก เมื่อเห็นคุณหนูใหญ่ของพวกเขาเสียอกเสียใจเช่นนี้ องครักษ์คนอื่น ๆ ก็รู้สึกโกรธขึ้นเล็กน้อย

ดูเหมือนว่าพวกเขาจะรังแกคุณหนูใหญ่ของพวกตนก็มิปาน

“ข้าคือบุตรสาวผู้นำแห่งกองกำลังผู้นำเจ็ดอสูร หลานเยว่หรู ไม่ทราบว่าข้าจะเรียกทุกท่านว่าเช่นไร”

ไป๋อวี้ฉิงกล่าว “จะเรียกว่าเช่นไรนั้นก็คงจะไม่รบกวนคุณหนูใหญ่หลานหรอก ข้าว่าเชิญคุณหนูใหญ่หลานไสหัวไปไกลพวกเราได้เท่าไหร่ก็ยิ่งดี สิ่งที่ข้าเกลียดที่สุดก็คือผู้หญิงที่เสแสร้งแกล้งทำว่าตัวเองอ่อนแอนี่แหละ เนื้อย่างที่ข้ากินเข้าไป ตอนนี้แทบอยากจะอ้วกออกมาแล้ว”

สีหน้าของหลานเยว่หรูพลันแข็งทื่อไปในทันที จากนั้นก็แสดงสีหน้าน้อยเนื้อต่ำใจอยากร้องไห้ออกมา

“ขะ……ข้าไม่รู้จริง ๆ ว่าข้าไปทำสิ่งใดให้พวกเจ้าเข้าใจผิด ข้าขอโทษด้วยใจจริง ข้า……”

มู่เฉียนซีและพวกต่างก็ไปทำเรื่องของตัวเองแล้ว สำหรับตาเฒ่าจิ้งจอกเหล่านั้น พวกเขาขี้เกียจจะไปสนใจสาวน้อยผู้นี้

ในขณะที่หลานเยว่หรูหันกลับมา สีหน้าของนางก็เขียวคล้ำด้วยความโกรธแล้ว

ไป๋อวี้ฉิงกล่าวถามว่า “อันซวน เฉียนซี เมื่อครู่ข้าพูดเกินไปหรือไม่ แต่ข้าทนไม่ได้จริง ๆ หนิ่ เนื้อย่างนะ เนื้อย่างเชียวนะ นึกไม่ถึงว่าจะมารบกวนการกินเนื้อย่างของข้า”

มู่เฉียนซีกับอันซวนก็รู้สึกทำอะไรไม่ถูก เดิมทีเมื่อครู่ที่เจ้านี่พ่นวาจาร้ายกาจออกไป ไม่ใช่เพราะมองหลานเยว่หรูได้อย่างทะลุปรุโปร่ง แต่ที่โกรธเกรี้ยวเช่นนี้ก็เป็นเพราะว่าถูกรบกวนในการกินเนื้อย่างต่างหาก

มู่เฉียนซีกล่าว “อันที่จริงแล้วเจ้าก็พูดไม่ผิด พูดได้ดีมาก แถมยังระบายอารมณ์ได้ดีซะด้วย ตัวเองหาเรื่องเองแล้วยังมาสร้างความเดือดร้อนให้พวกเราอีก หากพวกเราไม่ได้มากับท่านผู้อาวุโสโม่ และหากไม่ใช่เพราะความแข็งแกร่งของพวกเรา เกรงว่าวันนี้คงต้องไปเกิดใหม่แล้วเป็นแน่”

เมื่อได้ยินคำพูดนี้ของมู่เฉียนซี ไป๋อวี้ฉิงก็กำหมัดแน่น “ข้ารู้สึกเสียใจทีหลังแล้วสิ ข้าน่าจะด่าหญิงสาวผู้นั้นไปสักสิบแปดชั่วโคตร เกือบจะทำให้พวกเราตายไปด้วย ช่างไร้คุณธรรมเกินไปแล้ว”

อันซวนกล่าว “เอาหน่า พอเป็นพิธีก็พอแล้ว ถึงอย่างไรความแข็งแกร่งของกลุ่มผู้นำเจ็ดอสูรนั่นพอ ๆ กันกับพวกเรานะ”

ในค่ำคืนนี้ พวกเขาได้พักแรมอยู่ที่จุดเดิม ส่วนคนของกลุ่มผู้นำเจ็ดอสูรเหล่านั้นก็พักอยู่ไม่ไกลกันมากนัก

วันต่อมา พวกเขาเตรียมตัวออกเดินทาง หลานเยว่หรูกล่าวว่า “ท่านผู้อาวุโสโม่ เอ่อ……”

“ข้ากับท่านพ่อได้แยกทางกันแล้ว ในป่าเชียนโยวแห่งนี้อันตรายมาก องครักษ์ของข้าก็ปกป้องข้าไม่ได้ ข้าขอร่วมทางไปกับพวกท่านได้หรือไม่ ?”

ทำให้พวกเขาเดือดร้อนไปคราหนึ่งแล้วไม่ว่า ยังคิดจะให้พวกเขาเป็นองครักษ์ให้อีก ท่านผู้อาวุโสโม่ไม่ได้มีเวลาว่างมากมายเช่นนั้น

“พวกข้ามาป่าเชียนโยวก็เพื่อที่จะตามหาสมุนไพร ไม่มีเวลามาเป็นองครักษ์ให้พวกเจ้าหรอกนะ พวกเจ้าออกไปรอผู้นำหลานที่บริเวณนอกป่าเถอะ”

ถึงอย่างไรผู้อาวุโสโม่ก็ไม่อยากที่จะสนใจพวกเขา แต่ผลที่ตามมานั้น พวกเขากลับตามตูดพวกเขาราวกับหนอน

ไป๋อวี้ฉิงเกิดโทสะขึ้น คนของกลุ่มผู้นำเจ็ดอสูรเหล่านี้ช่างไร้ยางอายยิ่งนัก!

มู่เฉียนซีกล่าว “เปรียบเทียบกับชีวิตแล้ว พวกเขาก็ต้องไร้ยางอายเช่นนี้แหละ”

ทว่า การที่คนกลุ่มนี้ตามพวกเขามา เกรงว่าจะไม่ได้บริสุทธิ์ใจเช่นนั้น ในที่สุดไป๋อวี้ฉิงก็ทนไม่ไหวแล้ว เขาวิ่งไปตรงหน้าหลานเยว่หรูด้วยความโกรธ “ที่พวกเจ้าตามพวกข้ามาเช่นนี้ต้องการสิ่งใดกันแน่ อย่าได้หาเรื่องเดือดร้อนมาให้พวกข้าดีกว่า พวกข้ามาหาสมุนไพร ไม่ได้มีเวลามาจัดการเรื่องเดือดร้อนของพวกเจ้า”

หลานเยว่หรูกัดริมฝีปากก่อนจะกล่าวว่า “ข้าเปล่า ข้าไม่ได้ตามพวกเจ้าสักหน่อย ข้าแค่คิดว่าท่านพ่อข้าน่าจะอยู่แถวนี้ข้าก็เลยเดินมา ไม่ได้คิดจะตามพวกเจ้าเลย”

“คุณหนูใหญ่ไม่พูดโกหกแน่นอน หรือว่าเส้นทางนี้มีเพียงแค่พวกเจ้าเท่านั้นที่เดินได้ ?”

“หากใครไม่รู้ ก็คงจะคิดว่าป่าเชียนโยวแห่งนี้เป็นที่ของสำนักศึกษาอันดับหนึ่งแห่งเหลยโจวของพวกเจ้าไปแล้วกระมัง!”

“……” คุณหนูใหญ่เสียใจเข้าแล้ว และแน่นอนว่าองครักษ์ข้างกายนางก็ต้องเรียกร้องความยุติธรรมให้กับนาง