บทที่ 550 รู้สึกว่ามีเพียงฉันคนเดียวที่ข่มเหงรังแกง่าย

ครูเจ้าเสน่ห์คนนี้ประธานจอง

สายตาอาคิระจ้องผ่านประตูเข้าไปแล้วเพ่งมองพนาวัน

พนาวันรู้สึกมาสายตาต้องมาด้านหลัง ร่างกายรีบหดแกร็งทันที

อยู่ร่วมห้องเดียวกันกับเขา มีแต่จะทำให้เธอรู้สึกตื่นเต้น ไม่คุ้นเคย

และเวลานี้ เสียงกริ่งตรงประตูก็ดังขึ้น

พนาวันลุกขึ้นล้างฟองสบู่ในมือออก

จากนั้นก็เห็นอาคิระเดินไปนำก่อนแล้ว

เขาเปิดประตูพลันเห็นผู้ช่วยยืนถือเอกสารและเสื้อผ้าผู้ชายไว้ในมือ

ผู้ช่วยเมธินเอ่ยว่า“ท่านประธานครับ คืนนี้สองทุ่มมีงานเลี้ยงครับ”

“อืม” อาคิระเซ็นชื่อในเอกสาร

“จะให้เชิญผู้หญิงคนไหนเป็นคู่ควงในงานดีครับ?””

ตอนที่ผู้ช่วยเมธินเอ่ยประโยคนี้ พนาวันเดินมาถึงห้องรับแขกพอดี ดังนั้นจึงได้ยินเต็มสองหู

หัวใจเธอเจ็บเหมือนถูกบีบ เดินไปในห้องนอน

เธอรู้ตัวว่าคนที่ยืนด้านข้างเขา ผู้หญิงที่ออกงานกับเขา ย่อมไม่ใช่เธออย่างแน่นอน

เขาไม่มีความคิดอย่างจะพาเธอไป เธอก็ไม่มีหวังอะไรเรื่องนี้เหมือนกัน

เมื่อวานเธอต้องทนรับความอัปยศอดสูมาแล้ว

ปากกาในมืออาคิระชะงักชั่วครู่ จากนั้นก็ชี้ไปยังพนาวัน“เพื่อไม่เป็นการยุ่งยาก เธอแล้วกัน”

ผู้ช่วยเมธินรู้สึกอึ้งเล็กน้อย

เขามองขาของพนาวันหลายปราด ทว่าถึงอยากพูดแต่ก็ไม่ได้เอ่ยออกมา

ทว่าอาคิระเซ็นชื่อในเอกสารเรียบร้อยแล้ว

เห็นดังนั้น ผู้ช่วยเมธินก็ไม่ได้ส่งเสียง กล่าวว่า“คุณนายครับ รบกวนเตรียมตัวด้วยนะครับ”

พนาวันชะงัก จากนั้นก็ส่ายหัว“ตอนกลางคืนฉันมีธุระค่ะ”

“ขออภัยครับ เชิญคุณนายคุยกับท่านประธานเองนะครับ” ผู้ช่วยเมธินไม่มีสิทธิ์ตัดสินใจอะไรทั้งนั้น เขาได้ทำตามคำสั่งเท่านั้น

เธอมองไปยังอาคิระ พลางกล่าวเสียงที่ดังขึ้น“คืนนี้ฉันมีธุระค่ะ”

อาคิระไม่ได้เงยหน้ามอง กล่าวเสียงไม่รู้สึกรู้สา“ธุระอะไร?”

เธอไม่ได้ตอบ แต่กล่าวเน้นย้ำว่า“ฉันไปไหนไม่ได้ ไปไม่ได้ค่ะ”

อาคิระโยนเอกสารลงโต๊ะ โต๊ะกระจกจึงเกิดเสียงดังขึ้น

เขาเอ่ยปากพูดจาเยาะเย้ย“ใครขอความเห็นจากคุณ?คุณมีหน้าที่ทำตามอย่างเดียว”

พนาวันต่อต้านอย่างเด็ดเดี่ยวครั้งแรก“คุณมีผู้หญิงควงมากมายนี่”

ได้ยินดังนั้น อาคิระก็รู้สึกเดือดดาลขึ้นมา

เขากล่าวเสียงเย็นเยียบ“แต่งเข้าบ้านตระกูลอนันต์ธชัยแล้วก็ต้องรับผิดชอบในหน้าที่ของตัวเองด้วย คุณไม่มีสิทธิ์บ่ายเบี่ยง หรือตัดสินใจแทนผม!

พนาวัน ผมให้คุณไปทางซ้าย คุณจะไปทางขวาไม่ได้ เข้าใจไหม?”

พนาวันกัดริมฝีปากด้านล่างแน่น

ระหว่างคิ้วของอาคิระมีความเย้ยหยันเพิ่มขึ้นหลายส่วน

ทั้งสองคุยกันไม่ถูกคอ ความเงียบก็เข้ามาแทนที่

ผู้ช่วยเมธินก็ยืนนิ่งอยู่เงียบ ๆ

สามีภรรยาทะเลาะกัน เขามีสิทธิ์พูดจาแทรกแซงที่ไหน?

ผ่านไปสักพักใหญ่ ๆ พนาวันทุ้มต่ำว่า“พาฉันไปก็ต้องกลายเป็นตัวตลกของคนอื่น”

ตอนเธอเดินอยู่กลางถนน สายตาคนสามัญชนทั่วไปก็มักจะมองมาที่ขาเธอ แต่คนส่วนใหญ่จะซุบซิบกันลับหลัง

หากเธอปรากฏตัวในแวดวงไฮโซ เธอก็จะกลายเป็นตัวตลกของคนทั้งงาน

แม้กระทั่งหมีพูลก็ยังมีผลกระทบด้วยเลย

สังคมชั้นสูงสง่างาม ไม่หยาบคายจริง ๆ หรือ?

ไม่หรอก นิสัยของพวกเขาต่ำกว่าคนธรรมดาทั่วไปเสียอีก

ใบหน้าปั้นรอยยิ้มอ่อนโยน แต่ลับหลังก็แอบนินทาอย่างยากจะจินตนาการ

มันเหมือนมีดแทงเข้าเนื้อหนังของคุณ

แววตาอาคิระมืดสลัว กวาดสายตามองขาของเธอ“คุณกลัวเหรอ?”

เธอนิ่ง ไม่ได้ตอบ

เขากล่าวเสียงเย็นเยียบอีกครั้ง“แต่ผมรู้สึกสนใจมากที่คุณจะกลายเป็นตัวตลกของคนทั้งงาน”

ได้ยินดังนั้น หัวใจพนาวันก็รู้สึกหนาวเหน็บ

ทั้ง ๆ ที่ใกล้เข้าสู่ฤดูร้อนแล้ว ทว่าเธอกลับรู้สึกอยู่ในถ้ำน้ำแข็ง ร่างกายหนาวสั่นและด้านชาไปหมด

คนนี้ก็คือผู้ชายที่เธอรัก

สามีที่เธอเทิดทูนบูชา

พอหกโมงเย็น ผู้ช่วยเมธินก็ขับรถมารับพวกเขาสองคนไปร่วมงานเลี้ยง

อาคิระกับพนาวันนั่งที่นั่งด้านหลัง ทว่าไม่ได้พูดคุยกัน

ผ่านไปสักพัก รถก็จอดอยู่ด้านหน้าตู้โชว์สินค้า

พนักงานเข้ามาต้อนรับอย่างกระตือรือร้น

ทว่าเมื่อเห็นขาของพนาวัน พนักงานสาวก็รู้สึกประหลาดใจ พลางอ้าปากอย่างตกตะลึง

พนาวันเป็นคนสังเกตไว

เธอยืนอึดอัดอยู่กับที่

อาคิระที่เดินเคียงข้างเธอสังเกตเห็นก็หันมาพูดเสียงเย็นชาว่า“รีบตามมา”

เมื่อดึงสติกลับมา พนักงานสาวก็รีบโค้งตัวขอโทษ

จากนั้นก็เอาสินค้าใหม่ล่าสุดมานำเสนอ

เขารู้สึกหนวกหูกับคำโฆษณาของพนักงานสาว โบกมือให้เธอหยุดพูด สุดท้ายก็เลือดกระโปรงยาวสีเหลืองอ่อนแล้วโยนให้พนาวัน

พนาวันมองเสื้อผ้าในส่วนของหน้าอก ทว่าไม่ได้ขยับ

อาคิระรู้สึกเหลืออด สองมืออ้าไปอุ้มเธอ“ทำไม จะให้ผมเปลี่ยนเสื้อให้เหรอ?”

เธอไม่ได้ตอบ ถือกระโปรงแล้วเดินเข้าไป

สักพักหนึ่งเธอก็เดินออกมาพร้อมกับเอามือบังหน้าอก ไม่คิดจะวางลง

ดวงตาพนักงานสาวสว่างจ้า เดินเข้าไปเอ่ยปากชมอย่างสุดฤทธิ์สุดเดช

พนักงานสาวช่วยจัดเสื้อผ้าไปพลาง ดึงมือของพนาวันไปพลาง“ไม่ต้องปิดหรอกค่ะ หน้าอกคุณอวบอิ่มเพียงนี้ มันสวยมากเลยค่ะ ขนาดไซส์อยู่ที่36Cใช่ไหมคะ?”

กระโปรงตัวยาวแนบชิดลำตัว ทำให้เผยรูปร่างอันอรชรออกมา

คอเสื้อเป็นรูปตัวV แหวกอกลงมาถึงร่องอก

ใส่ชุดประเภทนี้จึงใส่ชุดชั้นในไม่ได้ เพราะทำมาเพื่อเผยหน้าอกอันสวยงามโดยเฉพาะอยู่แล้ว

อาคิระตะลึงงันกับภาพตรงหน้า ดวงตามืดมิด

พนาวันรู้สึกหน้าร้อนแผ่ว ไม่รู้ควรวางมือที่ไหน

วินาทีต่อมา ได้ยินเสียงผู้ชายพูดเสียดสีว่า“ใส่แบบนี้จะไปร่วมงานเลี้ยงหรือจะไปขายเนื้อกันแน่?”

คล้ายกับสาดน้ำแข็งหนึ่งถังลงที่ใบหน้าเธอ พนาวันรู้สึกหัวใจโดนมีดกริช

เขาลืมแล้วเหรอ?

เขาเป็นคนเลือกชุดนี้เองนะ

เขาชอบพูดจาดูถูกเหยียดหยามเธอตลอดเวลาจริง ๆ

อาคิระสะบัดมือ โยนชุดไปให้อีกหนึ่งชุด

พนาวันรู้สึกโล่งอกเล็กน้อย

ครั้งนี้เป็นชุดราตรีเปิดไหล่ ด้านล่างเป็นกระโปรงตาข่ายสีดำตัวบาง กระโปรงผ่าข้างสูงทำให้เห็นขาของเธอเป็นเลือนราง รู้สึกเซ็กซี่และสวยเพริศพริ้ง

ครั้งนี้อาคิระไม่ได้เรื่องมาก เขาเซ็นชื่อจ่ายตังค์แล้วเดินนำออกไปก่อน

พนาวันตามติดอยู่ด้านหลัง

พนักงานทอดถอนใจ“หน้าตาสวยมาก แต่เสียดายเป็นคนขาเป๋”

คนด้านข้างได้ยินก็เอ่ยว่า“ชู่ว์ เสียงเบาหน่อย เดี๋ยวลูกค้าได้ยิน”

ต่อจากนั้นก็คือแต่งหน้าทำผม เพราะไม่มีเวลามากนัก จึงเลือกที่จะรวบผม

ซึ่งบังเอิญเผยคอระหงอันงดงามและกระดูกไหปลาร้าอันมีเสน่ห์ออกมา

ขับรถไปด้านหน้าเรื่อย ๆ หัวใจของพนาวันมีเพียงการคัดค้านและตึงเครียด

ถ้าเป็นไปได้ เธออยากกระโดดลงจากรถเหลือเกิน

สุดท้ายรถก็มาถึงโรงแรม

พนาวันไม่ค่อยรู้สึกสนใจมากนัก

ถึงโรงแรมจะหรูหราปานใด สำหรับเธอแล้วก็เหมือนขุมนรกไม่มีผิด

เธอเริ่มตื่นเต้นอย่างควบคุมไม่ได้ จมูกเกิดเหงื่อซึมเป็นเม็ด ๆ

นี่เป็นครั้งแรกที่เธอร่วมงานเลี้ยงแบบนี้

อาคิระหรี่ตา ยกแขนให้เธอ

พนาวันไม่ได้ขยับ ฝ่ามือเธอมีเหงื่อซึมออกมาด้วยเช่นกัน ตอนนี้เหนียวเหนอะหนะมาก

สายตาอาคิระมืดครึ้ม อารมณ์ไม่ค่อยดีนัก ดึงมือเธอเข้ามาอย่างเย็นชาไร้ความรู้สึก

ภายในงานเลี้ยงมีอุปกรณ์เครื่องดื่มและอาหารจัดวางอย่างประณีต ส่วนแขกในงานล้วนเป็นผู้มีอิทธิพลและตระกูลโด่งดังในเฮทเค เสื้อผ้าหน้าผมจึงจัดเต็มกันทุกคน

เมื่อพวกเขาสองคนเดินเข้าไป เกือบทุกสายตาพลันหล่นใส่ตัวพวกเขา

และทุกสายตาจ้องแต่ขาของพนาวัน

เพราะถึงอย่างไร สถานที่แบบนี้ไม่เข้ากับเธอเสียเลย และยังรู้สึกเป็นคนละโลกกับเธอ

เธอลืมตาเล็กน้อย ร่างกายอดสั่นเทิ้มไม่ได้