ติดตามการแจ้งเตือนตอนใหม่ที่แฟนเพจ Facebook Fanpage กดเลย
••••••••••••••••••••
นิยายอื่นที่ทางค่ายแปล
••••••••••••••••••••
**บทที่****292:**วางแผน (1)
“เอ่อ ข้าว่า… มันไม่มากเกินไปหน่อยเหรอ?” ซ่งจงได้ยินเช่นนั้น เขาไม่รู้จะกล่าวอะไรทันที
“ฝ่าบาททะเลตะวันออกนั้นมีพื้นที่มากกว่าสิบล้านลี้ จำนวนเผ่าพันธุ์นั้นมากมาย จำนวนมันจะประมาณนี้” อาวุโสเอ๋าที่กล่าวออกมาเช่นนั้น ก็เริ่มลังเลเช่นกัน
“อะไรนะ? เจ้าจะกล่าวอะไรกันแน่น่ะ!” ซ่งจงกล่าวออกมาอย่างใจร้อน
“คือว่า!” อาวุโสเอ๋าขมวดคิ้วทันทีพร้อมกล่าวต่อ “ฝ่าบาท ความจริงแล้วพื้นที่แห่งนี้เป็นของเหล่าทูตแห่งทะเลตะวันออก แน่นอนว่าพวกเขาไม่ต้องการให้เราเปิดเผยความแข็งแกร่งทั้งหมด โดยเฉพาะบางเผ่าพันธุ์ที่อยู่ห่างไกลออกไป กว่ากองทัพพวกเขาจะมาถึงอาจใช้เวลานานกว่าสิบปี เช่นนี้พวกเขาอาจจะเหนื่อยตายไปก่อนไม่ใช่หรือ? ดังนั้นทาสผู้นี้เห็นว่าเราควรจะระดมพลที่อยู่ใกล้เคียงเสียมากกว่า ซึ่งเท่านี้น่าจะเพียงพอแล้ว!”
“อ่า ข้าเข้าใจแล้ว ข้าเชื่อใจเจ้า!” ซ่งจงตอบกลับอย่างมีความสุข “ในตอนนี้ข้าแทบจะรอไม่ไหวแล้ว ดังนั้นคงจะเป็นการดีถ้าหากเจ้าดำเนินการอย่างเร็วที่สุด!”
“ง่ายมาก!” อาวุโสเอ๋ากล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม “มีเผ่าพันธุ์ที่อยู่ใกล้กับเทือกเขาอยู่ประมานห้าเผ่า ตราบใดที่พวกเขาตกลงร่วมกับเรา เผ่าที่เหลือจะตกลงทันที ทาสผู้นี้จะส่งคนเพื่อไปบอกข่าวเหล่านี้ให้กับเผ่าทั้งสี่ให้ส่งผู้นำของตนเองมาที่นี่ให้เร็วที่สุด จากนั้นไม่เกินสองวันท่านจะได้พบกับพวกเขา!”
“ประเสริฐยิ่งนัก!” ซ่งจงพยักหน้า จู่ๆซ่งจงพลันนึกอะไรออก เขารีบถามอย่างรวดเร็ว “รอเดี๋ยว ทำไมจึงมีเพียงสี่เท่านั้น? เมื่อกี้เจ้าไม่ได้กล่าวว่าห้างั้นหรือ?”
“อ่า!” อาวุโสเอ๋าเผยรอยยิ้มจนเห็นฟันจนหมดปากพร้อมกล่าวว่า “ฝ่าบาท ทาสผู้นี้นั้นไม่ใช่ผู้นำของเผ่าพันธุ์เต่าดำงั้นหรือ แน่นอนว่าการเป็นคนรับใช้ของท่าน ข้าจะสนับสนุนท่านอย่างแน่นอนโดยที่ท่านไม่ต้องถามอะไรข้าทั้งนั้น!”
“ฮี่ฮี่ ข้าลืมไปเสียสนิท อย่างไรข้าก็ต้องขอบคุณเจ้ามากๆ!” ซ่งจงคำนับให้กับเขาอย่างสุภาพ
“ไม่มากเกินไปเลยสักนิด ไม่เลย! มันเป็นเพียงหน้าที่ของทาสผู้นี้ที่ต้องปฏิบัติให้สมบูรณ์!” อาวุโสเอ๋ารีบขอโทษทันที จากนั้นเขาเดินออกไปพร้อมกล่าวว่า “เช่นนี้ทาสผู้นี้ขอตัวก่อนเพื่อที่จะออกไปส่งข่าวให้คนอื่นได้รับรู้!”
ซ่งจงโบกมือเล็กน้อย จากนั้นอาวุโสเอ๋าเดินหันหลังออกไป ดวงตาของซ่งจงจ้องมองไปที่อาวุโสเอ๋าและเริ่มมีความคิดชื่นชมเหล่าทูตแห่งทะเลตะวันออกอย่างแท้จริง เขาพลางคิดกับตัวเองเบาๆ “จงรอข้าก่อนเถิด บิดาของพวกเจ้า ซ่งจงผู้นี้จะกลับไปจัดงานศพให้พวกเจ้าอย่างยิ่งใหญ่! ข้าจะส่งพวกเจ้าไปหายมโลกอย่างสมเกียรติ!”
ในขณะที่เหล่าอสูรกายภายในทะเลตะวันออกกำลังมีความสุข แต่ในกลุ่มพันธมิตรทะเลตะวันออกกำลังเต็มไปด้วยความเศร้าโศก เหล่าผู้ฝึกตนมากมายที่ในตอนแรกมีเพียงสามสำนักใหญ่เท่านั้นที่สูญเสีย แต่ในตอนนี้ตัวเลขเพิ่มขึ้นกว่าสิบ! อีกทั้งเรือเหาะที่เป็นสมบัติขนาดใหญ่ที่เป็นสมบัติของสำนักได้ถูกปล้นไปอย่างน่าสมเพชอีกด้วย
ความเสียหายเหล่านี้ไม่สามารถประเมินมูลค่าของมันได้ แทนที่การสูญเสียเช่นนี้จะนำมาซึ่งชัยชนะ แต่กลับเป็นการยั่วยุให้ศัตรูโกรธแค้นมากยิ่งขึ้น พวกเขาล้วนแต่ไม่เกี่ยวข้องกับสงครามครั้งนี้ แต่ในตอนนี้ไม่มีผู้ใดสามารถหันหลังกลับได้อีกแล้ว ทุกคนรู้ดีว่าทั้งหมดนี้ได้สร้างศัตรูที่ยิ่งใหญ่เสียแล้ว
บุคคลกลุ่มหนึ่งได้ถูกช่วยไว้โดยกลุ่มพันธมิตรทะเลตะวันออกหลังจากที่พวกเขาหนีตายกันอย่างโกลาหล ทั้งหมดรวมตัวกันอยู่ในโถงใหญ่แห่งทะเลตะวันออกกลายเป็นผู้ลี้ภัยโดยสมบูรณ์ ทั้งหมดได้กรีดร้องกับความสูญเสียครั้งนี้อย่างน่าเวทนา
โดยทั้งหมดพุ่งเป้าไปที่นักบวชเซือหมัวเป็นส่วนใหญ่
ฮัวชิงหยุนกลายเป็นคนบ้าทันทีหลังจากบุตรสาวของนางตายตกไปในมือของซ่งจง แล้วนักบวชฮัวอวิ๋นได้หายตัวไปหลังจากที่โน้มน้าวให้ทุกคนไล่ล่าซงจง แต่ทว่าในตอนนี้นักบวชเซือหมัวยังอยู่ ทุกคนจึงได้แต่ก่นด่าและสาปแช่งเขาอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยง
แม้ว่าความแข็งแกร่งของนักบวชเซือหมัวจะไม่โดดเด่นนัก แต่เขาสามารถจัดการกับผู้นำทั้งห้านี้ได้อย่างง่ายดาย แม้ว่าผู้ฝึกตนระดับหยวนหยินที่อยู่ในทะเลตะวันออกจะไม่แข็งแกร่งเท่า แต่พวกเขาทั้งหมดที่อยู่ล้อมรอบก็ยังคิดหาวิธีที่จะเล่นงานนักบวชเซือหมัวอยู่เสมอ
นักบวชเซือหมัวเป็นบุคคลจากสำนักพันปีศาจเพียงคนเดียวอยู่ท่ามกลางสำนักอื่นนับพัน เป็นเรื่องธรรมดาที่เหล่าสำนักอื่นกล้าที่จะชี้หน้าสาปแช่งเขาอย่างไม่เกรงกลัว แต่เรื่องนี้ช่างไม่ยุติธรรมที่นักบวชเซือหมัวจะต้องรองรับความโกรธจากบุคคลนับพัน!
แม้ว่าแม่มดเมฆาและเทวะจะอยู่ในสำนักพันปีศาจเช่นกัน แต่พวกนางนั้นมีความเป็นปฏิปักษ์กับนักบวชเซือหมัวเป็นทุนเดิม เมื่อได้เห็นใบหน้าอมทุกข์ของนักบวชเซือหมัว ทั้งสองอดไม่ได้ที่จะมีความสุขแม้จะอยู่ในเวลาที่ไม่เหมาะสมก็ตาม
หลังจากที่โดนทุกคนก่นด่าอย่างหนักหน่วง นักบวชเซือหมัวไม่ได้ปริปากกล่าวสิ่งใดออกมา พวกเขาทั้งหมดสาปแช่งจนพอใจแล้วเริ่มจับกลุ่มคุยกันว่าควรจะทำเช่นไรต่อ
เหล่าคนที่ยังคงอารมณ์ค้างจากสงคราม เสนอให้บุกไปสังหารเพื่อช่วงชิงสมบัติของสำนักคืนมา นี่เรื่องตลกงั้นหรือ? ทะเลตะวันออกนั้นกว้างใหญ่ มีอสูรกายนับล้านตัวหรืออาจจะมากกว่านั้น ซึ่งมากกว่าผู้ฝึกตนมนุษย์เป็นร้อยพันเท่า ใครกันที่จะพาตัวเองเข้าไปตายอีกครั้ง?
บ้างก็กล่าวว่าวิธีที่ดีที่สุดคือการยอมรับความพ่ายแพ้และเข้าไปเพื่อเจรจาร้องขอสมบัติคืน พวกเขาไม่สามารถหาวัสดุที่ล้ำค่ามาเพื่อปรับแต่งมันใหม่อีกแล้ว ข้อเสนอเช่นนี้ถูกครอบงำอย่างรวดเร็ว ภายในทะเลตะวันออกนั้นเต็มไปด้วยวัสดุมากมายเมื่อเปรียบเทียบกับเทือกเขาแล้ว ทะเลตะวันออกนั้นอุดมสมบูรณ์อย่างมาก ความได้เปรียบของเหล่ามนุษย์มีเพียงความคล่องตัวเท่านั้น พวกเขาสามารถสร้างเรือเหาะขึ้นมาได้อีกครั้งเสมอถ้าหากมีวัสดุเพียงพอ ดังนั้นเหล่าอสูรกายควรจะยอมแลกเปลี่ยนกับพวกเขาด้วยวัสดุต่างๆที่จะสร้างเรือขึ้นมาอีกครั้ง แต่ในทางเดียวกันพวกเขาก็เกรงกลัวว่าเหล่าอสูรกายจะไม่ยินยอมรับข้อเสนอเช่นนี้
หลังจากที่จับกลุ่มคุยกันอยู่เนิ่นนานจนผ่านไปครึ่งวัน ก็ยังไม่สามารถหาข้อสรุปได้ สุดท้ายแล้วทั้งหมดได้เพียงยอมรับความผิดหวังเท่านั้น
เกี่ยวกับเรื่องนี้ นักบวชเซือหมัวนั้นรู้อยู่แล้วว่าจะจบเช่นไร ถ้าหากไม่ใช่เพราะเขาเกรงกลัวที่จะถูกล้อมหากวิ่งหนีไป เช่นนั้นเขาคงจะไม่นั่งจมปลักอยู่เช่นนี้แน่นอน แม้แม่มดเมฆาและวายุจะอยู่สำนักพันปีศาจเช่นกัน แต่ดูแล้วพวกนางไม่ช่วยเหลือเขาอย่างแน่นอน ทั้งสองคนนั้นเข้าสู่สมาธิและตัดขาดทุกสิ่งโดยสิ้นเชิง
แม้ว่าการถกเถียงเรื่องนี้จะยังไม่ได้ข้อสรุป แต่ทุกคนนั้นรู้ดึถึงความพ่ายแพ้ต่อเหล่าอสูรกายอยู่แล้ว มีเพียงสิ่งเดียวที่พวกเขาเกรงกลัวในตอนนี้ก็คือการที่เหล่าอสูรกายจะไม่ยอมแพ้!
โดยเฉพาะซ่งจง เรือมังกรทองคำของเขาถูกทำลายอย่างหนัก สมบัติมากมายบนเรือถูกขโมยไปและเขาถูกไล่ล่าไกลกว่าหมื่นลี้ ด้วยอารมณ์ของซ่งจงแน่นอนว่าเขาจะแก้แค้น อีกทั้งสถานะของเขาเมื่ออยู่กับเหล่าอสูรกายนั้นลึกลับอย่างมาก เขากลายเป็นผู้นำของเหล่าอสูรกายในการต่อสู้ครั้งที่ผ่านมาได้อย่างยอดเยี่ยม
เพื่อป้องกันซ่งจงที่อาจหวนกลับมาแก้แค้น เหล่ากลุ่มพันธมิตรทะเลตะวันออกตั้งรับด้วยการลาดตระเวนอย่างหนาแน่น ทั้งหมดรู้สึกหงุดหงิดอย่างมาก ผู้นำแห่งกลุ่มพันธมิตรทะเลตะวันออกได้ออกคำสั่งให้ระดับการป้องกันอยู่ในขั้นสูงสุดทันที พร้อมทั้งหยุดภารกิจที่ต้องออกทะเลทั้งหมด ทุกคนจะต้องอยู่ที่เกาะเพื่อตั้งรับ การป้องกันของเกาะแห่งนี้นับได้ว่ายอดเยี่ยม ถ้าหากมีอสูรกายโผล่มาสักหนึ่งเผ่า จะเกิดเสียงแจ้งเตือนทันที เมื่อถึงเวลานั้นอาจจะเป็นการวิ่งหนีหรือซุ่มโจมตี จะต้องดูสถานการณ์เบื้องหน้าอีกครั้งหนึ่ง
แต่ในเวลานี้ชื่อเสียงของซ่งจงกลายเป็นประวัติศาสตร์ทั้งใหม่แล้วในหมู่ผู้ฝึกตนมนุษย์ แต่ไม่ใช่ชื่อเสียงที่ดีมากนัก เขาทำลายสองสำนักใหญ่อายุหมื่นปีอย่างง่ายดาย อีกทั้งยังสังหารผู้ฝึกตนมากถึงสองพันคน เรื่องราวทั้งหมดล้วนแต่เป็นฝันร้ายของเหล่าผู้ฝึกตนมนุษย์ นับจากนี้ไปซ่งจงได้รับฉายาใหม่นั่นก็คือ ราชาปีศาจ!
ในกลุ่มพันธมิตรทะเลตะวันออกตอนนี้เต็มไปด้วยความวุ่นวายและสั่นกลัว แต่กลับกันภายในวังฝ่าบาทน้อย ราชาปีศาจซ่งจงกำลังพูดคุยกับผู้นำทั้งห้าเผ่าพันธุ์อย่างออกรส
เหล่าอสูรกายทั้งห้าระดับหยวนหยินนี้ล้วนแต่อยู่ใกล้เคียงกับกลุ่มพันธมิตรทะเลตะวันออก นั่นก็คืออาวุโสเอ๋าเทียน ราชันอินทรีย์ดำเซียวตั่ง แขนเหล็กหยวนฉิง วาฬขาวหวังไป่ฮัวและราชาหมึกยักษ์จางเฉียว
ราชันอินทรีย์ดำเซียวตั่งเป็นผู้นำของเผ่าอินทรีย์ดำที่ดุร้าย พวกมันน่ากลัวมากกว่าอสูรกายอื่น มีความสามารถในการซุ่มโจมตีที่ยอดเยี่ยมและพวกมันชอบกินศพ รูปร่างของเขาสูงใหญ่ราวโครงกระดูกและหัวโล้น ดวงตาของเขากลวงโบ๋ดูน่าพิศวงอย่างยิ่ง…