TQF:บทที่ 754 อวสาน (22)
หยูเฮงน้อยยิ้มตาหยีพลางพยักหน้า “ใช่ คุณหนู วันที่ท่านแต่งงานข้าจะรวบรวมของขวัญของทุกคนไว้ด้วยกันแล้วเลื่อขั้นให้มิติเลยทีเดียว คุณหนู ท่านก็รู้ว่าการเลื่อนขั้นมิติครั้งสุดท้ายสำคัญแค่ไหน ฉะนั้นเราเตรียมไว้เยอะๆไม่พลาดแน่ ถ้าเตรียมน้อยไปสิจะยุ่ง ท่านว่าถูกมั้ย” “ก็ได้ ถือว่าเจ้ามีเหตุผล” เฉิงเสี่ยวเสี่ยวรู้สึกว่าต้องมีเหตุผลอย่างอื่น ในเมื่อหยูเฮงน้อยไม่อยากบอกตัวเองก็คงมีเหตุผลของนาง
ถึงแม้หยูเฮงน้อยจะดูชอบเล่นซน แต่ถ้าเป็นเรื่องใหญ่แล้วนางรู้ว่าต้องทำอย่างไร ดังนั้นเฉิงเสี่ยวเสี่ยวถึงชอบมอบหมายเรื่องต่างๆให้นางจัดการ
ทุกคนยุ่งกันหมด มีแต่ว่าที่เจ้าสาวอย่างนางที่ไม่มีอะไรทำจนฟุ้งซ่าน นางจึงเก็บตัวฝึกฝนเพื่อฆ่าเวลา
ที่น่าแปลกคือหลังจากที่นางฝึกฝนมา 1 เดือนเต็มๆก็ยังไม่สามารถบรรลุขีดจำกัดที่เริ่มหละหลวมลงสักที รู้สึกลางๆว่าถูกบางอย่างผูกมัดไว้
เฉิงเสี่ยวเสี่ยวไม่เคยเจอสถานการณ์แบบนี้มาก่อน ช่วยไม่ได้ที่หยูเฮงน้อยชอบหายตัวไป ไม่มีใครรู้ว่านางเล่นอะไรอยู่ จะถามนางสักหน่อยก็หาตัวไม่เจอ
ภายใต้การช่วยเหลือจากเผ่าอสูร ทั้งแผ่นดินศักดิ์สิทธิ์จงหยวนเริ่มตกแต่งของมงคลต่างๆ โคมไฟแดงเอย ผ้าแดงเอย….
แผ่นดินศักดิ์สิทธิ์จงหยวนแดงเถือกไปทุกที่ในเวลา 4 เดือน บรรยากาศสิริมงคลกระจายออกไปกลายเป็นมหาสมุทรสีแดง ใบหน้าของทุกคนประดับไปด้วยรอยยิ้มเบิกบานและมีความสุข
วันแต่งงานใกล้เข้ามา คนเดินทางมาร่วมงานมงคลครั้งนี้ก็มีมากขึ้นเรื่อยๆ
ส่วนเฉิงเสี่ยวเสี่ยวถูกพวกท่านย่า ท่านแม่ ฮูหยินฟางขังนางไว้ที่เรือนเถาวัลย์หยก ไม่ให้นางออกไปไหน ทุกๆวันพวกนางจะมาคุยเล่นเปิดอกกับนาง
ไม่ใช่แค่พวกผู้ใหญ่เท่านั้น พี่สาวผู้เป็นญาติเฉิงฮุ่ยฮุ่ย น้องสาวเฉิงหลานหลาน และกงซีหยวนที่อยู่แผ่นดินศักดิ์สิทธิ์จงหยวนมาตลอด สะใภ้ตัวน้อยที่มีความสุขเหล่านี้มักจะบ่นจิ๊บๆให้นางฟังถึงรายละเอียดที่ต้องระวังในวันแต่งงาน แล้วก็เรื่องการเป็นภรรยาต่างๆ
ในขณะที่นางรอจนทนไม่ไหวแล้ว วันที่ 18 เดือน 1 ก็มาถึงสักที
ฟ้าไม่ทันจะสว่างเฉิงเสี่ยวเสี่ยวก็ถูกสาวใช้จับมาทรมาน อาบน้ำเปลี่ยนชุดใหม่ ชุดแต่งงานของนางเสร็จไปเมื่อ 2 เดือนก่อน
ชุดฝ้ายสีแดงสดลายหงส์ ประดับด้วยอัญมณีและแผ่นประกายทอง หรูหราเกินจะเปรียบ
ขอบเสื้อถูกเย็บไว้ด้วยด้ายทองจำนวนมาก ชุดกระโปรงมีผ้าคลุม ด้านหลังกระโปรงปักด้วยลายหงส์สีเงินสยายปีก ผ้าคลุมไหล่ยาว 3 เมตร ปักด้วยมังกรและหงส์ที่ดูมีชีวิตชีวา ยิ่งทำให้ดูสูงส่งขึ้นไปใหญ่
เท้าเล็กๆคู่นั้นสวมรองเท้าสีแดงปักลายหงส์ ทำให้หุ่นบางๆยิ่งดูแพรวพราวเข้าไปใหญ่
หลังจากที่สวมเสื้อผ้าเสร็จแล้ว เฉิงเสี่ยวเสี่ยวนั่งนิ่งอยู่หน้ากระจก ปล่อยให้สาวใช้งานมงคล 2 คนที่เก่งเรื่องหัตถกรรมเกล้าผมให้นาง จากนั่นก็แต่งหน้าเจ้าสาวให้นาง ไม่รู้ว่าวุ่นวายอยู่นานเท่าไหร่ จนเฉิงเสี่ยวเสี่ยวเกือบหลับไป และในขณะนั้นเอง ท่านย่า ท่านแม่ และคนอื่นๆต่างมาปรากฏตัวในห้องของนางด้วยชุดมงคล
การมาของเจ้านายหญิงทั้ง 2 ทำให้สาวใช้พากันทำความเคารพและถอยไปข้างๆ
เฉิงเสี่ยวเสี่ยวลืมตาขึ้นและกระพริบตานิดหน่อย ก่อนจะถามอย่างมึนๆ “ฟ้าสว่างแล้วเหรอ” “พรืด… เจ้านี่นะ” ฟางซูหยุนหลุดหัวเราะออกมากับท่าทีของนาง มองหลานสาวที่แต่งหน้าไว้อย่างพิถีพิถันพลางยิ้มอย่างพอใจ “ฟ้าสว่างตั้งนานแล้ว จะถึงยามมงคลแล้ว พวกเราเลยมาดูหน่อยว่าเจ้าเตรียมตัวถึงไหนแล้ว” “เสี่ยวเสี่ยว เจ้ารู้สึกอย่างไรบ้าง มีตรงไหนที่ไม่พอใจมั้ย ให้สาวใช้มงคลช่วยเจ้าเปลี่ยน” ลั่วหยูฉินดึงมือ 2 ข้างของลูกสาวไว้และถาม “ไม่มี รีบทำให้จบๆเถอะ เบื่อจะตายอยู่แล้ว” ไม่มีคำว่าพอใจหรือไม่พอใจอะไรทั้งนั้นสำหรับเฉิงเสี่ยวเสี่ยว คิดแค่ว่ารีบทำให้เสร็จๆนางจะได้ไม่ทรมาน
ฟางซูหยุนส่ายหัวอย่างนึกขำพลางปลอบนาง “เอาน่า แต่งงานก็แบบนี้แหละ เจ้าอดทนหน่อย อย่างไรซะก็แต่งงานเลยนะ เจ้าทนหน่อยไม่ได้รึไง ยังมีเวลาอีกตั้งมาก” “ท่านแม่พูดถูก เสี่ยวเสี่ยว เจ้าเป็นคนที่กำลังจะแต่งงานแล้วนะ อย่าทำตัวเป็นเด็ก ต้องแต่งตัวให้สวยๆ” ลั่วหยูฉินกล่าวยิ้มๆ
เฉิงเสี่ยวเสี่ยวกลับพึมพำขึ้นอย่างไม่ใส่ใจ “ต้องแต่งตัวเท่านั้นรึไงถึงจะสวย ข้าสวยอยู่แล้วต่างหาก”
แม้เสียงจะไม่ดังแต่ก็ได้ยินกันชัดเจนในห้องนี้ เพราะฉะนั้นทุกคนได้ยินหมด เหล่าสาวใช้อดปิดปากแอบหัวเราะไม่ได้ ไม่มีใครคิดว่าคุณหนูที่เป็นเสมือนนางฟ้าเวลาพูดจะน่ารักและตลกขนาดนี้
ฟางซูหยุนและลั่วหยูฉินไม่รู้จะหัวเราะหรือร้องไห้ดี ทำอะไรนางไม่ได้จริงๆ “พี่ใหญ่ๆ เตรียมตัวเสร็จรึยัง ขบวนขันหมากของพี่เขยจะถึงแล้วนะ…”
เสียงเรียกที่เป็นของเฉิงหลานหลานดังขึ้นจากด้านนอก เมื่อสิ้นเสียงตัวนางเองก็พุ่งพรวดเข้ามาในห้องของเฉิงเสี่ยวเสี่ยว
เป็นแม่คนแล้วแต่ยังกระโตกกระตากอยู่เลย ทุกคนมองคุณหนูรองแห่งตระกูลเฉิงอย่างหมดคำพูด
เฉิงหลานหลานไม่ได้สนใจสายตาทุกคน เมื่อเห็นพี่สาวตัวเองยังไม่ได้ใส่เครื่องประดับหัวและปิดผ้าแดงก็ร้องขึ้น “พี่ใหญ่ ทำไมท่านยังเตรียมตัวไม่เสร็จอีก เร็วเข้า พี่เขยจะถึงแล้ว” “ใช่ จะถึงยามดีแล้ว สาวใช้มงคล เร็วหน่อย เลิกโอ้เอ้ได้แล้ว” ลั่วหยูฉินตำหนิลูกสาวคนเล็กไม่ทัน รีบบอกให้สาวใช้มงคลลงมือ
เหล่าสาวใช้มงคลวุ่นวายขึ้น ฟางซูหยุนจูงหลานสาวคนเล็กไว้แอบกระซิบบอกนางให้เรียบร้อยบ้าง จะทำอะกระโตกกระตากอย่างนี้ไม่ได้ ถึงยังไงก็อยู่ในฐานะฮูหยินผู้ดีตระกูลดัง คนอื่นจะหัวเราะเยาะเอา
ลั่วหยูฉินนำเครื่องประดับหัวของลูกสาวออกมาด้วยความระวัง นี่เป็นสิ่งที่หยูเฮงน้อยตั้งใจทำขึ้นจากพลอยตงไห่ เล็กได้และใหญ่ได้ เครื่องประดับหัวเล็กๆนี้ถูกลงวิชาสะกดไว้ ถือเป็นของวิเศษที่เป็นเครื่องประดับ “ว้าว สวยจังเลย….”
เมื่อได้เห็นพี่ใหญ่สวมเครื่องประดับหัว ภายใต้การสะท้อนของเครื่องประดับหัวหลากสีเป็นประกายนี้ เสริมให้ใบหน้าของเฉิงเสี่ยวเสี่ยวยิ่งดูสวยมีเสน่ห์เข้าไปใหญ่
ขณะนั้นฟางซูหยุนหยิบผ้าแดงมังกรหงส์ขึ้นมา มองหลานสาวคนโตด้วยสายตาอ่อนโยนพลางเอ่ยขึ้นเบาๆ “เสี่ยวเสี่ยว ตั้งแต่วันนี้ไปเจ้าก็จะไปอยู่บ้านสามีแล้ว ต้องทำหน้าที่ภรรยาและลูกสะใภ้ให้ดี เคารพสามี กตัญญูพ่อแม่สามี ห้ามทำอะไรที่ผิดต่อศีลธรรม เข้าใจมั้ย” “เจ้าค่ะ ท่านย่า เสี่ยวเสี่ยวเข้าใจ” เฉิงเสี่ยวเสี่ยวย่อมเข้าใจความหมายที่ฟางซูหยุนพูด ตอบอย่างว่าง่าย
ลั่วหยูฉินน้ำตาคลอ เสียงเริ่มสะอื้น “เสี่ยวเสี่ยว พวกเจ้าต้องมีความสุขนะ มีลูกกันไวๆล่ะ” “เจ้าค่ะ ท่านแม่” เฉิงเสี่ยวเสี่ยวตอบเสียงเบา มีริ้วแดงๆปรากฏบนใบหน้า “พี่ใหญ่ ขอให้พวกท่านอยู่ด้วยกันจนแก่เฒ่า มีลูกกันไวๆ ยิ่งเยอะยิ่งดี” เฉิงหลานหลานโวยวายอย่างเบิกบาน
เฉิงเสี่ยวเสี่ยวที่กำลังจะมองบนกลับโดนท่านย่าเอาผ่าแดงคลุมไว้ ทุกคนไม่สามารถเห็นสีหน้านางได้อีก “ยามมงคลถึงแล้ว…..”
วันนี้ขันทีชราอาเฟิงเป็นพิธีกรงานแต่ง เขากำลังร้องเรียกอยู่ในสวน
จากนั้น พี่น้องตระกูลเฉิงและอาเล็กหวงฝู่หนิงเซวียนเข้ามา พวกเขาที่สวมชุดมงคลเมื่อเห็นเจ้าสาวแต่งตัวเสร็จแล้วก็เอ่ยขึ้น “ท่านย่า ท่านแม่ ขบวนขันหมากของพี่เขยมาถึงแผ่นดินศักดิ์สิทธิ์จงหยวนแล้ว ตอนนี้ต้องแบกพี่ใหญ่ออกไปแล้ว” “ข้าจะแบกพี่ใหญ่เอง….” เฉิงเจิ้งปินตะโกนขึ้นมาก่อน
เฉิงเจิ้งหยวนรีบขวางน้องชายไว้ “ข้าเป็นพี่ ก็ต้องเป็นข้าแบกพี่ใหญ่สิ” “ข้าก็แบกพี่ใหญ่ได้เหมือนกัน พี่ชายอย่าทำเกินไปสิ” เฉิงเจิ้งปินกล่าวอย่างไม่ยอม “โอ๊ย พวกเจ้าเลิกแย่งกันได้แล้ว ให้ข้าแบกเสี่ยวเสี่ยวเอง” เจ้าตัวเล็กหวงฝู่หนิงเซวียนก็เอากับเขาด้วย
ฟางซูหนุนที่กลั้นขำลากลูกชายคนเล็กมาและตำหนิเบาๆ “เซวียนเอ๋อ ห้ามเล่นเหลวไหลนะ เจ้าเด็กเกินไป จะแบกเสี่ยวเสี่ยวได้อย่างไร” “เลิกทะเลาะกันได้แล้ว ถ้าทะเลาะกันอีกข้าจะเดินออกไปเอง”
คำพูดขุ่นเคืองของเฉิงเสี่ยวเสี่ยวทำให้พี่น้องตระกูลเฉิงเงิบไป สุดท้ายฟางซูหยุนเป็นคนตัดสินใจให้เฉิงเจิ้งหยวนเป็นคนแบกเจ้าสาวออกไป
ขณะนั้น เจ้าบ่าวสวมชุดแดงทั้งชุด บนหัวสวมมงกุฎหยกผ้าแดง ปิ่งทองปักผมดกดำของชายหนุ่มไว้ข้างในอย่างเรียบร้อย
โครงหน้าที่แบ่งเป็นสัดส่วนชัดเจนประดับด้วยรอยยิ้มชงนหลงใหล นัยน์ตาลึกล้ำเป็นประกายมีความอ่อนโยนอยู่ข้างใน เขาก็คือโม่ซวนซุนที่มารับเจ้าสาว
ข้างเขาไม่ไกลมีสัตว์เทวาม้าสวรรค์ลากรถเกี้ยวผ้าฝ้ายแดงลายหงส์ที่แขวนพู่ไข่มุกไว้ทั้ง 4 ด้าน มุมทั้ง 4 ใช้ไข่มุกประดับ ส่วนด้านบนสุดเป็นพลอยสีแดงที่เกือบใส ทั้งรถเกี้ยวแลดูสง่างาม สูงส่ง หรูหราและดูเป็นมงคล
———————————-