TQF:บทที่ 755 อวสาน (23)

 

 

ลูกศิษย์หลายแสนคนด้านล่างเขย่งเท้าชะโงกหน้า มุงดูงานแต่งอันยิ่งใหญ่นี้ โดยเฉพาะเหล่าลูกศิษย์หญิงที่พากันส่งสายตาอิจฉา “เจ้าสาวมาแล้ว….”

 

ไม่รู้เสียงใครตะโกนขึ้น ทุกคนหันไปตามเสียงก็ได้เห็นร่างบางบนหลังเฉิงเจิ้งหยวน ร่างของโม่ซวนซุนหายไป นาทีต่อมาก็ปรากฏตัวข้างเฉิงเจิ้งหยวน “พี่เขย พี่สาวก็ให้ท่านดูแลแล้วนะ จากนี้ทำกับพี่สาวข้าดีๆด้วย ไม่อย่างนั้นพวกเราไม่ปล่อยท่านไว้แน่”

 

ถึงจะรู้ว่าไม่ใช่คู่ต่อสู้ของพี่เขย เฉิงเจิ้งหยวนก็ยังพูดคำพูดพิธีการ

 

ด้านหน้าสุดมีหญิงสาว 6 คนในชุดหลากสีเดินถือตะกร้าดอกไม้โม่ซวนซุนที่นั่งอยู่บนกระเรียนเซียนจูงม้าสวรรค์ที่ลากรถเกี้ยวไว้ 2 ด้านของรถเกี้ยวมีสาวใช้มงคล 4 คน และสาวใช้ 8 คนเดินตามมาติดๆ คณะดนตรีในขบวนมีทั้งหมด 20 คน ในมือพวกเขามีเครื่องเป่า ฆ้อง กลอง เป่าไปตีไป แต่ละเสียงดังขึ้นเรื่อยๆ ด้านหลังมีสมาชิกเผ่าอสูร 99 คนคอยคุ้มกัน

 

ขบวนขันหมากเดินทางกันอย่างยิ่งใหญ่ หญิงสาวชุดหลากสีโปรยกลีบดอกไม้จำนวนนับไม่ถ้วนในทุกที่ๆผ่าน ทั้งทางมีคนมากมายมามุงดูและถอนหายใจกับความยิ่งใหญ่

 

เพลงขบวนขันหมาก ‘มังกรหงส์สันนิวาส’ ดังก้องอยู่ในฟ้าดิน สาวน้อยได้ฟังแล้วมีสีหน้าเขินอาย ยังไงซะก็ต้องมีจินตนาการถึงวันที่ตัวเองแต่งงานบ้าง และทำให้คู่สามีภรรยาเฒ่าไม่น้อยที่นึกไปถึงวันวานที่ได้สมรสกับคนข้างกาย

 

จะว่าเร็วก็เร็ว จากแผ่นดินศักดิ์สิทธิ์จงหยวนไปโถงวิหารสวรรค์ใช้เวลาเพียง 1 ชั่วยามเท่านั้น คนที่อยู่ในโถงวิหารสวรรค์ตั้งหน้ารอ

 

เพลงมังหรหงส์สันนิวาสดังมาจากฟากฟ้า จากนั้นขบวนขันหมากค่อยๆเดินต่อเรื่อยๆ ขบวนคนชุดแดงชัดเจนขึ้นเรื่อยๆรางกับแสงอาทิตย์จากขอบฟ้า ค่อยๆกระจายออก ขยายใหญ่ไม่หยุด พอเข้าใกล้ขึ้นอีกก็เห็นว่านัยน์ตาทุกคนมีแววดีใจ

 

เสียงประทัดดังสนั่นหวั่นไหวจนหูแทบดับเพื่อต้อนรับการมาของคู่แต่งงานใหม่

 

ภายในสถานที่ต้องห้ามวิหารสวรรค์ทางหลายสิบลี้มีกลับดอกไม้โปรยตามทางอยู่นับไม่ถ้วน ต้นไม้ข้างบันไดตามยอดเขาต่างๆมีริบบิ้นแดงผูกเอาไว้ เหล่าลูกศิษย์โถงวิหารสวรรค์ที่กรูกันเข้ามามีไม่หยุด ชนไหล่กันมั่วไปหมด แต่ละคนพยายามชะโงกหน้าไปดูงานแต่งที่ยากจะเห็นในรอบร้อยปี

 

เสียงประทัดและโคมไฟแดงเปิดทาง คณะดนตรีเป่าไปตีไปตามทาง ในที่สุดขบวนขันหมากก็ปรากฏสู่สายตาทุกคน

 

แต่ขบวนไม่ได้หยุดลง หายวาบไปจากอากาศ มุ่งสู่สถานที่ต้องห้าม ณ ยอดเขาสูงสุดทางทิศตะวันออก

 

ปราสาทงดงามปรากฏต่อหน้าทุกคน เหมือนมันลอยอยู่บนฟ้า ทำให้ทุกคนตะลึงไม่น้อย

 

ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเป็นผลงานของหยูเฮงน้อย รถเกี้ยวมาถึงหน้าปราสาทเลย กรีบดอกไม้ร่วงโรยมาเต็มฟ้าโม่ซวนซุนอุ้มภรรยาลงจากรถเกี้ยว ก้าวเข้าสู่ประตูปราสาทท่ามกลางฝนดอกไม้

 

พวกผู้ใหญ่และญาติสนิทนั่งอยู่บนที่นั่งด้านบนเรียบร้อย รอคอยการมาของคู่แต่งงานใหม่

 

เด็กน้อยไร้เดียงสาถือกังหันลมเดินแทรกไปมาในฝูงชน วิ่งไม่หยุดและส่งเสียงหัวเราะราวกระดิ่งใส

 

ภายในห้องโถงติดคำว่าสมรสเอาไว้ มีกลิ่นถานอบอวลอยู่ในอากาศบางๆ ชิ้นผ้าสีแดงที่แสดงถึงบรรยากาศอันเป็นศิริมงคล แขกเหรื่อที่มารอดูพิธีในห้องโถงมีรอยยิ้มเบิกบานอยู่บนหน้า จับตามองคู่แต่งงานใหม่ที่ค่อยๆเดินเข้ามา

 

เฉิงเสี่ยวเสี่ยวทำตามพิธีต่างๆเสร็จสิ้นภายใต้การบอกเสียงค่อยของสายใช้มงคลก่อนจะก้าวเข้าไปในห้องโถง “คู่แต่งงานใหม่มาถึงแล้ว….”

 

ท่ามกลางเสียงร้องของพิธีกรงานแต่ง เฉิงเสี่ยวเสี่ยวลากผ้าสีแดงเพื่อดำเนิน 1 ในพิธีที่สำคัญที่สุดในชีวิต “ไหว้แรก ไหว้ฟ้าดิน…..”

 

นางหมุนตัวด้วยการช่วยพยุงของสาวใช้มงคล ทุกคนหันไปทางด้านนอกพลางก้มหัวลงเพื่อทำการไหว้ครั้งแรก “ไหว้ 2 ไหว้ผู้หลักผู้ใหญ่….”

 

ทั้ง 2 หันกลับมา คุกเข่าลงบนที่รอง กราบท่านพ่อท่านแม่ 3 ครั้ง “สามีภรรยาไหว้ซึ่งกันและกัน….”

 

ทั้ง 2 ลุกขึ้นยืน หันหน้าเข้าหากัน ค่อยๆโค้งตัวลง หัวชนเข้าหากัน ถือเป็นการไหว้ “พิธีเสร็จสมบูรณ์ ส่งเจ้าสาวเข้าห้องวิวาห์”

 

อีกด้านของปมรวมใจในมือของโม่ซวนซุนคือเฉิงเสี่ยวเสี่ยว นางเดินออกจากห้องโถงสู่สวนด้านหลังภายใต้การพยุงของสาวใช้

 

เดินมาถึงโถงด้านในที่ตกแต่งอย่างเป็นสีสัน สีแดงสดแยงตาของห้องคู่สมรส เทียนมังกรหงส์ยักษ์ใหญ่ 2 เล่มที่ถูกจุดไว้ บรรยากาศอัดแน่นไปด้วยความเป็นมงคล

 

ผ้าห่มผ้าปักลายบนเตียงมีพุทราแดง ถั่วลิสง ลำไย และเมล็ดบัวปูไว้เป็นรูปหัวใจ เพื่อสื่อความหมายมีลูกไวๆ

 

เฉิงเสี่ยวเสี่ยวที่ถูกปกคลุมด้วยผ้าแดงปักลายหงส์ถอนหายใจอย่างโล่งอกเมื่อนั่งอยู่บนเตียงที่มีถั่วลิสงและเมล็ดบัวโปรยปราย ถือว่าทำไอพิธีการน่ารำคาญนี่เสร็จสักที “ท่านเขยเลิกผ้าแดง….” เสียงตะโกนของสาวใช้มงคลทำให้เฉิงเสี่ยวเสี่ยวรู้ว่ายังมีเรื่องที่ทำไม่เสร็จ

 

เอาใช้ไม้หรูอี้เลิกผ้าแดงขึ้น ทุกอย่างในห้องสะท้อนอยู่ในตาของเฉิงเสี่ยวเสี่ยว นางเงยหน้านิดหน่อยเพื่อมองตาคนตรงหน้า เขาหล่อเหลาและสง่างาม

 

ภายใต้สายตาอันร้อนแรงของเขาที่จ้องมองมา เฉิงเสี่ยวเสี่ยวหน้าแดงอย่างกับผลไม้ และรู้สึกถึงไอร้อนที่ขึ้นหน้า ก้มหน้าลงนิดๆ “จากนี้ไปขอให้ท่านเขยสมพรปรารถนา สามีภรรยารักกันยาวนาน อยู่ด้วยกันจนแก่เฒ่า มีลูกกันไวๆ…”

 

หลังจากที่สาวใช้มงคลพูดคำอวยพรออกมาชุดใหญ่ก็พาทุกคนออกไปในที่สุด “ภรรยา ในที่สุดเราก็แต่งงานกันแล้ว ข้ารอซะนานเลย”โม่ซวนซุนวางไม้หรูอี้ลงพลางถอนหายใจ “ทำเป็นพูด…”

 

เฉิงเสี่ยวเสี่ยวเงยหน้าและเหลือบมองเขา มุมปากเลิกขึ้นนิดหน่อยเผยให้เห็นรอยยิ้มบางๆ “ยังไม่ช่วยข้าเอาไอของบ้าๆนี่ลงจากหัวอีก หนักจะตายอยู่แล้ว” “ภรรยา พูดแต่คำที่เป็นมงคล อย่าพูดคำที่ไม่เป็นมงคล”โม่ซวนซุนจ้องมองคนตรงหน้า

 

ชุดแต่งงานสีแดงตัดกับใบหน้าอ่อนหวานของนาง แววตาสะท้อนเป็นประกายเจิดจ้า ริมฝีปากอิ่มสีแดงตัดกับฟันขาว ทุกอิริยาบถแฝงไว้ด้วยความเย้ายวน

 

ผิวขาวบริสุทธิ์ดั่งแสงจันทร์สะอาดสดใส ผ้าคาดเอวที่ยิ่งทำให้เอวบาง ปลายนิ้วทั้ง 10 เสมือนปลายต้นหอมสดๆ ที่ประดับหัวมงกุฎหงส์สะท้อนใต้แสงเทียนทำให้ดูมีชีวิตชีวา ยิ่งทำให้ทุกอย่างดูนุ่มนวลเข้าไปใหญ่ เขามองจนเคลิ้มไป “ตาทึ่ม…”

 

เฉิงเสี่ยวเสี่ยวมองเขาอย่างเง้างอนก่อนจะลุกขึ้นยืน จูงมือเขาไปที่หน้ากระจอกและสั่งขึ้น “รีบช่วยข้าเอาของพวกนี้ออกมาเร็วๆ หนักจนคอจะหักแล้ว” “เหลวไหล นั่งลง เดี๋ยวข้าช่วยเอาออกให้เจ้าเอง….”

 

ทั้ง 2 ยุ่งอยู่ในห้องวิวาห์ ส่วนหยูเฮงน้อยที่อยู่ในห้องวิวาห์ก็ยุ่งอยู่เช่นกัน

 

นางและเจ้าต้นหลิวอยู่ชั้นสุดท้ายของวังสวรรค์ นางทำให้ที่นี่เป็นห้องนอนอันหรูหรา ที่สำคัญ ณ อีกด้าน นางกำลังนำน้ำหยินหยาง น้ำธารวิเศษ น้ำพลังชีวิต ของเหลวแห่งภูติและอีกมากมายเข้าไปอยู่ในบ่อน้ำ กลายเป็นบ่อน้ำเทพที่ไม่มีใครรู้ว่าให้ผลอะไร ขณะนั้นเกิดแสงเจิดจ้าที่ดูศักดิ์สิทธิ์ และยังมีความลึกล้ำอย่างแปลกประหลาดด้วย “พี่หยูเฮง ท่านว่าทำแบบนี้ได้เหรอ จะเกิดปัญหาอะไรรึเปล่า”

 

เจ้าต้นหลิวบอกด้วยความกังวล

 

หยูเฮงน้อยถลึงตากลมโตและบอกอย่างแข็งกร้าว “หุบปาก ห้ามพูดเหลวไหลอย่างอื่น ตกลงเจ้าหรือข้ากันแน่ที่เป็นภูติมิติ ห้ามสงสัยในการตัดสินใจของข้า” “เราเป็นภูติมิติทั้งคู่” เจ้าต้นหลิวบอกนางอย่างไม่รีบไม่ร้อน “แล้วยังไง เจ้าก็ต้องฟังข้าอยู่ดี” “ได้ ฟังเจ้า” หยูเฮงน้อยพอใจกับความว่านอนสอนง่ายของต้นหลิวน้อยมาก ชำเลืองมองเขาด้วยแววตานุ่มนวลและถามขึ้น “วางทรัพยากรไว้ตาม 8 ทิศเฉียนคุนเรียบร้อยแล้วใช่มั้ย” “เรียบร้อยแล้ว เจ้าเลื่อนขั้นมิติได้ทุกเมื่อ” เจ้าต้นหลิวพยักหน้าและเอ่ยยิ้มๆ “เฮ่ะๆ ใกล้ได้เวลาแล้ว พวกเราออกไปแล้วเรียกคุณหนูกับท่านเขยเข้ามา”

 

หยูเฮงน้อยเผยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ก่อนจะลากเจ้าต้นหลิวหายตัวออกจากวังสวรรค์ไป พริบตาเดียวก็หายไปอย่างไร้ร่องรอย

 

ท้องฟ้าด้านนอกจู่ๆก็มีผู้เฒ่าชุดขาวผมขาวเคราขาวปรากฏตัวออกมา ไม่มีใครเห็นการมีอยู่ของเขา ส่วนเขาหลังจากที่มาถึงที่นี่แล้ว ส่ายหัวกับผืนดินนี้ “ผืนดินนี้แย่จริงๆ ขาดแคลนพลังวิญญาณขนาดนี้ มิน่าล่ะวิทยายุทธของคนพวกนี้ถึงต่ำขนาดนี้ น่าเสียดายจริงๆ” “ผืนดินที่อ่อนแอขนาดนี้ ทำไมแม่นาง 2 คนนั้นถึงมาอยู่ที่นี่ได้ล่ะ ถ้าไม่ใช่เพราะได้กลิ่นไอของพวกนางที่นี่ ไม่อยากจะเชื่อจริงๆว่าพวกนางจะอยู่ที่แบบนี้”

—————————————-