เมื่อผู้นำตระกูลเมิ่ง ได้ยินคำพูดของหมอเทวดาโม่ หัวใจของเขาก็เกิดความรู้สึกโล่งขึ้น แม้ว่าเขาจะไม่ใช่คนดี แต่ทักษะการแพทย์ของเขานั้นดีที่สุดในบรรดาหมอในสี่แคว้น หากจะมีบุคคลในสี่แคว้นที่จะสามารถรักษาความเจ็บป่วยของบุตรชายของเขาได้ เขากลัวว่าก็คงจะมีเพียงหมอเทวดาดโม่เท่านั้น

       แต่ถ้าเขายินยอมให้หมอเทวดาโม่ รักษาบุตรชายของเขา ตระกูลเมิ่ง ก็จะไม่สามารถเอาความเรื่องเมื่อ 20 ปีที่แล้วได้ และสำหรับข้อกล่าวหาอื่น ๆ ของหมอเทวดาโม่นะหรือ

       ผู้นำตระกูลเมิ่ง เชื่อว่าตราบใดที่พวกเขาไม่ได้ติดใจเอาความคดีของผู้อาวุโสเมิ่ง อีกต่อไปแล้ว ข้อกล่าวหาอื่น ๆ จะไม่ได้รับการสนใจ ศาลจะเชื่อว่ามันเป็นเพียงแค่โคมลอยหรือการใส่ความของชายชราที่มีผมสีเงินเท่านั้น

       เมื่อชายชราที่มีผมสีเงินได้ยินคำพูดของหมอเทวดาโม่ เขาก็หันกลับไปมองคนสองคนที่พูดคุยกันก่อนจะจากไป เขาจากไปพร้อมกับความดูถูกและเหยียดหยาม ในขณะที่หมอเทวดาโม่ ก็ทำราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น เขายืนนิ่งเงียบและรอคำตอบของผู้นำตระกูลเมิ่งเท่านั้น  

       หมอเทวดาโม่ แน่ใจเกือบจะ90% ว่าตระกูลเมิ่งจะเห็นด้วยกับเขา ในสี่แคว้นนี้ ไม่มีใครอื่นนอกจากเขาที่จะสามารถรักษาความพิการทางสมองของ คุณชายตระกูลเมิ่งได้แล้ว

       ผู้นำตระกูลเมิ่ง อยากจะบอกว่าไม่ แต่ก็ยังคิดถึงบุตรชายของเขาที่ไม่สามารถพูดได้ หากเขาปฏิเสธบุตรชายของเขาก็จะไม่สามารถพูดได้ตลอดชีวิตของเขา แต่ถ้าเขาเห็นด้วย เขาก็รู้สึกว่าเขากำลังจะกลืนแมลงวันเข้าไป

       ผู้นำตระกูลเมิ่ง ถอนหายใจและพูดขึ้น“ เรื่องนี้ให้ข้าลองคิดดูก่อน”

       หมอเทวดาโม่ ไม่ได้พูดอะไร เขายอมรับการตัดสินใจของผู้นำตระกูลเมิ่ง เขาไม่ได้พยายามกดกันในเรื่องนี้ เขาเพียงแค่จากไปอย่างใจเย็น … …

คนธรรมดาไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้นในศาล แต่ฮ่องเต้และเสี่ยวเทียนเหยารู้เรื่องนี้ดี ฮ่องเต้รู้ว่าหมอเทวดาโม่ได้ยอมรับความผิดของเขาต่อตระกูลเมิ่ง แต่ปฏิเสธที่จะยอมรับข้อกล่าวหาอื่น ๆ ของเขา ด้วยเหตุนี้ฮ่องเต้จึงช่วยไม่ได้ที่จะหัวเราะ“ เขาฉลาดจริง ๆ ”

       เพียงแค่ไม่ยอมรับสิ่งต่าง ๆ หากเจ้าไม่ต้องการที่จะยอมรับ มีหลักฐานหลายชิ้นชี้ให้เห็นถึงความผิดของเขาที่มีต่อผู้นำตระกูลเมิ่งและตระกูลเมิ่งก็อยู่ในเมืองหลวงอีกด้วย หากหมอเทวดาโม่จะไม่ยอมรับเขาก็จะถูกสอบสวนมากขึ้นเรื่อย ๆเท่านั้น

       และสำหรับที่เหลือนะหรือ?

       ตราบใดที่เสี่ยวเทียนเหยาไม่ได้แทรกแซง ฮ่องเต้ก็เชื่อว่าสิ่งเหล่านั้นจะไม่ถูกเปิดเผย

“เนื่องจากเขามีความสามารถในการพลิกผันสิ่งต่าง ๆ เจิ้นก็จะดูแลหนึ่งหรือสองอย่างของเขา” ฮ่องเต้สั่งให้คนของเขาทำให้หมอเทวดาโม่ได้มีความสุขกับการดูแลแบบพิเศษในคุก แม้ว่าเขาจะดูชรา แต่เขาก็ดูสะอาดและมีระเบียบ เขายังคงสามารถรักษารูปลักษณ์ที่สูงส่งและน่ายำแกรงเอาไว้ได้

       เสี่ยวเทียนเหยา ไม่ได้สนใจที่หมอเทวดาโม่ ปฏิเสธที่จะยอมรับความผิดอื่น ๆ ที่ชายชราผมสีเงินกล่าวหา ยิ่งหมอเทวดาโม่มีความขาวสะอาดเท่าไหร่ในในตอนนี้ เขาก็ยิ่งจะตกลงไปในหลุมนรกมากขึ้นเท่านั้น เมื่อการทดลองลับของเขาถูกเปิดเผย สำหรับเรื่องที่เกี่ยวกับตระกูลเมิ่งนั้นเขาไม่สามารถควบคุมได้

       อย่างไรก็ตาม ซูฉาก็พูดขึ้นอย่างเป็นกังวลว่า“ ถ้าตระกูลเมิ่งขอให้หมอเทวดาโม่รักษาคุณชายเมิ่ง ความผิดอื่น ๆ ของหมอเทวดาโม่ก็จะเป็นเรื่องยากมากที่จะสืบสาว ไม่ว่าจะเพื่อประโยชน์ของตระกูลเมิ่งหรือหน้าของหมอเทวดาโม่ ตระกูลเมิ่งก็จะสนับสนุนหมอเทวดาโม่อย่างไม่มีเงื่อนไข”

“ เว้นแต่เราจะทำลายตระกูลเมิ่ง” บุคคลหนึ่งไม่สามารถฆ่างูได้โดยปล่อยให้มันกัดตัวเอง เสี่ยวเทียนเหยา รู้เรื่องนี้อย่างชัดเจน และเนื่องจากปัญหานี้เกี่ยวกับหมอเทวดาโม่ จึงเป็นธรรมชาติที่เขาจะไม่ยอมปล่อยให้ หมอเทวดาโม่ ได้มีโอกาสอีกครั้ง

“ ตระกูลเมิ่งจะไม่เห็นด้วยในเร็วๆ นี้ ข้าจะเร่งความเร็วของข่าวในทางใต้ ข้าจะตรวจสอบให้แน่ใจว่ามันจะถูกเปิดเผยในอีกสองวันนี้ ข่าวนี้จะดังไปสักระยะหนึ่ง” แคว้นทางใต้อยู่ไกลจากตะวันออกมาก ในเวลาปกติข่าวจะแพร่กระจายหลังจากสิบวันไปแล้ว

       ในสิบวันนั้น เป็นไปได้ที่หมอเทวดาโม่ จะคว่ำคดีของเขา

       เสี่ยวเทียนเหยา เคาะนิ้วของเขาบนโต๊ะ หลังจากนั้นไม่นานเขาก็พูด: “เนื่องจากปิ่นปักผมที่มีพิษของโม่ อี้เอ้อร์ ทำให้การรักษาของเปิ่นหวางล้มลงและเกือบทำให้ขาของเปิ่นหวางกลายเป็นของเสีย เปิดเผยเรื่องนี้ต่อตระกูลเมิ่ง”

       ดวงตาของซูฉาเปล่งประกายสดใสขึ้น“ตระกูลเมิ่งจะลังเลมากขึ้นกับข่าวนี้”

“ตราบใดที่พวกเขาลังเล สิ่งต่าง ๆ ก็จะง่ายขึ้นมาก” เสี่ยวเทียนเหยาหลับตาลง ริมฝีปากของเขาโค้งเป็นรอยยิ้มเล็กน้อย แต่รอยยิ้มนี้ดูอันตรายมาก……