ติดตามการแจ้งเตือนตอนใหม่ที่แฟนเพจ Facebook Fanpage กดเลย
••••••••••••••••••••
นิยายอื่นที่ทางค่ายแปล
••••••••••••••••••••
**บทที่****294:**จัดการทั้งหมด (2)
หลังจากนั้นซ่งจงหันหน้าไปหาเหลียวเซียวเย่าพร้อมกล่าวว่า “ไม่ดีไม่ร้าย ฉงลั่วเหยานั้นไม่ใช่เรื่องที่เจ้าจะต้องจัดการ ข้ามีข้อเสนอดีๆแล้ว เจ้าเพียงพาเขามาในสถานที่นัดหมายหลังจากนี้เจ็ดวันก็พอ!”
“ตกลง!” เหลียวเซียวเย่าไม่กล้าถามอะไรมากนัก เขาพยักหน้าตอบรับทันทีพร้อมกล่าวว่า “ครั้งหนึ่งเราเคยนัดพบกันบนเกาะแห่งนิรันดร์ รัศมีของเกาะประมานห้าร้อยลี้ ซึ่งระยะทางของมันอยู่ห่างจากที่อยู่อาศัยของพวกเราในระยะที่เท่าๆกัน! ถ้าลูกพี่ไม่ติดอะไร ข้าขอนัดหมายที่เกาะนั้น เกาะไม่กว้างมากนัก เราไม่จำเป็นต้องรัดกุมสิ่งใดมากมาย”
“ตกลง!” ซ่งจงพยักหน้าพร้อมกล่าวต่อ “เอาตามที่เจ้าว่า! ข้าขอตัวก่อน อีกห้าวันจะกลับมา เจ้าควรจะนัดหมายพวกเขาได้แล้วใช่หรือไม่?”
“แน่นอน ต้องทำได้แน่นอน อีกทั้งระยะทางจากที่นี่ไปยังสถานที่แห่งนั้นใช้เวลาเพียงหนึ่งวัน” เหลียวเซียวเย่ารีบกล่าว
“ยอดเยี่ยม ข้าขอตัวก่อน อ่า จงจัดเตรียมที่พักไว้ให้ข้าในสถานที่แห่งนี้ด้วย อีกห้าวันข้าจะกลับมา เอ้อ เจ้าจัดการผู้คนในห้องนี้ให้เรียบร้อยด้วยล่ะ!” ซ่งจงกล่าวอย่างเรียบง่าย
หลังจากที่เหลียวเซียวเย่าได้ฟังเช่นนั้น เขาตัวสั่นเล็กน้อย แต่เมื่อคิดว่าซ่งจงนั้นเป็นคนตรงไปตรงมา จึงทำได้เพียงกัดฟันและหยักหน้าตอบรับ เขาปลดปล่อยสมบัติวิเศษของตนเองออกมา เส้นใยสีดำนับร้อยปรากฏขึ้นพร้อมกับแทงเข้าไปที่เหล่าบุรุษและหญิงสาวมากมายภายในห้องโถง ทั้งหมดจบชีวิตทันที ทุกคนนอนจมกองเลือดอย่างน่าสยดสยอง ในตอนนี้เหลือเพียงเหลียวเซียวเย่า ซ่งจงและเหลยซานเอ๋อสามคนเท่านั้น
“ลูกพี่ ไม่มีผู้ใดรับรู้การมาของท่านในวันนี้แล้ว!” เหลยเซียวเย่ากล่าวพร้อมกับโค้งคำนับให้ซ่งจงอย่างสุภาพ
เมื่อเห็นความโหดร้ายของเหลียวเซียวเย่า ซ่งจงและเหลยซานเอ๋อขมวดคิ้วแน่น ซ่งจงเพียงแค่อยากเตือนเขาเท่านั้น เขาไม่คิดว่าสหายผู้นี้จะป่าเถื่อนถึงเพียงนี้ ซึ่งทุกสิ่งได้เหนือความคาดหมายของเขาอย่างมาก
ซ่งจงนั้นแอบสาปแช่งเขาอยู่ภายในใจ แต่เขาทำได้เพียงยิ้มพร้อมกับส่ายหัวอย่างช่วยไม่ได้ “ฮ่าฮ่า! เจ้านี่มันจริงๆเลยนะ!” ซ่งจงไม่อาจใส่ใจกับสิ่งเหล่านี้ได้ เขาเดินนำเหลยซานเอ๋อออกจากห้องโถงใหญ่ จากนั้นทั้งสองหายไปอย่างรวดเร็ว
เมื่อเห็นว่าซ่งจงจากไปแล้ว เหลียวเซียวเย่าคำรามออกมาเพื่อระบายความโกรธอย่างยาวนาน จากนั้นเขาเช็ดเหงื่อเย็นเฉียบบนใบหน้าพร้อมกล่าวออกมาอย่างขื่นขม “วันนี้มันวันอะไรกัน? ข้าหลบซ่อนอยู่ที่บ้านของตัวเอง แต่สวรรค์กลับส่งคนหน้าโง่ให้มาเป็นลูกพี่ของข้า! แล้วหลังจากวันนี้ไปข้าจะต้องทำยังไงกัน?”
เมื่อเขาระบายความโกรธไปจนหมดสิ้นแล้ว แต่ก็ยังไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอะไรได้ เขารีบทำสิ่งที่ซ่งจงได้สั่งไว้ก่อนที่จะออกไปทันที เหลียวเซียวเย่าเขียนจดหมายเพื่อที่จะติดต่อกับปีศาจอีกสองตนอย่างรวดเร็ว เขาเลือกช่องทางลับผ่านสหายที่เชื่อถือได้ เพื่อส่งสิ่งนี้ให้ถึงมือของไม่ดีไม่ร้าย ฉงลั่วเหยาและไม่หญิงไม่ชาย ฉิงชิงเหยา
ไม่หญิงไม่ชาย ฉิงชิงเหยานั้นได้รับจดหมายแล้ว เมื่อเปิดอ่านทำให้ต้องขมวดคิ้วทันที “หลังจากที่เกิดความพ่ายแพ้ขึ้นภายในทะเลตะวันออก ทุกสิ่งล้วนแต่นำพาความตึงเครียดมาให้ สถานการณ์ในทะเลตะวันออกตอนนี้เปลี่ยนไปแล้วโดยสมบูรณ์ ช่วงเวลาเช่นนี้ ข้าเหลียวเซียวเย่าอยู่ในอารมณ์ที่อ่อนไหวและต้องการพบท่านอย่างมากภายในสถานที่ของพวกเรา ข้าต้องการพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องสำคัญของกลุ่มพันธมิตรว่าในตอนนี้พวกเขากำลังทำอะไรกันอยู่”
เนื้อความในจดหมายเหมือนกันแต่อีกฉบับถูกส่งไปยังเกาะวิญญาณที่ห่างไกลออกไปอีก ผู้รับก็คือไม่ดีไม่ร้าย ฉงลั่วเหยา ความสงสัยปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขาซึ่งเขาไม่เข้าใจอย่างมากว่าเหลียวเซียวเย่าจะมาอ่อนไหวอะไรตอนนี้ อย่างไรก็ตามสถานที่ลับของพวกเขานั้นยังคงเป็นความลับอยู่ ยังไม่มีผู้ใดค้นพบเกาะแห่งนั้น มันค่อนข้างที่จะปลอดภัยและสามารถพบปะกันเพื่อเจรจาเรื่องที่สำคัญได้ อีกทั้งยังไร้อันตรายอีกด้วย ถ้าหากมีสิ่งใดเกิดขึ้น แน่นอนว่าพวกเขาจะสามารถควบคุมมันได้ เมื่อคิดเช่นนั้นฉงลั่วเหยานั้นคิดที่จะไปตามนัดและอีกด้านฝ่ายฉิงชิงเหยานั้นก็ได้ตัดสินใจแบบนั้นเช่นเดียวกัน
เจ็ดโมงเช้าบนเกาะที่ไม่มีใครรู้จัก ปีศาจทั้งสามได้มาถึงเกาะนี้แล้ว ทั้งสามนั้นดูเหมือนจะไร้การระวังตัว แต่แท้จริงแล้วก่อนหน้านี้พวกเขาทั้งหมดได้ส่งสหายที่ไว้ใจได้มาสำรวจเกาะแล้ว เพื่อหลีกเลี่ยงการปะทะแบบไม่ตั้งตัวหรือเผื่อว่ามีผู้ใดวางแผนซุ่มโจมตีพวกเขา
อย่างไรก็ตาม ไม่หญิงไม่ชาย ฉิงชิงเหยาและไม่ดีไม่ร้าย ฉงลั่วเหยานั้นมาตามข้อตกลงซึ่งมีเพียงสองคน แต่ทว่าเหลียวเซียวเย่านั้นพาบุคคลปริศนามาด้วยสองคน อีกทั้งสองคนนั้นยังสวมหน้ากากสีดำอีกด้วย
เมื่อเห็นว่าเหลียวเซียวเย่าพาใครมาด้วย ฉิงชิงเหยาและฉงลั่วเหยาแสดงใบหน้าเรียบเฉยพร้อมทั้งเย็นชาโดยสมบูรณ์ แต่ทว่าฉงลั่วเหยานั้นเป็นคนหยาบคายและไม่คิดที่จะสุภาพ เขากล่าวออกมาตรงๆ “เหลียวเซียวเย่านี่เป็นการประชุมลับของพวกเรา แต่เจ้าพาผู้อื่นเข้ามาร่วมด้วย นี่หมายความว่าอย่างไร?”
หลังจากที่เหลียวเซียวเย่าได้ยินเช่นนั้น เขาไม่ได้ตอบกลับเพียงแต่เผยรอยยิ้มอย่างขื่นขม สิ่งที่เขาต้องทำนั้นหมดสิ้นแล้ว ที่เหลือคือหน้าที่ของหน้ากากดำที่ยืนอยู่ด้านข้าง เหลียวเซียวเย่าได้แนะนำทั้งสองให้กับหน้ากากดำอย่างสุภาพ เห็นได้ชัดว่าหน้ากากดำกลายเป็นผู้นำของเขาไปแล้วโดยสมบูรณ์
เมื่อเห็นเช่นนั้นทั้งสองตกใจอย่างมาก พร้อมทั้งคิดว่าเรื่องนี้มีอะไรแปลกไปโดยเฉพาะเหลียวเซียวเย่าที่ยอมก้มหัวให้โดยง่ายดาย แน่นอนว่าบุคคลผู้นั้นจะต้องไม่ธรรมดาและไม่สามารถจัดการได้โดยง่าย อีกทั้งเรื่องที่จะพูดคุยกันในวันนี้จะต้องเป็นหัวข้อของบุคคลผู้นั้นแน่นอน
เมื่อคิดเช่นนั้น ทั้งสองคนมองหน้ากันอย่างโง่งม ทั้งสองส่งสายตาให้กันทันทีว่าจะต้องร่วมมือกันเพื่อจัดการกับศัตรูตรงหน้านี้
หน้ากากดำสังเกตเห็นท่าทีเหล่านั้นอย่างรวดเร็ว เพียงแต่เขาไม่ได้ตอบโต้สิ่งใดนอกจาเผยรอยยิ้มจางๆออกมาพร้อมกล่าวว่า “ข้าเป็นคนขอร้องให้เหลียวเซียวเย่าเชิญพวกเจ้าทั้งคู่มาพบข้าเอง!”
“เจ้าเป็นใคร?” ฉิงชิงเหยาถามออกมาอย่างรวดเร็ว
“เราไม่เชื่อถือบุคคลที่ปกปิดตนเองว่ากล่าวความจริง!” ฉงลั่วเหยากล่าวออกมาอย่างหงุดหงิด
“เยี่ยม!” หน้ากากดำไม่ได้โกรธพร้อมกับเผยรอยยิ้ม “พวกเจ้าอยากรู้สินะว่าข้าเป็นใคร” เมื่อกล่าวจบ ชายผู้นั้นถอดหน้ากากออกพร้อมกับส่งยิ้มให้กับทั้งสองคนอย่างเรียบง่าย
“ซ่งจง!” ทั้งสองคนตะโกนออกมาอย่างประหลาดใจ
เรื่องราวเกี่ยวกับซ่งจง พวกเขานั้นไม่ได้พบกันนานแล้ว ได้ยินแต่เพียงชื่อเสียงของเขาเท่านั้น แน่นอนว่าชื่อซ่งจงเป็นสิ่งต้องห้ามสำหรับทั้งสองคน เมื่อก่อนนี้พวกเขาทั้งสามเคยถูกซ่งจงถูกข่มขู่จนฉายาสามปีศาจแห่งทะเลตะวันออกไร้ความหมายเมื่อยืนอยู่ตรงหน้าของซ่งจง ชายผู้นี้ทำให้ปีศาจทั้งสามกลายเป็นตัวตลกอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ ทั้งสามขายหน้าจนต้องหลบหน้าไปจากชายฝั่งสักระยะเพื่อกอบกู้ชื่อเสียงของตนเอง
หลังจากนั้นมาทั้งสามพยายามหาหนทางที่จะแก้แค้นซ่งจงเสมอมา แต่พวกเขานั้นได้รับแต่ข่าวอันโหดเหี้ยมของซ่งจงที่ทำลายสำนักใหญ่ทั้งสอง และระเบิดสำนักตนเองพังไปกว่าครึ่ง หลังจากที่เหล่าผู้ฝึกตนระดับหยวนหยินพยายามจะต่อต้านเขาแต่ก็ไม่อาจทำได้ ทั้งสามคนก็ทำได้เพียงมองเขาอยู่ห่างๆอย่างไม่อาจทำอะไรได้เช่นกัน แม้ว่าภายในหัวใจของพวกเขาจะเต็มไปด้วยแผนการ แต่ทว่าซ่งจงหายตัวไปและไม่มีใครค้นพบเขาได้อีกเลย แต่ในวันนี้ซ่งจงกลับยืนอยู่ตรงหน้าของทั้งสามในสถานการณ์ที่ไม่เคยคาดคิดมาก่อน
ทั้งสองคนยังคิดว่าซ่งจงต้องการจะกลับมาล้างแค้นกับพวกเขาอีกครั้ง ทั้งสองรู้สึกหวั่นใจขึ้นมาอย่างเก็บอาการไม่อยู่
ซ่งจงที่เห็นเช่นนั้น เขาได้แต่เผยยิ้มออกมาพร้อมกับรีบอธิบายทันที “พวกเจ้าทั้งสองไม่จำเป็นต้องกังวลแต่อย่างใด ข้าซ่งจงไม่ได้มาร้ายและไม่คิดจะทำสิ่งใด ข้าเพียงต้องการพบอัจฉริยะทั้งสอง ด้วยเหตุนี้ข้าจะปฏิบัติกับพวกท่านทั้งสองอย่างดีเยี่ยมและทั้งหมดจะเป็นไปอย่างราบรื่น!”
เมื่อปีศาจทั้งสองได้ยินเช่นนั้น พวกเขาตกใจไปสักครู่หนึ่ง ฉงชิงเหยากล่าวออกมาด้วยความแปลกใจ “อย่าบอกนะว่าเจ้าปลอมตัวเป็นอสูรกาย? เจ้ารวบรวมได้มากเพียงใด?”
“ข้าไม่ได้ปลอมตัวเป็นอสูรกายแต่มันก็ไม่เกี่ยวกับเรื่องที่ข้ามาพบเจ้าวันนี้” ซ่งจงกล่าวต่อด้วยรอยยิ้ม “ที่จริงแล้วข้าในตอนนี้นั้นดีขึ้นมากเมื่อเทียบกับตอนที่อยู่ในกลุ่มพันธมิตรทะเลตะวันออก อ้าว แล้วพวกเจ้ายังไม่ก้าวหน้าอีกงั้นหรือ?”
“ไอ้บัดซบ!” ฉงลั่วเหยาคำรามออกมาอย่างเสียมารยาท “บิดาของเจ้านั้นเป็นผู้ฝึกตนมนุษย์ แต่เจ้ากลับไปยืนอยู่ข้างอสูรกาย เจ้ามันบ้าและสูญเสียจิตวิญญาณไปแล้ว!”
จากนั้นฉงลั่วเหยากล่าวเยาะเย้ยเหลียวเซียวเย่าทันที “เหลียวเซียวเย่า ข้าก็คิดว่าเจ้าก็เป็นเช่นนั้นเหมือนกัน อีกทั้งเจ้ายังไปทำงานรับใช้ไอ้สารเลวนั่นด้วย ต่อจากนี้พวกเราขาดกัน ไม่มีอีกแล้วสามปีศาจแห่งทะเลตะวันออก ข้าไม่สามารถใช้ชื่อนี้ร่วมกับคนอย่างเจ้าได้!”