ติดตามการแจ้งเตือนตอนใหม่ที่แฟนเพจ Facebook Fanpage กดเลย
••••••••••••••••••••
นิยายอื่นที่ทางค่ายแปล
••••••••••••••••••••
บทที่****295:ขวานลึกลับ(1)
ไม่หยินไม่หยาง เหลียวเซียวเย่าหน้าแดงก่ำเพราะโดนฉงลั่วเหยาดุด่าอย่างไร้ความปราณี อีกทั้งเขายังกังวลเกี่ยวกับซ่งจงที่ยืนอยู่ด้านข้างจึงทำได้เพียงก้มหน้ากักเก็บความโกรธไว้เพียงเท่านั้น
ซ่งจงขมวดคิ้วเล็กน้อยพร้อมกล่าวออกมา “ฉงลั่วเหยาเจ้าไม่ต้องการดื่มน้ำชารสเลิศแต่ต้องการกินขนมปังปิ้งที่ไหม้เกรียมใช่ไหม?”
“ข้าจะสอนบทเรียนให้กับเจ้าเอง!” ฉงลั่วเหยากล่าวออกมาด้วยรอยยิ้มที่แสนเย็นชา จากนั้นมือทั้งสองข้างปรากฏสมบัติวิเศษเป็นพัดสีดำขึ้นทั้งสองข้าง
ซ่งจงมองเห็นสิ่งนั้นแล้วเผยรอยยิ้มจางๆออกมา เขาให้ความสนใจกับสิ่งนั้นอย่างมากพร้อมตอบกลับด้วยน้ำเสียงเรียบง่าย “คงไม่มีวิธีไหนจะดีไปมากกว่านี้แล้วสินะ!”
หลังจากกล่าวจบแล้ว ซ่งจงสะบัดข้อมือเบาๆ นาทีถัดมาปรากฏนักดาบสาวสวยทั้งห้าขึ้นมายืนล้อมรอบฉงลั่วเหยา
เมื่อเห็นนักดาบแห่งธาตุทั้งห้า ฉงลั่วเหยาตกใจทันที จากนั้นเขานึกถึงข่าวลือเมื่อก่อนขึ้นมาได้ เขารีบถามออกไปทันที “นักดาบเหล่านี้คือภาพวาดแห่งหญิงงามทั้งเก้าใช่หรือไม่?”
ซ่งจงนั้นคิดแผนนี้ได้เมื่อครั้งที่เหลียวเซียวเย่าเคยกล่าวไว้ว่าฉงลั่วเหยาจะไม่ยอมแพ้ เขาจะต้องออกแรงกับสามปีศาจแห่งทะเลตะวันออกอย่างไร้ความปราณีเพราะเขาต้องชนะเท่านั้น ดังนั้นนี่จึงเป็นเหตุผลที่เขาเปิดใช้งานภาพวาดแห่งหญิงงามทั้งเก้า แล้วการเปิดเผยว่าตนเองครอบครองภาพวาดแห่งหญิงงามทั้งเก้าก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร
“ฮ่าฮ่า เป็นเช่นนั้น!” ซ่งจงหัวเราะออกมาพร้อมกล่าวต่อ “พี่ชายทรงพลังมากไป ไม่สมควรที่จะแยแสพวกนาง ที่ข้าเรียกพวกนางออกมาก็เพื่อที่จะให้พวกนางได้รู้ถึงความโหดร้ายเสียบ้าง ไม่ได้หรือ?”
หลังจากที่ฉงลั่วเหยาได้ยินเช่นนั้น ดวงตาของเขากลายเป็นสีเขียว นี่ซ่งจงกำลังล้อเขาเล่นหรือเปล่า? ภาพวาดแห่งหญิงงามทั้งเก้านั้นเป็นสมบัติวิญญาณที่ยอดเยี่ยม แม้แต่ผู้ฝึกตนระดับหยวนหยินขั้นสมบูรณ์ยังไม่เอาชนะพวกนางได้ พวกนางนั้นมีประสบการณ์การต่อสู้มากกว่าหมื่นปี ถ้าหากจะต้องต่อสู้กับพวกนาง แน่นอนว่าจะต้องมีประสบการณ์มากกว่าหมื่นปี ในตอนนี้การต่อสู้ตัวต่อตัวยังเป็นไปได้ยาก แต่สถานการณ์ในตอนนี้คือห้าต่อหนึ่งซึ่งทำให้มองไม่เห็นชัยชนะเลยแม้แต่น้อย
หลังจากที่รับรู้สถานการณ์ของตนเอง ฉงลั่วเหยาตกอยู่ในสถานะโง่งมทันที ตอนนี้ซ่งจงได้ออกคำสั่งเพื่อให้พวกนางเริ่มโจมตี ปราณดาบมากมายกว่าหมื่นอันได้พุ่งไปที่ฉงลั่วเหยาทันที เป้าหมายของพวกมันคือศีรษะของเขา
ในเวลานั้นเอง ฉงลั่วเหยาที่กำลังมึนงงอยู่รีบฟื้นคืนสติเพื่อรักษาชีวิตของตนเองไว้ทันที เขาหยิบสมบัติวิเศษออกมาเพื่อป้องกันตนเอง แม้ว่าธงหยินหยางของเขาจะเป็นสมบัติที่ยอดเยี่ยมในการป้องกัน แต่ทว่ามันกลับไม่ดีพอในตอนนี้ ปราณดาบที่เหล่าแม่มดเทวะปลดปล่อยออกมานั้นราวกับว่ามีชีวิตที่คล้ายกับอสรพิษร้าย พวกมันรวดเร็วมาก การโจมตีของพวกนางสามารถบดขยี้การป้องกันของฉงลั่วเหยาอย่างรวดเร็ว นักดาบสี่คนพยายามดึงความสนใจของเขาไว้ทั้งหมด ส่วนอีกหนึ่งคนหาจังหวะเพื่อยึดครองร่างกายของเขา เมื่อสบโอกาสพวกนางดำเนินการตามแผนทันที!
ฉงลั่วเหยาถูกหยุดการเคลื่อนไหวทั้งหมด ในตอนนี้สภาพของเขาคล้ายกับไก่น้อยที่กำลังเหี่ยวเฉา แม่มดเทวะตนอื่นรีบหยุดการโจมตีอย่างรวดเร็วเมื่อแผนสำเร็จแล้ว ใบหน้าของฉงลั่วเหยาในตอนนี้เต็มไปด้วยความโศกเศร้าและหดหู่ใจอย่างมาก เขามองไปที่ซ่งจงด้วยความเหี่ยวเฉา ซ่งจงที่ยืนอยู่ด้านหน้าเผยรอยยิ้มลึกลับออกมาทันทีเมื่อเห็นว่าทุกอย่างราบรื่น ฉงลั่วเหยากล่าวออกมาเบาๆ “เรียบร้อยแล้วนายท่าน!”
“ทำได้ดีมาก!” ซ่งจงพอใจอย่างมาก เขาพยักหน้าให้กับฉงลั่วเหยา จากนั้นเขาหันหน้าไปหาฉิงชิงเหยาทันทีพร้อมกล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม “ว่าอย่างไรเล่าสหาย เจ้าต้องการที่จะโดนแบบเดียวกับฉงลั่วเหยาบ้างหรือไม่? ตอนนี้จะยอมทำตามคำขอของข้าได้หรือยัง? จงตัดสินใจซะ!”
จริงอย่างที่เหลียวเซียวเย่าเคยกล่าวไว้ว่าฉงลั่วเหยานั้นเป็นคนไม่ยอมแพ้ต่อสิ่งใดง่ายๆ เขายอมตายมากกว่าที่จะยอมแพ้ แต่ทว่าฉิงชิงเหยานั้นเต็มไปด้วยความโลภและกลัวตาย เมื่อเห็นชะตากรรมของฉงลั่วเหยาแล้ว เขาจะสามารถดึงความกล้าหาญส่วนไหนมาใช้ล่ะ? ใบหน้าของเขาเผยถึงความเจ็บปวดใจพร้อมกัดฟันกล่าวอย่างรวดเร็ว “ข้ายอมแล้ว ยอมแต่โดยดี! ให้ข้าทำอะไรก็ได้เพื่อที่ข้าจะไม่ตาย!” เมื่อกล่าวจบ ฉิงชิงเหยารีบยื่นมือไปรับไฟต้นกำเนิดเพื่อแสดงความภักดีทันที
ซ่งจงยิ้มรับอย่างสบายใจพร้อมกล่าวต่อ “เยี่ยมมาก ต่อจากนี้ไปทุกคนจะอยู่ฝ่ายเดียวกัน แต่ยังไงก็ช่วยเหลือข้าอย่างสุดความสามารถกันด้วยละ!”
“ไม่กล้า!” ทั้งสามตอบรับพร้อมกันอย่างสุภาพ
“ฮ่าฮ่า!” ซ่งจงค่อนข้างพอใจกับผลลัพธ์ในวันนี้อย่างมาก จากนั้นเขาดึงแผนที่ออกมากางพร้อมกล่าวต่อ “พวกเจ้าจงฟังข้า นี่คือเรื่องที่พวกเจ้าต้องทุ่มเทอย่างสุดความสามารถเพื่อผลประโยชน์ของตนเอง ซึ่งเราจะพลาดไม่ได้!”
“ตกลง!” ทั้งสามรีบกล่าวออกมาพร้อมกัน
“อืม!” ซ่งจงพยักหน้า จากนั้นเริ่มเล่าแผนการอย่างละเอียด สามปีศาจแห่งทะเลตะวันออกตั้งใจฟังอย่างใจจดใจจ่อ ทั้งหมดใช้เวลากว่าสองชั่วโมงครึ่งจนจบ จากนั้นซ่งจงจึงเริ่มถาม
“พวกเจ้าเข้าใจหรือไม่?” ซ่งจงยืดอกอย่างภูมิใจในแผนการ และการที่เขาถามเช่นนี้นั้นเป้าหมายก็คือฉิงชิงเหยาเพราะว่าอีกสองคนนั้นรู้แผนการดีอยู่แล้ว
“พวกข้าเข้าใจ!” ทั้งสามตอบกลับพร้อมกัน
“ยอดเยี่ยม!” ซ่งจงพยักหน้ารับพร้อมกล่าวต่อ “แผนนี้จะต้องเป็นความลับที่สุด ถ้าหากข่าวนี้เล็ดลอดออกไปถึงหูของกลุ่มพันธมิตรทะเลตะวันออก ข้าจะลงโทษพวกเจ้าอย่างไร้เมตตา เข้าใจหรือไม่!?”
“ตกลง!” ทั้งสามตอบรับ
“เยี่ยม!” จากนั้นซ่งจงเงยหน้าขึ้นฟ้าพร้อมกล่าวด้วยอารมณ์ที่หยั่งลึก “แผนการทั้งหมดจะเริ่มในเดือนถัดไปวันที่สิบห้า คืนพระจันทร์เต็มดวงของทะเลตะวันออก พวกเราจะกวาดล้างกลุ่มพันธมิตรทะเลตะวันออก! นี่คือเป้าหมายของข้า!”
“รับทราบ!” ทั้งสามรีบพยักหน้ารับทันที
“อืม เท่านี้ข้าก็สบายใจ!” ซ่งจงกล่าวอย่างเขร่งขรึม “พวกเจ้าคงมีอะไรที่จะต้องพูดคุยกันเป็นการส่วนตัว ถ้าเช่นนั้นข้าขอตัวก่อน!”
หลังจากกล่าวจบ ซ่งจงไม่รอคำตอบใด เขาคว้าดาบจักรพรรดิของตนออกมาพร้อมกับบินหายไปอย่างรวดเร็ว
เมื่อเห็นว่าซ่งจงได้จากไปแล้ว ฉิงชิงเหยาและเหลียวเซียวเย่ารู้สึกผ่อนคลายลงอย่างมาก มีเพียงฉงลั่วเหยาเท่านั้นที่ยังถูกครอบงำไว้ เพราะซ่งจงนั้นไม่เชื่อใจเขาโดยเด็ดขาด แต่ทว่าทั้งฉิงชิงเหยาและเหลียวเซียวเย่ารู้สึกว่าอยากพูดคุยกันเป็นการส่วนตัวและไม่ต้องการให้แม่มดเทวะรับรู้เพราะนางเชื่อมจิตวิญญาณกับซ่งจง ดังนั้นทั้งสามจึงทำได้เพียงกล่าวลาและแยกย้ายกันไป
ภายในทะเลตะวันออก คืนวันพระจันทร์เต็มดวง มีกองทัพอสูรกายขนาดใหญ่กำลังเคลื่อนตัวอย่างเงียบๆ พวกมันมีจำนวนมาก ภายใต้ผิวน้ำที่เงียบสงบเต็มไปด้วยอสูรกายเต็มพื้นที่
ทั้งหมดเป็นอสูรกายใต้น้ำ ซึ่งมากันแทบทุกเผ่าพันธุ์ที่มีอยู่ ทั้งเผ่าพันธุ์ของฉลามและปลาหมึกยักษ์จนไปถึงกุ้งหน้าไม้ตัวเล็ก ทั้งหมดกำลังเคลื่อนทัพไปข้างหน้าอย่างเงียบเชียบ ทั้งหมดเต็มไปด้วยความฮึกเหิมและจิตสังหารเพื่อที่จะล้างแค้นกับสหายเก่าบนฝั่ง!
อีกทั้งยังมีเหล่าอสูรกายที่อยู่บนบกอีกมาก เหล่าอสรพิษ แมงมุมยักษ์ทั้งหลายนั้นอาศัยอยู่บนเกาะเล็กๆ แม้ว่าปริมาณของมันจะน้อยกว่าอสูรกายน้ำ แต่จำนวนของมันก็มากกว่าหนึ่งล้านตน
อีกทั้งเหล่าอสูรกายที่เดินทางอยู่บนฟ้า เหล่าวิหคเหล่านั้นครอบครองผืนฟ้าทั้งหมดจนดำมืด ซึ่งมองดูแล้วทรงพลังอย่างยิ่ง
ตรงใจกลางของท้องฟ้านั้นมีเรือยักษ์บินมาพร้อมกันสองลำ เรือหนึ่งลำสีเขียวซึ่งดูน่าเกรงขาม ส่วนอีกลำสีดำสนิททรงพลังอย่างยิ่ง บนเรือเหล่านั้นเต็มไปด้วยเหล่าอสูรกายหนาแน่น แม้ว่าปริมาณของพวกมันจะมาก แต่ทว่าพวกมันทั้งหมดกลับเชื่อฟังคำสั่งและอยู่ในความสงบ
สำหรับผู้นำของเรือแต่ละลำนั้นก็ไม่ใช่ใคร ผู้นำของเรือลำสีเขียวนั้นเป็นบุรุษผอมบางนั่นก็คือแขนเหล็กหยวนฉิง ส่วนเรือยักษ์ลำสีดำนั้นคือวาฬขาวหวังไป่ฮัว
ในตอนนี้แขนเหล็กหยวนฉิงกำลังดื่มเหล้าอย่างสบายใจ จากนั้นเขาก็ตะโกนออกมา “เฮ้ ไป่ฮัว เจ้านี่ช่างตัวใหญ่จริงๆนะ แล้วตัวของเจ้าสีขาวแต่นั่งอยู่ในเรือสีดำ มันจะไม่ดูขัดแย้งกับชื่อเจ้าไปหน่อยเหรอ? ทำไมเราไม่แลกกันล่ะ?”
ในขณะที่ไป่ฮัวได้ยินเช่นนั้น เขาส่งยิ้มยั่วยุออกมาพร้อมกล่าวเยาะเย้ยทันที “เจ้าลิงเจ้าเล่ห์ช่างรู้วิธีที่จะเกลี้ยกล่อมข้าจริงๆนะ นี่เจ้าคิดว่าข้าจะยอมเอาเรือลำใหญ่ไปแลกกับเรือลำเล็กของเจ้างั้นหรือ? ฮ่าฮ่า ไม่มีทาง!”
แขนเหล็กหยวนฉิงที่ได้ยินเช่นนั้นกล่าวออกมาอย่างกังวล “ไป่ฮัว อย่าคิดอย่างนั้น ช่วยไม่ได้นะเอาเป็นแลกเปลี่ยนด้วยหินจิตวิญญาณดีไหม เช่นนี้เป็นอย่างไรล่ะ?”
“ข้ามีสิ่งนั้นเหลือเฟือ!” วาฬขาวไป่ฮัวกล่าวออกมาอย่างสบายอารมณ์
“ถ้าเช่นนั้นเป็นสมบัติวิเศษสักสองสามอันเป็นอย่างไรล่ะ?” แขนเหล็กหยวนฉิงยังไม่ยอมแพ้ “ข้ารับรองว่าจะต้องเป็นเกรดสูงแน่นอน เช่นนี้เป็นอย่างไรล่ะ?”
“ข้าไม่สามารถใช้งานสมบัติวิเศษได้ เจ้าเลิกพยายามเถิด!” วาฬขาวไป่ฮัวเบะปากพร้อมกล่าวต่อ “นี่เจ้าลิงเอ๋ย เลิกทำตัวเสียแผนเสียที เรามีงานอื่นที่สำคัญกว่าต้องทำ!”
แขนเหล็กหยวนฉิงที่ได้ยินเช่นนั้นรู้ทันทีว่าการแลกเปลี่ยนในครั้งนี้สิ้นหวังเสียแล้ว เขากล่าวออกมาอย่างสิ้นหวัง “โอ้ อาวุโส ท่านช่างเรียบง่ายและซื่อสัตย์ เหตุใดท่านจึงซื่อตรงขนาดนั้น?”
“เฮ้ เหตุผลของข้าน่ะหรือ? สิ่งที่ข้าเป็นนั้นเล็กน้อยมากเมื่อเทียบกับฝ่าบาท เขาทั้งใจกว้างและตงฉินยิ่งนัก!” วาฬขาวไป่ฮัวกล่าวออกมาอย่างชื่นชม “ในวันนี้เราได้มีโอกาสที่จะโจมตีกลุ่มพันธมิตรทะเลตะวันออกที่โจมตีเราฝ่ายเดียวมาตลอดหลายพันปี ข้ายอมรับในความคิดและคำพูดของเขา นับว่าเขาฉลาดมากจริงๆ!” เมื่อได้ยินคำพูดของไป่ฮัว หยวนฉิงถึงกับขมวดคิ้วพร้อมกล่าวต่อ “ไป่ฮัว เจ้ามีความสุขเร็วเกินไปรึเปล่า กลุ่มของเรานั้นมีถึงสามขบวน ซึ่งแน่นอนว่าอาจจะมีเหตุไม่คาดฝันเกิดขึ้นก็ได้ เจ้าไม่กลัวงั้นหรือ?”
“เจ้าลิงน้อย ตอนนี้แผนการต่อสู้เรานั้นเป็นต่ออย่างมาก สามปีศาจแห่งทะเลตะวันออกก็อยู่ฝ่ายเราแล้ว พวกเขาจะยอมให้เราเดินทางผ่านไปโดยไร้รอยขีดข่วน ในทะเลตะวันออกแห่งนี้ปีศาจทั้งสามนับได้ว่าเป็นสิ่งที่น่าเกรงขามที่สุด แต่ในตอนนี้ฝ่าบาทได้จัดการกับพวกเขาเรียบร้อย ข้าคิดว่าทุกอย่างจะราบรื่นอย่างแน่นอน พวกเราจะปลอดภัย!” จากนั้นไป่ฮัวกล่าวต่อด้วยรอยยิ้ม “นี่คือความฉลาดและแข็งแกร่งของฝ่าบาทโดยแท้จริง!”
“แต่มนุษย์นั้นเป็นสิ่งที่ไม่แน่นอน พวกเขาสามารถเปลี่ยนแปลงได้ทุกเวลา!” หยวนฉิงยังคงกล่าวต่อด้วยความเคลือบแคลงใจ
“ในเมื่อความเห็นเราไม่ตรงกัน เช่นนั้นเจ้าพนันกับข้าดีไหม?” ไป่ฮัวกล่าวด้วยรอยยิ้มลึกลับ “ข้าขอเดิมพันว่าการซุ่มโจมตีของเราจะสำเร็จ!”
“เจ้าขี้โกง!” หยวนฉิงกล่าวออกมาอย่างรวดเร็ว “เจ้าก็รู้ว่าเรามีเวลาครึ่งวันเพื่อวิ่งเข้าไป และในตอนนั้นพวกเขาก็คงจะช้าไปเสียแล้วกับการตั้งรับ เขาคิดจะเดิมพันกับข้าเช่นนี้งั้นหรือ?”
“เฮ้ แล้วมันผิดตรงไหนกันล่ะ? หรือว่าเจ้าไม่กล้า?” วาฬขาวไป่ฮัวกล่าวออกมาด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์