เมื่อเห็นว่านักขับอีกสี่คนที่เหลือต้องการจะหลบหนีไป เย่เทียนก็แสยะยิ้มอย่างเย็นชา และในขณะที่เขากำลังพุ่งไปข้างหน้า แสงสีขาวสองสามเส้นถูกโยนออกจากมือของเขา ซึ่งเป็นเหรียญที่กลายเป็นลำแสงแล้วบินออกไปด้วยเจตนาฆ่าที่รุนแรง
พัฟ พัฟ!!
เหรียญพุ่งเข้าใส่ร่างของนักขับกลุ่มนั้น ทำให้พวกเขาอดส่งเสียงร้องด้วยความเจ็บปวดไม่ได้ และจากนั้นถึงกับตกจากรถมอเตอร์ไซค์วิบากของพวกเขา
หัวหน้าของนักขับก็ถึงกับสะดุ้งตกใจ แต่เขาไม่ได้สนใจเลือดที่ไหลออกมาจากน่องขาของเขา ได้แต่พยายามยกมอเตอร์ไซค์ขึ้นเพื่อจะหนีไปจากที่นี่
แต่แค่มือของเขาแตะที่รถมอเตอร์ไซค์ เท้าอันกว้างใหญ่ก็เหยียบลงมาที่รถของเขา แล้วจะเป็นใครได้อีกนอกจากเย่เทียน?
“นี่คุณจะดูถูกผมเกินไปไหม?”
เย่เทียนแสยะยิ้มออกมาและยกเท้าขึ้นแล้วเตะออกไปแรงๆ
หัวหน้านักขับคนนี้ไม่สนใจรถของเขาอีก ได้แต่รีบกลิ้งถอยออกไปเพื่อหลบการโจมตีนี้ จากนั้นเขารีบลุกขึ้นมาและมองไปที่เย่เทียนด้วยความระมัดระวังพร้อมกับหยิบมีดสั้นออกมา!
นี่เป็นสิ่งที่จำเป็นจริงๆ เพราะเขาใช่ว่าจะไม่อยากหนีไป แต่รถของเขาถูกเย่เทียนเหยียบไว้ แถมยังได้รับบาดเจ็บที่น่องอีกด้วย ฉะนั้นเขาไม่มีทางเลือกอื่นอีกนอกจากสู้จนตัวตาย!
“อย่าหาว่าผมไม่ให้โอกาสนะ คุณไม่ใช่คู่ต่อสู้ของผม รีบยอมแพ้ซะโดยดี!”
เย่เทียนถึงกับตกใจ รอยยิ้มอันเย้ยหยันปรากฏขึ้นที่มุมปากของเขา และเขาก็ยิ้มพูดว่า “ผมรับปากคุณ ขอแค่คุณบอกมาว่าใครส่งคุณมา ผมจะปล่อยคุณไป”
สีหน้าของหัวหน้านักขับที่ซ่อนอยู่ในใต้หมวกกันน็อกนั้นเคร่งขรึมมาก และเขายังตอบอย่างแน่วแน่ว่า “ยอมแพ้? นี่แกจะได้ใจมากไปแล้ว?”
“คุณพูดถูก ผมอาจจะได้ใจไปหน่อย แต่ว่า……”
เย่เทียนยกมือลูบคางของเขาแล้วยิ้มพูดว่า “ก็ผมมีสิทธิ์ที่จะได้ใจไง!”
“ไปตายซะ!”
หัวหน้านักขับอึดอัดไม่พอใจ ซึ่งเขาไม่อยากเสียเวลากับเย่เทียนอีก ได้แต่ยกเท้าขึ้นแล้ววิ่งตรงเข้าไปหาเย่เทียน
เย่เทียนได้แต่ส่ายหัวแล้วถอนหายใจ และเขาไม่ได้สนใจหัวหน้านักขับคนนี้เลยด้วยซ้ำ แทนที่จะถอยหลัง แต่เขากลับยื่นมือออกไปอย่างรวดเร็ว และเป้าหมายก็คือการจับคอของหัวหน้านักขับคนนี้!
แต่ในขณะที่เย่เทียนมีการเคลื่อนไหว หัวหน้านักขับก็หยุดลงกะทันหัน จากนั้นเหยียดมือซ้ายไปด้านหลังแล้วหยิบปืนพกออกมา โดยที่ไม่รอช้า เขาเล็งปืนไปที่เย่เทียนแล้วเหนี่ยวไกทันที
แต่เย่เทียนมองเห็นภาพนี้ได้อย่างชัดเจน และเขาก็หลบไปด้านข้างด้วยไหวพริบของเขา
ปัง ปัง!!
เสียงปืนดังลั่น กระสุนกระทบดินข้างเท้าของเย่เทียนและฝุ่นกับทรายก็กระเซ็นออกไป
“ให้ตายสิ! เล่นไม้นี้เลยเหรอ หน้าไม่อายจริงๆ!”
เย่เทียนตวาดส่งเสียงดังออกไป แม้ปืนพกจะทำอะไรการป้องกันของเขาไม่ได้ แต่การลอบจู่โจมที่น่ารังเกียจของหัวหน้านักขับคนนี้ทำให้เขาหัวเสียอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
“กระบวนการไม่สำคัญ สิ่งสำคัญก็คือผลลัพธ์ไม่ใช่เหรอ?”
หัวหน้านักขับหัวเราะออกมาอย่างเย็นชา ซึ่งเขาไม่ได้รู้สึกผิดสำหรับพฤติกรรมที่ไร้ยางอายของเขาก่อนหน้านี้เลย แต่กลับยิ้มพูดอย่างได้ใจว่า “แกเก่งนักไม่ใช่เหรอ? เก่งจริงก็เข้ามาเลยสิ! อยากรู้เหมือนกันว่าแกจะเร็วกว่าหรือกระสุนของข้าจะเร็วกว่า!”
เย่เทียนก็หัวเราะลั่นและส่ายหัวตอบ “แล้วคุณคิดว่าไอ้ปืนกระจอกของคุณจะทำอะไรผมได้งั้นเหรอ?”
“ไม่อย่างงั้นล่ะ?”
หัวหน้านักขับทำหน้าบูดบึ้งและพูดอย่างดูถูก “เมื่อกี้ข้าแค่ตั้งใจยิงขู่เท่านั้น ถ้าแกกล้าขยับอีก ข้าขอรับประกันเลยว่าแกจะตายโหงแน่!”
“งั้นก็ยิงเลยสิ!”
ทันทีที่พูดจบ เย่เทียนก็เคลื่อนไหวอย่างกะทันหัน และในชั่วพริบตา เขาได้พุ่งเข้าไปอยู่ตรงหน้าหัวหน้านักขับด้วยรอยยิ้มที่เย็นชา
พรุ่บ!
มือขวากำหมัดแน่นๆ และหมัดขนาดเท่าหม้อก็ชกออกไปที่หัวหน้านักขับคนนั้น
ทำให้หัวหน้านักขับตกใจและเตรียมจะเหนี่ยวไกอีกครั้ง แต่มันก็สายเกินไป
ผัวะ!
เสียงทุ้มดังขึ้น และหมัดของเย่เทียนก็กระแทกเข้ากับกระดูกจมูกของหัวหน้านักขับ ทำให้เขาล้มตัวลงไปอย่างห้ามตัวเองไม่ได้
และในวินาทีถัดมา เย่เทียนคว้าปืนของหัวหน้านักขับมาอย่างรวดเร็วและชี้ปากกระบอกปืนที่เย็นเฉียบไปที่ศีรษะของเขา!
“ตอนนี้คุณยังคิดว่าจะชนะอยู่ไหม?”
หัวหน้านักขับไม่เคยคิดฝันว่าเย่เทียนจะแข็งแกร่งขนาดนี้ เพราะเมื่อครู่นี้เขาไม่สามารถมองเห็นการเคลื่อนไหวของเย่เทียนเลยด้วยซ้ำ ตอนนี้เขาสัมผัสถึงปากกระบอกปืนที่ชี้ตรงมายังศีรษะของเขา ซึ่งก็ทำให้เขาตกตะลึงจนไม่รู้ควรทำยังไงต่อ
“บางที อาวุธปืนไม่ได้จะชนะทุกอย่างนะ!”
เย่เทียนแสยะยิ้ม และทันใดนั้น ปืนในมือของเขาก็แหลกเป็นชิ้นๆ แล้วชิ้นส่วนก็ค่อยๆ หล่นลงกับพื้น
ดิ๊ง ดิ๊ง!!
เย่เทียนจงใจเก็บกระสุนไว้ในมือแล้วค่อยๆ ทิ้งลงไป และสีหน้าของเขาก็เต็มไปด้วยรอยยิ้มที่เย็นชา
ซึ่งก็ทำให้หัวหน้านักขับแปลกประหลาดใจมาก เขาไม่รู้จริงๆ ว่าเย่เทียนหมายความว่ายังไง
“ผมจะให้โอกาสคุณอีกสักครั้ง ลุกขึ้นมาสู้กับผม ไม่ว่าคุณจะแพ้หรือชนะ ผมก็จะปล่อยคุณไป”
เย่เทียน ยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์แล้วพูดต่อ “แต่แน่นอน ถ้าคุณแพ้ คุณต้องบอกชื่อคนที่ส่งคนมาที่นี่ให้ผม!”
โดยไม่รอให้หัวหน้านักขับตอบสนอง เย่เทียนก็เคลื่อนไหวและโฉบเข้าหาหัวหน้านักขับ จากนั้นยกกำปั้นขึ้นขนาดเท่าหม้อของเขาแล้วชกไปที่หัวหน้านักขับด้วยความแรง
หัวหน้านักขับก็รู้สึกถึงความเจ็บปวดที่มาจากส่วนท้องของเขาและอดไม่ได้ที่จะถอยออกไปหลายก้าว
ในเวลานี้ นักขับที่ล้มลงกับพื้นด้วยเหรียญของเย่เทียนในที่สุดก็ลุกขึ้นมา จากนั้นรีบเข้าไปขับมอเตอร์ไซค์แล้วพุ่งเข้าไปหาเย่เทียน
แต่น่าเสียดายที่การโจมตีของพวกเขาไม่ได้ส่งผลกระทบต่อเย่เทียนเลย
เย่เทียนหลบมอเตอร์ไซค์คันหนึ่งได้อย่างง่ายดาย และทันทีที่เขากระทืบเท้า เขาก็ลอยขึ้นกลางอากาศแล้วเตะไปที่นักขับคนนั้น
คนขับมอเตอร์ไซค์ตะโกนออกมาแล้วบินหนีจากรถของเขาอีกครั้งและฟาดลงกับพื้นอย่างแรง ซึ่งทำให้เขาได้แต่ร้องคร่ำครวญด้วยความเจ็บปวดและไม่สามารถลุกขึ้นได้ในชั่วขณะ
ทันทีหลังจากนั้น เย่เทียนก็ทำท่าเดิมซ้ำอีกครั้ง ในเวลาเพียงสองนาที รถมอเตอร์ไซค์ทั้งสามคันก็ถูกเย่เทียนจัดการได้อย่างง่ายดาย
เมื่อเห็นสีหน้าเฉยเมยของเย่เทียน หัวหน้านักขับจะไม่รู้ได้อย่างไรว่าเขาไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเย่เทียน จากนั้นสีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไป เขาหมดความคิดที่จะต่อสู้อีกและเตรียมจะวิ่งหนีไป
แต่ด้วยอาการบาดเจ็บที่ได้รับจากเหรียญของเย่เทียนที่ขานั้น เขาจะหนีด้วยเท้าที่กะโผลกกะเผลกได้อย่างไร?
“คิดจะไปไหน?”
แต่ในชั่วพริบตา เย่เทียนก็เดินตามหัวหน้านักขับแล้วขวางทางเขาด้วยรอยยิ้มที่เย็นชา
หัวหน้านักขับตกใจและไม่รู้จะทำอย่างไร ได้แต่รีบหยิบมีดออกมาแล้วแทงไปที่เย่เทียน
ผัวะ!
แต่ก่อนที่แขนของเขาจะเหยียดออกจนสุด เท้าขนาดใหญ่ของเย่เทียนก็เตะเข้าไปที่ร่างของเขาจนทำให้เขากระเด็นลอยออกไปกลางอากาศ!
หัวหน้านักขับพยายามดิ้นรนที่จะลุกขึ้น แต่ร่างกายของเขาเจ็บปวดจนไม่มีแรงที่จะลุกขึ้นได้อีก
เย่เทียนเดินเข้าไปหาเขาด้วยสีหน้าเฉยเมย จากนั้นนั่งยองๆ ต่อหน้าเขาแล้วพูดด้วยรอยยิ้มว่า “เห็นได้ชัดแล้วว่าคุณแพ้ผม ตอนนี้คุณบอกชื่อคนที่ส่งพวกคุณมาได้แล้วยัง?”
“เหอะ!”
แต่ตรงกันข้ามกับความคาดหวังของเย่เทียน คอของหัวหน้านักขับพลุ่งพล่านอย่างกะทันหัน และสีหน้าของเขากลายเป็นความเจ็บปวดทันที เพราะเขาเลือกที่จะฆ่าตัวตายด้วยการกินยาพิษโดยที่ไม่ลังเล!