เทพสงครามพิทักษ์โลก บทที่ 820
สวีโหย่วหรงก็ร้องเสียงแหลมขึ้นมาแล้วทันที

“นายอย่าพูดจามั่วสั่ว!”

“ฉันให้นายไปทำให้เฟิงเมิ่งกรุ๊ปแปดเปื้อนเมื่อไหร่แล้ว?”

“ฉันจะบอกนายให้ ถ้าหากนายกล้าพูดจามั่วสั่ว อย่าโทษว่าฉันไม่เกรงใจกับนาย!”

พูดถึงสุดท้าย

สวีโหย่วหรงมองหวางเปียวอยู่ด้วยใบหน้าที่ข่มขู่

ถ้าหากเป็นเมื่อก่อนหวางเปียวจะกลัวการข่มขู่ของสวีโหย่วหรงอย่างแน่นอน

ยังไงสวีโหย่วหรงเป็นเลขาของชิงเฉิงกรุ๊ป ขยับนิ้วมือเล็กน้อยก็สามารถบีบให้ตัวเองตายได้

แต่ตอนนี้

มีหยางเฟิงอยู่ที่นี่

เขายังกลัวสวีโหย่วหรงเหรอ?

ล้อเล่นอะไร?

หวางเปียวฮึอย่างเย็นชาเสียงหนึ่ง“เลขาสวี คุณพูดอย่างนี้ก็ไม่ถูกแล้ว คุณนี่คือต้องการที่จะหลอกใช้เสร็จแล้วก็ถีบหัวส่งเหรอ?”

“เหอะ ๆ นายมีหลักฐานอะไรที่พิสูจน์ว่าฉันให้นายไปใส่ร้ายเฟิงเมิ่งกรุ๊ป?”

สวีโหย่วหรงมองหวางเปียวอยู่ถามด้วยใบหน้าที่ดูถูก

ก่อนหน้านานแล้วที่สวีโหย่วหรงหาหวางเปียวให้ใส่ร้ายเฟิงเมิ่งกรุ๊ป

สวีโหย่วหรงได้เตรียมพร้อมเรียบร้อยแล้ว

หล่อนต่างก็ควบคุมอยู่เบื้องหลังทั้งหมด

เกิดเรื่องใด ๆ ขึ้นต่างก็ไม่เกี่ยวข้องกับหล่อน

หยางเฟิงต้องการคิดบัญชี เขาก็ทำได้เพียงไปหาหวางเปียว

ไม่พูดก็ไม่ได้ว่า

แผนที่มีประโยชน์ต่อตัวเองสวีโหย่วหรงวางไว้ได้ดีมากจริง ๆ

แต่บนโลกนี้ก็ไม่ได้มีเพียงสวีโหย่วหรงที่ฉลาดคนเดียว

หวางเปียวเคยได้รับการฝึกฝนในสังคมมานานหลายปีอย่างนั้น

ประสบการณ์สังคมเล็กน้อยนี้เขายังคงมี!

หวางเปียวยิ้มอย่างเย็นชาแล้วเสียงหนึ่ง“เลขาสวี ผมก็ทายได้นานแล้วคุณตายก็ไม่ยอมรับความผิด”

“ดังนั้นคบค้ากับคนที่มีเงินและอำนาจอย่างพวกคุณชนิดนี้ ผมต่างก็ทิ้งทางหนีทีไล่ให้กับตัวเองตลอดเวลา”

พูดอยู่

หวางเปียวก็ควักปากกาบันทึกเสียงด้ามหนึ่งออกมาจากหน้าอก

“นี่คือปากกาบันทึกเสียง การค้าขายแลกเปลี่ยนของพวกเราครั้งที่แล้วผมต่างก็บันทึกลงมาแล้วทั้งหมด!”

ทันใดนั้นสีหน้าของสวีโหย่วหรงเปลี่ยน

หล่อนคิดไม่ถึงหวางเปียวคนนี้จะน่าเกลียดอย่างนี้

ทำการค้าขายแลกเปลี่ยนกับตัวเอง คิดไม่ถึงว่าจะยังพกปากกาบันทึกเสียงบันทึกแล้ว

“เอาปากกาบันทึกเสียงมาให้ฉัน!”

สวีโหย่วหรงมีอารมณ์โมโห รีบยื่นมือต้องการแย่งปากกาบันทึกเสียงมา

หยางเฟิงหยิบเอาปากกาบันทึกเสียงไป มองสวีโหย่วหรงเหมือนยิ้มก็ไม่ยิ้มพูดว่า“ทำไม คุณอยากที่จะทำลายร่องรอยเหรอ?”

ตั้งแต่ต้นจนจบหยางเฟิงต่างก็ไม่ค่อยพูด

เขามองดูหวางเปียวกับสวีโหย่วหรงสองคน หมากัดหมาอยู่ตลอด

เพราะเขารู้

ถ้าหากหวางเปียวอยากที่จะมีชีวิต เขาจะต้องกัดสวีโหย่วหรงไว้อย่างแน่นหนา

เรื่องจริงพิสูจน์ หวางเปียวก็ไม่ได้ทำให้เขาผิดหวัง!

สวีโหย่วหรงสูดลมหายใจลึกเฮือกหนึ่งแล้ว ถามว่า“หยางเฟิง ฉันยอมรับเรื่องนี้ฉันเป็นคนทำ สรุปแล้วคุณอยากที่จะทำอะไรฉัน?”

มองเห็นตัวเองไม่ว่าชี้แจงข้อเท็จจริงยังไงก็พูดไม่ชัดเจน

สวีโหย่วหรงเลยยอมรับตรง ๆ แล้ว

หล่อนก็ไม่คิดว่าหยางเฟิงกล้าทำอะไรหล่อน?

ต้องรู้ว่าหล่อนเป็นเลขาของชิงเฉิงกรุ๊ป

อีกทั้งยังเป็นคนสนิทของหนิงชิงเฉิง

ก็อาศัยความสัมพันธ์ชั้นนี้

หยางเฟิงก็ไม่กล้าทำยังไงกับหล่อน“เหอะ ๆ !”

หยางเฟิงยิ้มเบา ๆ เสียงหนึ่ง

เขายืนขึ้นมาแล้ว

“คุณคิดจริง ๆ ว่าผมไม่กล้าทำอะไรคุณเหรอ?”

พูดจบ

กลิ่นไอการฆ่าที่น่ากลัวก็กระจายออกมาจากในตัวของหยางเฟิง

ภายใต้กลิ่นไอการฆ่าที่น่ากลัวนี้ อุณหภูมิรอบ ๆ ก็ลดลงอย่างรวดเร็ว

สวีโหย่วหรงอดไม่ได้ที่จะสั่นเทา

หล่อนมองหยางเฟิงอยู่ด้วยใบหน้าที่หวาดกลัว พูดเตือน“หยางเฟิง คุณอย่ามามั่ว ๆ! ฉันเป็นคนของตระกูลหนิง คุณกล้าฆ่าฉันตระกูลหนิงจะไม่ปล่อยคุณไป!”

พลังของหยางเฟิง สวีโหย่วหรงเคยพบเห็นแล้ว

หล่อนรู้ ตัวเองอยู่ต่อหน้าหยางเฟิงเดิมทีก็ไม่มีพลังที่จะต่อต้านได้

หล่อนทำได้เพียงฝากความหวังอาศัยพลังของตระกูลหนิง สามารถทำให้หยางเฟิงตกใจกลัวได้!

“ตระกูลหนิง? คุณคิดว่าผมจะกลัวตระกูลหนิงจริง ๆ เหรอ?”

หยางเฟิงยิ้มเสียงหนึ่งอย่างดูถูกแล้ว