TL note: ท้ายตอนที่แล้วแปลผิด ประตูไม่ได้ล้ม แต่เปิด เปิดออก ต้องขออภัยผู้อ่านด้วย (แก้ไขในตอนก่อนหน้าแล้วจะมาลบโน้ตนี้ในภายหลัง)
“มันไม่ได้ล็อก?” เฉินเกอผลักเปิดประตูเหล็กให้กว้างขึ้น ตรงหน้าเขาคือตึกสองชั้นที่มีสถาปัตยกรรมอันประหลาด มันยากที่จะจินตนาการว่ามีสถานที่เช่นนี้อยู่กลางป่า “กล่องจดหมายอันใหม่ถูกติดไว้ที่บนประตู และด้านหลังประตูเป็นถังสีแดงเต็มไปด้วยน้ำดื่ม และยังมีผ้าที่ซักตากเอาไว้ อย่างนั้นก็ต้องมีคนอาศัยอยู่ที่นี่”
เพราะกลัวว่าจะทำให้ ‘ชาวบ้าน’ ที่นี่ตกใจกลัว เขาจึงรออยู่สิบวินาที และเมื่อเฉินเกอกำลังจะยอมแพ้ ประตูตึกใกล้ ๆ กันก็ถูกผลักเปิด ไม่มีใครพูดอะไร และหลังจากสื่อสารกันด้วยความเงียบ เสียงแหบแห้งก็ดังมาจากด้านหลังประตู “คุณมาหาใคร?”
จากน้ำเสียงเพียงอย่างเดียวนั้นเป็นไปไม่ได้เลยที่จะบอกอายุคนพูด เฉินเกอมองตึกนั้นจากไกล ๆ และไม่คิดจะเข้าไปใกล้ตึกนั้นอย่างวู่วาม เมื่อชาวบ้านธรรมดาเห็นคนแปลกหน้าอยู่ในอาณาเขตบ้านของตนในตอนกลางดึก ปฏิกริยาแรกของพวกเขาน่าจะเป็นการเปิดไฟและไม่เปิดประตู แต่ว่า เจ้าของเสียงกลับมีการกระทำที่ไม่ปกติ หลังจากลังเลอยู่สิบวินาที เขาก็ผลักประตูเปิดกว้างขึ้นอีกเล็กน้อย
“ผมขอโทษด้วยนะครับ แต่ว่าที่นี่คือฮอลิเดย์วิลล่าเขาหยงหลิงหรือเปล่า?” เฉินเกอสุภาพมาก ไม่ว่าจะเป็นเวลาไหน ไม่ว่าเขาจะเจอเข้ากับอะไร เขาเชื่อว่าความสุภาพสามารถเปิดประตูหลายบานได้
“มีอะไรให้ผมช่วย?” คนผู้นั้นไม่ได้ตอบคำถามเฉินเกอตรง ๆ แต่จากน้ำเสียงของเขา เขายืนยันคำตอบแล้ว
“เรื่องเป็นแบบนี้ครับ เพื่อนของผมบอกว่าเขาพักอยู่ที่ฮอลิเดย์วิลล่าเขาหยงหลิงและบอกให้ผมมาหาเขาคืนนี้ แต่ว่า GPS ของผมหาตำแหน่งจากชื่อนั้นไม่ได้ ดังนั้นผมจึงมาถามทาง” เฉินเกอไม่ได้โกหก เขามาหาเพื่อนจริง ๆ แต่เมื่อคนที่อยู่หลังประตูได้ยินคำตอบของเฉินเกอ ก็มีเสียงกลืนน้ำลายดังมาให้ได้ยิน “เพื่อนของคุณกำลังพักอยู่ที่ฮอลิเดย์วิลล่าเขาหยงหลิง?”
เสียงของชายคนนั้นแปลกไป เหมือนลำคอของเขาแห้งผาก และเขาก็พึมพำออกมาได้ไม่ชัดเจนนัก
“ใช่ครับ คุณรู้ไหมว่าฮอลิเดย์วิลล่าเขาหยงหลิงอยู่ที่ไหน?” เฉินเกอก้าวเท้าไปข้างหน้าสองสามก้าว ให้ความสนใจในชายที่หลังประตู
“รู้สิ เพราะว่าคุณอยู่ที่ฮอลิเดย์วิลล่าเขาหยงหลิงแล้ว” ตอนที่ผู้ชายคนนั้นได้ยินเสียงฝีเท้าเฉินเกอใกล้เข้าไป เขาก็ปิดประตูลงอีกครั้ง “ฮอลิเดย์วิลล่าเขาหยงหลิงนั้นสร้างขึ้นบนหมู่บ้านที่อยู่บนเขาหยงหลิง ตอนนั้น เกิดเรื่องบางอย่างขึ้นที่นี่ และชาวบ้านส่วนใหญ่ก็ย้ายออกไป หลังจากนั้น เพราะเหตุผลบางอย่าง ฝ่ายการจัดการก็ถูกบีบให้ต้องทิ้งฮอลิเดย์วิลล่าไปด้วยเหมือนกัน และผมก็เป็นคนเดียวที่เหลืออยู่ดูแลที่นี่”
ผู้ชายคนนั้นหยุดก่อนที่จะพูดต่อผ่านประตู “ผมเป็นผู้อาศัยคนเดียวที่นี่ คุณคงจะถูกเพื่อนหลอกเอาแล้ว เขาไม่ได้อยู่ที่นี่”
“ไม่น่าเป็นอย่างนั้นนะครับ” เฉินเกอพูดต่ออย่างเรียบ ๆ “นานมาแล้ว มีกองถ่ายมาถ่ายหนังที่นี่ และเขาก็เป็นหนึ่งในคนของกองถ่าย เขาเชิญผมมาที่นี่คืนนี้เพราะว่าเขาบอกว่าเขาเจอบางอย่างที่สำคัญ”
“หยุดพูด มันดึกแล้ว ระวังคำพูดของคุณด้วย” ผู้ชายคนนั้นตัดบทเฉินเกออย่างรวดเร็ว เขาไม่ต้องการให้เฉินเกอพูดต่อ
ปฏิกริยาประหลาดนี้เป็นสิ่งที่เฉินเกอกำลังรออยู่ แทนที่จะหยุด เขาพึมพำกับตัวเองต่อ “ผมเกรงว่ามันจะเป็นเพราะกองถ่ายของเขาที่ที่นี่เปลี่ยนไปเป็นฮอลิเดย์วิลล่า ผมได้ยินมาว่าเกิดเรื่องแปลก ๆ หลายอย่างขึ้นตอนที่พวกเขาถ่ายหนัง หนังนั่น ผมคิดว่า มันน่าจะชื่อ… ดวงตาข้างซ้าย?”
“หยุดพูด!” ผู้ชายคนนั้นผลักประตูเปิดออกและเขาก็ดูค่อนข้างวิตกกังวล ตอนนี้เมื่อประตูเปิดออกกว้าง เฉินเกอถึงได้เห็นผู้พูดชัดเจนขึ้น ผู้ชายตรงหน้าเขาอายุราวสี่สิบปี รูปร่างเตี้ยและยังหลังค่อมอย่างรุนแรง ใบหน้าของเขาซีดขาว และที่น่าสงสัยที่สุดก็คือดวงตาของเขาทั้งคู่ปิดอยู่– เขาเป็นชายตาบอดคนหนึ่ง เฉินเกอโบกมือเบา ๆ ตรงหน้าชายคนนั้น และฝ่ายหลังก็ไม่มีปฏิกริยาอะไรเลย “ผมต้องขอโทษด้วยจริง ๆ ผมไม่ได้คิดจะล่วงเกินอะไร ผมแค่พูดตามที่เพื่อนของผมเคยบอกผม”
“เพื่อนของคุณบอกว่าเขาเป็นหนึ่งในกองถ่าย? เขาหน้าตายังไง?” ผู้ชายคนนั้นดูเหมือนจะใจเย็นลงแล้ว
“เขาหน้าตายังไง?” เฉินเกองุนงง ชายตาบอดคนหนึ่งถามหน้าตาของคนอื่น นั่นฟังดูไม่ค่อยถูกต้องเท่าไหร่ หลังจากตรองอยู่ครู่หนึ่ง เฉินเกอก็บอกรูปร่างหน้าตาของหลี่ซางอิ๋นออกไป
ผู้ชายคนนั้นขมวดคิ้วก่อนที่จะรอให้เฉินเกอเข้าไปในตึก “อย่ามัวยืนอยู่ตรงนั้น เข้ามา”
ในตึกนั้นมืด สวิตช์ไฟที่ผนังถูกเอาออกไป และเหลือเพียงแค่แป้นของมันเท่านั้น ผู้ชายคนนี้ดูเหมือนจะคุ้นเคยกับความมืดไปแล้ว เขาก้าวยาว ๆ เข้าไปในห้องนั่งเล่นและนั่งลงบนโซฟา เขาไม่ได้กระแทกถูกอะไรเลยในระหว่างทาง เจอเข้ากับชายตาบอดที่ดูประหลาดตอนอยู่ที่ไหนก็ไม่รู้อย่างนี้ ถ้าเป็นคนอื่นก็คงไม่กล้าตามเข้าไป แต่ว่าเฉินเกอนั้นเป็นข้อยกเว้น
“ผมไม่รู้ว่าเพื่อนของคุณบอกอะไรคุณ แต่ว่ามีอย่างหนึ่งที่ผมแน่ใจ– คุณถูกหลอก” ผู้ชายคนนั้นยื่นมือออกมาคลำหาแก้วพลาสติกที่บนโต๊ะ เขาหยิบมันขึ้นมาแล้วยกขึ้นจิบ
“ทำไมคุณถึงคิดว่าผมจะเชื่อคุณไม่เชื่อเพื่อนผม?” เฉินเกอสังเกตเห็นว่ามือของชายคนนี้สั่นนิด ๆ ตอนที่เขาหยิบแก้วขึ้นมา
“กองถ่ายดวงตาข้างซ้ายจะไม่กลับมา ที่นี่น่ะเป็นต้นกำเนิดของฝันร้ายของพวกเขา หลังจากหนีเอาชีวิตรอดไปได้หวุดหวิด พวกเขาจะกลับมากันทำไม?” เสียงของผู้ชายคนนั้นกลับมาเป็นปกติและสงบลงแล้ว
“พี่ชาย เหมือนว่าคุณจะรู้รายละเอียดภายในบางอย่าง” เฉินเกอนั่งอยู่ตรงข้ามชายคนนั้น ในห้องมีแสงสว่างเล็กน้อย แสงจันทร์ส่องเข้ามาจากหน้าต่าง เกิดเป็นแสงสลัวส่องมาที่โต๊ะกาแฟ
“ผมเป็นแค่ยามคนหนึ่ง ผมเองก็ไม่มีเงื่อนงำเหมือนกันว่าเกิดอะไรขึ้นกับกองถ่าย แต่ว่าผมรู้ว่าบ้านเลขที่ 744 เขาหยงหลิงนั้นถูกทำลายไม่เหลือซากเพราะว่าเคยถูกใช้เป็นฉากถ่ายหนังของพวกเขา” ผู้ชายคนนั้นมีดวงตาปิดสนิท แต่ว่าใบหน้าของเขาหันมาหาเฉินเกอ “หลังจากที่ที่นี่กลายมาเป็นฮอลิเดย์วิลล่า เจ้าของก็สร้างโรงละครส่วนตัวทับที่ตรงนั้นที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นบ้านเลขที่ 744…”
ตอนที่ผู้ชายคนนั้นพูดถึงโรงละคร โทรศัพท์เครื่องดำในกระเป๋าของเฉินเกอจู่ ๆ ก็สั่น เฉินเกอสงสัย ทำไมถึงมีข้อความเข้าโทรศัพท์เครื่องดำในเวลาอย่างนี้กัน?
เขาดึงโทรศัพท์ออกมาแตะเปิดข้อความใหม่
“ขอแสดงความยินดี ผู้เป็นที่ชื่นชอบของเหล่าวิญญาณ ที่ค้นพบภารกิจระดับสองดาว– เรื่องราวของดวงตาข้างซ้าย!
“ภารกิจนี้ประกอบด้วยสามส่วน กรุณาไปให้ถึงโรงละครคนตายในอีกครึ่งชั่วโมงนี้และสนุกไปกับหนังยาวเต็มเรื่อง!
“หลังจากภารกิจส่วนนี้สำเร็จแล้ว จึงจะมอบภารกิจส่วนถัดไปให้!”
อ่านข้อความบนจอแล้ว เฉินเกอก็หรี่ตา “มีความผิดพลาดอะไรใช่ไหมเนี่ย? ทำไมถึงไม่ใช่โรงละครส่วนตัวล่ะ?”
“เฮ้ คุณกำลังฟังผมอยู่หรือเปล่า?” ผู้ชายคนนั้นเรียกเฉินเกอ
“ขอโทษทีครับ ผมแค่อึ้งไป พูดต่อเลยครับ” เฉินเกอเหลือบมองเวลาและเก็บโทรศัพท์ลงไป
“สิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากนั้นค่อนข้างน่ากลัว จะตอนเช้าหรือตอนเย็น เมื่อไหร่ก็ตามที่เข้าไปข้างใน โรงละครก็ให้ความรู้สึกน่าขนลุกอย่างประหลาด แขกหลายคนก็บอกว่าตอนที่พวกเขากำลังดูหนังอยู่ พวกเขาเห็นคนที่ไม่เกี่ยวข้องกับหนังอยู่ในหนังด้วย”