เล่มที่ 22 เล่มที่ 22 ตอนที่ 646 พวกเราต้องรอดชีวิต

สนมโง่เจ้าจะหนีไปไหน

ตงหลิงหวงรีบแบกแผนที่แคว้นขึ้นบนหลัง พลางกระโดดเข้าโจมตีมู่หรงฉี คิดฉวยโอกาสหนีออกจากห้องลับ

ทว่าตอนที่มู่หรงฉีเข้ามา เขาได้ปิดกลไกทั้งหมดแล้ว

นางรู้เพียงกลไกขาเข้า แต่ไม่รู้กลไกขาออก

ตอนนี้จะทำอย่างไร?

ชั่วพริบตา ตงหลิงหวงและมู่หรงฉีก็เคลื่อนไหวไปหลายกระบวนท่า วรยุทธ์ของทั้งสองไม่ต่างกันมากนัก จึงไม่มีผู้ใดตกเป็นรอง

ตงหลิงหวงเริ่มรู้สึกว่าตนเองมีบางอย่างผิดปกติ นางไม่รู้ว่าเกิดอันใดขึ้น ทั่วทั้งร่างร้อนวูบวาบ ภายในร่างมีบางอย่างกำลังปะทุอย่างบ้าคลั่ง ทั้งยังพยายามหาทางระบายออกมา

นอกจากนั้น ภายในใจยังรู้สึกสับสนจนอยู่ไม่สุข

เดิมที ทักษะของทั้งคู่นั้นเท่ากัน ทว่าร่างกายตงหลิงหวงไม่ค่อยดีนัก นางจึงตกเป็นรอง และถูกมู่หรงฉีจับตัวได้อย่างรวดเร็ว

มือข้างหนึ่งของมู่หรงฉีคล้องรอบลำคอของนางจากทางด้านหลัง ส่วนอีกข้างอ้อมไปด้านหน้าแล้วรวบมือของนางไว้

“รัชทายาทตงเฉิน ไม่ว่าอย่างไร ท่านก็เป็นรัชทายาทตงเฉินผู้สง่างาม ทว่ากลับย่องเข้าจวนข้ายามดึกดื่น ทั้งยังทำเรื่องลักเล็กขโมยน้อยเช่นนี้ หากเรื่องนี้แพร่งพรายออกไป ชื่อเสียงของรัชทายาทตงหลิงคงเสื่อมเสียมากทีเดียวกระมัง? ”

แม้ก่อนหน้านี้นางไม่ทันสังเกต ทว่าตอนนี้ เรื่องเลยเถิดมาถึงขั้นนี้แล้ว หากตงหลิงหวงยังไม่รู้ว่าเกิดอันใดขึ้นกับร่างกายตนเอง นางคงเป็นคนโง่เขลาแล้ว

“มู่หรงฉี เจ้าช่างไร้ยางอายเสียจริง ถึงกับใช้ยาปลุกกำหนัดและยากล่อมประสาทกับข้า เจ้า… เจ้าไม่มีทางได้สมดั่งใจแน่นอน! ”

ยาปลุกกำหนัดกับยากล่อมประสาท?

มู่หรงฉีเพิ่งเห็นความผิดปกติของตงหลิงหวง

ดวงตาดำขลับ พวงแก้มสองข้างแดงระเรื่อ เม็ดเหงื่อผุดขึ้นตามหน้าผาก ร่างกายของนางร้อนผ่าว

ในเวลาเดียวกัน เขาก็พบว่าร่างกายของตนมีความผิดปกติเล็กน้อยเช่นกัน

ร่างกายของเขาร้อนรุ่มอึดอัด หน้าอกร้อนผ่าวราวกับถูกไฟแผดเผา ลำคอแห้งผาก และจุดสำคัญช่วงล่างของเขาก็ดูเหมือนจะมีเปลวไฟลุกโชนราวกับจะปะทุออกมาจากร่าง

เขารีบผลักตัวออกจากตงหลิงหวง พลางถอยหลังไปสองก้าว และมองไปรอบบริเวณ ก่อนจะยกมือดับเทียน

ตงหลิงหวงสบโอกาสถอยออกไปยืนอยู่ข้างกำแพง นางพิงหลังกับผนังกำแพง “มู่หรงฉี ข้าขอบอกเจ้า หากเจ้ากล้าฉวยโอกาสเรื่องนี้กับข้า ข้า ตงหลิงหวงจะไม่ปล่อยเจ้าไว้แน่! ”

มู่หรงฉีนั่งลงข้างโต๊ะหินใต้เชิงเทียน ร่างกายทวีความร้อนมากขึ้นเรื่อยๆ จนเกือบจะเผาไหม้ร่างกายของเขา ผ่านไปไม่นาน เม็ดเหงื่อหนาก็ปกคลุมไปทั่วร่างกาย ราวกับกำลังอยู่ในหม้อนึ่งที่มีไอน้ำมหาศาล

แท้จริงแล้ว สถานการณ์ของทั้งสองคนไม่ต่างกันมากนัก เพียงไร้แสงเทียน พวกเขาจึงมองไม่เห็นกันและกันเท่านั้น

ทั้งคู่เริ่มใช้กำลังภายในขับสารพิษออกจากร่างกาย ทว่ายิ่งขับออกมากเท่าไร สารพิษก็ยิ่งกระจายไปทั่วร่างเร็วขึ้นเท่านั้น ทำให้ร่างกายอึดอัดอย่างมาก

พวกเขาแทบควบคุมตนเองไม่ไหว ความปรารถนาอันเร่าร้อนจากส่วนนั้นยิ่งรุนแรงและบ้าคลั่ง

สถานการณ์ในตอนนี้ แม้พวกเขาจะอยู่ห่างกัน ทั้งยังไม่มีแสงสว่างสาดส่อง ทำให้ไม่เห็นใบหน้าของกันและกัน ทว่าพวกเขากลับรับรู้ได้ถึงกลิ่นกายอันดึงดูดของฝ่ายตรงข้ามได้อย่างชัดเจน

ตอนนี้ ตงหลิงหวงถึงขั้นมีแรงกระตุ้นคิดอยากฆ่าตัวตาย

อย่างไรก็ตาม นางเป็นรัชทายาทแห่งตงเฉิน ผู้ที่เคยผ่านการนองเลือดของคมดาบ และผ่านอันตรายมาตั้งแต่เล็ก นางไม่เคยขลาดกลัว เช่นนั้นจะฆ่าตัวตายได้อย่างไร?

ทว่านางไม่สามารถนิ่งเฉยรอความตายที่นี่ได้!

ตงหลิงหวงใช้มือยันกำแพงและลุกขึ้นยืนด้วยความยากลำบาก พยายามหาทางออกจากห้องลับ หากออกไปจากที่นี่ได้ค่อยว่ากัน

เวลาผ่านไปนานถึงเพียงนี้ ตงหลิงหวงทบทวนต้นสายปลายเหตุของเรื่องนี้อย่างชัดเจนแล้ว

มู่หรงฉีไม่ได้เป็นผู้ใช้สารพิษอย่างแน่นอน ไม่เช่นนั้น เขาคงไม่วางยาพิษตนเอง ทั้งยังรักษาระยะห่างจากนาง หากเขาเป็นคนวางยาพิษจริง เขาคงลงมือไปแล้ว

เช่นนั้น มีความเป็นไปได้เพียงหนึ่งเดียวคือ แม่นางผู้นั้นที่สลบอยู่ในห้องบรรทมของมู่หรงฉี เป็นคนวางยาพิษ

ในเมื่อนางเป็นคนวางยาพิษ ในตัวของนางต้องมียาถอนพิษเป็นแน่

เมื่อนึกมาถึงตรงนี้ ตงหลิงหวงก็รีบเดินให้เร็วขึ้น

ทว่าท่ามกลางความมืดมิด ไม่รู้ว่าเท้าของนางเหยียบเข้ากับสิ่งใด นางร้องเสียงต่ำ จากนั้นก็ล้มลงบนพื้น ทันทีที่ล้มลง นางก็นั่งอยู่ในอ้อมแขนของมู่หรงฉีแล้ว

การสัมผัสกันอย่างกะทันหัน และกลิ่นกายของเพศตรงข้าม ทำให้ร่างของพวกเขาสั่นเทาด้วยความวาบหวาม

ทันใดนั้น แรงปรารถนาและความเร่าร้อนที่ต้องการระบายก็ยิ่งทวีความรุนแรงและเดือดพล่านมากขึ้น

ในเวลาปกติ พวกเขาทั้งสองเป็นผู้สูงศักดิ์มีอำนาจ ไม่ว่าจะพบเจอเรื่องราวอันใด ล้วนสงบนิ่งและมีเหตุผลอย่างมาก ทว่าตอนนี้ พวกเขากลับเสียการควบคุมไปโดยสิ้นเชิง ทั้งยังรู้สึกถึงแรงปรารถนาอันไร้สิ้นสุด และความต้องการที่เพิ่มขึ้นอย่างไม่รู้จบ

ท่ามกลางความมืดมิด ร่างกายของพวกเขาอิงแอบแนบชิด จมูกแนบสัมผัส ดวงตาสอดประสาน ริมฝีปากแตะกันแผ่วเบา

เสียงลมหายใจที่ทั้งลึกและรุนแรงของฝ่ายตรงข้ามดังขึ้น ท่ามกลางความมืดมิดที่เงียบสงัด เสียงนั้นชัดเจนราวกับค้อนหนักที่กระแทกหัวใจของพวกเขา กลายเป็นว่าตอนนี้ พวกเขาได้ยินเสียงเดียวกัน มันเป็นแรงดึงดูดที่มากที่สุดของพวกเขา

ทันใดนั้น มู่หรงฉีก็เอนกายไปด้านหน้า พลางแนบชิดริมฝีปากกับตงหลิงหวง เขาโอบร่างของนางไว้และพลิกกายกดนางลงด้านล่าง

ภายใต้ความตกใจของตงหลิงหวง นางคว้าแขนของมู่หรงฉีไว้ คาดไม่ถึงว่านางจะฉีกทึ้งเสื้อผ้าของมู่หรงฉี

เวลานี้ ร่างของพวกเขาแนบชิดกัน แม้จะมีเสื้อผ้าของตงหลิงหวงกั้นอยู่ชั้นหนึ่ง ทว่านางกลับสัมผัสได้ถึงไอร้อนบนร่างกายและกลิ่นความเป็นบุรุษของเขาอย่างชัดเจน

ทว่าจิตใต้สำนึกบอกนางว่า พวกเขาไม่สามารถ…

นางยื่นมือออกไปหยุดมู่หรงฉี มู่หรงฉีกะพริบตาพลางถอนหายใจแรง ลมหายใจหนักหน่วงของบุรุษรดอยู่บนใบหน้าของตงหลิงหวงไม่หยุด

“หวงเอ๋อร์ หากข้าเดาไม่ผิด ยาปลุกกำหนัดและยากล่อมประสาทนี้เป็นของแคว้นไหวเจียง หลิงเซียว เด็กผู้นั้นจงใจวางแผนล่อลวงข้า เป็นไปไม่ได้ที่นางจะพกยาถอนพิษติดตัว หากพวกเราไม่รีบถอนพิษ เลือดคงไหลออกจากทวารทั้งเจ็ดจนตาย”

ตงหลิงหวงที่อยู่ใต้ร่างของมู่หรงฉีกัดริมฝีปากตนเองแน่น “มู่หรงฉี ทว่าพวกเรา… พวกเราไม่ควรทำเช่นนี้ พวกเราทำไม่ได้… ”

สีหน้าของมู่หรงฉีปรากฏความเจ็บปวดสุดทน “ข้าให้คำสัตย์ ชีวิตนี้ ไม่ว่าจะเกิดอันใดขึ้น ข้าจะเผชิญหน้าไปด้วยกันกับเจ้า ไม่มีวันปล่อยมือเจ้า และจะรับผิดชอบเจ้าชั่วชีวิต”

“หวงเอ๋อร์ พวกเราต้องมีชีวิตอยู่ต่อ ต้องมีชีวิตรอด! ”

หลังสิ้นเสียงพูด มู่หรงฉีก็จุมพิตลงบนริมฝีปากของตงหลิงหวง แม้ร่างกายจะร้องประท้วงอย่างหนัก ทว่าเขาจุมพิตตงหลิงหวงในแบบที่สุภาพและนุ่มนวลที่สุด

จนกระทั่งตงหลิงหวงเริ่มส่งเสียงร้องอันเย้ายวนและนุ่มนวล ทั้งยังหายใจแผ่วเบา เขาจึงใช้โอกาสส่งลิ้นเข้าไปในปากของนาง

ร่างกายของตงหลิงหวงสั่นเทาอย่างควบคุมไม่ได้ เหตุผลไม่สามารถสู้แรงปรารถนาอันเร่าร้อนได้อีกต่อไป หลังจากพ่ายแพ้ต่อแรงปรารถนา แขนเรียวยาวของนางก็โอบรอบเอวของมู่หรงฉีแน่น และเริ่มตอบสนองกลับอย่างเร่าร้อน

สาเหตุที่มู่หรงฉีอ่อนโยนในคราแรก เพราะว่าเขาไม่อาจทนต่อความไม่เชื่อฟังของตงหลิงหวง เขาใช้เหตุผลในการยับยั้งตนเองอย่างยากลำบาก เมื่อเห็นตงหลิงหวงมีการตอบสนอง ความปรารถนาในร่างกายเขาก็ราวกับเขื่อนแตกที่กักเก็บน้ำไม่อยู่

ห้องลับมืดมิด กำแพงเย็นเฉียบ

ท่ามกลางความมืด เสียงของบุรุษและสตรีพัวพันกันอย่างต่อเนื่อง เสียงนั้นทรงเสน่ห์และทวีความเร่าร้อนมากยิ่งขึ้น สลับกับเสียงหอบกระเส่าของทั้งสอง