ตอนที่ 136-1 สุ่ยจูเอ๋อร์ เจ้าเป็นบ้าไปแล้วหรือไร?

จำนนรักชายาตัวร้าย

สิ่งที่สุ่ยจู่เอ๋อร์สนใจมากที่สุดก็คือ รูปร่างหน้าตาของตนเอง เพราะนางรู้ดีว่า รูปร่างหน้าตาและชาติกำเนิดเป็นต้นทุนของผู้หญิงทุกคน 

 

 

ลูกสาวทั้งสี่ของสกุลสุ่ยมีชื่อเสียงเลื่องลือขจรไกลยิ่งนัก 

 

 

สิบอันดับสาวงามของเมืองอุ๋โยว มีลูกสาวของสกุลสุ่ยจับจองอยู่ถึงสี่อันดับ น่าเสียดาย นอกจากสุ่ยเยว่เอ๋อร์ที่อยู่ในอันดับที่หนึ่งแล้ว ลูกสาวอีกสามคนที่เหลืออยู่ในอันดับรั้งท้ายทั้งสิ้น 

 

 

สุ่ยจู่เอ๋อร์รั้งอยู่อันดับที่ห้า ซึ่งนางไม่ยินยอม นางเก่งกว่าสุ่ยเยว่เอ๋อร์ตั้งมากมายหลายด้าน! 

 

 

สุ่ยเยว่เอ๋อร์ไม่มีหัวคิด นอกจากรูปโฉมที่งดงามแล้ว ด้านอื่นๆไม่มีดีเลยสักอย่าง 

 

 

เป็นถึงบุตรสาวของหนึ่งตระกูลใหญ่ทั้งแปด กลับไปชอบไอ้ผู้ชายชั้นต่ำจากหลัวอวี่คนนั้นได้ นางต้องเป็นบ้าไปแล้วแน่ๆ! ทั้งผู้ชายคนนั้นยังเป็นพวกไม่เอาไหนอีกด้วย! 

 

 

ต่อให้อวี้ซิงฉงมีรูปร่างหน้าตาดี แต่ไหนเลยจะเทียบเทียมกับคุณชายจากตระกูลใหญ่แห่งอู๋โยวได้? 

 

 

เขามีเงินทองไหม? 

 

 

เขามีอำนาจหรือเปล่า? 

 

 

เขามีสกุลรุนชาติ? 

 

 

หรือว่าเขามีวรยุทธ์ล้ำเลิศเหนือใครในใต้หล้า? 

 

 

เขาไม่มีอะไรเลย แต่สุ่ยเยว่เอ๋อร์กลับทำตัวเป็นแมงเม่าบินเข้ากองไฟ ยังคงโง่งมไปรักกับอวี้ซิงฉงอยู่ได้ โง่ดักดานยิ่งนัก! 

 

 

ในสายตาของสุ่ยจู่เอ๋อร์ ตัวนางเองนั้นทั้งสวย ทั้งฉลาด ไม่เพียงแต่รู้จักแต่งตัวแต่งองค์ทรงเครื่อง ทั้งยังรู้จักประจบเอาใจทำให้ผู้คนรักเอ็นดู นางที่เพียบพร้อมทุกด้านเช่นนี้ต่างหากที่คู่ควรกับการเป็นสาวงามอันดับหนึ่งของอู๋โยว 

 

 

เพียงแต่สุ่ยเจ๋อซีมิได้คิดเช่นนี้ เพราะท่านพ่อเอาแต่ให้ความสำคัญกับสุ่ยเยว่เอ๋อร์ นี่ทำให้สุ่ยจูเอ๋อร์ไม่ยินยอม 

 

 

ท่านพ่อเลอะเลือนจริงๆ! 

 

 

ยิ่งตอนนี้ มาเห็นว่าตี้อู่เฮ่ออี้พยายามคิดหาหนทางต่างๆนานาเพื่อช่วยให้สุ่ยเยว่เอ๋อร์มีรูปโฉมที่งามยิ่งขึ้นไปอีก เพื่อที่ว่าเมื่องานชุมนุมที่จื่อจิงนั้นนางจะได้เฉิดฉายกว่าใคร นั่นทำให้สุ่ยจูเอ๋อร์ยิ่งไม่พอใจ 

 

 

นางถือสิทธิ์อะไรที่จะได้ครอบครองทุกสิ่งทุกอย่าง! 

 

 

ทุกคนต่างก็เป็นลูกสาวของสกุลสุ่ยเหมือนกัน สุ่ยเยว่เอ๋อร์ก็ไม่ได้สูงส่งกว่านางตรงไหน! 

 

 

เพราะอะไรสุ่ยเยว่เอ๋อร์ถึงได้โชคดีปานนี้ เพราะอะไรทุกคนต่างก็พากันไปรุมรักและคอยช่วยเหลือนางกันหมด? 

 

 

“ท่านหมอ ท่านจะลำเอียงไม่ได้นะ!” สุ่ยจูเอ๋อร์ยิ้มหวาน แล้วเอื้อมมือออกมาดึงที่ชายเสื้อของตี้อู่เฮ่ออี้ 

 

 

“ท่านช่วยพี่รอง ก็ต้องช่วยข้าด้วย!” 

 

 

ปากก็กล่าวไป สุ่ยจูเอ๋อร์ยังกระเถิบเข้าไปใกล้ ใช้หน้าอกที่เต็มไปเต็มมือของตนเองกระแซะแขนของตี้อู่เฮ่ออี้อีกด้วย 

 

 

ซึ่งการกระทำนี้ของนางทำให้ตี้อู่เฮ่ออี้ตกใจเป็นอย่างมาก 

 

 

“คุณหนูสาม——” ตี้อู่เฮ่ออี้แกะมือของสุ่ยจูเอ๋อร์ออกอย่างสุภาพแล้วรีบหลบไปยืนอีกด้าน 

 

 

“คุณหนูสาม มีเรื่องอะไรค่อยๆพูดค่อยๆจากัน!” 

 

 

“ข้าก็กำลังพูดกับท่านดีๆอยู่นี่อย่างไรละ!” สุ่ยจูเอ๋อร์กระพริบตาปริบๆ ผ้าเช็ดหน้าในมือก็ไล้ไปตามเรือนร่างของตี้อู่เฮ่ออี้ทิ้งกลิ่นอายความหอมกรุ่นของดอกไม้หอมเอาไว้ 

 

 

“ท่านหมอเหอ ข้าก็ต้องการเจ้านี่เช่นกัน!” 

 

 

“ข้าช่วยเจ้า! ข้าช่วยเจ้า!” 

 

 

ในที่สุดตี้อู่เฮ่ออี้ก็ทนไม่ไหว รีบรับปากสุ่ยจูเอ๋อร์ในทันที 

 

 

“จริงหรือ?” สุ่ยจูเอ๋อร์สาวเท้าเข้ามาใกล้ ทำเอาตี้อู่เฮ่ออี้ตกใจจนต้องถอยร่นไปด้านหลังทันที 

 

 

“หึๆ”! เห็นอาการของตี้อู่เฮ่ออี้แล้ว สุ่ยจูเอ๋อร์ก็เอียงหน้าไปมองแล้วหัวเราะออกมา 

 

 

“ท่านหมอเหอ ท่านกำลังเขินอายจริงๆหรือนี่!” 

 

 

“คุณหนูสาม ข้ามีภรรยาอยู่แล้ว! อีกอย่างหญิงชายไม่ควรใกล้ชิดกันเกินไป!” ต่อให้ตี้อู่เฮ่ออี้เคยโดนหญิงแกร่งอย่างเชียนเย่เสวี่ยแทะโลมมามากมายเพียงใด แต่นั่นเพราะเขายินยอมพร้อมใจ และเป็นสิ่งที่ใจเขาปรารถนา 

 

 

‘แต่สุ่ยจูเอ๋อร์นี่เป็นใครกัน!’ 

 

 

หากมิใช่นางคือคุณหนูแห่งสกุลสุ่ยละก็ ตี้อู่เฮ่ออี้คงจะนุกสงสัยไปแล้วว่าตำแหน่งคุณหนูของนางนั้นเป็นสิ่งที่อุปโลกน์ขึ้นมาเป็นแน่  

 

 

ซึ่งสิ่งที่ตี้อู่เฮ่ออี้คาดเดานั้นไม่ผิดเลย เพราะมารดาของสุ่ยจู่เอ๋อร์คือดาวเด่นจากหอนางโลม ที่เลื่องลือเรื่องความงามยิ่งนัก ต่อมาคือสุ่ยเจ๋อซีแต่งนางเข้าบ้าน ปัจจุบันคืออนุภรรยาคนโปรดของเขานั่นเอง มีมารดาเช่นนี้คอยเลี้ยงดูอยู่ข้างกาย สุ่ยจูเอ๋อร์จึงเป็นหญิงที่ชอบเล่นหูเล่นตากับใครเขาไปทั่วตั้งแต่เด็ก แน่นอนว่านางไม่เคยตั้งใจศึกษาเล่าเรียนหรือทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอันเลยสักอย่าง 

 

 

“หึๆ ท่านหมอเหอ ท่านดีกับภรรยาของท่านจริงๆเลย!” 

 

 

สุ่ยจู่เอ๋อร์เคยได้พบหน้าเชียนเย่เสวี่ยมาก่อน ผู้หญิงที่ท่าทางร้ายกาจไม่เบาคนนั้น มีรูปร่างหน้าตาที่ทรงเสน่ห์ไม่เบา 

 

 

จะพูดให้ถูกต้องก็คือ สุ่ยจูเอ่อร์ไม่ชอบหน้านางเอาเสียเลย! เหตุผลก็ง่ายนิดเดียว ขอแค่เป็นหญิงที่หน้าตาสวยงามนางล้วนแต่ไม่ชอบทั้งสิ้น! ยิ่งกว่านั้นท่าทางสูงส่งติดจะหยิ่งยโสของเชียนเย่เสวี่ยนั่น มองดูแล้วก็ให้รู้สึกขวางหูขวางตายิ่งนัก 

 

 

แค่เมียหมอคนหนึ่ง ซึ่งเป็นชาวบ้านธรรมดาๆเท่านั้น กลับทำท่าทางราวกับตนเองสูงส่งเสียเต็มประดา สร้างภาพให้ใครดูกัน! 

 

 

ตอนนี้ ถือโอกาสที่เชียนเย่เสวี่ยไม่อยู่ สุ่ยจูเอ๋อร์จึงเขยิบเข้าใกล้ตี้อู่เฮ่ออี้อีกสองก้าว 

 

 

นางชื่นชอบทำลายความรักของคนอื่นที่สุดเลย! 

 

 

หมอหนุ่มคนนี้ช่วยรักษาสุ่ยเยว่เอ๋อร์ ทำลายแผนการของนางจนพังไม่เป็นท่า! แล้วเมียของเขาที่ชื่อว่าเชียนเย่เสวี่ยอะไรนั่นก็ดันมีรูปร่างหน้าตางดงามจนน่าหมันไส้ นางจะดูสิว่า ความรักของพวกเขามั่นคงเสียยิ่งกว่าขุนเขาจริงหรือไม่! 

 

 

“ท่านหมอเหอ ขอบคุณท่านจริงๆ ท่านจะต้องช่วยข้าด้วยนะ!” 

 

 

ในขณะที่พูด สุ่ยจูเอ๋อร์ก็ดึงรั้งสาบเสื้อของตนเองให้เผยอออก เผยให้เห็นเนิ่นอกขาวผ่อง แล้วยังทำเนื้อตัวอ่อนปวกเปียนราวกับกุ้งถูกลวกก็ไม่ปาน เอนซบไปที่ตี้อู่เฮ่ออี้ทั้งตัว 

 

 

นางไม่เชื่อหรอกว่า มีผู้ชายคนไหนที่เห็นนางแล้วจะไม่หวั่นไหว 

 

 

ในขณะที่สุ่ยจูเอ๋อร์กำลังจะถึงตัวตี้อู่เฮ่ออี้นั่นเอง ฉับพลันตี้อู่เฮ่ออี้ก็ตดออกมาเสียงดัง ทั้งตามมาด้วยกลิ่นเหม็นระดับทำลายล้าง 

 

 

“อี๋——” 

 

 

สุ่ยจูเอ๋อร์ถึงกับยกมือขึ้นปิดจมูก แล้วเด้งไปอยู่อีกฝั่งราวกับกระตายตื่นตูมทันที 

 

 

‘โอ้ย!’ 

 

 

หน้าตาท่าทางเรียบร้อย เหตุใดถึงตได้เหม็นนักนะ! 

 

 

“ขอโทษด้วย!”  

 

 

เห็นท่าทางของสุ่ยเยว่เอ๋อร์แล้ว ตี้อู่เฮ่ออี้ก็แอบหัวเราะอยู่ในใจแทบจะแย่ แต่ภายนอกกลับทำท่าทางทางขวยเขินปกปิดเอาไว้ได้อย่างแนบเนียน 

 

 

ปกติแล้วข้าไม่ชอบกินถั่วเหลืองเท่าไหร่นัก ดังนั้น… 

 

 

“ปูด ปูด——” 

 

 

ตี้อู่เฮ่ออี้กล่าวยังมิทันจบ เสียงตดสองครั้งก็ตามมาติดๆ 

 

 

“เจ้า!” สุ่ยจูเอ๋อร์เหม็นจนแทบจะเป็นลม นางรีบวิ่งออกไปหาที่ๆอากาศถ่ายเทสะดวกทันที 

 

 

นางไม่เคยได้กลิ่นตดที่เหม็นขนาดนี้มาก่อน! 

 

 

ผู้ชายคนนี้คือจ้าวแห่งตดหรือเปล่านะ? 

 

 

สมน้ำหน้ายัยผู้หญิงคนนั้นยิ่งนัก รูปร่างหน้าตาก็ดี วันๆต้องทนอยู่กับตด! 

 

 

คิดได้ดังนั้น สุ่ยจูเอ๋อร์ก็อารมณ์ดีขึ้นมาก 

 

 

ขณะที่เชียนเย่เสวี่ยเดินเข้ามา แล้วแลเห็นสายตาไม่เป็นมิตรจ้องแต่จะทิ่มแทงของสุ่ยจูเอ๋อร์ที่มองมายังตนเอง นางก็รู้สึกเบื่อหน่ายไม่น้อย 

 

 

“คุณหนูสาม ดวงตาของท่านชักเกร็งหรืออย่างไร?” 

 

 

“เจ้าต่างหากที่ชักเกร็ง——” สุ่ยจูเอ๋อร์ตอกกลับท่าทีอึดฮัด แล้วสะบัดก้นเดินเข้าไปในห้อง 

 

 

เมื่อเข้าไปด้านในแล้วเห็นว่าบนใบหน้าของสุ่ยเยว่เอ๋อร์มีขี้ผึ้งอะไรบางอย่างพอกอยู่ ฉับพลันดวงตาของสุ่ยจูเอ๋อร์ก็วาวร้าย 

 

 

“ท่านหมอเหอ ท่านจะทำขี้ผึ้งนี่ให้ข้าเมื่อไหร่กัน!” สุ่ยจู่เอ๋อร์แทบอยากจะให้ตี้อู่เฮ่ออี้ทำขี้ผึ้งสำหรับพอกหน้าให้กับนางเสียเดี๋ยวนี้ นางจะได้นำมันมาพอกหน้า หลังจากนั้นนางจะได้กลายเป็นคนสวยยิ่งขึ้น สะกดให้ทุกสายตาที่มองมาต้องตกตะลึง 

 

 

“อีกสักครู่!” ตี้อู่เฮ่ออี้กำลังจัดเตรียมอยู่ข้างๆ 

 

 

“คุณหนูสาม ท่านลองเจ้าตัวนี้ก่อน!” 

 

 

กล่าวจบ ตี้อู่เฮ่ออี้ก็ส่งยาเม็ดหนึ่งให้กับสุ่ยจูเอ๋อร์ 

 

 

“นี่คือยาบำรุงผิว ที่ข้าปรุงขึ้นพิเศษ ไม่สามารถหาซื้อจากข้างนอกได้!” 

 

 

สุ่ยจูเอ๋อร์มิได้สงสัยในตัวตี้อู่เฮ่ออี้เลยแม้แต่น้อย 

 

 

ในสายตาของนาง ไม่ว่าจะเป็นตี้อู่เฮ่ออี้หรือเชียนเย่เสวี่ย ล้วนแต่เป็นบ่าวไพร่ของสกุลสุ่ยทั้งสิ้น ข้าวก็กินของสกุลสุ่ย  

 

 

แล้วพวกเขาจะกล้าทำอะไรนางได้อย่างไร! 

 

 

เมื่อคิดได้ดังนั้น สุ่ยจูเอ๋อร์จึงกลืนยาเม็ดนั้นลงไปอย่างไม่ลังเล 

 

 

ยาเม็ดนี้ เมื่อเข้าปากก็ละลายทันที หลังจากที่กลืนเข้าไปแล้ว ที่ริมฝีปากจะยังคงมีกลิ่นหอม แม้กะทั่งเวลาพูดจาก็จะมีกลิ่นหอมลอยออกมา 

 

 

“ของดีจริงๆด้วย!” สุ่ยจูเอ๋อร์เป่าลมยาว แล้วตัวเองก็ยื่นหน้าเข้าไปดมเอง 

 

 

“นี่คือกลิ่นของดอกกล้วยไม้!” 

 

 

“ถูกต้อง! คุณหนูสามเปี่ยมด้วยสง่าราศีสูงส่ง ดอกกล้วยไม้จึงเหมาะสมกับท่านที่สุด!” 

 

 

ตี้อู่เฮ่ออี้กล่าว 

 

 

หญิงคนไหนบ้างที่ไม่ชอบฟังคำพูดยกยอปอปั้น!  

 

 

ยิ่งกว่านั้นตี้อู่เฮ่ออี้ยังก่าวชื่นชมหน้าต่อหน้านางอีกด้วย นั่นทำให้สุ่ยจูเอ๋อร์ยิ่งปลื้มปริ่มเป็นที่สุด 

 

 

แต่ทว่า นางยังไม่ทันจะดีใจได้เท่าไหร่ ฉับพลันร่างก็อ่อนปวกเปียนจนทรุดลงไปนั่งบนพื้น 

 

 

“ชู่ว์ เรียบร้อย!” 

 

 

ตี้อู่เอ่ออี้ปาดเหงื่อที่ไหลซึมออกมาจนชุ่มศีรษะของตน เขาเกือบจะเป็นบ้าเพราะหญิงหน้าไม่อายคนนี้อยู่แล้ว!