วันรุ่งขึ้นเฉินเยี่ยนและซินห้าวไปหาคนเพื่อถามสถานการณ์ดู ไม่ต่างจากที่พวกเขาคิด ถ้าได้รับการให้อภัยจากครอบครัวฝั่งนั้น แล้วท่าทีสำนึกผิดของซินเหลยดี อีกทั้งหาคนที่หนีไปมาเป็นพยาน เพื่อยืนยันว่าฝั่งนั้นลงมือก่อน ซินเหลยไม่ได้ตั้งใจ แบบนั้นซินเหลยก็จะโดนโทษสถานเบา 

 

 

เฉินเยี่ยนไปหาทนายด้วย และเล่าเรื่องราวให้ฟัง ทนายบอกเธอว่าอย่างดีที่สุดคือมีโทษจำคุกสองปีรอลงอาญาสามปี 

 

 

โทษจำคุกสองปีรอลงอาญาสามปี สามารถดำเนินการ สังเกตการณ์ข้างนอกได้ ขอแค่ในสามปีนี้ซินเหลยไม่ทำผิด ไม่ก่อเรื่องอีก เขาก็ไม่ต้องติดคุก ในทางกลับกันถ้าเขาก่อเรื่องอีก ก็จะโดนโทษสถานหนัก 

 

 

ความหมายของทนายคือถ้าได้รับการให้อภัยจากฝั่งนั้น แบบนี้จะเป็นประโยชน์ต่อซินเหลย แต่เขาก็บอกว่าห้าหมื่นนี่เป็นไปไม่ได้ ถึงแม้จะปรับเงิน แต่ก็ปรับไม่เยอะ ให้พวกเขาเจรจากับฝั่งนั้นดีๆ ถ้าไม่ได้จริงๆ ก็ต้องขึ้นศาล ขอแค่พวกเล่าเรื่องตามความจริง เขาเชื่อว่าน่าจะโดนโทษจำคุกสองปีรอลงอาญาสามปี 

 

 

เฉินเยี่ยนทิ้งเบอร์โทรไว้ให้ทนาย จากนั้นออกมา ซินห้าวไปหาครอบครัวของผู้ตาย บอกให้เธอไปโรงพยาบาลเลย 

 

 

มาถึงโรงพยาบาล ซุนหม่านเซียงฟุบอยู่บนเตียง ซินชานไม่อยู่ ซินเหลยนอนหลับพักผ่อนอยู่ 

 

 

“ทำไมเธอถึงเพิ่งมา? ไม่อยากมาใช่ไหม ไม่ใช่ญาติพี่น้องเลยไม่ต้องสนใจ” 

 

 

ซุนหม่านเซียงเห็นเฉินเยี่ยนก็ว่า ไม่รอให้เฉินเยี่ยนตอบก็พูดอีก “เธอปลอบซินเหลยหน่อย เขาก็ไม่อยากพูดกับฉัน ฉันพูดกับเขา เขาก็ไม่สนใจฉัน ไม่รู้ว่าเขาคิดอะไรอยู่ ฉันกลัว” 

 

 

เห็นสีหน้าซุนหม่านเซียง ผมเพ้าเธอยุ่งเหยิง นัยน์ตาแดง สีหน้าดูซีดเซียว เสื้อผ้าก็ยับไปหมด สภาพคนละอย่างกับเมื่อวานเลย ตลอดทั้งคืนและเช้าที่ผ่านมาสำหรับเธอแล้วเห็นได้ชัดว่าผ่านมาด้วยความลำบาก 

 

 

เฉินเยี่ยนมองไปทางซินเหลย ได้ยินเสียงพวกเขาคุยกันก็ลืมตาขึ้นมา เทียบกับเมื่อวาน ซินเหลยดูไม่ฉุนเฉียวแล้ว ดูนิ่งขรึมขึ้น สายตาดูเหม่อลอยเล็กน้อย 

 

 

“คิดดีหรือยัง?” 

 

 

เฉินเยี่ยนถามซินเหลย กับซินเหลยเธอไม่ได้มีความรู้สึกพิเศษอะไร 

 

 

ซินชานและซุนหม่านเซียงรักใคร่ นั่นเพราะซินเหลยเป็นลูกชายพวกเขา 

 

 

ซินห้าวเป็นห่วงซินเหลย นั่นเป็นเพราะซินห้าวเป็นพี่ชายซินเหลย ตัวเองกับซินเหลยไม่ได้มีความเกี่ยวข้องทางสายเลือด ถ้าไม่ใช่เพราะเป็นพี่สะใภ้ เธอก็ไม่ยุ่งหรอก 

 

 

“ผมเป็นคนเลวจริงๆ หรือ?” 

 

 

ซินเหลยหันหน้าไปถามเฉินเยี่ยน สายตาสับสน นี่เป็นครั้งแรกที่เธอเห็นสายตาแบบนี้ของซินเหลย 

 

 

“ใครบอก? ลูกไม่ใช่คนเลว สำหรับแม่ ลูกดีที่สุด” 

 

 

ซุนหม่านเซียงรีบตอบรับ 

 

 

แต่ซินเหลยไม่มองซุนหม่านเซียง แต่จ้องเฉินเยี่ยน 

 

 

“จะพูดยังไงดี? บอกว่าเธอเป็นคนเลวฉันคิดว่ายังไม่ถึงขั้นนั้น แต่ฉันไม่ชอบเธอมาก รู้สึกว่าเธอเป็นชายโฉด” 

 

 

เฉินเยี่ยนนั่งลง เผชิญหน้ากับซินเหลยอย่างจริงจัง 

 

 

“ชายโฉดหมายความว่ายังไง?” 

 

 

นี่เป็นครั้งที่สองที่ได้ยินพี่สะใภ้อธิบายเขาอย่างนี้ แต่เขาไม่รู้ความหมายคำนี้จริงๆ ไม่ใช่คำที่ดีแน่นอน แต่ตอนนี้ได้ยินพี่สะใภ้พูดกับเขาแบบนี้ เป็นครั้งแรกที่ปฏิกิริยาแรกของเขาไม่ใช่โกรธ แต่เป็นครุ่นคิด 

 

 

“เยี่ยนจื่อ ซินเหลยเป็นแบบนี้ เธอไม่สงสารเขาหรือไง?” 

 

 

ซุนหม่านเซียงตะโกนใส่เฉินเยี่ยน น้ำเสียงกึ่งเตือนกึ่งร้องขอ 

 

 

“เธอต้องการความเห็นใจไหม?” 

 

 

เฉินเยี่ยนถามซินเหลย 

 

 

ซินเหลยหน้าแดงขึ้นมา 

 

 

“ผมไม่ต้องการความเห็นใจ แม่ แม่ไม่ต้องพูดแล้ว ให้พี่สะใภ้พูด” 

 

 

สายตาที่ซินเหลยมองเฉินเยี่ยนนั้นจริงจัง เมื่อวานหลังจากเฉินเยี่ยนกลับไป เขาเอาแต่คิด คิดทุกเรื่องตั้งแต่เด็กจนโต เขาเพิ่งผ่าตัดเสร็จไม่มีแรงเลยหลับไป หลังตื่นมาเขาก็คิดต่อ แม่เขาพูดกับเขามาตลอด แต่เขาไม่ฟัง เขาคิดถึงคำพูดของเฉินเยี่ยนวนไปวนมา ตั้งแต่เกิดมา นี่เป็นครั้งแรกที่เขาคิดจริงจังขนาดนั้น 

 

 

“ชายโฉดน่ะหรือ สำหรับผู้ชายแล้ว ยกตัวอย่างเช่น คบผู้หญิงหลายคนในเวลาเดียวกัน มีหลายคู่ หรือพูดถึงผู้ชายที่แต่งงานแล้ว ไปมีผู้หญิงอื่นข้างนอก ทรยศภรรยาตัวเอง คนแบบนี้จะรู้สึกว่าเขาเป็นชายโฉด นี่คือความหมายของชายโฉด เธอล่ะ ตั้งแต่แรกเธอคบผู้หญิงมามากมายใช่ไหม? ครั้งหนึ่งคบพร้อมกันสองสามคนใช่ไหม? เธอคิดว่าไม่เป็นไร แต่เธอเคยคิดถึงความรู้สึกของพวกเขาไหม? พวกเขาจริงใจกับเธอ แต่เธอจริงใจกับพวกเขาไหม? เธอทำร้ายพวกเขา พวกเขาเสียใจ ทุกข์ใจ เธอกลับไม่สนใจ แบบนี้ไม่ใช่ชายโฉดหรือ?” 

 

 

เฉินเยี่ยนอธิบายอย่างใจเย็น อันที่จริงซินเหลยก็แค่เด็กที่ถูกเลี้ยงจนเสียนิสัย 

 

 

ใช่ เขาเห็นแก่ตัว แต่ไม่มีใครให้คำแนะนำที่ดีกับเขา 

 

 

ซินชานทำงานยุ่ง ไม่มีเวลาสั่งสอน ถึงแม้เขาจะสั่งสอน ซุนหม่านเซียงก็ไม่ยอม 

 

 

ซุนหม่านเซียงตามใจซินเหลยมากเกินไป ไม่เคยบอกเหตุผลเขาเลย ตัวซุนหม่านเซียงก็เป็นแบบนั้น คุณจะหวังให้เขาสอนลูกออกมาเป็นยังไง? 

 

 

คุณปู่คุณย่าไม่เคยได้ติดต่อกับซินเหลยเลย 

 

 

ส่วนซินห้าว ความรู้สึกซินห้าวที่มีต่อซินเหลยนั้นซับซ้อน พี่น้องสองคนไม่เคยสนิทกันเลย ซินห้าวก็ไม่สามารถสั่งสอนซินเหลยได้ 

 

 

ดังนั้นซินเหลยไม่มีใครสั่งสอนตั้งแต่เล็กจนโต เลยกลายเป็นแบบทุกวันนี้ 

 

 

เฉินเยี่ยนไม่หวังจะให้ซินเหลยเปลี่ยนมาดีมากมาย ขอแค่ไม่น่ารังเกียจแบบนั้นก็พอแล้ว เธอและซินห้าวจะได้สบายใจขึ้นมาหน่อย 

 

 

“ผมบอกพวกเขาทุกคนแล้วว่าแค่เล่นๆ ถ้าชอบก็ออกไปเที่ยวเล่นด้วยกัน ไม่ชอบก็เลิก พวกเขาก็ยินยอม พวกเขาออกไปกับผม ต้องการอะไร ผมซื้อให้หมด ผมไม่เคยทำให้พวกเขาลำบาก เป็นพวกเขาเองที่ตามติด แต่ละคนอยากแต่งงานกับผม ผมแต่งด้วยไม่ได้ อีกอย่างตอนแรกที่คบกันก็ยังดีอยู่ แต่ผ่านไปสักพักก็น่ารำคาญ ผมไม่ได้ตั้งใจจะไปหลอกพวกเขา” 

 

 

ซินเหลยโต้แย้ง เขาคิดว่าพี่สะใภ้พูดไม่ถูกต้อง 

 

 

“นี่เป็นข้ออ้างที่เธอบอกตัวเอง เธอออกเงินให้พวกเขาก็คิดว่าทำดีกับพวกเขาแล้วหรือ? พวกเขาไม่ใช่คนที่เธอซื้อมา อีกอย่างเงินที่เธอใช้ก็เป็นเงินของพี่ชายเธอ เธอเคยเห็นพี่ชายเธออยู่ข้างนอกปฏิบัติกับผู้หญิงยังไงไหม?” 

 

 

เฉินเยี่ยนอดว่าซินเหลยไม่ได้ แต่เธอรู้ที่ซินเหลยพูดเป็นคำพูดในใจเขาจริงๆ 

 

 

“พี่ชายผมก็ทำกับเฉินเวยแบบนั้นเหมือนกัน” 

 

 

ซินเหลยคิดขึ้นมาก็โมโห 

 

 

“ฉันบอกเธอได้ชัดเจนเลยว่า เฉินเวยโกหกเธอ เธอไม่รู้จักนิสัยพี่ชายเธอ แต่ฉันรู้ดี เขาไม่มีทางมีความสัมพันธ์ที่ไม่ถูกต้องกับเฉินเวยเด็ดขาด คนอย่างซินห้าว เขาให้ความสำคัญกับความสัมพันธ์ คนที่เขาไม่ชอบ เขาจะไม่ให้คนนั้นแตะต้องเขา ตอนนั้นเฉินเวยอยากจะเข้าใกล้เขา เลยโดนเขาบิดแขน เรื่องนี้คนที่บ้านฉันรู้กันหมด เฉินเวยดูภายนอกอ่อนแอ แต่คำพูดเธอเชื่อถือไม่ได้เลย เธอต้องการยุยงเธอและพี่ชาย” 

 

 

เฉินเยี่ยนพูดมาถึงตรงนี้เห็นซินเหลยไม่เชื่อ เลยพูดอีก “เธอชอบอยู่กับเฉินเวยมาก เธอคิดว่าเฉินเวยดีกับเธอ เชื่อฟังเธอ อีกทั้งยังให้อิสระเธอ ไม่ควบคุมเธอ ถึงแม้เธอจะอยู่กับผู้หญิงคนอื่น เขาก็ไม่สนใจ เธอชอบแบบนี้ แต่เธอเคยคิดไหม ว่าแบบนี้หมายความว่าเขาไม่ได้รักเธอเลย ถ้าเขารักเธอ เขาจะไม่สนใจเลยหรือ? นั่นเพราะว่าไม่มีใจ ถ้าเธอรักผู้หญิงคนหนึ่งจริง เธออยากเห็นเขาอยู่กับผู้ชายคนอื่นหรือ? เธอลองคิดดูแล้วกัน” 

 

 

ซินเหลยไม่ได้ตอบโต้คำพูดเฉินเยี่ยน ซุนหม่านเซียงบ่นพึมพำแต่เขาไม่ได้ยิน เขากำลังคิดอย่างจริงจัง ยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกว่าเฉินเยี่ยนพูดถูก สีหน้าเขาเปลี่ยนไป 

 

 

“เฉินเวย เธอหลอกผมมาตลอด!” 

 

 

ซินเหลยกัดฟัน 

 

 

เขามันโง่ ไม่หลอกเขาแล้วจะหลอกใคร! 

 

 

แต่คำพูดนี้เฉินเยี่ยนไม่ได้พูดออกมา