เฉินเยี่ยนเห็นสีหน้าฮึกเหิมของซินเหลยแล้ว ก็แอบถอนหายใจ
“ทำไมเขาจะหลอกเธอไม่ได้? ซินเหลย เธอต้องรู้ว่าโลกนี้ไม่ได้หมุนรอบตัวเธอ พ่อแม่รักเธอ นั่นเพราะเธอเป็นลูกชายของพวกเขา พวกเราไม่คิดเล็กคิดน้อยกับเธอ นั่นเพราะซินห้าวเป็นพี่ชายเธอ แต่ทำไมคนอื่นต้องทำดีกับเธอด้วย ต้องให้เธอเป็นศูนย์กลาง? ทำไมอำนาจถึงอยู่ในมือเธอได้แค่คนเดียว ไม่สามารถไปอยู่ในมือคนอื่นได้? เธอโกรธ เธอโมโห แล้วเธอปฏิบัติกับคนอื่นยังไง?”
เฉินเยี่ยนคิดว่าซินเหลยควรจะตื่นได้แล้ว
ซินเหลยไม่พูดอะไร เมื่อก่อนเขาคิดว่าใครก็ต้องยอมให้เขา แต่ตอนนี้มาคิดดูแล้ว เหมือนที่เฉินเยี่ยนพูด ทำไมคนอื่นต้องยอมให้เขา?
เขามีเพื่อนกลุ่มหนึ่ง คนพวกนั้นต่างยกย่องเขา แต่นั่นเป็นเพราะเขาต้องใช้เงินออกให้ไม่ว่าทำอะไรเขาก็ต้องเลี้ยง ดังนั้นพวกเขาถึงได้เรียกพี่เหลยพี่เหลย
เขาคิดถึงครั้งที่แล้วเขาบังเอิญได้ยินมีคนหนึ่งว่าเขาลับหลัง เขาด่าผู้ชายคนนั้น ปรากฏว่าคนนั้นพูดต่อหน้าเขา ด่าว่าเขานิสัยไม่ดี แล้วยังบอกว่าถ้าไม่ได้เห็นว่าเขาโง่มีเงินเยอะ ใครจะยอมตามก้นเขา
ตอนนั้นเขาโกรธมาก จากนั้นเขาก็ไม่สนใจคนพวกนั้นอีกเลย
ตอนนี้มาคิดดูแล้ว คนพวกนั้นพูดถูก ส่วนพวกเขาก็เป็นเพราะเขาออกเงินให้ ใจปล้ำ เลยโอ๋เขาเหมือนเป็นคนโง่คนหนึ่ง
กับผู้หญิงพวกนั้น ตอนที่เขาชอบก็ออดอ้อน ไม่ชอบก็ไม่สนใจ ไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าพวกเขาจะเสียใจหรือทุกข์ใจ
เขามีอะไรกับผู้หญิงมากมาย หลังมีอะไรกันก็ไม่สนใจพวกเขาอีก
ตอนนี้มาคิดดูแล้ว พวกเขาต้องเสียใจมากเลยสินะ? พวกเขาไม่มีความบริสุทธิ์ติดตัวแล้ว อีกหน่อยตอนแต่งงาน สามีพวกเขาต้องไม่สบายใจแน่
เขายังจำได้มีผู้หญิงชื่อเสี่ยวหง ผู้หญิงคนนั้นหน้าตาธรรมดา แต่เธอบริสุทธิ์มาก เขินอายมาก พูดอะไรกับเธอหน่อยเธอมักจะหน้าแดง แต่กลับมีดวงตาเต็มไปด้วยรอยยิ้ม ทำให้คนเห็นแล้วรู้สึกสบายใจ
ต่อมาเขาคบกับเสี่ยวหง เสี่ยวหงอ่อนโยนมาก ปฏิบัติกับเขาดีมาก แต่ต่อมาเขาเจอเสี่ยวเหมย เลยไม่สนใจเสี่ยวหงอีก
ดวงตาที่เต็มไปด้วยน้ำตา ความเสียใจของเธอ ตอนนี้เขายังจำได้ แต่ตอนนั้นกลับมีแต่ความรำคาญ
ต่อมาเสี่ยวหงแต่งงาน ตัวเองเคยเจอเสี่ยวหงครั้งหนึ่ง เขายังทักทายเธออย่างเป็นธรรมชาติ เขาจำได้ว่าเสี่ยวหงตบหน้าเขาหนึ่งที ด่าว่าเขาเป็นคนสารเลว
แววตาเธอมีแต่ความผิดหวังและเย็นชา ไม่มีรอยยิ้มแล้ว ตอนนั้นทำเอาเขาตกใจ แต่เขาก็ไม่ได้คิดอะไรมาก ยังด่าเสี่ยวหงกลับว่าโรคจิต
ตอนนี้มาคิดดูแล้ว เสี่ยวหงแต่งงาน ต้องไม่มีความสุขแน่ เขาจำได้ว่าครั้งนั้นเจอเธอ เสี่ยวหงผอมลงไปมาก ใต้ตาเริ่มคล้ำ หมายความว่าพักผ่อนไม่เพียงพอ
เป็นตัวเขาเองที่ทำให้เธอและผู้หญิงมากมายไม่มีรอยยิ้ม
พูดแบบนี้แล้ว ตัวเองเป็นคนที่สารเลวจริงๆ ตัวเองทำผิดต่อผู้หญิงมากมาย แต่เขากลับไม่เคยคิดถึงเรื่องพวกนี้เลย
ใช่แล้ว ทำไมเขาถึงปฏิบัติต่อพวกเธอแบบนั้นได้? แต่ไม่ยอมให้คนอื่นมาหลอกเขา?
นี่คือกรรมตามสนองสินะ!
“พี่ผมล่ะ?”
ซินเหลยไม่กล้าคิดอีกต่อไป เขากลัวว่าเขาคิดมากไปแล้วตัวเองจะรังเกียจตัวเอง ทนไม่ไหวอยากจะปิดบังตัวเอง เลยเปลี่ยนเรื่องคุย
“เขาไปหาครอบครัวคนที่ตายไปแล้ว ทนายบอกว่าชดใช้ให้บ้านนั้นหนึ่งหมื่นก็ไม่น้อยแล้ว แต่พี่ชายเธอจะชดใช้ให้พวกเขาสองหมื่น ใช่ เงินของพวกเราไม่ได้ลอยมาจากอากาศ และก็ไม่ได้มีเหลือเฟือขนาดนั้น เพียงแต่ยังไงนั่นเป็นถึงชีวิตหนึ่งเลย ชดใช้มากเท่าไรก็ไม่พอ ฐานะของพ่อแม่ฝั่งนั้นก็ไม่ดี แล้วยังมีคุณย่าที่เป็นอัมพาตนอนอยู่บนเตียงอีก พ่อเขามีแขนข้างเดียว แล้วยังมีลูกสาวสองคนยังไม่แต่งงาน ดังนั้นพี่ชายเธอเลยอยากจะให้มากหน่อย ให้ครอบครัวเขาพออยู่ได้ แต่พี่ชายบ้านนั้นคุยลำบาก ต้องการเงินเยอะ แต่พี่ชายเขาและคนที่ตายไปแยกบ้านกันอยู่แล้ว ขอแค่พูดกับพ่อแม่ฝั่งนั้นได้แล้ว ฝั่งพี่ชายเขาเดี๋ยวพี่ชายเธอจะหาวิธีเอง”
เฉินเยี่ยนเล่าสถานการณ์ให้ฟัง
ซินเหลยอ้าปาก ไม่ได้พูดอะไร
เขาไม่ชอบซินห้าว เกลียดมาก แต่คนที่เขาเกลียดมากคนนี้ตอนนี้กลับวิ่งเต้นเพื่อเขาอยู่
คิดๆ ดู ทำไมเขาถึงเกลียดซินห้าว? เขามีเหตุผลอะไรเกลียดซินห้าว?
ซินห้าวถูกส่งตัวไปตั้งแต่สิบขวบ อยู่ข้างนอกคนเดียว เขาอยู่อย่างลำบาก ส่วนตัวเองกลับเติบโตอยู่กับพ่อแม่ แม่ดีกับตัวเองอย่างไร้เหตุผล แล้วซินห้าวล่ะ?
เขาต้องอิจฉาตัวเองสิ?
ซินห้าวกลับมา เขากลัวว่าซินห้าวจะมาแย่งความรักตัวเองไป แต่ท่าทีที่แม่ปฏิบัติต่อซินห้าวและปฏิบัติต่อตัวเองนั้น ซินห้าวเคยแย่งความรักกับตัวเองหรือ?
ตัวเองใช้เงินของซินห้าว แล้วยังบอกว่าเขาไม่ดี ตัวเองมีสิทธิ์อะไรไปว่าเขาไม่ดีนะ!
ยิ่งซินเหลยคิดก็ยิ่งโค่นล้มความคิดเมื่อก่อนของตัวเอง
“คิดได้แล้ว?”
เฉินเยี่ยนเห็นซินเหลยเงียบไม่พูด สีหน้าดูมีความสำนึกผิด เลยแอบถอนหายใจ โชคดีที่ซินเหลยผ่านเรื่องนี้แล้วได้คิด ถ้าให้ตายยังไงก็ไม่รู้สึกสำนึก แบบนั้นเธอก็จะไม่พูดมากแล้ว อยากติดคุกก็ติดไปเลย ยังไงก็ไม่เกี่ยวกับเธอ!
“พี่สะใภ้ ผม เมื่อก่อนผมเป็นคนสารเลว”
“เธอรู้ก็ดีแล้ว”
เฉินเยี่ยนเห็นด้วยอย่างไม่เกรงใจเลย ซินเหลยหน้าแดง
ซุนหม่านเซียงมองเฉินเยี่ยนอย่างไม่พอใจ
“แต่ ซินเหลย เธอคิดได้แล้วพี่สะใภ้ดีใจมาก เรื่องครั้งนี้ถึงแม้จะแลกมาด้วยบทเรียนราคาแพง แต่เธอยังเด็ก ยังมีหนทางเติบโตอีกยาวไกล ยังมีเวลาให้ปรับปรุงตัวอีกเยอะ ขอแค่เธอคิดได้ ก็ไม่เสียแรงที่พวกเราลำบากเพื่อเธอ”
เฉินเยี่ยนพูดอย่างจริงใจและหนักแน่น
“อืม พี่สะใภ้ แต่ แต่ถ้าผมต้องติดคุก…”
ซินเหลยไม่ได้พูดต่อ พอคิดถึงต้องติดคุกเขาก็กลัวแล้ว
“ไม่มีใครอยากติดคุก แต่ทุกคนต้องแลกด้วยเรื่องที่ตัวเองทำไป เธอได้รับบาดเจ็บหนักขนาดนี้ ฝั่งนั้นมีคนตาย เป็นเพราะเรื่องก่อนหน้านี้ที่เธอทำ เธอลบล้างอดีตตัวเองไม่ได้ ซินเหลย เธอต้องพิสูจน์ตัวเอง! พวกเราจะช่วยเธอให้ถึงที่สุด แต่พวกเรารับปากไม่ได้ว่าเธอจะไม่ติดคุก ถึงแม้เธอจะติดคุกจริง ก็ไม่ได้หมายความว่าชีวิตเธอพังแล้ว ขอแค่เธอยอมปรับตัว หลังออกมาหางานทำ ประพฤติตัวดีๆ ก็จะมีชีวิตในอนาคตที่ดีเหมือนกัน”
เฉินเยี่ยนปลอบซินเหลย
ซินเหลยอ่อนแรง มองเฉินเยี่ยนอย่างหมดหวัง
“ปัญหาไม่ได้อยู่นี่เธออยากหรือพวกเราอยาก คนเราไม่มียาแก้ความเสียใจ คนนั้นตายไปแล้ว พวกเราก็ต้องรับผิดชอบเรื่องที่ตัวเองทำ ถ้าเธอไม่อยาก งั้นต่อจากนี้จะทำอะไรต้องคิดถึงผลที่ตามมา อย่าให้ตัวเองทำเรื่องที่ผิด”
เผชิญหน้ากับซินเหลยแบบนี้ เฉินเยี่ยนพูดจารุนแรงไม่ออก
“ฉันติดคุกแทนซินเหลยไม่ได้หรือ?”
ซุนหม่านเซียงพูดแบบนี้อีกแล้ว
“อย่าว่าแต่ไม่ได้เลย ถึงแม้จะได้ ซินเหลย เธออยากจะให้แม่ไปแทนเธอหรือ?”
เฉินเยี่ยนมองซินเหลย
ซินเหลยมองซุนหม่านเซียง แล้วมองเฉินเยี่ยน สีหน้ามีแววลังเล ดูตัดสินใจไม่ได้ เห็นได้ชัดว่าเขาสับสนมาก
นี่สิคือซินเหลยตัวจริง แสดงให้เห็นว่าเขาได้คิดแล้ว ถ้าเป็นเมื่อก่อน กลัวว่าเขาจะรีบพยักหน้าตอบรับ
“พี่สะใภ้พูดถูก เรื่องผมเป็นก่อ ผมก็ควรเป็นคนรับผิดชอบ พอคิดว่าผมเกือบจะตายแล้ว ผมก็กลัว ผมคิดถึงสภาพผู้ชายคนนั้น ผมก็กลัวแล้ว แต่เรื่องเกิดแล้ว ย้อนกลับไม่ได้ ผมควรรับผิดชอบ! คนนั้นตายต่อหน้าผม ต่อไปผมจะไม่หุนหันพลันแล่นแบบนี้อีกแล้ว ไม่ทำเรื่องแบบนี้แล้ว ผมจะคิดเยอะๆ”
คำพูดสุดท้ายของซินเหลยทำให้เฉินเยี่ยนพอใจ พูดคำพูดพวกนี้ออกมาได้ หมายความว่าความคิดซินเหลยเปลี่ยนไปแล้วจริงๆ